|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ธรรมะหลวงปู่บุดดา
"ให้เห็นความเกิดและความเป็นโทษ
ให้เห็นความไม่เกิด ไม่ตาย เป้นคุณธรรมทั้งหลาย
ให้เห็นว่า ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี้เป็นเครื่องอาศัย
ขอให้ศีลรักษาจิตไว้อย่าให้หลงอย่าให้ลืม"
"ธรรมะเป็นอย่างไร
ธรรมะก็หนังแผ่นเดียวนะซิ จิตเดียวนะซิ"
"กิเลสมันมาเป็นเจ้าของ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
มันนึกว่า หนังของมัน เนื้อของมัน
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของมันที่ไหน"
"พ้นเกิด แก่ เจ็บ ตาย
พ้นในปัจจุบันนี้แหละ
ให้พ้นเกิด พ้นตาย
จะได้ทำงานให้พระศาสนา"
"ต้องพูดอย่างธรรม
พูดอย่างคนจะขัดคอคนนะซิ"
"ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครแก่ ไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครตาย
นั่นแหละเป็นแก่นศาสนา"
"เราเกิดทีไร เกิดกับผู้หญิงทุกที
เราจะไม่ประมาทพวกผู้หญิง
ผู้หญิงมาเกะกะ เราก็ไม่เอา
เพราะแม่เราก็เป็นผู้หญิง
ไอ้พวกผู้ชายมาชวนให้เป็นพวกปล้นสดมภ์
เราก็ไม่เอา..เพราะพ่อเราเป็นผู้ชาย"
"มีหนังแผ่นเดียว
มีจิตดวงเดียวเท่านั้น"
"ก็หนังแผ่นเดียวมันหุ้มอยู่ทั้งหมดกับทะลุ 9 ช่อง
นะวะทะวารัง ทะลุทางตา 2
ทะลุทางหู 2 ทางจมูก 2
ปาก ทวารหนัก ทวารเบา"
"อิริยาบถของกาย 24 ชั่วโมง
ต้องยืน เดิน นั่ง นอน
ต้องอาบน้ำ ห่มผ้า ดื่มอาหาร
ถ่ายมูตร ถ่ายคูถ
ถ่ายออกมา งามเมื่อไหร่ล่ะ
ไม่งามหรอก"
"อาหารทุกอย่าง เป็นยาเลี้ยงเขาไป"
"ตา เขาก็ว่า ไม่ได้เป็นของเขา
หู เขาก็ไม่ได้ถือเป็นเจ้าของ
ลิ้น เขาไม่ได้ยึดถือเป็นลิ้นเขา
เขาทำตามธรรมชาติไปอย่างนั้นเอง
ธรรมชาติ..เขาก็ทำหน้าที่ธรรมชาติของเขา
คือ..เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปอย่างนั้นเอง
อยู่บ้าน อย่าติดบ้านนะ
อยู่วัด อย่าติดวัดนะ
อยู่ถ้ำ อย่าติดถ้ำนะ
ติดที่ไหน เป็นกิเลสที่นั่น"
"ถ้าหยุดแล้ว ไม่มีกิเลสหรอก
ให้หยุดซะ อย่าคิด
ภายนอกก็ธุดงค์ ภายในก็ธุดงค์
อยู่วัดก็ทำได้ อยู่ป่าก็ทำได้
อยู่ในกายก็ทำได้ อยู่นอกกายก็ทำได้
คนฉลาดต้องทำอย่างนี้
ที่ใกล้ก็ได้ ที่ไกลก็ได้"
ศาสนธรรม คือ อยู่ที่ ตาธรรม
หูธรรม จมูกธรรม ลิ้นธรรม
วาจาธรรม ใจธรรม
ศาสนาอยู่ที่กายยาววา
หนาคืบ กว้างศอกนี้เอง
"คนมันเขียนท้ายรถยนต์
ทำดีได้ดี มีที่ไหน
ทำชั่วได้ดีมีถมไป
ไอ้นั่นน่ะ มันไม่รู้จัก
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
มันเอาข้อวัตร เอากิเลสของมันมาอวด
โอ่โธ่ พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดอย่างนั้น"
"ให้พ้นจากทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
นั่นแหละ จึงได้เข้าศาสนาถูก"
"ไม่มีเชื้อ มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
ข้าวเปลือกมีอยู่ มันก็เกิดได้
ข้าวสารมันเกิดได้ไหม"
"ก็ผุพังไปแล้ว
กายสังขารก้หยุดทำงาน ตัวจิตสังขารก็หยุดทำงาน
นามรูปมันหยุดงานเอง
ดิน น้ำ ลม ไฟ มันหยุดเองหมด
ไม่มีสัตว์เกิด ไม่มีใครดี ไม่มีใครชั่ว"
"ตัวอวิชชา กิเลส
อวิชชานี่แหละตัดออกเสีย
ให้มีแต่วิชชาอย่างเดียว
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
มันก็เป็นพยานให้อยู่แล้ว"
"ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ
เขาทำงานกันเองต่างหากเล่า
มีแต่ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ
ทำงานกันเท่านั้น
มีสัตว์ มีคน ที่ไหนเล่า"
"ธรรมะไม่เอา จะแย่งกระดูกกัน
จะรบราฆ่าฟันกันเพราะกระดูก...
น่าสังเวช..รูปนามเป็นธรรม
เกิดขึ้นปรากฏแล้วก็ดับลงเป็นธรรม
เป็นสังขตธรรมล้วน ๆ ธรรมะล้วน ๆ
มีเกิด มีดับ"
"แก้ที่ตัวเราซิ
คนอื่นก็ให้เขาแก้ของเขาเอง
เมืองใคร เมืองมัน
บ้านใคร ใครอยู่
อู่ใคร ใครนอน ไม่ก้าวก่ายกันหรอก"
"หน้าเศร้า ๆ เพราะมันไม่อยู่กับที่
ไม่อยู่กับหนังกับจขิต
มันไปอยู่กับอารมณ์
ประเดี๋ยวก็ร้องไห้ เดี๋ยวก็หัวเราะ
มันแน่นอนเมื่อไรนะ โลกน่ะ
ชอบใจก็หัวเราะ ไม่ชอบใจก็ร้องไห้"
"อวิชชามันบัง
ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง มันบังไว้ซะ"
"ผู้ใดขยัน ผู้นั้นล่ะ
เป็นลูกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ผู้ใดขี้เกียจ ขี้คร้าน เป็นลูกกิเลส"
"ผู้ที่เขาไม่รู้ ไม่ถึง
ไปตามอย่างเขาทำไม"
"ผีหลอกไม่เป็นหรอก
มีแต่กิเลสมันหลอกเรา
อวิชชามันหลอกเรา"
"ราคะเผาจิต โมหะเผาจิต โทสะเผาจิต
วิปัสสนาเผากิเลสหมดไป"
"มีแต่ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ
อากาศธาตุ ทำงานกันเท่านั้น
มีคน มีสัตว์ที่ไหนเล่า
อวิชชามันไม่เห็นตัวมันเอง"
"ความมั่นใจเป็นสมาธิ"
ความรู้ในกองสังขารเป็นปัญญา
ตัดหลงตัวเดียว ตัดได้หมดทุกอย่าง
หมดทุกข์ พ้นกิเลส ตัณหาร้อยแปด
ถูกวิปัสสนา เผาไปหมด
เป็นขี้เถ้าไปหมด"
"ดับหมด มันหยุดโรงงานหมด
ไม่มีใครปรุงแต่ง มันปกติหมด
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันปกติหมด
คนละหน้าที่กันหมด
ไม่มีใครทำไขว้เขวกัน"
"ก็กิเลสนิพพาน ใครจะนิพพานล่ะ
ขันธ์ของกิเลสก็นิพพานไปแล้ว
ธาตุของกิเลสก็นิพพานไปแล้ว
กิเลสก็ไม่มีใน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ"
"รู้เท่าความเป็นจริง จึงไม่เจือด้วยทุกข์
ทุกข์นั้นเกิดขึ้น ให้รู้จักทุกข์
ยืนก็ตาย นั่งก็ตาย เดินก็ตาย นอนก็ตาย
มันเหลือแต่ดิน น้ำ ลม ไฟ
กายนอก ก็ร่างกายนี้ กายในก็ลมหายใจ
มันมีบุญมีบาปกับใครล่ะ"
"ไปทำเหตุให้มีคน
ผลก็ออกมาเป็นคนนั่นแหละ"
"รู้อยู่ แต่มันรู้ไม่ตาย
ไม่ตาย ก็ไม่เกิดด้วยนั่นแหละ
ไอ้ตายก็ตาย เขาหมายอย่างนั้นเองแหละ
นิพพานหมายตายก่อนตาย"
"ปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรม ปฏิเวชธรรม
มีอยู่ที่ปัจจุบันธรรม
อย่าเอาอดีต อนาคตมาค้นตัวเองให้ยุ่งเลย
เอาแค่ปัจจุบัน"
"ตายกับไม่ตายขณะเดียวกัน
มิจฉาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ ขณะเดียวกัน
ถูกกับผิดก็ขณะจิตเดียวกันนั่นแหละ
จิตเป็นแผ่นดินรองรับธรรมทั้งสอง"
"อยู่กับขี้กับเยี่ยว กับสิ่งปฏิกูลทั้งนั้น
มีแต่เปียกแฉะทั้งนั้น ยังจะอยู่อีกหรือ
แยกกายกับใจซิ
แบบสัตว์เดรัจฉาน ไม่มีตัวใด
ที่จะชอบสภาพที่ตัวมันเป็น"
"ให้ตายอย่างผู้ที่เขารู้เขาถึงสิ
จะได้รู้ได้ถึงกับเขาบ้าง
กายเดียว จิตเดียว
เอโก ธัมโม ไปไหนก็มีแต่ธรรมะ
หายใจออกก็มีแต่ธรรม
หายใจเข้าก็มีแต่ธรรมะ
จนเข้าถึงธรรมะ"
"ระวังคนดีแตก
เพราะกิเลสความหลง
หลงจนลืมดี"
"เออ ไม่ให้อภัย ก็ไม่ใช่ลูกพระพุทธเจ้าสิ
พระพุทธเจ้าให้อภัยสัตว์เก่ง
ลูกพระพุทธเจ้า เกิดด้วยศีล เกิดด้วยสมาธิ เกิดด้วยปัญญา
เกิดแล้ว ไม่แคล้วต้องตายเป็นทุกข์
ตายแล้ว ไม่แคล้วต้องเกิดเป็นทุกข์
ขอทุกข์อันนี้อย่าได้ติดตาม
อย่าได้ตามมาในตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ขอให้พ้นไป"
สุขเพราะความสงัด
สุขเพราะความไม่เบียดเบียน
สุขเพราะความปราศจากราคะ
ก้าวล่วงข้ามกามเสียได้
สุขอย่างยอดคือ การนำความถือตัวออกเสีย
"อาตมานั้น...ผู้หญิงมาขออะไรๆ
ก็ให้ได้หมด...ขอธรรม ขอพร
ก็ให้ได้...แต่สิ่งหนึ่งให้ไม่ได้...
และไม่ยอมให้มาหลายชาติแล้วรวมทั้งชาตินี้
แม้จะอยู่ในเพศฆราวาสก็ตาม
คือ....ความเป็นสามี....ยังไงล่ะ!..."
Create Date : 18 มิถุนายน 2556 |
Last Update : 16 มีนาคม 2557 3:24:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1736 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|