|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ทฤษฎีการเมืองยุคโบราณ
ตั้งแต่ประเทศไทยมีปัญหาร้าวลึกทางด้านเมืองและสังคม
ผมรู้สึกว่า องค์ความรู้ทางด้านรัฐศาสตร์และการเมือง
มันเหมือนหยุดนิ่ง บรรดาครูบาอาจารย์ และ
นักวิชาการทั้งหลาย ไม่ค่อยจะมีบทบาทชี้แนะสังคม
เหมือนในอดีต ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความตีบตันทางวิชาการ
หรือเป็นเพราะไม่อยากเปลืองตัว
ทำให้บางที...ผมก็รู้สึกวังเวงเหมือนกัน
เหมือนบ้านเมืองมันมาถึงทางตันยังไงบอกไม่ถูก
ระยะหลังมานี้ ผมจึงมักจะย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์
การเมืองการปกครองยุคโบราณ เพราะรู้สึกชอบ
ที่นักปกครองในยุคอดีตสามารถแก้ปัญหาให้บ้านเมืองได้
บางกรณี...ได้รับการบันทึกเอาไว้กลายเป็นกรณีศึกษา
ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้...เพียงแต่ไม่ได้ถูกนำมาบรรจุ
เอาไว้ในหลักสูตรรัฐศาสตร์อย่างเป็นทางการ
................
ครับ ท่านอาจารย์ประยุทธ์ ปยุตโต เคยกล่าวเอาไว้ในทำนองว่า
ทั้งกฎหมายและการปกครอง เป็นระบบสมมติที่มนุษย์บัญญัติขึ้น
เพื่อช่วยให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
และเอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
แต่การจะทำเช่นนั้นได้ นั่นหมายความว่า
มนุษย์จะต้องเข้าถึงความจริงตามธรรมชาติ
และบัญญัติกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎธรรมชาติ
ถ้ากล่าวอีกแง่หนึ่งก็คือ...การที่บ้านเมืองมีปัญหา
แสดงว่ากฎหมายหรือการปกครองในขณะนั้น
คงจะไปขัดกับธรรมชาติบางอย่างในทางปกครอง
เมื่อระบบสมมติขัดกับความจริง ความขัดแย้งจึงได้เกิดขึ้น
...................
หนึ่งในทฤษฎีการปกครองโบราณที่ผมเห็นว่าค่อนข้างลึกซึ้ง
สามารถสะท้อนถึงธรรมชาติของการปกครอง
และได้เคยกล่าวไปบ้างแล้วในบทความเก่า ๆ ของผม
นั่นก็คือ ทฤษฎีกระถางธูป 3 ขา ของประเทศจีนยุคโบราณ
กระถางธูป 3 ขา เป็นตัวแทนของ อำนาจ ความมั่งคั่ง และความศรัทธา
สภาวะทั้ง 3 เป็นสิ่งที่ควรแยกกันอยู่ หากสภาวะทั้งสามก้าวก่ายกัน
ย่อมจะทำให้กระถางธูปเสียสมดุลและล้มลงในที่สุด
ผมเชื่อว่าทฤษฎีนี้ อธิบายถึงสภาวะทางการเมืองของประเทศไทยได้
รวมทั้งยังสามารถตอบโจทย์ได้ว่า ทำไมบางสถาบันจึงมีความมั่นคง
ต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน โดยไม่ล้มไปเสียก่อน
แน่นอน...รวมถึง "สถาบัน" ด้วย
...................
หากจะอธิบายถึงคุณค่าและสาเหตุที่ทำให้ "สถาบัน"
ดำรงอยู่อย่างต่อเนื่องยาวนานในสังคมไทย
หลายคนคงมีความเห็นที่แตกต่างหลากหลายกันไป
แต่สำหรับผม...คุณค่าที่แท้จริงของสถาบันก็คือ
การที่สถาบันสามารถเชื่อมโยงระหว่างอุดมคติทางพุทธศาสนา
เข้ากับสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรม
ดังปรากฎอยู่ในปฐมบรมราชโองการ ที่ตรัสว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
และปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนในแนวทางโครงการหลวงต่าง ๆ
และทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง
นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ปี 2475 ผมรู้สึกว่า
สถาบันมิได้ตั้งอยู่บนฐานของ "ขาแห่งอำนาจ" อีกต่อไป
แต่ได้ถอยออกมายืนอยู่บนฐานแห่ง "ความศรัทธา" เพียงขาเดียว
โดยไม่เข้าไปผูกพันกับ ขาแห่งอำนาจ และ ขาแห่งความมั่งคั่ง
พลังของสถาบันจึงอยู่บนพื้นฐานของความศรัทธา
และจำกัดตนเองให้อยู่ในสถานะเช่นนี้มาโดยตลอด
และผลก็คือ เสถียรภาพและความสมดุล
อันเกิดจาการไม่ผูกพันกับสภาวะอื่นที่ควรแยกต่างหากกัน
....................
การที่สังคมไทยเกิดความแตกแยกอย่างหนัก...
หากใช้ทฤษฎีกระถางธูป 3 ขา มาวิเคราะห์
ก็คงอธิบายได้ว่า อำนาจ ความมั่งคั่ง
และความศรัทธา น่าจะกำลังถูกใครบางคนดึงให้เข้ามาอยู่รวมกัน
ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง...เมื่อมันเป็นการรวมกันของ
สภาวะที่ควรแยกต่างหากจากกันตามธรรมชาติ...
ผลก็คือ เกิดการเสียสมดุล และตามมาด้วยความขัดแย้งขนานใหญ่
......................
ครับ ... สิ่งที่ขาดความสมดุล ย่อมไม่สามารถดำรงอยู่ได้
และต้องล้มลงในที่สุด
Create Date : 02 มีนาคม 2556 |
Last Update : 22 เมษายน 2556 12:39:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1770 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|