Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
23 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 

คัมภีร์บางระกำ : สุดยอดวิชาสู้ภัยน้ำท่วม จาก ไทยรัฐ


"บางระกำ" เป็นชื่อตำบลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.นครชัยศรี

ห่างจาก อ.นครชัยศรีประมาณ 20 กิโลเมตร

ชาวบางระกำส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา

ทำสวนและทำเกษตรกรรมอื่น ๆ

ด้วยสภาพพื้นที่ เป็นที่ราบลุ่มติดแม่น้ำนครชัยศรี

ในฤดูน้ำหลาก จึงมีปัญหาน้ำล้นตลิ่งหรือน้ำท่วมอยู่บ้าง

แต่ที่โดนหนักสุด ก็คงเป็นปี 2538 และ 2549

ตอนนั้น บางระกำเจอน้ำท่วมเข้าไปสาหัสไม่แพ้พื้นที่อื่น ๆ

แต่ผมก็ไม่ทราบข้อมูลมากนัก จนกระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ตำบลบางระกำ กำลังจะเป็นพื้นที่ที่คนไทยต้องจดจำและเรียนรู้

จากความสุดยอดในการแก้ปัญหาน้ำท่วม


ครับ สกู๊ปข่าวไทยรัฐลงบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม

ของชาวบางระกำที่ผ่านมาสรุปได้ว่า ในระหว่างปี 2538

ช่วงที่ชาวบางระกำเจอปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักนั้น

ชาวบางระกำและตำบลใกล้เคียงได้มานั่งปรึกษากันเพื่อหาวิธีป้องกันน้ำท่วม

ช่วงแรก ก็ทำคันดินป้องกันน้ำท่วมแบบของใครของมัน

ถ้าน้ำท่วมไม่มากคันดินก้ันน้ำก็ยังพอเอาอยู่

แต่มาปี 2549 คันดินที่กั้นน้ำในพื้นที่ของตัวเองทานแรงดันของน้ำไม่อยู่

คันดินพัง สุดท้ายน้ำไหลบ่าเข้ามา

แค่คืนเดียวน้ำท่วมหมดทั้งตำบล แบบตั้งตัวไม่ทัน

น้ำท่วมคราวนั้น ต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าความเสียหายของพืชผลทางการเกษตร

และบ้านเรือนจะฟื้นฟูกลับมาได้หมด และจากประสบการณ์น้ำท่วมปี 2549

ทำให้ชาวบางระกำต้องกลับมานั่งคิดปรึกษาหารือกันใหม่ว่า

ความผิดพลาดเกิดจากตรงไหน

คุณณัฐวัฒน์ ชั้นอิทร์งาม นายก อบต.บางระกำ กล่าวว่า

หลังจากคนในตำบลและตำบลข้างเคียงได้ปรึกษาหารือกันแล้ว

ได้ข้อสรุปว่า การทำคันดินกั้นน้ำแบบของใครของมัน

นอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังเป็นการสร้างความเสียหาย

ให้กับทรัพย์สินมากกว่าไม่มีคันดินกั้นน้ำซะอีก

เพราะถ้าทำคันดินกั้นน้ำให้สูง ความแตกต่างของ

ระดับน้ำด้านนอกกับด้านในมีมาก คันดินกั้นน้ำเกิดแตกขึ้นมา

น้ำที่ไหลบ่าจะไหลเร็วมาก และแรงดันของน้ำที่ทะลักเข้ามา

จะทำความเสียหายรุนแรงกว่าปล่อยให้น้ำค่อยๆ

ไหลเอ่อขึ้นมาเองตามธรรมชาติ


ผมขอสรุปแนวทางแก้ปัญหาของชาวบางระกำ

ตามที่ไทยรัฐได้ลงไว้ในสกู๊ปข่าวดังนี้


1.ใช้วิธีทำคันกั้นน้ำเฉพาะพื้นที่สำคัญ เช่น

พื้นที่ถนนซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรสายหลัก,

พื้นที่เขตเศรษฐกิจ, พื้นที่มีชุมชนอยู่หนาแน่น, สถานที่ราชการ ฯลฯ

จะมีการทำระบบบล็อกน้ำเพื่อรักษาพื้นที่ จะไม่มีการทำคันดินกั้นทั่วไปหมด

ที่นาก็จะไม่ทำคันดินกั้นน้ำอีกต่อไป เก็บที่นาทำเป็นพื้นที่รับน้ำแทน

เพื่อลดความรุนแรงของน้ำ ยกเว้นพื้นที่นาบางแปลงที่ยังเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ทัน

จะยอมให้ทำคันดินกั้นน้ำไว้ชั่วคราว... แต่เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จ

จะเปิดทางผันน้ำเข้านา ให้เป็นพื้นที่รับน้ำต่อไป


2.การทำนา จากเมื่อก่อนเคยทำกันปีละ 3 ครั้ง ก็ขอร้องให้ทำกันแค่ปีละ 2 ครั้ง

ฤดูที่ 3 ไม่ต้องทำ เป็นการพักดินไว้เตรียมรับน้ำท่วมในช่วงปลายปี

และให้เกษตรกรหันไปทำอาชีพที่อยู่น้ำได้ อย่างปลูกผักบุ้ง ผักกระเฉด แทน


3.การขออนุญาตปลูกสร้างบ้านเรือนก็เหมือนกัน เมื่อก่อนน้ำท่วมไม่ค่อยมี

จะมีก็นานๆครั้ง คนจึงลืมคิดไปเองว่าน้ำไม่ท่วม เลยมักจะปลูกบ้านพื้นติดดิน

มาเดี๋ยวนี้ ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา น้ำท่วมเกิดถี่บ่อย น้อยบ้าง มากบ้าง

ฉะนั้น ตอนนี้ใครมาขออนุญาตสร้างบ้านกับ อบต.

ทางอบต.จะแนะนำให้ปลูกบ้านยกพื้นใต้ถุนสูงไว้ก่อน”

ประกอบกับพื้นที่ของ ต.บางระกำ เป็นพื้นที่ราบลุ่ม

ที่มักจะเจอน้ำท่วมล้นฝั่งจากแม่น้ำท่าจีนเป็นประจำเกือบทุกปี

เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมที่จะมาในหน้าฝนทุกปี


4.ทำการพร่องน้ำ ดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนให้ลงทะเลไปก่อนฤดูน้ำหลากจะมาถึง

ตั้งแต่ปี 2550 ชาวบางระกำทำอย่างนี้มาทุกปี และไม่ได้รอให้น้ำท่วมก่อน

ถึงจะทำตอนน้ำท่วม แต่ชาวบางระกำทำมาก่อนน้ำจะท่วม 2-3 เดือน

ปีนี้ก็เหมือนกัน เขาทำมาตั้งแต่มีข่าวพายุนกเตน

ทำให้ฝนตกน้ำท่วมทางภาคเหนือ

ทางบางระกำก็เดินเครื่องผลักดันน้ำลงทะเล

พร่องน้ำในแม่น้ำท่าจีนออกไปก่อนส่วนหนึ่ง

เพื่อแม่น้ำท่าจีนจะได้มีเนื้อที่รองรับน้ำท่วมจากภาคเหนือได้มากขึ้น

มีการออกแบบใบพัดสำหรับผลักดันน้ำ เป็นใบพัดใหญ่ๆ

คล้ายใบพัดเรือนั่นแหละ

แต่มีแค่ใบพัดเปล่าๆ ที่ใช้มอเตอร์ ไม่มีเรือ และเมื่อนำความคิด

แบบร่างใบพัด ไปขอความช่วยเหลือจากกรมชลประทาน

จึงได้ใบพัดผลักดันน้ำมาใช้ครั้งแรกในปี 2550

เป็นจำนวนถึง 20 ตัว มาจนถึงวันนี้

..........

และนับแต่นั้นมา ปัญหาน้ำท่วมไม่เคยเกิดกับพื้นที่นี้เลยแม้แต่ปีที่แล้ว

ที่ว่าน้ำมาก ต.บางระกำ พื้นที่ราบลุ่มต่ำริมน้ำท่าจีนก็ไม่มีปัญหา

..........

แต่ปีนี้ไม่รอด !!!

..........

นายก อบต. กล่าวว่า “ปีนี้น้ำท่วม ไม่ใช่เพราะระบบของเราล้มเหลว

แต่มาจากน้ำท่วมไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดการณ์ไว้

ระบบของเราเตรียมไว้สำหรับแก้ปัญหาน้ำท่วมที่มาจากแม่น้ำท่าจีน

แต่ที่ท่วมคราวนี้เป็นน้ำที่มาจากแม่น้ำเจ้าพระยา

แล้วหลากล้นมาทาง จ.นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี

ไหลหลากมาแบบไม่มีทิศทางที่แน่นอน ไม่สามารถควบคุมได้

เพราะไม่ได้มาตามร่องน้ำ

นายก อบต.บางระกำ บอกว่า "ถ้าน้ำท่วมมาตามร่องน้ำ และมาทางแม่น้ำท่าจีน

ระบบของเรารับมือได้สบายมาก เพราะวันนี้แม่น้ำท่าจีนที่เราพร่องน้ำไว้

ยังไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเลย”

ถึงน้ำจะท่วม คุณณัฐวัฒน์ ยืนยันว่า ระบบแก้ปัญหาน้ำท่วมของที่นี้ไม่มีปัญหา

เพราะมีการเตรียมการเรื่องอพยพชาวบ้าน จะให้ไปอยู่ที่ไหน การจัดหาถุงยังชีพ

แจกจ่ายถุงยังชีพให้ทั่วถึงต้องทำยังไง จะหารถหาเรือมาจากไหน

เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน.....

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่พึ่งจะคิดทำกันตอนน้ำท่วม

คิดเตรียมการ ประสานกับทางราชการ มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมมาโน้นแล้ว

ไม่เพียงแค่นั้น การช่วยเหลือฟื้นฟูหลังน้ำลด...ยังเตรียมไว้พร้อมทั้ง

“กองทุนพันธุ์พืช”

ให้ชาวบ้านยืมเมล็ดพันธุ์ไปเพาะปลูก เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

ค่อยนำมาใช้คืน เพื่อแบ่งเบาภาระในการดำรงชีวิตต่อไป

บ้านทรุดบ้านพัง มีการประสานหน่วยราชการ

โดยเฉพาะวิทยาลัยการอาชีพในพื้นที่

เตรียมจัดทีมพร้อมงบประมาณซ่อมแซมบ้านเรือนให้ชาวบ้าน

ไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว

...........................................................................

หมายเหตุ : อ้างอิงข้อมูลจาก //www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/210891

...........................................................................

ครับ นี่เป็นข้อมูลคร่าว ๆ ที่ไทยรัฐไปสัมภาษณ์มา

แต่สิ่งที่ผมอยากจะขอเพิ่มเติม ก็คือ


1.ความสามัคคี โดยเฉพาะการที่ชาวบางระกำ ยอมให้ที่นาของตนเอง

กลายเป็นที่พักน้ำ เท่าที่ผมทราบ ชาวบ้านให้ความร่วมมือด้วยดี

ไม่มีปัญหาทะเลาะกันด้วยเรื่องคันกันน้ำแต่อย่างใด


2.ภาวะผู้นำของผู้บริหารท้องถิ่น ที่สามารถเป็นศูนย์กลาง

ในการขับเคลื่อนแนวทางปฏิบัติ ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า "บริหาร หรือ จัดการ"


คงไม่แรงไปใช่มั้ยครับ ถ้าผมจะบอกว่า นายก อบต.บางระกำ

มีกึ๋นกว่านายกรัฐมนตรี และชาวบางระกำเจ๋งกว่า ศปภ.








 

Create Date : 23 ตุลาคม 2554
1 comments
Last Update : 15 มิถุนายน 2556 15:10:30 น.
Counter : 960 Pageviews.

 

ในฐานะคนการเมืองงท้องถิ่นเก่า
ขอเข้ามายกนิ้วห้วแม่โป้งให้กับนายกฯ และชาวบ้านบางระกำค่ะ
ผู้นำที่ดี มีวิสัยท้ศน์มองการณ์ไกล บวกมีความสามัคคีร่วมมือจากชาวบ้าน
การพัฒนาที่แท้จริงต้องเป็นแบบนี้ค่ะ

ปัญหาของประเทศไทยเรา เกิดจากความไม่พร้อมในการกระจายการบริหารการปกครองสู่ท้องถิ่น
ผู้นำท้องถิ่นจะมีสักกี่คน ที่เป็นแบบนายกฯ บางระกำ
จะมีสักกี่หมู่บ้านกี่ตำบลที่เป็นแบบบางระกำกัน

เห็นการแบ่งแยกสีแบ่งพรรคแบ่งพวกของคนไทย
โดยที่ผู้บริหารประเทศก็เป็นไปด้วย
บอกตามตรง ว่ามันจุกอกค่ะ

น้ำท่วมครั้งนี้ หวังว่า มันจะล้างสี ล้างโคลนตมจากใจผู้คนไปบ้าง

กลับมารักกันกลมเกลียวกันเหมือนเดิมนะ พวกเราชาวไทย



จากคนรักเมืองไทยไกลบ้านค่ะ





 

โดย: Sao'Padlung 24 ตุลาคม 2554 3:01:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ART19
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]





ความเสมอภาคที่แท้จริง คือ
การที่ทุกคนต้องมีหน้าที่
การทำหน้าที่ของตนเอง
จะเป็นสิ่งที่กำหนดว่า
เราควรได้รับอะไร แค่ไหน
Friends' blogs
[Add ART19's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.