|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
กระแสสังคม
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ฉันเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกระแสสังคม สังคมโน้มน้าวฉันไปทางใด คลื่นความต้องการฉันก็พัดพาฉันไปทางนั้น ตื่นเช้ากว่าปกติ เพื่อให้ไปทำงานรถไม่ติด กินเป็นกระแส กินเพราะรสนิยม ไม่ได้กินเพราะความหิว อยากเพราะรสนิยม ไม่ได้อยากเพราะร่างกายบอกจิตใจว่าฉันอยาก ไปเที่ยวตามกระแสนิยม ดื่มตามกระแสนิยม แต่งตัวไม่ได้เพราะปกปิดร่างกาย แต่งตัวเพราะอยากให้คนอื่นชมว่าสวย ใช้ของตามกระแสนิยมเพราะไม่อยากให้ใครดูถูก อยากทำอะไรตามที่สังคมบอกว่าดี ฉันใช้ชีวิตอย่างนี้มาตลอดจนมองไม่เห็นความผิดปกติ เพราะทุกคนก็ทำแบบนี้กันหมด อยากโดยไม่รู้ว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร สิ่งใดเป็นสิ่งที่ต้องทำสิ่งใดเป็นสิ่งที่ควรมองแต่ไม่ต้องทำ ชิวิตฉันก็เริ่มพลิกผันครั้งแรก เมื่อตึกเวอร์เทลด์ถล่ม ตอนนั้นฉันอยู่ที่รพ. ไม่ใช่ตัวฉันหลอกนะที่ต้องไป แต่ฉันไปเป็นเพื่อนพ่อ เมื่อก่อนหน้านั้นสักประมาณ 2 สัปดาห์ พ่อฉันเสียการทรงตัวเมื่อเปิดตาทั้งสองข้าง จะเดินเอียงและล้ม เมื่อปิดตาข้างหนึ่งเดินตรง หนังตาตกข้างหนึ่ง แพทย์บอกว่าเป็นอาการทางระบบประสาท จึงต้องทำสแกนด์สมอง ได้คิวตอนเวลาที่มีข่าวตึกเวอร์เทลถล่มพอดี ฉันจำได้ดีภาพทุกมุมกล้องของตึกที่สามารถถ่ายทอดเป็นข่าว ภาพที่ซ้ำไปซ้ำมา รู้สึกว่าการรอคอยมันยาวนานเสียนี่กระไร เมื่อไรพ่อจะออกมาเสียที ทำไมสแกนสมองมันนานอย่างนี้ แต่ความจริงมันพึ่งพาไปเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น จนฉันรู้สึกเป็นครั้งแรกถึงการมีชีวิต การดำรงชีวิต การใช้ชีวิต เหตุการณ์มันแค่สะกดฉันครั้งแรก หลังจากนั้น ฉันกลับไปใช้ชีวิตตากระแสเหมือนเดิม เมื่อพ่อฉันหายเป็นปกติ เหตุการณ์คืนนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตฉันเปลี่ยนไป ตื่นเช้าไปทำงาน หาเงินมาเพื่อบริโภคนิยม คือนิยมบริโภคตามคนอื่นนี่เอง ช่วงเวลาใกล้กัน ฉันก็มีปัญหาเรื่องงาน และเรื่องแฟนพร้อมๆกัน ฉันมักโทษตัวเองกับทุกสิ่ง ว่าเป็นเพราะตัวเองนี่แหละผิด ความเครียดมันทำให้ฉันเริ่มนอนไม่หลับ การทำงานก็ดูเหมือนจะหมดอะไรตายอยาก เซงกะตายไปในทุกเช้าทำให้เรื่องงานเริ่มมีปัญหามากขึ้น ฉันเลยตัดสินใจทำตามกระแสนิยมอีกครั้ง ฉันรู้สึกว่าการดื่มทำให้ฉันได้นอนเร็ว สามารถตื่นเช้าไปทำงานได้เหมือนเดิม แล้วฉันก็พยายามทำล่วงเวลามากขึ้น เพื่อลืมความทุกข์เรื่องแฟน แล้วกลับบ้านก็ดื่มเพื่อนอน วงจรชีวิตเป็นแบบนี้อีกสักหนึ่งปี เงินจากค่าล่วงเวลาที่ได้มากขึ้น ใช่มันไม่ได้มากขึ้นถึงขนาดเป็นเศรษฐี แต่ทำให้ฉันทำงานทุกวันไม่มีเวลาไปใช้เงินที่หามาได้นอกจากนานๆที่ไปช็อปเพื่อซื้อของที่แพงขึ้น แล้วมีเหตุผลว่าฉันเหนื่อยกับการทำงานมามากแล้วใช้เงินควรจะเต็มที่ ทำให้เงินในบัญชีก็อาจจะไม่มากอย่างที่ควร เรียกว่าเพิ่มขึ้นในระดับที่ต่ำ ร่างกายก็ป่วยบ่อยขึ้น ไซนัสก็ถามหา ต้องไปผ่าโพรงจมูก ตาก็เป็นสองโหล จนคิดถึงเรื่องพ่ออีกครั้ง คิดว่าสิ่งที่ผ่านมานั้นถูกหรือยัง นั้นคือการพลิกผันครั้งแรกของฉัน หยุดวงจรดื่มเพื่อนอน ทำงานให้หนักเพื่อลืมปัญหา เปลื่ยนมาเป็นเริ่มอ่านหนังสือแทนการดื่มเพื่อหลับ หยุดงานล่วงเวลาในบ้างครั้ง เวลาเหลือฉันจะไปทำอะไรดีนะ
การเรียนอีกครั้งก็เริ่มขึ้น ฉันเรียนต่อปริญญาโทดีกว่า เพื่อมองมุมใหม่สังคมใหม่ เปิดกะลาให้เป็นกะลามังที่ใหญ่ขึ้น ฉันไม่กล้าบอกหลอกนะว่าเปิดไปเจอโลกกว้างเพราะชีวิตฉันยังพลิกผันอีกหลายครั้งกว่าจะหลุดจากกระแสสังคมแต่ก็ไม่ทั้งหมดเพราะเรายังเป็นสัตว์สังคม ตอนนี้ฉันแค่เปลื่ยนเป็นโดนคลื่นลูกใหม่ซัดอีกครั้ง เปลี่ยนทิศทางไปอีกหน่อยเท่านั้นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่มันดีขึ้นมาในชีวิต ฉันเริ่มเรียนรู้ว่ากะลามันก็ดีนะ เมื่อได้เรียนรู้ว่ากะลามันเป็นอย่างไร ต่อไปฉันจะได้เรียนรู้ว่ากะลามังมันเป็นอย่างไร ถ้าตามฉันมาเรื่อยๆ โลกของคนธรรมดาแต่มุมมองต่างกันบนโลกใบเดียวกัน แล้วคุณก็จะรู้สึกว่าคุณอาจเป็นคนหนึ่งที่อยู่เพื่อให้กระแสนิยมมันซัดพาคุณไป เมื่อคิดได้อีกที่เราอยู่ที่ไหนเนี่ยบนโลกใบนี้
Create Date : 12 เมษายน 2554 |
|
2 comments |
Last Update : 12 เมษายน 2554 9:19:08 น. |
Counter : 928 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
ทุกข์ได้แต่อย่าอ่อนแอค่ะ
สู้เค้าเนอะ ^_^