เรื่องวุ่นวายของชีวิตในแต่ละวัน
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
เมื่อถึงวันที่ต้องตัดสินใจ

บางครั้งชีวิตก็เหมือนกับการเล่นเกม

เกมชีวิตบางคนเหมือนกับเกมบันไดงู ที่ชะตาชีวิตจะขึ้นอยู่กับแต้มลูกเต๋าที่ทอยออกมา หากโชคดีได้แต้มที่เมื่อเดินแล้วตกในช่องที่มีตัวช่วย ไม่ว่าจะทางลัด บันไดลิง ให้เราเดินไปได้เร็วขึ้น ใกล้จุดหมายที่ใฝ่ฝันมากขึ้นก็โชคดีไป แต่หากว่าแต้มชีวิตต้องถูกกักถูกดอง ถูกดันให้ถอยหลัง เพียงแค่บังเอิญว่าเราทอยลูกเต๋าได้แต้มที่ตกลงไปในช่องที่โชคร้ายแค่นั้น ใช่ว่าเราไม่เก่งหรือด้อยกว่าคนอื่นที่ไหนกัน แต่ชีวิตต้องแป๊กแบบไปไม่ถึงไหน

บางคนเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า โชคชะตา บางคนเรียกว่า กรรม ใครทำกรรมดีมา ชาตินี้ก็ได้แต้มต่อ ทำอะไรก็ดูเหมือนเทพีแห่งโชคจะอยู่ข้างๆเสมอ ส่วนพวกที่เชื่อว่าที่ตนเองต้องเผชิญปัญหาอุปสรรคนานับประการในชีวิตก็เนื่องมาจากกรรมเก่าในชาติปางก่อนที่ไม่รู้กี่ชาติปีแสง หาทางออกไม่ได้ บ้างเข้าวัด บ้างพากันไประเบิดกรรม ทะลวงกรรม กระซวกกรรมให้ทะลุทะลวงกันไปข้าง สร้างรายได้มากมายกับบรรดาผู้รับจ้างทะลวงกรรมทั้งหลาย

แต่ไม่รู้ว่าเจ้าของกรรมที่ไประเบิดทะลวงกรรมจะมีชะตาชีวิตประการใดหลังจากระเบิดกรรมไปแล้ว เพราะไม่เคยมีใครไปถามสักทีว่าชีวิตจะพุ่งรุ่งไปข้างหน้า หรือยังคงร่วงริ่งดิ่งลงไปในวังวนเดิมๆ

ให้เดาเล่นๆก็คงไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่หรอก ก็ในเมื่อเรายังต้องใช้ชีวิตในวังวนกับกฏเกณฑ์ความเชื่อเดิมๆ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ทำสิ่งเดิมๆ เวียนว่ายตายเกิดเดิมๆไม่รู้กี่ร้อยชาติ แล้วจะให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

ที่พูดอย่างนี้ไม่ใช่ว่าฉันจะบอกว่าฉันไม่เชื่อเรื่องกรรมเก่ากรรมใหม่นะคะ หากแต่ฉันเชื่อว่า ชีวิตคือเกม แต่เกมชีวิตเราขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นคนเขียนกฏกติกาในการเล่นเกมต่างหาก

เกมบันไดงู ก็คนออกแบบเกม เจ้าของบริษัทเกมเป็นคนกำหนดว่า ช่องไหนจะมีกับดัก มีบันได มีอุปสรรคนู้นนี่นั่นให้เราต้องเผชิญ เกมชีวิตเราก็ไม่ต่างจากเกมบันไดงูสักเท่าไหร่หรอก เราถูกความเชื่อครอบงำว่า เราทุกคนเกิดมาเพื่อชดใช้กรรม ความคิดนี้ฝังลึกในตัวเราแทบจะทุกอณู จนกระทั่งบางทีเราหาเหตุผลตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไมเราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตสักทีว้า ทั้งที่ตอนเรียน ป. 1 ก็บวกลบเลขคณิตเก่งไม่เป็นรองใคร สอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้คณะเด่นดังที่พ่อแม่เอาไปคุยฟุ้งได้ตั้งแต่หัวซอยยันท้ายซอยนู้นนน แต่ทำไม้ทำไม ชีวิตมันถึงไม่ไปไหนสักที หาเหตุผลอะไรไม่ได้ หันรีหันขวางนึกไม่ออกก็โทษกรรมมันซะเลย ง่ายๆแบบนั้นละ

ไอ้ที่พูดๆมานี่ หาใช่ใครอื่นที่ไหนไม่ ก็ตัวฉันนี่ละค่ะ แล้วพอแอบมองๆไปรอบตัว ก็มีคนแบบฉันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งทีเดียว ทุกคนหาทางแก้กรรมกันให้ควั่ก

แล้วทำเช่นไร เราถึงจะหลุดออกจากวังวนนี้ได้สักที

ฉันมานั่งนึกนอนนึกถึงชีวิตที่ผ่านมาของตัวเอง เฮ้ย!!! (..แฮ่ๆ...ขอโทษนะคะที่โวยวายเป็นพวกร้านขนมปังเว้ยเฮ้ยไปหน่อย)  นี่เรากำลังเล่นเกมคนอื่นอยู่นี่หว่าคะ ฉันตบเข่าตัวเองฉาดใหญ่

ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ฉันไม่เคยออกนอกเกมที่คนอื่นกำหนดเลย

ฉันต้องไปเรียนหนังสือในโรงเรียนที่คนกำหนดว่าดี เด่น ดัง เพื่อจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี เด่น ดัง (ของรัฐ) ให้ได้ เรียนวิชาบังคับ บังคับนี่นั่น วิชาที่เลือกก็เลือกได้ตามที่กำหนด เลือกนอกเหนือจากนั้นไม่ได้ ตอนฉันเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังมร้ากที่หนึ่ง วิชาเลือกที่ฉันอยากเลือก แต่บังเอิญว่ามีฉันคนเดียวที่เลือก ภาควิชาเลยไม่เปิด ฉันต้องไปเรียนเหมือนๆกับที่คนอื่นเลือก ด้วยเหตุผลที่ฉันไม่เข้าใจ และไม่อยากจะเข้าใจกับเหตุผลที่บอกง่ายๆว่า มีคนเรียนคนเดียวไม่คุ้มที่จะเปิดสอน เอิ่ม...ค่าเทอมไม่ใช่หลักหมื่น หากแต่หลักแสน คิดเท่าไหร่ก็ไม่เห็นหนทางขาดทุน แล้วตอนที่ประกาศเปิดสอนหลักสูตรนี้มีโฆษณาว่าจะมีสอนตรงนี้ด้วย ถือว่าโฆษณาเกินจริงไหม ถึงตอนนี้ฉันไม่อยากจะรู้แล้วละ


 เรียนจบออกมา ฉันต้องทำงานในบริษัทที่ตั้งกฏเกณฑ์ว่า ฉันจะต้องเป็นอย่างไร ทำแบบคนอื่นๆ แล้วบริษัทจะตัดสินฉันจากตรงไหนบ้าง เช่นเจ้านายจะให้คะแนน ถ้าโชคร้ายเจอเจ้านายที่เกิดไม่ชอบหน้าฉันขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุเช่นชาติที่แล้วไม่ถูกกัน ฉันก็คงเหมือนตกหลุมในเกมบันไดลิงที่ไม่มีทางก้าวหน้าได้

แล้วหากไม่อยากรับกรรมนั้น ออกมาทำธุรกิจ ฉันก็ต้องมาเจอกฏเกณฑ์ในเกมธุรกิจที่บริษัทใหญ่ๆ เป็นผู้กำหนดวิธีเล่นเกม

ไม่ว่าจะเป็นเกมร้านค้าใหญ่ๆประเภทห้างโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาเยอะๆถึงเยอะที่สุดที่กำหนดกฏเกณฑ์กับซัพพลายเออร์ทั้งหลายที่อยากเอาของเข้าไปขายในร้านเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเกมจ่ายค่าเปิดรหัสสินค้าใหม่ตั้งแต่หลักหลายหมื่นถึงหลักหลายแสน ยืดดดด...จ่ายเงินยาวๆ แต่ขายลูกค้าหน้าร้านเงินสด หรือเกมเอาของเรามาขายก่อน เงินอีกสองสามเดือนค่อยว่ากัน เกมไม่รับผิดชอบสินค้าเสียหาย แบบว่า ใครๆก็ทำแบบนี้

ที่ฉันมาบ่นๆนี่เนื่องจากวันก่อน ฉันไปพบลูกค้าสองรายในเวลาใกล้ๆกัน เห็นความแตกต่างจนฉันต้องเก็บมานั่งคิดและชวนคุณคิดไปด้วยกัน

วันนั้น ฉันมีนัดกับลูกค้าฝ่ายจัดซื้อของบริษัทห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง กฏเกณฑ์อย่างที่เล่าตอนต้นละค่ะ "รับฝากขายไม่ซื้อนะคะ" น้องฝ่ายจัดซื้อบอกฉัน
"ไม่รับผิดชอบสต๊อคสินค้านะคะ" น้องบอกตามสูตร
"แปลว่าอะไรคะ" ฉันถาม เอียงคอเล็กน้อยพอให้ดูน่ารัก น้องจะได้ไม่รู้ว่าฉันโง่มากที่ไม่เข้าใจประโยคนี้
"เราจ่ายให้ตามจำนวนที่ขายจริง ไม่รับผิดชอบสินค้าคงเหลือในสต๊อค แบบว่าสมมติว่าพี่ส่งมา 100 ขวด ขายไป 50 ขวด เราก็จ่ายให้ 50 ขวด"
"ก็ถูกต้องนี่คะ แล้วไม่รับผิดชอบสต๊อคตรงไหนคะ" ฉันเริ่มงง
"ก็แบบว่าถ้าเกิดพี่มานับสต๊อคแล้วมันเหลือไม่ถึง 50 ขวด เราไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้ค่ะ" น้องจัดซื้อทำสีหน้าเบื่อๆ
"แปลว่า ถ้าเกิดพนักงานแอบกินหรือทำตกแตก ก็คือความรับผิดชอบของพี่เองที่เอามาขายที่นี่เอง" ฉันอธิบายตามความเข้าใจของตัวเอง
"พนักงานเราไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ" น้องสวนทันควันแบบรักษษภาพพจน์บริษัทอย่างน่าประทับใจ "แต่เราไม่รับผิดชอบสินค้าคงเหลือในคลัง ที่ผ่านมาเราก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรนะคะ"

เอิ่ม...ฉันก็ได้แต่หุบปาก ฟังน้องพูดแต่มุมที่ห้างกำหนดกฏเกณฑ์ขึ้นมาจนจบ

คนอื่นก็แบบนี้เหมือนกัน น้องจัดซื้อตบท้ายปลอบใจฉันให้รู้ว่าฉันไม่ได้ตกบันไดลิงคนเดียว

ฉันก็รีบๆกลับ เพราะนัดลูกค้าอีกรายรวมถึงขี้เกียจจะฟัง

ลูกค้ารายถัดมานี้เป็นร้านค้าเล็กๆ น่ารักแถวฝั่งธน อยู่ปากซอยบางขุนนนท์ 16 ที่ทั้งคุณแม่คุณลูกน่ารักยิ้มแย้ม สั่งซื้อสินค้าไปขาย ต่อรองจำนวนแบบพอดีๆ ไม่เอาเปรียบกันและกัน รับผิดชอบสินค้า ที่สำคัญขายเป็นขาย ไม่ใช่อยากขายแต่ไม่อยากจ่าย ฉันน่ะแทบอยากจะกราบแทบตัก นี่ต่างหากธุรกิจที่เกื้อกูลกัน ฉันลดราคาให้ไม่ได้ก็ลดปริมาณสั่งสต๊อคให้ อะไรช่วยส่งเสริมการขายที่ช่วยได้ก็ช่วย

ตอนที่ฉันออกจากร้าน ฉันกวาดตามองทั่วร้านคร่าวๆ แล้วฉันก็แน่ใจว่าคุณลูกค้าที่น่ารักคงต้องใช้เงินลงทุนไม่ใช่น้อยที่จะตบแต่งร้านและหาของเข้าร้านเพื่อรอขาย เฉพาะของฉันรายเดียวก็ไม่ใช่เงินน้อยเลย เพียงเพราะต้องแข่งกับร้านใหญ่ที่ฉันเพิ่งไปมา ต้นทุนก็ต้องสูงกว่าเพราะของต้องสต๊อคทั้งหมด สายป่านร้านค้าต้องยาวจนกว่าจะมีฐานลูกค้าที่เพียงพอให้ร้านอยู่ได้ นั่นก็เพื่อสร้างเกมตัวเอง

ถ้าเช่นนั้น ฉันล่ะ ระหว่างขับรถกลับ ฉันบอกตัวเองว่า พอเถอะ หยุดเล่นเกมคนอื่นเสียที สร้างเกมตัวเอง ฉันอยากให้เป็นแบบไหนก็ออกแบบไปเองเลย ถ้าระบบนี้มันเหมือนน้ำเน่าที่ฉันอยู่ไม่ได้ ฉันก็ควรใช้กำลังที่เหลืออยู่ดีดตัวเองไปสู่น่านน้ำใหม่ที่ใสกว่า สะอาดกว่าและดีกว่ารึเปล่าไม่รู้ แต่ที่รู้ๆคือ ฉันเป็นผู้เลือกและสร้างเกมเอง และถ้าไม่มีน่านน้ำไหน ฉันก็ขุดบ่อน้ำเองเลยแล้วกัน

แต่เกมที่ว่า เป็นก้าวที่ใหญ่และต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมาก และคงต้องใช้พลังมากมายที่จะก้าวไปสู่น่านน้ำใหม่ ไม่ว่าจะต้องใช้พลังเพียงใด ฉันจะเล่นเกมตัวเอง








Create Date : 31 ตุลาคม 2555
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 2:09:20 น. 1 comments
Counter : 1360 Pageviews.

 
สวัสดีครับ ทักทายวันตักบาตรเทโว






โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 31 ตุลาคม 2555 เวลา:11:58:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวช่างถาม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add สาวช่างถาม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.