เรื่องวุ่นวายของชีวิตในแต่ละวัน
Group Blog
 
<<
กันยายน 2555
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
2 กันยายน 2555
 
All Blogs
 
โอกาสและการตัดสินใจที่ทำให้เรามีวันนี้

คุณติ๋มเป็นคนหนึ่งที่แสดงเจตน์จำนงแรงกล้าที่อยากเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำฟักข้าวตราซุปเปอร์แก๊คของเราเธอโทรหาฉันหลายครั้งระหว่างที่ฉันกำลังชั่งใจว่าฉันจะทำยังไงดี ปัญหาเรื่องคนเฝ้าบ้านทำให้ฉันอึดอัดใจที่จะอยู่ต่อ จนกว่าญาติทางพ่อที่เป็นคนชักนำเขามาจะจัดการให้ฉันเรียบร้อยแต่เพราะทนการรบเร้าของคุณติ๋มไม่ไหว ฉันจึงตกปากรับคำที่จะกลับเชียงใหม่ในช่วงหลังคริสต์มาส

เมื่อคิดว่าจะต้องกลับไปเชียงใหม่สิ่งที่แรกที่ฉันเตรียมคือหนังสือมอบอำนาจจากพี่สาวคนโตของฉันที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยกฏหมายเพื่อฟ้องขับไล่หากอีกฝ่ายไม่ยอมออกจากพื้นที่ดีๆในส่วนที่สองคือการเตรียมวัตถุดิบ บทเรียนครั้งที่แล้วที่ไม่มีฟักข้าวทำให้ต้นทุนเราสูงกว่าคนอื่นถึง50 เท่า ทำให้ฉันจดจำเป็นบทเรียนถ้าผิดพลาดครั้งแรกเราเรียกว่าเป็นบทเรียน หากแต่ครั้งที่สองหรือสามเราเรียกว่าความโง่ ดังนั้นบทเรียนราคาแพงนี้จะเกิดกับฉันได้ครั้งเดียว

ฉันโทรนัดคุณเอที่มีฟักข้าว18 ตันมาคุย พร้อมขอดูตัวอย่าง แต่คุณเอมาพร้อมมือเปล่าไม่มีตัวอย่าง ไม่มีรูปถ่าย ไม่มีอะไรสักอย่างนอกจากประกาศตนว่ามีฟักข้าว 18ตัน มันจะเชื่อได้ไหมเนี่ย ! ฉันกำลังทำการซื้อขายของมูลค่ามากกว่าสามล้านโดยไม่เห็นของไม่รู้อะไรสักอย่าง

“บางใหญ่น้ำท่วมหนักเอเข้าไปเอาของตัวอย่างให้พี่ไม่ได้หรอกค่ะ” คุณเอบอก “ถ้าพี่อยากเห็น เอจะให้น้องชายถ่ายรูปส่งมาให้”

“เอิ่ม...”ฉันพยักหน้า ในใจกำลังคิดวุ่นวาย หาทางออก

ตุ๊คงรู้ว่าฉันกำลังตัดสินใจ จึงชวนคุณเอคุยเรื่องสัพเพเหระเรื่องฟักข้าว, สรรพคุณ ,ลูกค้าที่ซื้อจากเธอเป็นการซื้อเวลา สามีคุณเอเป็นชาวฝรั่งเศสจึงทำให้เขาเดินทางมาแถบเอเชียเพื่อซื้อวัตถุดิบส่งกลับไปขายที่อเมริกาออสเตรเลีย แต่เนื่องจากมีปัญหาระหว่างเธอและสามีทำให้ต้องแยกทางกันและคุณเอก็เลยนำฟักข้าวมาขาย

“จริงๆก็มีสองสามบริษัทที่ติดต่อมาแต่พอน้ำท่วม ทุกอย่างเงียบไปเลย มีแต่พี่สองคนที่ติดต่อมา เอยังว่าพี่ใจกล้ามากที่จะทำธุรกิจตอนนี้ เค้าว่าเศรษฐกิจคงซบเซาอีกยาว” เธอเปรย

ฉันกำลังเดาว่าเธอคงท้อใจที่กำลังจะหย่ากับสามีทั้งยังมีปัญหาเศรษฐกิจ มิหนำซ้ำน้ำท่วมทำให้ลูกค้ารายใหญ่ที่ทำท่าว่าจะซื้อก็เงียบไปหมด ทุกวันนี้เธอได้แต่กอดของไว้ในมือแถมยังมีค่าฝากแช่ห้องเย็นอีกเดือนละหลายหมื่น ดังนั้น...ฉันเชื่อว่านี่อาจเป็นเวลาที่เหมาะสม

“พวกบริษัทใหญ่ๆถ้าจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่สักตัว เค้าคงต้องรอให้มั่นใจก่อนค่อยเริ่มลงมือ แล้วดีไม่ดีตงรอให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว อเมริกาฟื้น ยุโรปฟื้นซึ่งก็อาจอีกปีสองปีตอนนั้นค่าใช้จ่ายคุณเอก็คงไม่คุ้มแล้ว”

“นี่ก่อนหน้านี้เอไปดูหมอดูมา เค้าบอกว่าเอขายได้แน่เดือนนี้ แล้วก็มีพี่แค่รายเดียวที่ติดต่อมา หมอบอกใครติดต่อมาให้ขายคนนั้น”

“นั่นสิไม่มีใครบ้าเท่าพี่หรอก น้ำท่วมขนาดนี้ยังไม่ล้มเลิกเลยขนาดที่อยุธยาท่วมยังย้ายไปเชียงใหม่แบบไม่คิดมากเลย” ฉันคุย “แล้วพี่ก็ตั้งใจทำอย่างจริงจังมากๆทีแรกไม่คิดจะซื้อทั้งหมดหรอกแต่ฟังเรื่องคุณเอแล้วก็อยากช่วย”ฉันทำน้ำเสียงแม่พระ เนิบๆช้าๆจริงใจสุดๆ

“เอก็คิดงั้นค่ะเพราะตอนนี้เอกำลังแย่มากๆ” น้ำตาเธอรื้นๆขึ้นมาในดวงตาคู่สวย “ที่เอเอาของตัวอย่างออกมาให้พี่ไม่ได้เพราะเอติดค่าเช่าห้องเย็น เอต้องมีเงินไปจ่ายเขา เขาถึงจะปล่อยของออกมา” เธอสารภาพ

“คุณเอติดเขาเท่าไหร่เหรอ”หัวใจฉันอ่อนยวบ โธ่เอ้ย ถ้าบอกฉันแบบนี้ตั้งแต่แรก ฉันก็คงไม่คิดมากหรอก

“แสนกว่าค่ะ”

“ทั้งหมดมีอะไรบ้างเหรอทำไมมันเยอะจัง” ค่าฝากแช่กิโลกรัมละบาท ไม่จ่ายค่าเช่าทั้งปีก็ไม่น่าจะเกินแสนแปดนี่นา

“มีฟักข้าวมีมังคุดแช่แข็ง มีน้ำแก้วมังกร มีน้ำฝรั่ง ตอนนั้นสามีเอเค้าจะส่งไปทำน้ำผลไม้บรรจุขวดที่ออสเตรเลียแต่เพราะโดนหุ้นส่วนโกงเลยไม่ได้ส่งไปทำ วัตถุดิบยังค้างที่นี่เนื้อมังคุดก็สิบตันไปแล้ว”

แล้วฉันก็เกิดไอเดียบรรเจิดเลิศโลกเป็นที่สุดมังคุดจัดว่าเป็นราชินีผลไม้ ส่วนฟักข้าวจัดว่าเป็นผลไม้เทพประทาน ช่างเป็นการจับคู่ที่เหมาะสมกันเหลือหลายมังคุดก็ปลอกแล้วไม่มีเปลือกให้ฉันรำคาญใจเหมือนเสาวรส สับปะรดเช่นที่ผ่านมา อีกอย่างตอนนี้ฉันเริ่มรู้ว่าจะมีรายใหญ่เข้ามาเล่นในตลาดนี้ย่อมแสดงว่า นี่อาจจะเป็นเทรนด์ของฟักข้าวถ้าเช่นนั้นฉันควรที่จะครอบครองฟักข้าวไว้ทั้งหมดแล้วดูซิว่าบริษัทใหญ่ที่ว่าจะทำอย่างไร

“คุณเอจะขายฟักข้าวทั้งหมดให้พี่เท่าไหร่”

“ราคาก็อย่างที่เอบอกพี่ละค่ะนี่จริงๆเอบวกนิดหน่อยเท่านั้นหักค่าแช่ค่าใช้จ่ายก็แทบเท่าทุน”

“โอเค” ฉันตอบตกลงง่ายๆ ตุ๊ได้แต่ตาเหลือกเพราะก่อนหน้านี้เราตกลงกันว่าจะซื้อเพียงตันสองตันเท่านั้น แต่ให้ฉันเจรจาต่อรองให้ได้ราคาเดียวกับซื้อยกล๊อต แต่ถึงกระนั้นตุ๊ก็เชื่อใจฉันว่าฉันคงรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ การเป็นทีมงานเดียวกันสำคัญที่สุดคือการเชื่อใจกันและกัน ฉันเชื่อว่าตุ๊จะต้องเห็นดีเห็นงามกับฉันแน่ถ้าได้รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่แน่นอนมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา

“แต่พี่มีเรื่องที่ต้องตกลงกันก่อนพี่ขอซื้อทั้งหมด โดยพี่จะจ่ายเงินมัดจำก่อนสามสิบเปอร์เซ็นต์ ที่เหลือขอแบ่งชำระพี่ไม่ต่อราคาสักบาทขอแค่แบ่งชำระเนื่องจากพี่เองก็ไม่ใช่บริษัทใหญ่อย่างบริษัทนั้น เงินทุนไม่หนามาก ถ้าคุณเอตกลง พี่ก็จะขอซื้อเนื้อมังคุดที่มีสิบตันด้วยโดยเนื้อมังคุดขอจ่ายเดือนละตันรวมสิบเดือน”

ให้ตายเถอะโรบิ้น ในชีวิตไม่เคยซื้ออะไรว่ากันเป็นสิบๆ ตันมาก่อน นี่เราพูดกันบนโต๊ะกาแฟเล็กๆ น่าทึ่งนะ

คุณเอที่คาดหวังว่าจะได้เงินล้านกลับบ้านไปเริ่มหน้าเสีย“นี่เอคิดว่าจะได้เงินมาจ่ายหนี้บ้าง”

“คุณเอคะ ถ้าเราค้าขายกันไปสักระยะหนึ่ง พี่เชื่อว่าเราไม่ได้ค้าขายกันแต่นี้แน่ พี่ขอให้เราลองซื้อขายกันแบบนี้ไปก่อน บอกตรงๆเป็นการซื้อใจกัน เราต่างฝ่ายต่างเสี่ยงทั้งคู่เพราะเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พี่เองก็ไม่รู้ว่าพี่จะได้ของอย่างที่ต้องการหรือไม่ เพราะไม่เห็นของ ส่วนคุณเอก็เสี่ยงน้อยกว่าเพราะได้รับเงินมัดจำไปขณะเดียวกันก็ยังได้ค่าผ่อนชำระายเดือน”ฉันแจกแจง

คิดๆไปก็จริงแฮะ ฉันเสี่ยงมากกว่าเห็นๆถ้าเกิดว่าวันนี้เธอรับเงินมัดจำไปแล้วไม่มีสินค้าให้ฉัน เอาใหม่ๆ

“เออ เอางี้ดีกว่าพี่จ่ายค่าเอาของออกจากห้องเย็นก่อนของเดินทางถึงเชียงใหม่พี่จ่ายค่ามัดจำ เพราะมันเสี่ยงอยู่นะ” ฉันเริ่มมีสีหน้าลังเล

“โธ่พี่เอจะไปโกหกพี่ทำไม ถ้าเอไม่มีของคงไม่มานั่งตรงนี้หรอก”คุณเอรีบบอกเพราะเริ่มกลัวฉันจะเปลี่ยนใจ

ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วว่าฉันจะเลือกอย่างไร พ่อฉันเคยบอกเสมอว่า หากเราได้เปรียบคู่เจรจา ก็จงอย่าบดขยี้อีกฝ่ายเพียงเพราะเราถือไพ่เหนือกว่า ในทางการค้าแล้วมีพรรคพวกย่อมดีกว่ามีศัตรูหรือมีคนเจ็บแค้นเรา อย่างที่ว่าไว้ "นกมีขน คนมีเพื่อน"

แน่นอนว่าฉันรู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการระบายของถ้าบีบเอาตามใจก็คงจะได้ แต่ฉันเลือกที่จะซื้อใจด้วยการตกลงเงื่อนไขเดิมคือจ่ายมัดจำก่อนก้อนนึง ค่าไถ่สินค้าจากห้องเย็นค่ารถตู้คอนเทนเนอร์ไปเชียงใหม่

เราจ่ายเงินกันพร้อมสัญญาซื้อขายแบบบ้านๆที่ฉันร่างขึ้นมาสดๆร้อนๆจากนั้นฉันก็นั่งใจตุ๊มต่อมไปทั้งวันเพราะคุณเอสัญญาว่าจะถ่ายรูปตอนขนสินค้าลงตู้ให้ฉันดูพร้อมจะใหห้คนส่งสินค้าตัวอย่างมาให้ฉัน 50 กิโลกรัม แต่สองทุ่มแล้ว ฉันติดต่อเธอยังไม่ได้เลย ในที่สุดสามทุ่มฉันก็ได้รับรูปทางมือถือและคำมั่นสัญญาว่าพรุ่งนี้จะนำของตัวอย่างมาให้ เนื่องจากช่วงนั้นน้ำยังคงท่วมบางบัวทอง บางใหญ่อยู่ แล้วฉันจะพูดอะไรได้ละ

ได้แต่คิดว่าถ้ามีอะไรที่พลาดขึ้นมาโครงการนี้คงเจ๊งไม่เป็นท่าแน่เพราะเงินครึ่งหนึ่งที่มีไปอยู่ที่คุณเอหมดแล้วฉันกลัวที่จะทำให้ตุ๊ต้องมาสูญเงินเพราะความบ้าระห่ำของฉัน สาธุขออย่าเป็นเช่นนั้นเลย

วันรุ่งขึ้นฉันก็ได้รับของตัวอย่างซึ่งมันทำให้ฉันดีใจมากที่ได้มีฟักข้าวให้อุ่นใจร้อยกิโลกรัมทั้งที่ถ้าฉันโดนโกงจริงๆ ฟักข้าวนี้จะตกกิโลกรัมละหลายหมื่นทีเดียว

เราเดินทางกลับเชียงใหม่ด้วยความมุ่งมั่นฉันโทรหาตัวแทนจำหน่ายรายแรกของฉันว่า ฉันมีน้ำสูตรใหม่เป็นน้ำฟักข้าวผสมมังคุดน้ำเสียงคุณติ๋มดีใจที่ในที่สุดฉันก็กลับมาเสียที

ตู้คอนเทนเนอร์เสร็จแล้วฉันจึงให้มาติดตั้งที่ด้านข้างโรงรถที่เมื่อก่อนใช้สำหรับกลับรถภายในบ้านสีหน้าของคนในบ้านดูดุดันฉุนเฉียวที่ฉันกลับมาอีกครั้งแล้วในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ในคืนวันที่ 2 มกราคม

ช่วงนั้นเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่ซึ่งตามประเพณีที่ขาดไม่ได้คือการดื่มแอลกอฮอล์ล นายคนเฝ้าบ้านก็ดื่มแอลกอฮอล์ลกับเพื่อนจนเมามายกลับมาบ้าน มาพบพวกฉันที่กำลังขะมักเขม้นในการทดลองสูตรน้ำอยู่ จะด้วยฤทธิ์เหล้าที่ทำให้ความยับยั้งชั่งใจหายไปอย่างไรไม่ทราบ เขาตบตีด่าทอเมียอย่างรุนแรงด้วยถ้อยคำหยาบคายทั้งยังด่ากระทบฉัน ซึ่งมันบ่งบอกให้รู้ว่าคนคนนี้เกลียดครอบครัวฉันมาก

เพราะพูดตามจริงแล้วครอบครัวเราจะมาที่นี่เพียงปีละครั้งเพื่อไหว้พ่อที่สุสาน ระหว่างที่เราพักอยู่ พวกเขาก็ต้องคอยบริการเรา ผู้หญิงทำความสะอาด ซักผ้า ทำอาหารส่วนตัวผู้ชายจะ ดูแลสวน ยกของหรืออื่นๆ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้คิดเลยว่าเราเป็นเจ้าของบ้านและพวกเขาเป็นเพียงผู้อาศัย พวกเขาคิดว่าเราต้องพึ่งพาเขาให้ช่วยดูแลทรัพย์สิน นั่นคือเหตุผลที่เขาแสดงกิริยาไม่ดีกับฉัน

หรืออาจจะเพราะช่วงหลังสองสามีภรรยานี้ได้ทำงานกับญาติทางพ่อฉันและมีรายได้แล้วเราจึงคิดว่าถ้าเขามีรายได้ก็ไม่จ่ายค่าเฝ้าบ้านให้ แต่ให้เขาอาศัยอยู่ฟรี เราออกค่าน้ำไฟทั้งหมด ซึ่งเรื่องมันก็เป็นแบบนี้มาหลายปีและไม่มีใครคิดว่าจู่ๆฉันจะลุกขึ้นมาทำอะไรที่บ้านนี้แม้แต่ฉันเอง

หลังจากตบตีเมียจนหนำใจเขาก็เริ่มหันรีหันขวางจะหาเรื่องฉันที่ตะโกนห้ามไม่ให้เขาตบตีผู้หญิง ตุ๊ตกใจกลัวรวมถึงฉันด้วย ฉันโทรหาญาติเขาซึ่งเป็นนายจ้างเขาโดยตรงและเป็นญาติห่างๆของฉัน แล้วฉันได้รับคำตอบน่าเจ็บใจว่า ฉันก็อย่าไปยุ่งกับมัน ให้วิ่งขึ้นห้องปิดประตู ปิดไฟ พอรุ่งเช้ามันสร่างเมามันก็มาขอโทษฉันเอง ตอนนี้เขากำลังอยู่ในงานเลี้ยงไม่สามารถมาดูได้

บร๊ะเจ้าจอร์ชนี่เหรอญาติที่แสนดีที่แม่ฉันสั่งว่ามีปัญหาอะไรให้พึ่งพาเขานี่เหรอญาติที่แสนดีของพ่อที่ตายไปแล้วของฉันสุภาพบุรุษที่พูดจานิ่มนวลแต่ไม่รับรู้ว่ากำลังมีลูกจ้างหญิงของตนเองคนหนึ่งกำลังถูกทารุณกรรมทางเพศรวมถึงฉันกำลังถูกคุกคามหมายจะทำร้ายเพราะมันตรงรี่เข้ามาที่ตู้คอนเทนเนอร์ที่ฉันกับตุ๊ปรุงน้ำข้างในโชคดีที่เจ้าตู้เหล็กแข็งแรงปลอดภัยเกินกว่าไม้จะทุบพัง

ฉันโทรเรียกตำรวจ 191ทันทีหลังจากที่วางสายและคุณตำรวจสองนายก็มาถึงในที่สุด ตัวภรรยาวิ่งมาขอร้องฉันให้ช่วยปล่อยสามีเค้า ดูเอาเถอะ หน้าตาบวมปูดขนาดนี้ยังห่วงไอ้คนเลวนั่น ฉันได้แต่บอกหล่อนให้รู้ว่า หล่อนควรจะไปจากคนคนนี้ได้แล้วถ้าตบตีขนาดนี้แต่ดูเหมือนเสียงฉันจะไม่ผ่านหูหล่อนเพราะภาพที่ฉันเห็นคือหล่อนได้แต่หอบข้าวของตามไปเฝ้าผัวรักที่โรงพัก

ญาติฉันมาหาฉันพร้อมต่อว่าที่ฉันแจ้งตำรวจจับเพราะถึงอย่างไรคนคนนี้ก็เหมือนเป็นหลานห่างๆพ่อฉัน ฉันได้แต่บอกเขาว่า ถ้ากลับกันลูกสาวพี่อยู่ในสถานการณ์นี้แล้วพี่ยังจะนับคนคนนี้เป็นญาติหรือไม่ ตั้งแต่เกิดมาฉันเคยได้ยินคำพูดว่าเมาแล้วตีเมีย เตะหมา อาละวาดบ้านพัง แต่ไม่เคยเห็นด้วยตา ก็ได้มาเห็นในสังคมต่างจังหวัด มันทำให้ฉันรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกที่ยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ต้องโดนทำร้ายแบบนี้

ฉันขอให้พี่เค้าย้ายคนของเขาออกจากบ้านฉันภายใน7 วันซึ่งพี่สุภาพบุรุษได้แต่อิดออดจนกระทั่งฉันว่าจ้างให้ทนายยื่นโนติสบุกรุกนั่นละพี่สุภาพบุรุษจึงยอมย้ายบริวารออกจากที่ของฉันไม่รวมถึงหมาที่ลูกสาวเขาซื้อมาเล่นแล้วไม่อยากเลี้ยงแล้วก็เอามาโยนทิ้งที่นี่และของเหลือใช้อื่นๆในโรงงานเขาที่ไม่มีที่เก็บและนำมาเก็บที่นี่ ในภายหลังฉันถึงได้รู้ว่าเหตุที่พี่เขายอมง่ายๆเพราะกลัวเรื่องไปถึงโรงงานเขาที่จ้างแรงงานต่างด้าวแบบไม่มีบัตรทำงานจึงยอมเพราะไม่อยากมีความ แล้วในที่สุดปัญหาที่เป็นปัญหาที่สุดของฉันก็คลี่คลาย

ตอนนี้ฉันกลับมามุ่งมั่นสร้างโรงงานต่อ คุณติ๋มตัวแทนจำหน่ายคนแรกของฉันขายดีมาก ขายได้มากกว่าที่ฉันคาดไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำฟักข้าวผสมมังคุด

ตอนนั้นเรายังไม่ได้ อย.เนื่องจากโรงงานเราอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ครั้นจะไปจ้างโรงงานอื่นผลิตฉันก็กลัวความลับรั่วไหลจึงได้แต่ทำแค่พอขายคุณติ๋ม จนวันหนึ่งฉันได้รับการติดต่อจากกลุ่มธุรกิจหนึ่งที่จะขอซื้อน้ำฟักข้าวผสมมังคุดฉัน แบรนด์ฉัน แต่เขาจะเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในโลกและแม้แต่ฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะขายด้วยโดยจะทำข้อตกลงกับฉันว่าเดือนหนึ่งๆจะสั่งผลิตในจำนวนที่ไม่ต่ำกว่า 20000 ขวด ถ้าคิดในราคาที่เขาเสนอมา เราจะมีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่าสองแสนบาท

ฟังดูไม่เลวสำหรับการเริ่มต้นโรงงานเล็กๆที่เริ่มต้นไม่ถึงล้านแต่จะมีออร์เดอร์สั่งเดือนละกว่าหกแสนบาท ไม่เลวเลยใช่ไหม แต่มันไม่ใช่สำหรับฉัน

ฉันไม่ได้ตั้งโรงงานมาเพื่อผลิตขายแล้วกำไรเดือนละแสนสองแสน ฉันต้องการผลิตสิ่งที่เรียกว่าน้ำผลไม้แท้ๆที่ไม่ปรุงแต่งสารใดๆให้คนทั้งโลกไม่ใช่สร้างแบรนด์มาเพื่อให้คนมีเงินหนาสักคนมาทุ่มเงินเพื่อให้เรารับใช้เขา เงินไม่ใช่เป้าหมายหลักในธุรกิจของฉัน เราสองคนตั้งปณิธานไว้แล้วว่าเราจะทำของจริงที่มาจากของจริง ไม่มีสารปรุงแต่ง ไม่มีสารสังเคราะห์ใดๆทั้งสิ้นในสินค้าเรา

ถ้าเราจะขายเตาะแตะค่อยๆไปเราก็ยอมเพียงเพื่อ mission ของเรา เรามองว่าศักยภาพเรา สินค้าเราไปได้ไกลเกินกว่านั้น ฉันจึงตอบปฏิเสธไปแบบแอบเสียดายนิดๆถ้าเขาอยากเป็นตัวแทนจำหน่ายเราเราจะยินดีมากแต่นี่เขาจะห้ามเราจำหน่ายสินค้าที่เราคิดค้นมากับมือห้ามคุณติ๋มจำหน่ายทั้งที่นี่เป็นรายได้หลักที่เลี้ยงคุณติ๋มและครอบครัวและคุณติ๋มยังเป็นคนแรกที่เชื่อมั่นในฉันมากพอที่จะขายในราคาแพงทั้งที่ไม่มี อย. ฉันทำไม่ได้หรอกค่ะ

โอกาสฉันยังมีอีกมาก ตราบใดที่ฉันยังมีศรัทธาในสินค้าตนเอง




Create Date : 02 กันยายน 2555
Last Update : 2 กันยายน 2555 19:28:52 น. 1 comments
Counter : 1382 Pageviews.

 
สุดยอดครับ ปรบมือให้


โดย: apirat IP: 101.78.12.226 วันที่: 20 มกราคม 2556 เวลา:11:29:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวช่างถาม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add สาวช่างถาม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.