|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
สุดสายปลายรุ้ง บทที่ 4
บทที่ 4 เก็จถวาขับรถไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยรถยนต์ ผู้คนสัญจรผ่านไปมาอย่างเร่งรีบ ทุกคนดูจะมีจุดมุ่งหมายไปเสียหมดยกเว้นเสียก็แต่เก็จถวานี่ละ เธอถอนใจขณะเลี้ยวรถเข้าหมู่บ้านหรูหราที่เธออยู่บนถนนเลียบทางด่วน รถแล่นเลยผ่านบ้านหลังโตจนถึงเขตบ้านเธอ แม้เก็จถวาจะซื้อบ้านในหมู่บ้านหรูแต่บ้านเธอก็เป็นพวกบ้านหลังเล็กๆในกลุ่มบ้านใหญ่ที่เจ้าของไม่สามารถจัดสรรแปลงใหญ่ได้จึงซอยเป็นแปลงเล็กให้พวกที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังพอจะกัดฟันซื้อได้
อร เด็กรับใช้วิ่งมาเปิดประตูรั้วเมื่อเก็จถวาเลี้ยวรถเข้ามา
คุณเก็จกลับเร็วจังค่ะ อรทักทายร่าเริง เจ้าหล่อนเป็นเด็กสาวช่างพูดช่างเจรจาอย่างน่าเอ็นดู
อือ อรเอากระเป๋าพี่ไปเก็บในห้องนะ เธอยื่นกระเป๋าถือส่งให้เด็กสาว คุณป้าอยู่ไหนจ๊ะ
อยู่ในสวนค่ะ เห็นบ่นๆถึงคุณอินอยู่ค่ะ อรตอบ
ยัยเก็จกลับมาแล้วเหรอลูก เสียงทักดังขึ้นจากประตูบ้าน เก็จถวายกมือไหว้แม่
กลับมาแล้วค่ะ เธอบอกเสียงเนือย
กินข้าวมารึยังละลูก แม่ทำแกงส้ม ลูกจะกินเลยไหม แม่ลูบหลังลูบไหล่อย่างเอาใจ
เก็จถวาเดินไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาสีขาวนุ่ม หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ยังละค่ะเก็จมีงานต้องทำก่อน
เก็จ...แม่เอ้อ... แม่อึกอัก เก้จถวาลืมตาขึ้นมองแม่ที่ยืนบิดมือตัวเองไปมาด้วยท่าทีไม่สบายใจ
มีอะไรคะ เธอถาม
เก็จสัญญาว่าอย่าโกรธนะ แม่ต่อรอง ค่อยๆพูดกัน
เก็จถวามองหน้าแม่ ทำไมพวกแม่ๆและเจ้านายช่างมีสัมผัสที่หกที่จะเลือกเวลาบอกข่าวนักนะ
แม่จะพูดอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ
เรื่องยัยอินน่ะ แม่บอกเสียงเบา
ยัยอิน เก็จถวาทวนคำ มองแม่ที่มีท่าทีกระอักกระอ่วนใจ เก็จถวาเชื่อเสมอมาว่าแม่ส่งข้อความเป็นนัยที่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยให้เธอรู้ว่า เธอจะต้องไม่เป็นแบบแม่ เป็นแม่บ้านเป็นผู้หญิงที่มีชีวิตต้องพึ่งพาผู้ชายโดยเฉพาะผู้ชายเหมือนพ่อ เก็จถวาน่าจะเติบโตขึ้นมาด้วยการโกรธแม่ แม่ที่นอนแซ่วบนที่นอนทั้งวันแม่ที่ไม่รับภาระอะไรสักอย่างนอกจากการนอนแซ่วแบบนั้น แน่นอนว่าตอนนั้นแม่เป็นโรคซึมเศร้าแต่สมัยนั้นก็ไม่มีการวินิจฉัยให้ความรู้อย่างกว้างขวางที่จะบอกอธิบายถึงโรคนี้แต่เธอรักแม่มากมายจนมองข้ามภาระทั้งหลายที่โยนใส่บนไหล่เล็กๆเธอมาได้ แม่เคยเป็นสาวสวยมีเสน่ห์พอๆกับความฝันแบบผู้หญิงทั้งหลายที่เชื่อว่าผู้หญิงจะแสดงตัวตนผ่านทางลูกและสามีเท่านั้น
ใช่จ๊ะ น้องอาจจะยังเด็กแล้วก็สับสน... แม่ถอนหายใจ
ยัยอินทำอะไรคะแม่ แม่มักจะออกตัวแทนอินถวาเสมอ ไม่เคยติเตียนต่อว่าเลย
ยัยอินจะแต่งงานกับแฟนเขา แม่รู้แล้วว่าสักวันหนึ่งจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แม่เตือนยัยอินเสมอ
เก็จถวาอ้าปากพะงาบพูดไม่ออก อินถวายังเรียนไม่จบ ย้ายมาสองมหาวิทยาลัยแล้ว เป็นไปได้ยังไง
ก็เพราะยัยอินน่ะซิแสนจะหัวอ่อน แม่ก็อยากจะบอกลูกหลายทีแล้ว แต่ไม่อยากให้ลูกโกรธ
ตอนนี้แม่ก็ทำให้หนูโกรธแล้วละค่ะ หนูถามแม่บ่อยๆว่ายัยอินไปไหน แม่ก็บอกว่าไปติวหนังสือกับเพื่อน เก็จถวาบอก หนูพยายามถามว่าเพื่อนคนไหนแม่ก็บอกว่าแม่รู้จักดี แล้วเพราะอะไรจึงเป็นเรื่องแต่งงานขึ้นมาได้
แม่แค่ไม่อยากให้ลูกไม่สบายใจ อีกอย่างตาภูก็เข้ามาหาแม่ถึงบ้าน พูดจาท่าทางดีแม่ก็หวังว่ายัยอินก็จะได้คบคนดีๆไว้จบออกมาจะได้แต่งงานแต่งการมีครอบครัวไปจะได้ไม่ต้องทำงานหนักอย่างลูก
หนูนึกว่าแม่จะรู้ว่าการแต่งงานไม่ได้ช่วยอะไรเราได้ หนูคิดว่าแม่อยากให้ลูกๆประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่าเอาชีวิตไปฝากในมือใคร ดวงตาเก็จถวาแสบรื้น
อยากสิ แม่น่ะอยากให้ลูกแม่ประสบความสำเร็จแต่ไม่จำเป็นที่ลูกจะต้องครองโลกเพื่อจะให้สำเร็จแบบนั้น แม่อยากให้ลูกมีความสุขและลูกน่าจะมีความสุขได้ถ้าได้แต่งงานกับผู้ชายดีๆ มีลูกมีเต้าแล้วทำงานได้ถ้าอยากจะทำ
นี่คืออนาคตที่แม่วาดไว้ให้ลูกๆอย่างนั้นหรือ ทั้งที่ชีวิตแม่เองก็ล้มเหลวจากการแต่งงานดีๆตามที่แม่คิดเอาไว้
แม่คิดว่าผู้หญิงจะมีความสุขได้แค่จากการแต่งงานแค่นั้นรึคะ เธอถามแม่เสียงแหลม เจ็บจิ้ดไปทั่วร่าง นี่แม่กำลังทอดทิ้งเธอใช่ไหม แม่ปล่อยเธอไว้ในโลกที่สับสนและไม่พึ่งพิงเพื่อกลับไปสู่โลกผู้หญิงแบบแม่
อย่าเข้าใจแม่ผิดซิ แม่แค่คิดว่าผู้หญิงโชคดีกว่าผู้ชายตั้งมากที่มีความสุขได้มากมายจากการมีลูกมีบ้านแต่พวกผู้ชายมีแค่โลกของงานอย่างเดียวเท่านั้น แล้วถ้าพวกผู้ชายรู้สึกถูกแย่งชิงโลกเขาไป พวกเขาก็คงเกลียดและขมขื่นมากทีเดียว
นี่ใช่แม่ของเธอหรือเปล่า แม่พูดถึงสิ่งที่เก็จถวากำลังเผชิญอยู่อย่างไม่รู้ตัว เป็นไปได้เหรอว่าสารที่เก็จถวาได้รับจากแม่ตลอดระยะเวลาหลายปีในเรื่องความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่เธอเข้าใจผิดมาตลอด
แม่รู้ไหมว่าความคิดของแม่แบบนี้ทำร้ายเรามาตลอด เธอเอ่ย
แม่แค่ไม่อยากเห็นลูกเอาชีวิตแม่ไปตัดสินว่าการมีครอบครัวเป็นเรื่องผิดพลาด แม่พูดเสียงเบา แม่จึงไม่เห็นว่าจะเป็นอะไรถ้ายัยอินจะมีคนรัก น้องน่ะต้องหลบๆซ่อนๆไม่อยากให้ลูกรู้ว่ามีแฟน ลูกน่ะโกรธเสมอเวลาที่น้องมีแฟน
นี่เป็นเรื่องที่เกินกว่าจะเข้าใจความคิดของคนบ้านนี้ เก็จถวาชิงชังที่รู้ว่าแม่และน้องแอบทำอะไรลับหลัง มันเจ็บปวดรวดร้าวเกินกว่าจะคิดได้ ตลอดเวลาหลายปีหล่อนทำงานหนักแทบล้มประดาตาย เพื่อสามารถเลี้ยงแม่และน้องให้สุขสบายและที่สำคัญหล่อนอยากให้แม่ภาคภุมิใจที่เธอเอาชนะพวกผู้ชายได้แต่มาถึงตอนนี้มันไม่สำคัญอะไรสำหรับแม่เลยนอกจากการแต่งงาน
แล้วแม่ก็รู้เห็นมาตลอด เธอกล่าวลอยๆ
แม่ก็บอกยัยอินให้มาบอกลูกแต่ยัยอินก็บ่ายเบี่ยง จนกระทั่ง... แม่สะดุดกึก
จนกระทั่งอะไรคะ
ยัยอินกำลัง...กำลังท้อง ท้ายประโยคแม่แผ่วลง เก็จถวาอ้าปากค้างมองแม่ แม่เองก็คงไม่มีความสุขสักเท่าไหร่หรอกที่จู่ๆลูกสาวสุดที่รักท้องยังไม่ได้แต่งงานถ้าดูจากสีหน้าหมองหม่นร้อนรน
โธ่เอ้ย ยัยอิน อายุยี่สิบสามเรียนหนังสือก็ไม่จบ แล้วนี่ยังมาตั้งท้องอีก เป็นความเป็นจริงอันน่าอึดอัดเลี่ยงไม่ได้เสียนี่กระไร แล้วเจ้าหล่อนจะเอาปัญญาอะไรหาเลี้ยงตัวและลูกถ้าผู้ชายคนนั้นทิ้งหล่อนไปเหมือนที่พ่อทำ เก็จถวาชิงชังความคิดที่ว่าน้องสาวของหล่อนต้องบอบสลายจากความเจ็บช้ำเช่นที่แม่เคยเป็น
เธอนั่งอึ้งอยู่นานกว่าจะหลุดคำพูดออกมาจากปากได้อย่างยากเย็น ยัยอินอยู่ไหนคะตอนนี้
น้องออกไปข้างนอก ประเดี๋ยวเย็นๆก็คงกลับ แม่บอก ดูท่าว่าอินถวาคงกะให้แม่เป็นคนบอกข่าวนี้แก่หล่อนแล้วรอเวลาอีกซักครู่ให้เก็จถวาอารมณ์เย็นก่อนจึงค่อยกลับเข้าบ้าน
ถ้าน้องกลับมาให้ไปหาหนูที่ห้องก็แล้วกันค่ะ เธอบอกเสียงเรียบก่อนจะลุกเดินขึ้นไปข้างบน เก็จถวาชิงชังการทะเลาะกับแม่เพราะพุดให้ตายแม่กับหล่อนก็คงคิดและเข้าใจคนละแบบ ที่ผ่านมาเก็จถวาเชื่อว่าผู้หญิงบนโลกนี้มีสองแบบ คือแบบที่ผู้ชายอยากให้เป็นและแบบที่ผู้ชายไม่อยากให้เป็น เก็จถวาคิดอย่างขมขื่น หล่อนคอยเฝ้าสอนและดูแลน้องสาวอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าอินถวาจะมีสารพัดเหตุผลที่จะอธิบายถึงสาเหตุที่หล่อนโดนรีไทร์จากมหาวิทยาลัยเอกชนค่าเล่าเรียนแสนแพงสักเพียงใด ลึกๆเก็จถวาก็รับรู้ว่าน้องสาวไม่ได้มีนิสัยแบบหล่อนแม้สักกระผีก อินถวายังคงเป็นอินถวาที่ไม่รู้สึกรู้สม อินถวาที่ยังคงขี้เกียจเรียนเสมอแต่เก็จถวาเชื่อว่าถ้าหล่อนเข้มงวดกับน้องมากขึ้นจะทำให้อินถวาได้สำนึกขึ้นมาสักวันหนึ่ง ในที่สุดการเข้มงวดของเก้จถวาก็เป็นดาบที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงเธอเมื่อน้องแอบทำอะไรเหลวไหลลับหลัง
เธอซบหน้าลงกับฝ่ามือ ทำไมชีวิตที่ดูท่าว่าจะไปได้ดีของเธอจึงเละตุ้มเป๊ะแบบนี้นะ ก็ใช่ว่าเธอจะเข้มงวดอะไรกับอินถวาอย่างที่แม่ว่าสักเท่าไหร่กัน หล่อนพยายามไต่ถามและเกื้อหนุนทุกสิ่งที่น้องต้องการแล้ว ปัญหาก็คือว่าอินถวาไม่เคยยอมรับคำติและซักถามได้ อีกทั้งยังวางท่ายโสเวลาที่เก็จถวาสั่งสอน พร้อมบอกเธอว่าแม่เองก็ไม่เคยว่าอะไรขนาดนี้ แล้วจะให้เก็จถวาพูดอะไรได้อีกเล่า
เอาละสิ่งแรกที่เธอควรจะทำตอนนี้คือสงบจิตใจ บางทีมันอาจจะเป็นโอกาสอันดีสำหรับอินถวาก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเก็จถวาก็คงทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้มากมายนักหรอก ด้วยความคิดแบบนี้เก็จถวาจึงเปิดคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเสียบแฟลชไดรฟ์ลงไป เอกสารที่ได้มาไม่สมบูรณ์นัก เก็จถวาไล่เปิดดูไปเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องที่เธอได้รับรู้มาบ้างแล้วแต่มีสองสามแฟ้มงานที่เก็จถวาไม่เข้าใจสักเท่าไหร่นักแต่นั่นไม่สำคัญเท่าเอกสารฉบับนี้
บริษัทมีความเสียใจที่ขอประกาศการลาออกของ นางสาว เก็จถวา สุวภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ ความทุ่มเทและมีวิสัยทัศน์ของเธอมีค่าอย่างมหาศาลต่อบริษัท แต่เธอขอลาออกด้วยเหตุผลส่วนตัว โดยมีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยจะมีการแต่งตั้งผู้รับตำแหน่งแทนไม่ช้านี้
เก็จถวามองประกาศนั้นอย่างตะลึง ไอ้คนเลวเอ้ย ! หล่อนรู้สึกอยากฆ่าตาแก่นั่นขึ้นมา หลังจากที่ผ่อนคลายจากความเจ็บปวดจากเรื่องอินถวามาสักครู่ ความปวดรวดร้าวก็กลับมาพร่างพรูทั่วร่างเก็จถวาอีกครั้งหากทว่าครั้งนี้ท่วมท้นมากยิ่งขึ้น ความโกรธ ตระหนกและสับสนแล่นพล่านไปทั่วร่างราวเข็มนับพันเล่มแล่นไปตามสายเลือดทุกเส้นในร่าง ไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ร้ายมากๆร้ายจนสุดจะทน
Create Date : 13 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2552 11:08:39 น. |
|
3 comments
|
Counter : 270 Pageviews. |
|
|
|
โดย: peerisa IP: 124.120.207.209 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:51:40 น. |
|
|
|
โดย: สาวช่างถาม วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:53:44 น. |
|
|
|
โดย: พริมภิพัทรา วันที่: 16 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:25:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|