ธันวาคม 2552

 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ณ บ้านจามจุรี ที่ปาย



ไปเที่ยวกับเพื่อน กับ ไปเที่ยวบ้านเพื่อน ไม่เหมือนกัน

ไปรษณียบัตรใบหนึ่งเขียนไว้อย่างนี้ ก่อนที่จะหย่อนตู้ไปรษณีย์ต้นทางที่ “ปาย” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มีโอกาสได้ไปปาย หลังจากที่ได้ยินชื่อของปาย มานานมาก เคยคิดอยากไปปาย แต่ก็ได้แค่คิด เพราะจังหวะชีวิตไม่เคยเอื้ออำนวยให้ได้ไปปาย แต่อยู่มาวันหนึ่งโอกาสก็เดินทางมาเคาะประตูถึงหน้าบ้านให้ได้ไปปาย ถึงแม้จะมีอุปสรรคเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความตั้งใจในการเดินทาง ถูกล้มเลิกแต่อย่างใด... ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงยังต้องไป.... รู้เพียงแต่ว่า อุปสรรคที่ทำให้หงุดหงิดใจจนเกือบตัดสินใจไม่เดินทาง เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ เท่านั้นเอง.... เมื่อได้พบเจอกับความประทับใจที่มากมายกว่า






ณ บ้านจามจุรี @ ปาย


บ้านเพื่อนที่ปาย ชื่อ “บ้านจามจุรี” ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านนาจลอง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นบ้านพักกึ่งเกสท์เฮาท์ ครึ่งรีสอร์ท รูปร่างเดียวกับกระท่อมปลายนาเจ้าเงาะ อยู่บนเนินเขาสูงขนาดสาวสามสิบ (ห้า) เดินขึ้นได้พอดี ไม่เหนื่อยมากมาย มีบ้านพักขนาดพอดีๆ อยู่สามหลัง (ซึ่งถูกแอบเรียกลับหลังว่า บ้านสามโสด) ที่ภายในบ้านพัก มีเตียงหลังใหญ่นอนได้สองคนพอดี ปูด้วยผ้าสีขาว ตัดกับสีน้ำตาลของกระท่อม ตกแต่งภายในด้วยภาพถ่ายฝีมือเจ้าของบ้านเอง มีห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ มีน้ำอุ่นให้อาบอย่างไม่ต้องกังวลว่าจะหนาวจนแข็งตัว เอ๊ย... แข็งตาย

มีกระท่อมคนใช้ หรือจะเรียกให้หรูว่า เรือนแม่บ้าน อีกหนึ่งหลัง หลังนี้มีสองเตียงเล็กๆ พร้อมกับพื้นที่สำหรับกางเต๊นท์ สำหรับคนที่ชอบอยู่ใกล้ธรรมชาติ,มีเต๊นท์กางพร้อมสำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมมา เวลากลางวัน ออกไปขับมอเตอร์ไซค์เที่ยว กลางคืนกลับมานอนนับดาวข้างกองไฟที่ก่อไว้ให้ไออุ่นได้ทั้งคืน นอนนับดาวไป อธิษฐานกับดาวตกไป.... จะมีอะไรเป็นสุขใจได้กว่านี้?







กระท่อมน้อยคอยรัก


ไปปายครั้งนี้ ได้ไปนอนที่กระท่อมคนใช้...อืมม์... เรือนแม่บ้าน ไปเป็นแม่บ้าน ทำงานแลกอาหารและที่พัก ซึ่งก็รู้สึกว่าคุ้มมากเพราะเป็น “แม่บ้าน” วีไอพี สามารถสั่งเจ้าของบ้านได้ว่าอยากกินอะไร และอาหารการกินที่เพื่อนทำนั้นอร่อยมากสมกับที่เป็นเชฟอิมพอร์ตจริงๆ ยิ่งพออยู่ในบรรยากาศที่อากาศกำลังหนาวพอดี ไม่หนาวจนทำให้อยากโดดเข้ากองไฟ พอเหมาะพอดีสำหรับคนขี้หนาวได้เดินออกมาอาบหมอกเล่น ดังนั้น แค่ล้างจาน หั่นผัก ตำพริก ปอกแครอท ตักข้าวใส่จาน จัดสลัด และเป็นสารถีขี่มอเตอร์ไซค์ พาเจ้านายไปตลาด จึงเป็นเรื่องสบายๆ สำหรับ “แจ๋ว” คนนี้ ให้เป็น “แจ๋ว” ไปอีกกี่ปีก็ได้ ถ้าเพียงแต่ยังมีสถานที่สักแห่งให้ไปแล้วอุ่นใจ มีคนที่อยู่ใกล้ๆ แล้วได้ยิ้ม...

ชีวิตคนเรา บางครั้งก็ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า แค่นี้ จริงๆ








เพราะมีวาสนาต่อกัน เราจึงได้พบกัน


มีเพื่อนอยู่เชียงใหม่คนหนึ่ง รู้จักกันมาเกือบสิบปีได้ เราไม่เคยเจอกัน เรารู้จักกัน เพราะ “เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย” เกือบสิบปีแล้วที่เรายังคุยกันอยู่ ทั้งทางตัวหนังสือ ทั้งทางโทรศัพท์ เรานัดกันไว้ว่าสักวัน “เราจะไปนอนดูดาวด้วยกัน” ผ่านไปเกือบสิบปีแล้ว เราก็ยังไม่ได้ไปนอนดูดาวด้วยกัน ที่สำคัญเรายังไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย, วันก่อนนี้กลับจากปาย ต้องไปขึ้นรถที่เชียงใหม่ ก็เลยโทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนนี้ เผื่อว่าจะได้เจอกันเพื่อนบอกว่า “ตอนนี้อยู่ที่ปาย มาที่นี่ได้สองวันแล้ว” นั่นหมายถึง... เราอยู่ใกล้กันในรัศมีไม่ไกลเกินกว่าสองกิโลเมตร บางทีเราอาจจะเดินเฉียดไหล่กัน... อาจจะยิ้มให้กัน แต่เราไม่รู้จักกัน... เพราะเราไม่เคยเจอกัน

อาจเพราะเราไม่มีวาสนาต่อกัน เราจึงไม่ได้พบกัน








อยู่บนนั้น (ไม่ได้) มีแค่ดาวกับฟ้า


นึกถึงถุงดำเจาะรู ครอบหัวแล้วส่องไฟ... นั่นคือดวงดาวเวอร์ชั่นเกือบตาย แต่ถ้าหากอยากดูดาวแบบไม่ได้ต้องทรมานขนาดนั้นก็ต้องเป็นที่ที่ไร้อุปสรรคในการดูดาว ท้องฟ้าที่กว้างเท่ากับสายตาจะกวาดทั่วโดยไม่มีตึกรามบ้านช่อง หรือแสงสว่างของนีออน มาเป็นอุปสรรค ไปปายคราวนี้ได้นอนนับดาว เอาเท้าผิงไฟ ให้เสียวผ้าห่มไหม้เล่นๆ พอเบื่อนอนนับดาว แล้วก็ลุกมาเผาพริกเผาเกลือ เอ๊ย...เผาเผือก เผามันกินกัน มันฝรั่งโยนเข้ากองไฟ สุกแล้วปาดเนยลงไป โรยเกลืออีกนิดหน่อย.... อร่อยกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ขณะที่เผือกหัวเล็กต้องหมกในเถ้า สุกแล้วโรยน้ำตาลนิดหน่อย อร่อยจนลืมไก่ลุงเคนตั๊กกี้ไปเลยทีเดียว

สามคืนกับการนอนนับดาว ท้องฟ้าที่แจ่มชัดจนแทบไม่ต้องพึ่งกล้องดูดาว มีดาวตกนับไม่ถ้วน...

ท้องฟ้า... ทำให้เรารู้ว่า เราตัวเล็กนิดเดียว... เมื่อเทียบกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล







โลกใบเดียวกัน จะยืนอยู่บนนั้นหรือจะแบกมันเอาไว้

บางคนแบกโลก บางคนก็มีโลกไว้เตะเล่นแก้เหงา, ไปปายครั้งนี้ ไม่ได้ไปเหงา ถึงจะเดินทางคนเดียวก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว หรือเหงาจัด จนต้องนั่งทำเอ็มวี “สตรีขี้เหงาประจำปี” เพราะการเดินทางไปปาย ไม่ได้ยุ่งยากลำบากอะไรเลย ถึงเชียงใหม่แล้วยังมีทั้งรถบัสท้องถิ่น มีรถตู้ มีมินิบัส ให้เลือกเดินทาง โดยมีระยะเวลาเดินทาง ไม่ห่างกันมากมายเท่าไหร่นัก, มีพักกลางทางเหมือนกัน แต่ที่ไม่เหมือนกันคืออารมณ์ “เมารถ” ที่รถตู้จะให้อารมณ์ มากกว่า ใครที่รู้ว่าร่างกายไม่สามารถต้านทานอาการเหวี่ยงได้ ก็ไม่ควรอย่างยิ่งที่อาศัยรถตู้เป็นพาหนะ เพราะถึงแม้จะเร็วกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่ไม่คุ้มกับอาการที่ได้รับแม้แต่น้อย, แนะนำว่าเลือกรถแดงเถอะ ถูกว่า ได้ใจกว่าเยอะ






บางคนไปตามหาความรัก บางคน ความรักก็ไปหา


ไปปายคราวนี้ ได้เจอ คู่รัก ที่ไปพบรักกันที่ปาย... ปีที่แล้วหลังจากที่ต่างคนต่างก็ไปเที่ยวแล้วก็ไปพักที่บ้านจามจุรี... จากนั้นทั้งคู่ก็ได้รู้จักกัน ไปเที่ยวด้วยกัน เรียนรู้นิสัยใจคอกัน และเป็นคนรักกัน ผ่านไปหนึ่งปีทั้งสองกลับมาที่ปายด้วยกันอีกครั้ง มาพักที่จามจุรี ความรักของทั้งสองคนยังสดใสดี... แอบอิจฉาความรักของทั้งคู่ และรู้สึกดีที่ทั้งคู่ยังรักกัน มองย้อนกลับไปถึงความรักของตัวเอง ที่เกิดขึ้นและผ่านไป เคยวิ่งตามหาความรัก เหนื่อยกับการหารักแท้ ท้อใจกับความเจ็บปวดที่ได้พบ จนสุดท้ายก็ได้เข้าใจ คนบางคนไม่ต้องไปตามหาความรัก แต่ความรักก็ไปหา

ไม่ใช่ทุกคนที่ไปตามหาความรักแล้วเจอ ไม่ใช่ทุกคนที่เจอความรักแล้วหมายถึงเจอคนที่ใช่






ครัวไหนก็ทำกับข้าวได้กินอิ่มเหมือนกัน
แต่ครัวจามจุรี ไม่ใช่แค่อิ่ม แต่ได้ล้างจานด้วย


นอกจากคู่ที่พบรักกันที่จามจุรี แล้วยังมีแขกอีกบ้าน เป็นคุณน้า คุณป้า คุณพี่ และน้องพ่อมดน้อย ที่เช่ารถจากเชียงใหม่ขึ้นไปเที่ยวกันอีกด้วย... คุณป้าชอบทำอาหาร จึงสนุกสนาน กับการเข้าครัวจามจุรี เพราะที่นี่ ไม่หวงของ ไม่ปิดกั้น และไม่ใจร้ายกับแขกที่มาพัก อยากทำอาหารกินเอง ก็ไปซื้อของสดในตลาดเมืองปาย แล้วมาปรุงกินกันเอง อร่อยกันเองแถมยังชวนแขกบ้านข้างๆ มานั่งร่วมวงได้ด้วย

ในตลาดเมืองปายมีพ่อค้าชาวดอยขายแครอทอยู่คนหนึ่ง น่ารักมาก... วันนั้นไปซื้อเผือก ก็บอกพี่เค้าไปว่า “พี่ๆ เลือกหัวสวยๆ หน่อยนะ จะเอาไปเผากิน” พี่แครอทตอบว่า “หัวไหนก็เหมือนกัน... โยนใส่ไฟ ก็สุกเหมือนกัน” อื้อหือ...ดูพี่เค้าสิ ทีนี้หันไปที่ไม้สนน้ำมัน ที่ทางเหนือเรียกไม้เกี๊ยะ พี่เค้าคงเห็นเลือกนานไป ก็เลยพูดขึ้น “มัดไหนก็เหมือนกัน จุดไฟก็ติดเหมือนกัน” .... จริงของพี่เค้านะ






บางคนก็แตกต่างอย่างลงตัว

สามหนุ่ม ณ บ้านจามจุรี มีมุมที่ต่างกัน แต่เมื่อทั้งสามคนมาอยู่รวมกันก็แปลกที่ทุกอย่างดูจะลงตัว... พี่ชายช่างสนทนา ปราศรัย รับแขกเก่ง มีน้ำใจ ที่สำคัญ อ่านหนังสือของ “หญ้าเจ้าชู้” และ “ดาริกามณี” ด้วยล่ะ หุหุ ส่วนน้องชาย จะพูดน้อย แต่ละเอียด รอบคอบ เก่งเรื่องทำอาหาร ถ่ายรูป วาดรูปเก่งจิตใจดี มองโลกในแง่ดี ส่วนน้องเล็กของบ้าน เป็นหลานของทั้งคู่ หนุ่มคนนี้จะถนัดงานช่าง ไม่ว่าจะช่างไฟ ช่างไม้ ช่างโน่น ช่างนี่แต่สิ่งที่สามคนเหมือนกันคือ รักต้นไม้ ชอบที่จะอยู่สงบๆ บ้านจามจุรีจึงกลายเป็นความลงตัวอย่างประหลาด...

ไปปายครั้งนี้ ถ้าไม่เพราะน้ำใจไมตรีของทั้งสามพี่น้อง คำว่า “ความประทับใจ” ก็คงไม่กินใจได้ความมากนัก และยิ่งประโยคสุดท้ายของน้องเล็กที่บอกว่า “พี่กลับไป พวกผมคงเหงา” ฟังดูแล้วก็อดเศร้าเล็กๆ ไม่ได้ ยิ่งก่อนจะออกจากบ้าน มาขึ้นรถ...เพื่อนทำกับข้าวให้กิน เพราะกลัวว่าจะหิวกลางทาง เนื่องจากใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน.... ทั้งสี่คนเลยต้องทำเวลาในการกิน ทั้งสามคนปิดบ้าน ออกมาส่งที่ท่ารถ เพื่อนเอายาแก้เมารถให้กินความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้รู้สึกดีมากๆ จนไม่อยากกลับ พวกเขาส่งกระทั่งรถลับตาไปนั่นแหละ ถึงได้กลับบ้านไป....





ในความเป็นเพื่อน

เที่ยวบ้านเพื่อน ต่างจาก เที่ยวกับเพื่อนก็ตรงนี้ เพราะ การที่เราได้สิทธิ์เข้าบ้านเพื่อนนั่นหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเพื่อนก็ต้องมากในระดับหนึ่งแล้ว เพื่อนจึงยินดี และเต็มใจที่จะต้อนรับเรา... เช่นกัน ถ้าเราจะอนุญาตให้ใครสักคนมาที่บ้านก็ย่อมหมายความว่า โลกของเราส่วนหนึ่งนั้นมีคนคนนั้นเป็นเพื่อน ในระดับหนึ่ง...แต่กว่าที่ใครสักคนจะนับให้ใครสักคนเป็นเพื่อน ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยสักนิดบางคน แม้รู้จักกันมาตลอดชีวิตก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นเพื่อน แต่กับบางคน แค่เพียงคุยกันถูกคอ พอใจ เท่านั้นก็เป็นเพื่อนกันได้แล้ว ดังนั้น ความเป็นเพื่อน จึงไม่มีอะไรที่เป็นเงื่อนไขตายตัวว่า เพราะอะไร เราจึงเป็นเพื่อนกัน























อยากไปบ้านจามจุรีใช่มั้ยล่ะ....
ติดต่อได้ที่ www.jamjuree.net



ปล.

ขอบคุณประเทศไทย ที่ทำให้เรามี ปาย
ขอบคุณปาย ที่ทำให้เรามีจามจุรี
ขอบคุณจามจุรี ที่ทำให้เรามีเพื่อน
ขอบคุณเพื่อนที่ทำให้เรามีข้าวกิน และมีบ้านนอน

จาก “แจ๋วเอง”


+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

page update

โฟกัสให้แคบลงตรงที่เรายืนอยู่

มีนางฟ้าอยู่ในกระจก



Create Date : 15 ธันวาคม 2552
Last Update : 23 ธันวาคม 2552 23:14:56 น.
Counter : 2757 Pageviews.

33 comments
  

:)
โดย: ยัยตัวยุ่ง IP: 203.114.120.226 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:13:48:59 น.
  
เราไม่รู้จักกัน... เพราะเราไม่เคยเจอกัน

อาจเพราะเราไม่มีวาสนาต่อกัน เราจึงไม่ได้พบกัน

--- ----

ชอบประโยคนี้จัง...

ืทุกวันนี้ เจอบ่อย ค่ะ แบบ เราเจอกัน แต่เรารู้จักกันเท่าที่เราอยากจะรู้จักกันและกัน.. บางคนแค่ทักทาย.. ก็ดีแล้ว

บางคนแค่คุยกัน ไม่เห็นหน้า แต่ก็ผูกพัน..ซะ
บางคนเจอกันทุกวัน แต่เบื๊อ...เบื่อ นะคะ

รู้สึกว่า ตัวเองมีวาสนาต่อคนมากมาย.. เลยได้พบคนมากมาย..
โดย: poongie วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:14:42:48 น.
  
ภาพสวยครับ ที่สำคัญเล่าเรื่องราวได้ดีมากๆ เหมือนเรื่องสั้นเลยครับ พอกลับไปย้อนดูตรง group blog ก็เลยหายแปลกใจ ที่แท้ก็ยอดฝีมือด้านแต่งนิยาย เรื่องสั้นนี่เอง ถึงได้เขียนเรื่องได้อ่านเพลินแบบนี้
โดย: NET-MANIA วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:15:52:15 น.
  
ยิ่งอ่าน ยิ่งอุ่น

หวังว่า จะได้นิยายเล่มใหม่นะเธอ

^^ รออ่านอยู่
โดย: pattararanee IP: 125.25.35.132 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:16:03:18 น.
  
ชอบปาย ยังไงก็สวย ถึงแม้จะไม่เหมือนเดิมก็ตาม
โดย: chava วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:18:02:37 น.
  
ปาย มีความเปลี่ยนแปลง
ถึงแม้ว่า ชีวิตจะสอนให้เรารู้สึกสนุกกับความเปลี่ยนแปลง
ผมเองก็ยอมรับไม่ได้ที่เปลี่ยนไปมากขนาดนี้
...
ถึงแม้ยังสวย
แต่ก็ไม่เหมือนก่อนอีกแล้ว
ไม่ใช่แค่ปาย
ใครสักคนก็เหมือนกัน
โดย: กาแฟสอง วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:19:16:08 น.
  
ตั้งแต่แจ๋วกลับไป... บ้านสงบขึ้นเยอะเลย 55555


กลับไปวันเดียว เขียนได้ยาวขนาดนี้เลยหรอ... สามารถมั๊กๆ ถ้ามาเป็นแจ๋วสักเดือน คงได้นิยายหลายเล่มแน่ๆ



ปล.เห็นใครไม่รุ แอบเอาหน้าซุกเบาะตอนรถออกจากปาย อิอิอิ
โดย: เจ้านาย @ ปาย (canx ) วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:19:55:09 น.
  


I would like to see pai jang......
I like to eat watermelon at pai hehe...
โดย: Kessarin Ch. IP: 58.164.250.7 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:19:58:33 น.
  
อ่านเพลินเลยค่ะ
ทำให้ปายน่าไปขึ้นอีกเยอะเลย
โดย: nokkatua วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:20:32:02 น.
  
ขอบอกว่า เจ้าของน่ารักมากกกกก หิหิ(หน้าม้า)
โดย: เดีย IP: 118.172.193.63 วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:21:45:29 น.
  
อิจฉาว้อย

โดย: ดอกหญ้าพันงู วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:0:19:18 น.
  
เมื่อเช้าเปิดเมล์ดู ก้อเห็นข้อความเชิญชวนให้ตู๋เข้าดูเว็ปนี้

(บ้านจามจุรี)...โอ้ววววว อ่านแล้วเพลินจังเลยคร๊า

แอบนายไป แอบอ่านไป ระทึกดี 55555....
(ต้องค่อยระวังเดี๋ยวงานจะเข้า)

คุณเมย์ นี่เก่งม๊ากกกก เขียนเรื่องราวซะเห็นภาพเลย

ตู๋ก้อประทับใจเหมือนกานที่บ้านจามจุรีและก้อยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รู้จักคุณเมย์ ถึงจะได้คุยกานไม่มากมาย
เจอครั้งแรกก้อดูเฉยๆๆไม่มีอะไร แต่พอใกล้วันกลับจึงได้รู้ว่าคุณเมย์นี่น่าสนใจจริงๆๆๆ เสียดายที่เวลามีน้อย แต่สิ่งไม่น้อยเลย คือ ความประทับใจ ที่เกิดขึ้นที่บ้านจามจุรี จนตู๋รู้สึกว่า บ้านจามจุรี แท้จริงแล้วไม่ได้มีแค่ชายหนุ่มโสด 3 คนเท่านั้น แต่ยังมีคุณแม่บ้านที่ทำได้ทุกอย่างอีก 1 คน อิอิอิอิอิ

หวังว่าคราวหน้าถ้าตู๋ไป คงได้เจอ ทั้ง 4 คนนะค่ะ
และสุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณ คุณเมย์ที่ขี่รถลงเนินให้

ขอบคุณมากมาย สำหรับทุกความประทับใจ
ขอบคุณคุณเมย์ที่ทำให้ตู๋มาสนใจอ่านนิยาย
(จากคนที่ไม่ชอบอ่านนิยายเลย)จะรออ่านผลงานนะค่ะ

โดย: ตู๋ กะ เรียวโกะจัง IP: 118.173.235.131 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:8:33:26 น.
  
สวัสดีครับ มีแอบเอาเรื่องเรามาเล่านิดนึง แต่ก็ขอบคุณนะครับหวังว่าปีหน้าคงได้เจอกันอีกที่บ้านจามจุรี
โดย: Aragon IP: 124.120.229.208 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:9:59:48 น.
  
ส่งเมลล์ ไป ให้เพื่อนๆ อ่าน เพื่อนๆ เลยตอบกลับมาทางเมลล์
หยิบเอาเมลล์ ของเพื่อนๆ มาแปะ ให้อ่านกันต่อ....
------------------------------------------------------

From: saengthiwa narapit
อิจฉาคนได้ไปเที่ยว
เคยไปปายเหมือนกัน สวยดีนะ แต่ช่วงนั้นคนเยอะมาก เพราะเป็นช่วงหยุดยาว
หนาวไหม
กทม.ไม่หนาวเลย

^^
เก๋
---------------------------------------------

From: preeya Puttapasart
ฮ๊าาาาา ย่างกระต่ายด้วยไม้ฟืนกินแกล้มกับเผือกเหรอ โหดมากเลยนะเนี่ย ดาริกา

เจ๊หมู

---------------------------------------

From: Chuckgrit Chaisupa
อืมสวยมากเลยครับนั่น ไปปาย มาคงจะมีอะไรดี ๆ มาต่อเติมมากมายนะครับ(ดูจากการบรรยาย)
เมื่อไหร่จะมาเที่ยวระนองละครับ ผู้กอง

โอ๋

---------------------------------------
From: A+
น่าอิจฉาจัง
: )

เอ๋
---------------------------------------
From: akkaphon satum
แหม มีรูปพี่ดาริกามณี มาเที่ยวปาย รวมทั้งเนื้อหาเพื่อนเชียงใหม่ฯลฯ
พี่น่าจะโทรชวนผมไปเที่ยวปาย บ้างเด้อ
ป.ล.ผมไม่เคยไปปายเลยสักครั้ง ครับ

บอยบ้า

---------------------------------------

From: MAYA May
กระต่ายน่ากินอ่ะ 55555+
เอามากอดต้องนุ่มนิ่ม นิ่มนุ่ม แน่เลย
โอ้ววววววววว

อยากได้ผ้าห่มขนกระต่าย !!!!!!!

เมย์โมรี่
---------------------------------------

From: Piyawat Khodkham
น่าอิจฉาจัง
เพื่อนสบายดีใช่มั้ย ^^

พี่แขก
---------------------------------------

โดย: ดาริกามณี วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:10:05:05 น.
  
วิวสวยจังค่ะ

โดย: ta (tookta_tt ) วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:10:51:50 น.
  
อยากไปมั่ง มีความสุขมากๆนะ
โดย: TA IP: 202.143.147.170 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:13:23:45 น.
  
เพิ่งกลับจากปายครับ.............
เริ่มจากไปเที่ยวกับเพื่อนสมัยมัธยม
เวลาผ่านไป...แต่ดูเหมือนทุกคนจะไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงมีนิสัยใจคอเหมือนเดิม ราวกับเวลาได้ย้อนกลับไปสมัยกระโปรงบาน ขาสั้นเมื่อราวสิบกว่าปีที่ผ่านมา.............

เมื่อเหล่าสหายจากไป ผมเองก็ต้องอยู่ต่อเพื่อปฏิบัติภาระกิจ
ต้องบิดมอเตอร์ไซด์ขึ้นดอย ฝ่าสายหมอกหนาวยามเช้า
ไต่สันเขาไปกว่า 70 กม ด้วยเวลากว่าสี่ชั่วโมง
ความชันและคดโค้งของขุนเขาเป็นราวปราการด่านเถื่อน
ที่กั้นเขตให้ชาวปกาเกอะญออยู่ในหมู่บ้านที่สงบสุข
แสงไฟ และการดูโทรทัศน์ขาวดำในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน ด้วยความจำกัดของพลังจากหม้อแบตเตอรี่ที่ชาร์ตด้วยกระแสไฟจากแผงสุริยะเซลล์ คงเป็นความทันสมัยและบันเทิงเพียงไม่กี่อย่างที่จะบอกให้รู้ว่าที่นี่ความเจริญไปถึง

ด้วยน้ำใจของหญิงปกาเกอะญอกับสามีและลูกๆทั้ง 5 ของเธอทำให้ผมสามารถเก็บข้อมูลและตัวอย่างพืชได้เพียงพอกับการใช้ในงานวิจัย การบุกป่าฝ่าดงเพื่อเก็บเมล็ดพืชเล็กๆให้ชายป่า และทุ่งเถื่อนที่โอบล้อมด้วยป่าสนและลำห้วยคงเป็นงานที่หนักถ้าต้องทำคนเดียวแต่ด้วยมือเล็กๆของเด็กน้อยทั้งห้าและแม่ผู้อารีช่วยให้งานหนักกลายเป็นความสนุกจนลืมเพลีย

จวบจนเย็นย่ำอาหารป่าที่แสนเอร็ดอร่อย น้ำพริกถั่วเน่า กับผักต้ม เนื้อสัตว์ป่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนคั่วกับผัก ก็เพียงพอให้ท้องอิ่มก่อนที่ความเหนื่อยอ่อนจะพาให้ร่างกายเรียกหานิทราได้ไม่ยากเย็น และยังได้เพื่อนร่วมเต็นท์เป็นเด็กน้อยปกาเกอะญอที่ต่างตื่นเต้นกับการได้นอนในเต็นท์ราวกับเป็นของเล่นชิ้นใหม่

ยามเช้าที่หนาวเหน็บ น้ำค้างที่เกาะบนพื้นบ้านและหลังคาเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ได้ถึงความชุ่มชื้นที่ปกคลุมทั้งหุบเขา ไออุ่นรอบเตาไฟบนบ้านและน้ำชาอุ่นๆเหยาะเกลือก้อนเล็กๆช่วยไล่ความหนาวได้เป็นอย่างดี กับการเริ่มต้นวันใหม่ระหว่างนั่งรอแสงแห่งอรุณรุ่งมาเยือน

ภาพเด็กน้อยนั่งล้อมวง มือถือช้อนตักกินมาม่าอย่างเอร็ดอร่อย ขับไล่ความหิวก่อนจะเปลี่ยนเสื้อปกาเกอะญอเป็นชุดนักเรียนอย่างอิดออด เพราะยังอยากอยู่เล่นกับเจ๊าะ(พี่ชาย)จากในเมือง และก่อนออกจากบ้านก็ยังคงย้ำเตือนแม่ให้บอกเจ๊าะให้อยู่อีกหนึ่งคืนเพราะยังอยากนอนในเต็นท์อีกซักคืน

เมื่อเหล่าเด็กน้อยไปโรงเรียน และเสร็จภาระกิจเก็บข้อมูลและตัวอย่างพืชในหมู่บ้าน และอิ่มหน่ำจากอาหารมื้อกลางวันที่ยังคงเป็นน้ำพริกกับผักต้ม และมันสำปะหลังต้มเป็นอาหารว่าง เพราะผมปฏิเสธการกินแกงหนูนาที่ผู้เป็นพ่อบ้านดักได้เมื่อคืน ซึ่งผมจำใจต้องขอบอกผ่านเมนูที่ผู้เสนอย้ำว่าอร่อยยิ่ง เพราะไม่อาจข่มใจกินเนื่อหนูที่มองยังไงก็ไม่ต่างจากหนูที่อยู่ในเมือง(ต้องขออภัยจริงๆ)
ผมต้องร่ำลาเพื่อนบนขุนเขากลับสู่เมือง

ระยะทางที่ยาวไกล สูงชันและคดโค้ง สร้างความท้อ เหนื่อย และเพลีย จนหลายเลี้ยวและหลายโค้งที่เกิดคำถามกับตัวเองว่างานที่ทำมันคุ้มค่ากันกับความเหนื่อยอ่อนของร่างกายนี้หรือไม่ จนเมื่อการเดินทางสิ้นสุด การได้อาบน้ำอุ่นๆ ท้องได้อิ่มจากอาหารเดิมๆที่คุ้นชิน ความอ่อนล้าได้หายไป การรอคอยที่จะมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนหมู่บ้านในโอบเขาอีกคราก็กลับมา พร้อมกับคำตอบที่ว่า...บางคนรักงานที่ทำ แต่เราทำงานที่รัก...

ป.ล. การมาปายครั้งนี้เราได้พลาดโอกาสพบมิตรถึงสองคนสองครา...........
มิตรแรกหรือสหายจากแดนไกล เพื่อนชาวกรุงผู้คบหาผ่านสายเคเบิลและสัญญาณโทรศัพท์มานานนับสิบปี แต่ยังไม่มีโอกาสนอนนับดาวตามที่เคยสัญญากันไว้เมื่อนานเนา..
เพราะเขาส่งเสียงมาทักทายในวันที่กำลังจากเมืองปาย ในขณะที่ผมนั่งมองแสงสุดท้ายของวันเพียงลำพัง ณ กองแลน มุมหนึ่งของปาย...

อีกหนึ่งมิตรเป็นกลุ่มคนดนตรี สหายผู้ข้ามขุนเขานำเสียงเพลงแห่งเสรี มิตรภาพและพงไพรมาฝากผู้คนผู้มาเยี่ยมเยือนและเมืองปาย...ในค่ำคืนที่ผมนอนอุ่นอยู่ในเต็นท์ ณ หมู่บ้าน กลางอ้อมดอย แห่งป่าสนวัดจันทร์

...แม้ไม่เคยพบเจอกัน แต่มิตรภาพและความผูกพันแห่งความเป็นเพื่อนยังอยู่คง...


เรารู้จักกัน... แม้เราไม่เคยเจอกัน

เพราะเรามีวาสนาต่อกัน เราจึงได้รู้จักกัน
โดย: คนที่ไม่มีวาสนาต่อกัน IP: 124.157.184.47 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:14:27:58 น.
  
โห.... เล่าซะอยากไป กินหนูเลยนะเธอนะ....
โดย: ดาริกามณี วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:15:05:46 น.
  
อิจฉาจัง เด๋วมีโอกาสจะไปบ้าง อิอิอิอิ....
โดย: วี IP: 119.46.14.134 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:19:45:25 น.
  
ที่เล่าให้ฟังหวังให้ซึ้ง
ซาบเข้าไปถึงใจไหมเนี่ย
โดย: ฝิ่น IP: 124.157.184.47 วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:22:13:32 น.
  
เฮ้ย พี่ฝิ่น มาได้ไงเนี่ย ----
โดย: ดาริกามณี วันที่: 16 ธันวาคม 2552 เวลา:23:51:40 น.
  
อันนี้ก็จากเมลล์ ของเพื่อนๆ ที่ตอบกลับมาอีกเช่นกัน....

----------------------------------------------------------

From: siriwan
น่ารักมากค่ะพี่
เคยไปกันสองคน เมื่อประมาณสี่ปีที่แล้ว นอนที่บ้านปายนา เป็นบ้านพักกลางทุ่งนา หมดฤดูเก็บเกี่ยวแล้ว
เหลือแต่กอข้าวที่โดนคมเคียวตัดไป หอมกลิ่นฟางแห้ง ตอนเย็นพระอาทิตย์ดวงโตมาก สุกยิ่งกว่าไข่แดง
ค่อยๆ ลดตัวลงหลังพุ่มไม้ข้างหลัง
...สวย สวยจนต่อให้ไม่จำก็ไม่ลืม
นิดจ้ะ

---------------------------------------------------------------
From: Rayaree
Hi ดาริฯ
อ่านเรื่องแล้วรู้สึกว่าคนเขียนกำลังสดชื่นมีชีวิตชีวากว่าปรกตินะ มันสะท้อนออกมาจากจังหวะของตัวอักษร
อยากไปมั่งจัง :)

รายารีย์
---------------------------------------------------------------

From: ishiteru
เมคะ ไปปายเมื่อไหร่เนี่ย รูปที่ถ่ายมาสวยคะ เจ้านายปุ๊กเค้ามีรีสอร์ทชื่อวิมานคีรี แต่ราคาค่อนข้างสูง
ที่นี่แพงมั้ย รู้สึกเหมือนเคยได้ยินชื่อจากณนนท์ ใช่มั้ยเอย หนุกมั้ย

ปุ๊ก
---------------------------------------------------------------

From: heng heng
นี่ๆๆๆ ทีหลังบอกวิธีเดินทางไปด้วยเด่ะ ว่าไปอย่างไง ตั้งแต่ออกจาก กทม เลยนะ

เฮง
---------------------------------------------------------------


โดย: ดาริกามณี วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:12:32:57 น.
  
โดย: สายของพิณ วันที่: 18 ธันวาคม 2552 เวลา:14:22:26 น.
  
แวะมาขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ อิจฉาจังค่ะนายอยู่ใกล้ๆให้ไปกราบ ของฉายนายอยู่แห่งไหนในโลกก็ไม่รู้ คิดถึงจัง
โดย: nooneknows วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:1:06:22 น.
  
นอนนับดาวท่ามกลางธรรมชาติ
อะไรจะสุขเท่านี้ ว่าไหมคะ?
โดย: fonrin วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:1:36:24 น.
  
สุดยอดดดด
สวยจริงๆครับ
อยากไปๆๆๆ
โดย: พระจันทร์ของคุณ (Great_opal ) วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:4:41:12 น.
  
เม...คิดถึง คิดถึง ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: ishieru IP: 119.31.74.74 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:7:16:36 น.
  
ตามกลับมาเที่ยวบ้านค่ะ...เลยได้ไปปายด้วย...
น่านและอมก๋อยก็เป็นเมืองสวยสงบนะคะ... น่าไปไม่แพ้ปาย ... แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวนะคะจะเงียบๆ หน่อย มีแต่ชาวบ้านๆ...
..สุขสันต์เวลาสบายๆ บ่ายวันอาทิตย์ค่ะ... :)



โดย: Devonshire (ทำงานอยู่ค่ะเลยไม่ได้ล็อกอิน) IP: 58.8.243.212 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:15:14:11 น.
  
รอวันที่จะได้นอนนับดาวด้วยกันนะครับ
.
.
.
.
แต่...น่ากลัวเราคงได้ทะเลาะกันมากกว่าจะได้นับดาว 555
.
.
.
.
สุดสัปดาห์นี้จะไปเมืองเงิน แขวงไซยะบุรี สปป.ลาว ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะครับ
โดย: นายฝิ่น IP: 124.157.184.60 วันที่: 20 ธันวาคม 2552 เวลา:21:30:36 น.
  
บรรยากาศดีนะครับ
โดย: คนขับช้า วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:6:20:50 น.
  
ความคืบหน้าโครงการหนังสือทำมือ "ในท่วงทำนองเดียวกัน" (รายงานผู้สั่งซื้อและโอนเงินค่าหนังสือตั้งแต่วันที่ 11-23 ธันวาคม 2552)
อ่านรายละเอียดได้ทื่ //www.pantip.com/cafe/library/topic/K8635898/K8635898.html
และhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=breath

ต้องการแก้ไขข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อที่ wijdy_poo@hotmail.com

หากข้อความนี้เป็นการรบกวน ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:8:49:16 น.
  

ขอบคุณที่แวะไปทักทายกันค่ะ
โดย: แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า วันที่: 24 ธันวาคม 2552 เวลา:10:19:49 น.
  

สุขสันต์วันคริสมาส ขอให้มีความสุขนะค่ะ


โดย: brackleyvee วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:3:48:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ