เคมีของเรามันเข้ากัน
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 มกราคม 2550
 
 
เมื่อเด็กหญิงกุ่งกุ๊งโดน Blog tag .......



Blog tag คืออะไร???

อันนี้เนื่องจากกุ้งก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่อย่างใด
เลยขอก๊อปคนที่ tag กุ้งมาทั้งดุ้นเลยละกันนะคะ

"Blog Tag คือการที่ จขบ.ที่ได้รับ Tag จะต้องเล่าเรื่องของตัวเอง (ที่มีน้อยคนที่จะรุ้?) มา 5 ข้อ แล้วส่งต่อให้เพื่อนอีก 5 คน มันคือ บล็อกลูกโซ่ หรือการแปะโป้งกันดีๆ นี่เอง ผู้เริ่มคนแรกคือ Jeff Pulver เขาเรียกมันว่า Blog-Tag: A Game for a Virtual Cocktail Party ตอนนี้มันขยายวงมาให้บล็อกเกอร์เมืองไทยได้ร่วมค็อกเทลปาร์ตี้เสมือนจริงนี่กันแล้ว"

ซึ่งคนที่ tag กุ้งมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนค่ะ
เป็นพี่ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เจ้าของ Blog Awards 2 รางวัลของปีนี้ค่ะ
และเป็นผู้เขียน "หนังสือรัก" อันโด่งดัง
(มีขายตามร้านหนังสือทั่วไปแล้วนะคะ ไปหาซื้ออ่านได้
เน้นว่าซื้ออ่านนะคะ ห้ามไปยืนอ่านฟรีด้วยล่ะ)
และแน่นอน เป็นบล้อคที่กุ้งเข้าไปอ่านและคอมเมนท์อันยาวเหยียดเป็นประจำ
(อ่าน tag ของพี่เค้าได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2007&date=15&group=5&blog=1 เลยนะคะ)

ได้รับเกียรติมาซะขนาดนี้
คนที่ประกาศปิดบล้อคไปแล้วอย่างกุ้ง
ก็เลยต้องมานั่งอัพบล้อคของตัวเองนี่ล่ะค่ะ
ก็ขอบคุณพี่ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ” มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เพราะถ้าพี่ไม่ tag กุ้งมา ก็คงไม่มีใคร tag กุ้งร้อก

(แล้วก็ขอบคุณคุณสาวไกด์ด้วยค่ะ สำหรับการเริ่มต้นส่งมอบภารกิจนี้มาให้)


ก็เริ่มเลยละกันนะคะ

เรื่องที่ 1 – กุ้งกับความซุ่ม(ซ่าม)

กุ้งเป็นคนซุ่มซ่ามค่ะ
ประเภทเดินสะดุดโน่น ชนนี่ นี่แหล่ะกุ้งเลย
หรือประเภทหกล้มนี่ก็กุ้งอีกน่ะแหล่ะ
เพื่อนสนิทมากที่สุดของกุ้งคนนึงที่เป็นผู้ชายเคยบอกกุ้งว่าตอนเจอกุ้งครั้งแรกๆ
มันคิดว่ากุ้งเนี่ยดูดี ดูเป็นคุณหนูมากเลย
แต่พอมาสนิทกัน และได้เห็นอากัปกิริยากุ้ง
เลยรู้ว่าที่จริงโก๊ะมากกก..
เด๋วก็เดินชนโต๊ะ หรือถ้าพื้นต่างระดับหน่อย กุ้งก็จะสะดุดอีกล่ะ
หรือบางทีเดินไปเมาธ์ไป ก็เดินไปชนกำแพงเฉยเลย
จนมันบอกกุ้งว่า “กุ้งเนี่ยจะดูดีที่สุดตอนนั่งเฉยๆ”
(เวงกำ)

ซึ่งมันเป็นความจริงค่ะ ไอ้เรื่องซุ่มซ่ามแบบไม่เข้าใครออกใครเนี่ย
ประจักษ์พยานได้จากทุกคนในบ้านและบรรดาคนรอบข้างกุ้งรวมทั้ง(อดีต)แฟนกุ้งด้วย
เค้าบอกว่าไม่เคยเจอใครซุ่มซ่ามเท่ากุ้งเลย

อย่างล่าสุดเลยที่ทำให้กุ้งมีแผลเป็นมาจนถึงทุกวันนี้คือ …
เมื่อราวปีครึ่งที่แล้ว
ช่วงนั้นเป็นวันหยุดช่วงปิยมหาราช
กุ้งกับน้องสาวและเพื่อนๆน้องสาววางแผนจะไปพัทยากัน
คืนนั้น ในขณะที่กุ้งกำลังจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมเดินทางในพรุ่งนี้เช้าอยู่
กุ้งก็ปีนเก้าอี้ของโต๊ะเขียนหนังสือเพื่อไปหาของบนเตียง 2 ชั้นของกุ้ง
แล้วกุ้งก็หกล้มค่ะ
เพราะเบาะรองนั่งหลายๆใบที่กุ้งเอาไว้รองก้นให้นุ่มๆ เวลานั่ง มันลื่นจะหล่น
กุ้งก็เลยลื่นตาม และตกลงมา
ผลคือ หน้าแข้งข้างซ้ายกุ้งกระแทกกับสันของเก้าอี้ตัวนี้อย่างแรง
แล้วเก้าอี้อันนี้เป็นเก้าอี้ไม้สักขัดเงาอย่างหนาน่ะค่ะ
กุ้งหล่นลงมานอนกับพื้น เจ็บมากๆๆๆๆๆๆๆจนน้ำตาไหล
หันไปมองแผล เห็นเลือดสาดก็ทำอะไรไม่ถูก
ลุกก็ไม่ไหวเพราะเจ็บ ได้แต่นั่งกุมแผลร้องไห้อยู่ตรงนั้น
จนน้องสาวกับคนที่บ้านต้องมาดู
หลังจากเช็ดเลือดอะไรเสร็จถึงได้พบว่าเนื้อกุ้งตรงแข้งนั้นหลุดหายไปเลย
จนกุ้งเห็นเนื้อขาวๆ (หรือกระดูกก็ไม่รู้ เพราะไม่กล้ามองเต็มๆอะค่ะ)
พอเห็นอย่างนี้กุ้งก็ยิ่งร้องไห้ค่ะ

ท้ายสุดก็คือวันรุ่งขึ้นไม่ได้ไปทะเล (ใครไปก็บ้าแล้ว เพราะเจ็บจนเดินยังไม่ไหวเลย)
แล้วพอไปหาหมอ ก็โดนหมอดุด้วยค่ะ
หมอบอกว่าเราไปปีนหาของอะไรตอนดึกๆเนี่ย แล้วทำไมไม่ระวัง โตป่านนี้แล้ว
แล้วช่วงนั้นกุ้งก็ต้องไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวันค่ะ เป็นเวลาเดือนๆ
และให้งดการกระทำที่ต้องเคลื่อนไหวขาหรือไม่ก็ให้เคลื่อนไหวน้อยที่สุด
เพื่อให้ร่างการมันสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาได้เร็วๆ จนกว่าเนื้อจะขึ้นเต็ม
จนบัดนี้เนื้อก็ขึ้นเต็มแล้วค่ะ
แต่ทิ้งแผลเป็นดำๆ ไม่เรียบไว้กลางหน้าแข้งเลยค่ะ
ทำเอาหมดสวยไปเยอะ
เวลาจะใส่กระโปรงหรือขาสั้นอะไรก็เลยไม่มั่นใจและไม่อยากใส่เลยค่ะ
ทั้งๆที่เป็นคนชอบแต่งตัวมาก


เรื่องที่ 2 – กุ้งกับแอลกอฮอล์

เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่กุ้งยังเป็นเด็ก อายุไม่กี่ขวบค่ะ
หม่าม้าเล่าว่ากุ้งเป็นเด็กที่สุขภาพไม่ดีตั้งแต่เกิด ก็เลยต้องไปหมอบ่อย
ทีนี้มีครั้งนึง กุ้งไม่สบายแล้วหมอก็ให้ยาแก้ไอแบบน้ำมาให้
พอกุ้งกินยาตัวนี้ไปซักพัก
หม่าม้าบอกว่ากุ้งก็หน้าแดงและหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอยู่คนเดียว
ตอนนั้นกุ้งนั่งเล่นอยู่บนชิงช้าที่บ้าน กุ้งก็ลุกขึ้นมายืนบนชิงช้าแล้วก็ล้ม
แล้วก็ลุกขึ้นมายืนใหม่แล้วก็หัวเราะ
หม่าม้าเลยพากลับไปหาหมอ
ผลคือ กุ้งแพ้แอลกอฮอล์ค่ะ ทั้งๆที่ยาตัวนั้นมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่น้อยมาก
เพราะเป็นยาของเด็ก แค่ผสมเป็นตัวทำละลายเท่านั้น

กุ้งเลยเป็นคนจะไม่ทานแอลกอฮอล์ค่ะ
แต่มีบ้างตอนโตที่เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วมีแอบดื่มบ้าง
เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไรหรอก แค่ดื่มนิดเดียวเอง
อย่างงานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทเมื่อราว 4 ปีที่ผ่านมา
กุ้งจำได้ว่ากุ้งกินกามิกาเซ่ (มันเรียกงี้ใช่มั้ย ไอ้น้ำสีฟ้าๆสวยๆอะค่ะ) ไป 1-2 แก้วเล็ก
ผลคือเริ่มหน้าแดงตั้งแต่งานยังไม่เลิก และก็เริ่มมึนหัว ตัวร้อนและคุยไม่รู้เรื่องจนต้องขอกลับบ้านก่อนอะค่ะ
และพอตื่นมาตอนเช้า ก็มีผื่นขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆทั่วตัวเลย
เลยเข็ดแล้ว ไม่ดื่มแล้วค่ะ
ถ้าอยากชิม ก็จะจิบแค่ 1 คำพอรู้รส

ใครรู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่ามอมเหล้ากุ้งนะคะ


เรื่องที่ 3 – กุ้งกับภาพยนตร์

กุ้งชอบดูหนังค่ะ
จำได้ว่าตั้งแต่เด็กๆ หม่าม้าจะจูงมือกุ้งกะน้องสาวไปดูหนังที่โรงหนังไม่ไกลบ้านอยู่บ่อยๆ
เป็นหนังไทยประเภทแผลเก่า เพื่อนแพง หรือนั่งไทยควบหนังฮ่องกงบ้าง
แถมป่าป๊ายังซื้อ The Sound of Music เวอร์ชั่น soundtrack แบบ no subtitle มาให้ลูกดูตั้งแต่ยังตัวกะเปี๊ยก
ดูก็ไม่รู้เรื่อง ต้องมีหม่าม้าคอยเล่าประกอบให้ฟัง
กุ้งเลยรู้จักหนังยุคป๊าๆ ซะเยอะตั้งแต่เด็กๆ
รู้จัก Ben-her / Casablanca / The Exorcist
(ที่หม่าม้าบอกว่าเป็นหนังผีที่น่ากลัวมากในยุคนั้น แต่กุ้งดูแล้วกลับไม่ค่อยกลัวแฮะ)
แล้วก็ทำให้ชอบดูหนังมาเรื่อยๆ
และขยายวงไปยังหนังนอกกระแสทั้งหลาย

เรื่องแรกๆของหนังนอกกระแสที่ได้ดูในโรงคือ “Breaking the Waves” ค่ะ
ที่แสดงโดยเอมิลี่ วัตสัน (ซี่งทำให้เป็นดาราหนึ่งในดวงใจกุ้งมาจนถึงทุกวันนี้)
ไปดูที่เวิร์ลดเทรดสมัยที่ยังไม่เป็น Central world
และโรงหนังที่ดู ปัจจุบันก็ไม่อยู่แล้ว (ก็มัน 10 ปีผ่านมาแล้วอะค่ะ)
ทั้งที่ดูรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่กุ้งก็ยังพากเพียรในการดู
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการไปดูหนังคนเดียวของกุ้งค่ะ
เพราะไม่มีใครยอมไปดูกับเราด้วย เค้าไม่รู้จักหนังที่เราจะดูกัน



เรื่องที่ 4 – กุ้งกับการบ้าดารา

ย้อนหลังกลับไปสมัยกุ้งยังวัยรุ่น (กว่านี้)
กุ้งเคยบ้านักร้องคนนึงมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ค่ะ
เรียกว่าเป็นแฟนคลับเลย พี่แกไปไหน กุ้งแอนด์เดอะแก๊งค์จะตามไปทุกที
และลงหนังสืออะไรก็จะต้องซื้อและถ้ามีข่าวก็จะตัดเก็บไว้ทำเป็นสมุดภาพข่าวเลย
เรียกว่าทำทุกอย่างที่แฟนคลับเค้าทำกันน่ะค่ะ
และตอนยุคกุ้งนั้น นักร้องคนนี้เค้าดังมาก เรียกว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก
และเพลงเค้าที่ดังๆก็ยังได้ยินอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

ตอนนี้ นักร้องคนที่กุ้งบ้านั้นอาจจะห่างหายจากการออกเทปไปซักพักแล้ว
แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการบันเทิงค่ะ
ซึ่งกุ้งก็ยังชอบเค้าอยู่นะคะ แต่ไม่ได้สนใจอะไรเค้าแล้ว
ละครที่เค้าเล่นก็ไม่ได้ดู หนังสือก็ไม่ซื้อ วิทยุก็ไม่ฟัง
แต่ก็ชอบ และเก็บไว้ในความทรงจำที่ไม่รู้ว่าแต่ก่อนเคยทำไปได้ยังไงมากมายขนาดนั้น


เรื่องสุดท้าย – กุ้งกับกิจการของตัวเอง

4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เรียนจบโทมาแบบหมาดๆ
กุ้งมีโอกาสได้เริ่มต้นทำธุรกิจธุรกิจนึงกับแฟน (ที่ตอนนี้กลายเป็นอดีตแฟนค่ะ)
จากการเริ่มขายกล้องดิจิตอลทางเนทเล็กๆ
ก็ขยายไปเป็นเปิดหน้าร้าน และปัจจุบันก็มีสาขาสิบกว่าสาขาทั่วประเทศแล้ว
และยังมีธุรกิจอื่นๆ แตกหน่อขึ้นมาอีกมากมาย
ที่ใครบางคนในนี้อาจพอได้ผ่านตาหรือบางคนอาจได้ซื้อหามาบ้างด้วยซ้ำ

ทั้งๆ ที่จริงๆแล้ว ตอนเริ่มทำเรา 2 คนไม่ได้คิดเลยว่ามันจะออกมาใหญ่ขนาดนี้
เพราะเราก็แค่เด็กวัยรุ่น 2 คนที่งบประมาณก็มีไม่ได้เยอะ
และแค่ทำหนุกๆตามประสาคนเพิ่งจบไฟแรงเท่านั้นเอง

แต่ทุกวันนี้ ไม่ค่อยมีใครรู้หรอกค่ะว่ากุ้งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้านนี้
เพราะกุ้งเลิกกับแฟนมา 3 ปีแล้วและก็ถอนหุ้นออกมาและหายไปจากแวดวงนั้นเลย
และก็มีคนเข้าไปหุ้นใหม่แทนกุ้งด้วย

บางครั้งพออ่านนิตยสาร แล้วเจอสัมภาษณ์เค้า 2 คนนั้นในฐานะนักธุรกิจอายุน้อยที่ประสบความสำเร็จ
กุ้งก็ยังอดถอนหายใจไม่ได้ เมื่อเจอพูดถึงว่าเค้าเป็นผู้ก่อตั้งกัน
((แล้วชั้นไปอยู่ที่ไหนฟะ))
จนครั้งแรกที่กุ้งอ่านเจอ กุ้งโทรไปถามอดีตแฟนกุ้งเลยด้วยซ้ำ
แต่ก็ต้องเข้าใจและทำใจให้ได้ค่ะ
และก็ได้แต่เก็บความภูมิใจแบบเงียบๆ เศร้าๆ คนเดียว

แต่หลังจากวันนั้นผ่านมาถึงวันนี้ หลังจากที่กุ้งไปทำโน่นทำนี่มาพักใหญ่
ตอนนี้ กุ้งกลับเข้ามารับทำในธุรกิจนั้นอีกครั้งนึงแล้ว
อาจด้วยจังหวะ อาจด้วยโอกาส หรืออาจด้วยความสามารถที่เค้าพอมองเห็นในตัวกุ้งบ้าง
กุ้งก็จะทำให้ดีที่สุดค่ะ
ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ก่อตั้งหรือเจ้าของก็ตาม


จบเรื่องราว 5 เรื่องของกุ้งแล้ว
(เรื่องสุดท้าย อาจแอ๊บซีเรียสเล็กน้อย)
คราวนี้ก็ถึงเวลาส่งต่อทายาทอสูรแล้วสินะคะ
เนื่องจากเพื่อนร่วมบล้อคที่กุ้งอ่านประจำก็โดน tag กันทั่วหน้าแล้ว
กุ้งก็เลยต้องกระจายไปยังเพื่อนร่วมกระทู้ที่เคยทักทายและหลังไมค์คุยกันอยู่บ้าง
(ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)

และผู้โชคดี (หรือผู้โชคร้ายเนี่ย) ก็คือ .....
แต่น – แตน – แต๊น

1. คุณ “โสดในซอย”
ที่พบหน้าค่าตากันบ้างในบล้อคพี่ “ผมอยู่ข้างหลังคุณ”
แถมยังน่ารัก เข้ามาแฮปปี้นิวเยียร์ในบล้อคกุ้งให้ด้วยอีก
ขอบคุณมากๆนะคะ

2. พี่ “มาเฟียเซี่ยงไฮ้”
เป็นพี่ที่น่ารักของกุ้งตอนกุ้งอยู่เซี่ยงไฮ้ค่ะ
ก็ส่งต่อภารกิจนี้ให้พี่เลยนะคะ

3. คุณ “ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล”
รู้จักกันผ่านกระทู้ท่องเที่ยวใน BP
และก็เมล์คุยกันอยู่พักนึง
กุ้งขอเรียนเชิญด้วยหัวใจค่ะ

4. คุณ “sueko”
หนึ่งในเพื่อน BP เหมือนกันค่ะ
เป็นเพื่อนผู้รีวิวเซี่ยงไฮ้ได้ละเอียดซะจนคนที่เคยอยู่อย่างกุ้งแอบอาย

5. ยังนึกไม่ออกค่ะ
เพราะไม่ค่อยรู้จักใคร
มีใครอยากเสนอตัวมั้ยคะ



ไปล่ะค่ะ เด๋วต้องรีบหลังไมค์ไปเทียบเชิญ
เพราะหลายๆ คนข้างบน กุ้งเข้าไปดูในบล้อคแล้ว พบว่าไม่ค่อยได้อัพบล้อคกัน
กลัวว่าไปแปะไว้จะไม่เห็น




หมายเหตุ : เนื่องจากได้เข้าไปอ่าน blog คุณโสดในซอยแล้ว พบว่ามีคน tag ไปแล้วเรียบร้อย เลยมาแจ้งเพิ่มเติมตรงนี้ค่ะ


Create Date : 15 มกราคม 2550
Last Update : 15 มกราคม 2550 22:48:58 น. 11 comments
Counter : 390 Pageviews.

 
เข้ามาเจิม tag ตัวเองค่ะ


โดย: ลิปดา-พิลิปดา (ลิปดา-พิลิปดา ) วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:21:05:37 น.  

 
เรื่องสุดท้ายซีเรียสมั่กๆครับ
อยากรู้จังว่าธุรกิจชื่ออะไร.. เพราะอ่านแล้วเห็นว่าประสบความสำเร็จมากๆ (เผื่อว่าจะเคยเป็นลูกค้าน่ะครับ)

ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์นี่น่าอิจฉาแหะ...
แพ้ไปเลยจะได้ไม่ต้องกิน
ไม่เหมือนผม ไม่แพ้... แต่คออ่อน แล้วก็ยังอยากกินตลอด 5555
(2-3 แก้วก็เริ่มพูดไม่รู้เรื่องแล้วค้าบ)


โดย: nanoguy IP: 203.113.34.9 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:8:38:48 น.  

 
ที่จริงก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากหรอกค่ะ
แต่ในฐานะวัยรุ่นตัวเล็กๆคนนึงที่เริ่มทำธุรกิจในสังคมที่แข่งขันกันขนาดนี้
ได้เท่าที่เป็นก็ถือว่าพอใจแล้วค่ะ

ป.ล. อยากบอกเหมือนกันค่ะว่าทำอะไร
เพียงแต่ ไม่อยากให้ใครมองว่าเป็นการโฆษณาอะสิคะ



โดย: ลิปดา-พิลิปดา วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:12:36:56 น.  

 
เดี๋ยวแก้ให้นะคะ แหะๆ

แล้วก็ขออนุญาตทำลิงค์มาด้วย


เอ่อ..ดูเบรคกิ้งเดอะเวฟคนเดียว กล้าหาญมากค่ะ

ออกมาไม่มึนอึ้งตึ้บเหรอคะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:14:57:40 น.  

 
ตามเข้ามาอ่านจ้า ... เรื่องซุ่มซ่ามนี่ พี่ก็เป็นเหมือนกันเลยแฮะ (ตอนแรกว่าจะเอาไปเขียนตอบ tag เหมือนกัน แต่เด๋วโดนหาว่าเลียนแบบ เลยเปลี่ยนหัวข้อดีกั่ว) ... ถึงขนาดที่ตอนวัยสะรุ่น เดินคุยๆ อยู่กับเพื่อนดีๆ แล้วไม่ได้มองทางข้างหน้า จนชนเสาไฟฟ้ามาแล้ว!!! (มันเจือกโผล่ออกมากลางทางตรงนั้นได้ไงไม่รู้ แง้ๆ) ... แล้วก็เคยกลิ้งโคโล่ ตกบันได BTS สถานีสะพานตากสิน เพราะสะดุดขากางเกงตัวเอง (ดีที่ตอนนั้นคนไม่เยอะนะ) ... เวลาไปทานข้าวในร้าน ถ้าได้ยินเสียงถ้วย ชาม ฝาหม้อ ฯลฯ ตก หล่น ละก็ ... ฝีมือพี่แน่นอน เหอๆๆ ... ส่วนเรื่องแฟนคลับ เหอๆ ไม่น่าเชื่อเนอะคับ มันคงเป็นไปตามวัยละมั้ง อยากรู้จังเลยว่าตาคนนั้นเป็นใครกัน ... ส่วนเรื่องสุดท้ายนั่น เอาเหอะครับ ถึงแม้เค้าจะไม่ให้เครดิตเรา แต่ความจริงคืออะไร คนๆ นั้นก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจ แค่เราปล่อยวาง แล้วแผ่เมตตาให้เค้าก็พอครับ


โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:15:18:36 น.  

 
บล็อกนี้สีหว๊าน หวาน ... สมกับเป็นบล็อกนู๋กุ้งเลยฮับเนี่ย


โดย: ปล. ลืมคอมเม้นต์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 16 มกราคม 2550 เวลา:15:25:43 น.  

 
blog tag คืออาไร ทำไมเราเชย แหะๆ เพิ่งมารู้จักที่นี่แหละ

อื้มมม.... เรื่องที่ไม่มีไครู้ แหะๆๆ เรื่องไรหว่า ติ๊กต่อกๆ

จะพยายามเขียนให้นะค๊าคุณกุ้ง ขอติดไว้ก่อนหลังทริปเชียงใหม่กะเกาะหมากค่า ขอไปเตรียมเที่ยวก่อน แหะๆๆ รอหน่อยนะค๊า

ป.ล. ไม่รู้จะ tag ใครต่อเหมือนกัน ไม่รู้จักใครเลย แหะๆ


โดย: ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล IP: 58.9.160.112 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:23:13:56 น.  

 
เราไม่แพ้ อิ อิ
กินทีรัยมาวววววววววววววว
แต่.....ไม่ถอยยยยยยย ครายยยยยยยจะมามอมเรายาก


โดย: ความเจ็บปวด (rada.bloggang) (ความเจ็บปวด ) วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:18:18:47 น.  

 
ตอนเด็กๆเราก็ซุ่มซ่ามมากเหมือนกันค่ะ มีอุบัติเหตุสารพัด จนมีแผลเป็นถึงปัจจุบันหลายที่เหมือนกัน แต่โตขึ้นแล้วเหมือนหายไปเองแฮะ (หรือยังหลบซ่อนอยู่หว่า)

หาคนไปดูหนังด้วยยากเหมือนกันค่ะ ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ดูหนังแนว หรืออาร์ตอะไรมากนะ แค่ชอบหนังเนื้อหาหนักๆ เครียดๆเท่านั้นเอง เลยต้องหัดไปดูคนเดียว แล้วก็พบว่ามันสนุกและได้อารมณ์ไปอีกแบบดีค่ะ


โดย: azzurrini วันที่: 22 มกราคม 2550 เวลา:22:43:59 น.  

 


Myspace Layouts

สวัสดีค่ะ

มาเยี่ยมเยียน ค่ะ ได้เวลา

เดินชมบ้านเพื่อน แล้วค่ะ

(@^_^@)

จุ๊ฟๆๆๆ

Myspace BackgroundsMyspace LayoutsMyspace Codes, Myspace GraphicsMyspace LayoutsMyspace BackgroundsMyspace CodesMyspace BackgroundsMyspace LayoutsGlitter GraphicsMyspace Text Generator, Myspace Graphics




โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 25 มกราคม 2550 เวลา:1:55:54 น.  

 
ดีอ่ะนะฮะ


โดย: Not IP: 61.7.183.103 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:12:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

ลิปดา-พิลิปดา
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ลิปดา-พิลิปดา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com