Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
14 เมษายน 2554
 
All Blogs
 

สะปอยพอให้หายคิดถึง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาคยุทธนาวี

ชื่อว่า “ตำนาน” ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่านานจริงๆ ถ้าเป็นส้มตำคงแหลกไปแล้วทั้งครก ตั้งแต่หนังพระนเรศวร ภาคแรกแลภาคสองออกฉายเมื่อปีกุน นพศก จุลศักราช ๑๓๖๙ จนบัดนี้ลุไปสี่ซ้าห้าปี ถึงได้ถึงได้มีภาคสามออกมา นี้ได้ข่าวว่า ภาคสี่จะออกมาเร็วๆนี้ ก็ไม่รู้ว่าเร็วๆของท่านผู้กำกับนั้นจะอีกห้าปีหรือไม่ ทางที่ดีควรจะออกก่อนปีคริสตศักราช ๒๐๑๒ ด้วยโหราท่านว่าโลกจะถึงกาลวินาศแล้ว ตอนนั้นก็คงตัวใครตัวมัน

ว่าพลางก็รัดเครื่องตามประเพณี ไปดูเสียให้สมกับที่รอมาจนลืมแล้วว่าภาคหนึ่งกะภาคสองนั้น เป็นอย่างไร หนังเปิดฉากด้วยยี่ห้อสินค้าประดามี ที่ออกมาสนับสนุนหนังไทยกันอย่างพร้อมหน้า ข้าพเจ้าไม่ทันสังเกตว่ามีแหนมป้าย่นด้วยหรือไม่ ด้วยมีจำนวนมากเหลือเกิน ต้องขอขอบพระคุณเถ้าแก่ นายห้างใจดีปากหวานทุกท่านที่สนับสนุนหนังไทยมา ณ ที่นี้ ครั้นแล้วก็มีเสียงแลภาพขาวดำบรรยายความแต่หนหลังทั้งสองตอนที่ผ่านมา ด้วยลางคนก็ยังไม่ได้ดู หรือลางคนดูแล้ว ลืมแล้วก็มีดังข้าพเจ้าเป็นอาทิ พอได้ระลึกชาติ

หนังภาคสามนี้จับความต่อจากภาคสอง ว่าครั้นพระนเรศวรเทครัวไทยมาแต่เมืองพม่า ก็พากันมาถึงชานกรุงศรี ซึ่งเป็นทุ่งข้าวเขียวขจี เดินลัดเลาะตามคันนากันมาเป็นระเบียบ ก็ให้นึกนิยมในใจว่า ท่านผู้กำกับช่างเลือกโลเคเชิ่นได้งามนัก แล้วพระองค์ดำก็ตรัสแก่เจ้าขรัวมณีจันทร์ ทักษอร ว่า นี้แลคือบ้านใหม่ของเจ้า พลางบุ้ยไปที่กำแพงเมือง แลปราสาทราชมณเฑียร ซึ่งไม่ผิดอะไรกับในละครจักรๆวงศ์ๆเรื่องดาบเจ็ดสี มณีเจ็ดแสง ที่ฉายกันยามเช้า ชะรอยจะได้รับอิทธิพลจากสกุลช่างสามเศียรโปรดักชั่นเป็นแน่แท้ ควรที่จะมียักษ์ขิณีแลน้าผีกะโหลกด้วยจะได้ครบองค์สาม ความหวังว่าจะเห็นกรุงศรีในมุมสูงแบบหนังจีนของจางอี้โหว เป็นอันจบกัน

ในกำแพงพระนครนั้นก็สมแล้วที่จะให้พวกหงสาเขาคุมเหงได้ ก็รกเอาเสียขนาดนั้น ถนนหนทางนั้นหรือก็ประกอบด้วยฝุ่นผงคลี มีขี้เลนขี้ตมเต็มไปหมด ไม่ทันสังเกตดูว่ามีคนขากเสลดด้วยหรือไม่ แต่เอาเถอะดูกรุงเทพทวาราวดีทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกระไรนัก หนำซ้ำจะมากเสียกว่า ข้างผู้คนเดินกันขวักไขว่แต่งกายออกภาษามี กะเหรี่ยง ขอมเขมร เจ๊กจีน ไทยลาว สมกับที่กรุงศรีเคยเป็นเมืองท่านานาชาติมาแต่ครั้งขะโน้น แต่ไม่รู้เดินอะไรกันนักหนา ดูอย่างตอนพระองค์ดำเสด็จไปวัดของขรัวตาสรพงษ์สิ เจ้านายเสด็จออกปานนั้น ก็ยังเดินกันเทิ่งๆ พวกจุกช่องล้อมวงองครักษ์ไม่รู้จักบอกล่าว ยิ่งตอนถวายเพล ตอนถวายผ้าไตร ก็พากันเดินแบกข้องแบกแหไม่รู้แล้ว ไม่ยักกะมาอนุโมทนาบุญร่วมกัน

ความที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำกันนานเสียเหลือเกิน นานไม่นานก็คิดเอาเถิดว่าเจ้าเด็กบุญทิ้ง โกโรโกโส ตั้งแต่ภาคแรกนั้นก็โตเป็นหนุ่มน้อยขวัญใจหญิงสูงอายุแถวนั้นไปแล้ว ดูอย่างเรื่องซักซี้ด นั่นปะไร ตั้งแต่เด็กตัวกะเปี้ยกยังโตได้ถึงปานนี้นี้ จะมิให้เราๆท่านๆแก่ได้อย่างไร ดูอย่างข้าพเจ้าเองสิ เมื่อก่อนเคยเป็นเด็กหน้าแก่ ครั้นแก่แล้วก็ยังหน้าเด็กอยู่เช่นเดิม มิพักต้องพูดถึงนักแสดงที่พากันแก่เฮือกกันถ้วนหน้า ไล่มาตั้งแต่พระองค์ดำ ซึ่งแก่มาตั้งแต่ภาคโน้นแล้ว มีพระขนงคิ้วที่ขมวดอยู่ตลอดเพลาเป็นสัญลักษณ์ เช่นเดียวกับพระนางเกรซซึ่งแก่อยู่ตัวมาตั้งแต่ภาคที่แล้ว พระองค์ขาวก็ใช่ย่อย ดูจะบวมกว่าใครเพื่อน ด้วยว่าคงโปรดเสวยพระสุธารสเบียร์เป็นแน่ คุณพระปีเตอร์ ที่หลายคนแจ้งแก่ข้าพเจ้าว่าแลดูเหมือน ฌอนนี่เด๊บ โจรสลัดมีชื่อนั่น ก็แก่เป็นตาลุงผมกระเซิงไม่รู้แล้ว ข้างฝ่ายราชินีนักบู๊ เจ้านางเลอขิ่นอินทิรา นี้ก็มิใช่ย่อย ลุมาศกนี้ก็มีขอบตาดำคล้ำหย่อนคล้อย นมต้มที่ไม่มีอยู่แล้วยิ่งไม่มีไปใหญ่ สู้นักแสดงชายลางคนก็มิได้ นมใหญ่กว่าเห็นๆ จะมีก็แต่พระเจ้าฉัตรชัยนี้แล ที่ยังหน้าตึงเปรียะ ควรยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งการบำรุงรักษาผิวหน้าแลอัญเชิญมาเป็นตรายี่ห้อครีมทาหน้าแข่งกับวุฒิศักดิ์เสียให้รู้แล้ว

ภาคนี้ท่านว่า ยุทธนาวี ด้วยหยิบเอาความในพงศาวดาร เรื่องวีรกรรมของสมเด็จพระนเรศวร ทรงบัญชากองทัพเรือไล่จับจีนจันตุ อุปนิขิต แปลเป็นภาษาวิลาสบริเตรนแลไอรยิแลนด์ใหญ่ว่า สปาย ก็ให้หวังว่าจะได้แลเห็นวิถีชาวน้ำกรุงศรี ที่จดหมายเหตุฝรั่งว่า เป็นเมืองเวนิชตะวันออก ด้วยมีคูน้ำลำคลองเชื่อมโยงกัน ผู้คนสัญจรไปมาหาสู่กันด้วยเรือเป็นพื้น เอาเข้าจริงพอมาดูในหนัง เห็นแต่คนเดินกันเทิ่งๆ ส่วนฉากที่ว่าเป็นแม่น้ำลำคลองทั้งปวงนั้น ลางฉากก็ดีอยู่ แต่ลางฉากก็เหมือนไปถ่ายตามบ่อเลี้ยงปลาทับทิม ปลาสวาย ดูใหม่แจ๋เหมือนเพิ่งขุดเมื่อวันสองวัน อย่าว่าแต่เรือกำปั่น สำเภาเลย เรือเอี้ยมจุ้นเองยังลอยไม่ได้ ท่านผู้มีปัญญาลองดูเอาเถิดตอนที่ทัพเรือพระยาจักรีไปซุ่มโจมตีทัพญาพะสิม ดูแล้วเหมือนเอาเรือไปตั้งไว้ริมทุ่งน้ำนอง ยิ่งเห็นพวกทหารพายเรือเร็ว จ้วงกันบึ้ดจ้ำบึ้ด แต่เรือไม่ยังกะเคลื่อนนี้ก็ให้ขัดตายิ่งนัก มิพักต้องพูดถึงเรือสำเภาจีนจันตุนั่น ฟังว่าใช้อัฐฬสอยู่โข จำลองเท่าของจริง แต่คงไม่เหมือนจริง ด้วยลายจีนนั้นเหมือนตัดสติกเกอร์มาแปะไว้ไม่ผิด แลเวลาขับเคลื่อนใช้ใบนั้นก็ดูทื่อมะลื่อเสียเหลือเกิน นั้นไม่เท่าไร มาเห็นตอนปืนใหญ่มาตกใส่เรือพระที่นั่งองค์ขาวจนแตกไม่แยบคายนั้นดูเป็นเทคนิคพิเศษสกุลช่างสามเศียรโปรดักชั่นเสียกะไร

เดี๋ยวจะหาว่าข้าพเจ้าบ่นบ้าไม่รู้แล้ว อันที่จริงหนังเรื่องนี้มีข้อดีเด่นหลายประการ มีบทรัก ขึ้นหึงส์ออกรส แลดูเป็นหนังมากกว่าสารคดีเหมือนแต่ก่อน ดูอย่างตอนตาค่อม ชวนชื่นแกออกมาสิ คนหัวกิ้วกันทั้งโรง ด้วยตะแกเจรจาภาษาไท้ย ไทย สำเนียงไท๊ย ไทย ยิ่งกว่าประดานักแสดงนำทั้งปวง ข้างฝ่ายอำแดงเมียนั้นก็ใช้ย่อย เจรจาต่อปากต่อคำเหมือนลำตัดหวังเต๊ะแม่ประยูรมีชื่อนั้นเทียว ชอบควรที่จะเสนอชื่อเข้าจริงดาราตุ๊กตุ่นตุ๊กตาทอง เมืองคาน เมืองจั่ว ก็ว่ากันไป ด้วยแกเล่นดีเป็นขนาด ยิ่งตอนไปเปิดเรือนเครื่องผูกเจอซากผีตายแล้วตาค่อมแกวิ่งเตลิดเปิดเปิง ล้มคว่ำคะมำหัวไปเจอกองซากผีเดียรดาษ นั้นด้วย ชวนให้คิดจินตนาการไปว่าถ้าบรรดาซากผีนี้ลุกขึ้นวิ่งไล่บีบคอ แบบหนังฝรั่งซอมบี้ ก็คงดีไม่น้อย ด้วยแสง สี โลเคเชิ่น ดาราสมทบอันได้แก่แร้งเป็นฝูงนั้น ก็ชวนให้คิดว่าดูหนังผีอยู่ฉะนี้

มิพักต้องพูดถึงบทกระเง้ากระงอดของคุณพระปีเตอร์กับเจ้านางเลอขิ่นอินทิรา ตอนจะเข้ากรุงศรี สมเศียรโปรดักชั่นด้วยกัน ก็คุยกันดีอยู่ พอเข้ามาเจอแฟนเก่าเสือฟ้า เหตระกูลเข้า ก็จู่ลงไปกอด คงหวังเอาคืนเมื่อภาคที่แล้ว ภาคนี้เลยเข้าทำนองรักสามเศร้า แฟนเราไปเจอแฟนเก่า พ่อแง่แสนงอนพอให้อยากดูภาคหน้าว่าจะคืนดีกันไม้ไหน ไหนจะอีกคู่หนึ่งที่เมืองพม่าหงสานั้นเล่า ก็พากันเล่นมวยปล้ำ แก้ผ้าล่ำสัน กอดกลมกันอยู่ ข้างฝ่ายไทยก็ไม่น้อย นี้ควรจารึกไว้ว่าเป็นตำนานรักแห่งสยามของจริง ก็คู่คุณพระสองคนนั้นเล่า ที่อื้อฉาวมาตั้งแต่เมืองคังเมาเท่น มาภาคนี้มีคุณพระชัยบุรี ก็ต้องมีคุณพระศรีถมอรัตน์ ไม่เคยห่าง ไปสืบราชการที่ค่ายพระเจ้าเชียงใหม่ ยังยื่นกล้วยให้กันน่าเอ็นดู นับว่าเรื่องนี้ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ ชอบควรที่ชมรม สมาคมต่างๆจะออกมามอบโล่ให้อย่างยิ่ง

โดยส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ อย่างยิ่ง ได้ชมเพียงรอบเดียวยังมิหนำ ต้องไปชมซ้ำสองแลซ้ำสาม ส่วนที่เขียนมาก็ด้วยอคติ คือรักชอบล้วนๆ ประสาคนรักกัน เห็นอะไรยังขาดตกบกพร่องนิดๆหน่อยๆก็อยากจะสะกิด เผื่อท่านจะเอาไปทำภาคหน้าให้ดีขึ้น เหมือนเห็นเพื่อนลืมรูดซิปกางเกง จะทำเฉยให้เพื่อนขายหน้าเปิ่นเทิ่นให้คนเขาหัวเราะได้กระไร ก็ต้องหาทางไปกระซิบบอกให้รูดขึ้นเร็วพลันฉะนี้




 

Create Date : 14 เมษายน 2554
3 comments
Last Update : 14 เมษายน 2554 1:44:52 น.
Counter : 1343 Pageviews.

 

ป่านฉะนี้ยังมิได้ชมซ้ากกะที..มัวแต่มองหาบทค่อนแคะ เอ๊ย บทวิจักษ์วิจัยของท่านไซอยู่นานสองนาน เพิ่งมาเจอ ณ ที่นี้ ให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งหัวเราะเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวพักใหญ่นะขอรับ

นึกถึงช่างสกุลสามเศียรแล้วฮาเป็นอันมั่ก เนื่องรู้จักหัวหน้าช่างอยู่พอทำเนา รู้สึกช่างสกุลนี้จะเป็นอมตะนิรันดร์รัตน์นะขอรับ ช่างแพร่อิทธิพลได้ทั่วถึงจิงจิ๊งง

 

โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) 23 เมษายน 2554 20:09:11 น.  

 

จะรอตอนหน้าด้วยค่ะ

 

โดย: jackfruit_k 6 พฤษภาคม 2554 14:37:38 น.  

 

แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี

 

โดย: koreaserie (loveyoupantip ) 6 สิงหาคม 2554 8:47:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


cybrarian
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add cybrarian's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.