2012 - Greet and Eat in Korea ;8-9
2012/03/31 พิพิธภัณฑ์พระเจ้าเซจง - คลองชองเกชอน - หมูย่างเกาหลีแถวบ้าน - Elisabeth Musical วันนี้ภารกิจหลักคือ ไปดูละคร Elisabeth รอบพี่อึนแตและน้องดองซอกตอนทุ่ม ตอนเช้าพอมีเวลาว่าง เพื่อนอยากไปเดินที่ชองเกชอนกับซื้อของที่ Donghwa dutyfree ดังนั้นแผนของวันนี้ช่วงเช้าก็เลยไปชมพิพิธภัณฑ์ที่อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงที่ประตูกวางฮวามุนตามคำแนะนำของน้องสาว เราก็เลยได้ชมการเปลี่ยนเวรยามราชองครักษ์กันอีกวัน ประตูกวางฮวามุนอีกมุมนึง ด้านข้างของอนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงคือโรงละครเซจง ที่น้องจุนแสดง Mozart! เมื่อปีก่อนนั่นเอง ทางเข้าอยู่ด้านหลังพระเจ้าเซจงนั่นเอง ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์มีส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับพระเจ้าเซจง อีกส่วนเกี่ยวกับท่านนายพล Yi Sunshinกว้างขวางและมีการจัดแสดงออกมาได้น่าสนใจค่ะ เดินเล่นเพลิน ๆ ได้สบายเลย พระเจ้าเซจง สมัยท่านน่าจะมีความเจริญก้าวหน้ามาก ดูจากผลงานต่าง ๆ ที่นำมาแสดง แต่ที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับเรา คงเป็นเรื่องการประดิษฐ์ตัวหนังสือเพื่อประชาชนเกาหลี สร้างรากฐานแห่งการเรียนรู้ เหมือนพ่อขุนรามคำแหงหรือจิ๋นซีฮ่องเต้ เดินดูนั่น โน่น นี่เพลิน ๆ อีกฝั่งเป็นส่วนจัดแสดงที่เกี่ยวกับท่านนายพล Yi Sunshin เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรบ โดยเฉพาะการรบทางทะเล ใช้เวลาในพิพิธภัณฑ์ไปพอสมควรเลย จากนั้นไป Donghwa เก็บเครื่องสำอางตามสั่งที่ยังซื้อไม่ครบ จากนั้นไปเดินเล่นที่คลองชองเกชอนกัน ได้ยินเสียงกรี้ดกร้าดกันอยู่ด้านหลัง ก็เลยไปมุงกะเค้าด้วย เป็นเวทีเล็ก ๆ งานอะไรซักอย่าง มีวงเด็ก ๆ มาร้องวงละ 2 เพลง ... แต่เป็นใครนี่ ไม่รู้จักอ่ะ ไปเดินเล่นริมคลองกันดีกว่าค่ะ เดินริมน้ำ หนาว ที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับครอบครัว สาวน้อย น่ารัก ตึกจองโน ขึ้นมาบนสะพานแล้วมองลงไป แวะ caffe bene ร้านสวยดี มีสองชั้น แต่งร้านน่านั่งดี ขนมหน้าตาน่ากิน อร่อยใช้ได้นะ แต่ขอบอกตามตรงว่า ขนมกะของหวานของเกาหลีส่วนใหญ่หวานเกินไปสำหรับเรา จากนั้นก็ไปสำรวจแฟชั่นสาวเกาหลีเอาอย่างแฟชั่นคิง ที่ทงแดมุน คิดว่าห้างนี้ของดูดีที่สุดแล้ว แต่ราคาก็สูงกว่าตึกอื่น ๆ เหมือนกัน เสียดายที่งบหมดซะแล้ว ไม่งั้นคงได้อะไรติดไม้ติดมือคนละชิ้นสองชิ้นแน่ ๆ ที่นั่ง เก๋ ๆ เรด้าร์จับอะไรได้แวบ ๆ แถว ๆ ร้านคอนเวิร์ส ... หันขวับไปทันที องค์รัชทายาทและองครักษ์ทั้งสามนี่นา หลังจากคิดไม่ออกแล้วว่าจะไปไหนกันอีกดี ก็เลยจะกลับไปตั้งหลักกันที่บ้านก่อน นึกขึ้นได้ว่า เรายังไม่เคยกินหมูย่างที่เกาหลีกันเลยซักครั้ง เดินไปเรื่อย ๆ ร้านใกล้บ้านที่เราผ่านทุกวันหน้าตาร้านดูน่าเข้าดี คุณลุงเห็นมีคนจับกลุ่มอยู่หน้าร้าน ก็โบกมือให้เข้าไป ร้านเปิดอยู่ ... คือ หนูกำลังมองหาราคากันอยู่ค่ะคุณลุง กลัวแพงอ่ะค่ะ ในร้านบรรยากาศก็ดูสบาย ๆ มีคนนั่งกินอยู่พอสมควร ผู้ร่วมคณะอีกสองคนไม่กินเนื้อ เราก็เลยจำต้องกินหมูไปด้วย ... อยากกินเนื้อเกาหลีมาก ๆ ๆ ๆ ถ้ามีโอกาสได้มากับเพื่อนที่กินเนื้อ คงจะได้ลองกันซักมื้อ แต่ก็ยังไม่รู้เมื่อไหร่ ในร้านมีหมูแค่อย่างเดียว ไม่ต้องเลือก แต่ต้องสั่งสองชิ้นขึ้นไป ดังนั้นก็จัดไปเลย หมู 2 ก็จะได้ประมาณเท่านี้ ย่างแล้วเต็มตะแกรง กลัวไม่อิ่ม ก็เลยสั่งข้าวเพิ่มด้วย อร่อยมาก ชิเกไม่แน่ใจว่าสั่งเพิ่มหรือได้มาในชุด เครื่องเคียงร้านนี้ได้ลองกิมจิปลาหมึก กะฟักทองต้มหวานอร่อยมาก หมูย่างเกาหลีแท้ ๆ อร่อย ๆ ๆ ๆ อร่อยทุกอย่างอีกแล้วมื้อนี้ อิ่มแล้ว ก็พบว่าเวลาไม่พอแวะเดินเล่นแถวอิแทวอนอีกแล้ว ดังนั้นก็ไปรับบัตรแล้วก็รอดูละครกันที่โรงละคร Blue Square เช่นเดิม โปสเตอร์ Elisabeth ที่บันไดเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นแล้ว น่าดูเหมือนกันนะเนี่ย วันนี้เป็นรอบทุ่ม เราตั้งใจจะไปดูพี่ปาร์คอึนแตที่เป็นลูเชนี กับดองซองที่เป็นรูดอล์ฟรอบนี้ ถึงวันนี้จะไม่ใช่ท่านทอดด์น้องจุน แต่ Elisabeth รอบนี้ก็จบลงอย่างน่าประทับใจเช่นกัน ขากลับขอแวะเมียงดงอีกครั้งเพื่อตามหาเคสไอโฟน 4s ให้เพื่อนแต่เราคงมาดึกเกินไป สี่ทุ่มร้านที่เคยซื้อปิดไปแล้ว เจอร้านแผงลอย แต่แพงเกินไป ซื้อไม่ลง ได้แบบอื่นมาแทน มาม๊าที่ดีต้องหูไวตาไว ลูกจ๋าอยู่ที่ไหนต้องเห็นทันที หายไปไหนคนนึง ช่วงนี้ยังไม่มีผลงานเดี่ยวก็เลยซ่อนตัวอยู่ในเล่มแทน เก็บภาพโซลทาวเวอร์ตอนสี่ทุ่มกว่า ๆ มาได้อีกวันนึง 2012/04/1 ลีมูซีนบัสสาย Rooftop Prince วันนี้เราต้องเดินทางกลับแล้ว เพราะมาก่อนก็ต้องกลับก่อน 8 วันในเกาหลีผ่านไปไวเหลือเกิน เมื่อคืนเก็บของจนแทบไม่ได้นอน ไม่รู้จับสารพัดสิ่งยัดเข้าไปในกระเป๋าใบเล็กขนาดนั้นได้ยังไง รู้แต่ห้ามเปิดก่อนถึงที่หมาย ในที่สุดเราก็ยังไม่ได้ไปทุ่งหญ้าใน In Heaven ที่ World Cup Stadium และอีกหลายที่ แต่ก็หมดเวลาสำหรับทริปนี้แล้ว นั่งดูทีวีระหว่างรอคุณเพื่อนละคุณพี่ไปเรื่อย ๆ เปิดเจอรายการมีน้องจุน มีหน้าองค์ชาย มีคอนชินฮวา นัมจาของเค้าทั้งนั้นเลย นั่งดูไปด้วยความปลาบปลื้มชื่นชม ... แปลไม่ออก ดูอย่างเดียว เรากลับไปที่ Blue Square กันอีกครั้งตามนัดมื้อเที่ยงกับเพื่อนของพี่สาว วันนี้เป็นอาหารจีน กินแบบง่าย ๆ กัน บ่ายสองเราก็แยกกัน พี่สาวและเพื่อนดูละครรอบน้องจุนกันอีกรอบ ... ประตูฮอลล์ปิด ได้ยินเสียงเพลงเริ่มแต่เราต้องเดินออกมาก่อนน้ำตาจะไหล อยากดูน้องจุนอีกรอบมาก กลัวใจตัวเอง ถ้าอยู่นานกว่านี้คงปักหลักฟังอยู่หน้าประตูไม่ยอมกลับ แล้วก็จะตกเครื่อง ปลอบใจตัวเองด้วยดอกไม้แถว ๆ บ้าน กลับมาถึงบ้าน ยังพอมีเวลากว่ารถคันต่อไปจะมา เดินเล่นท้าลมหนาวไปอีกฝั่งถนนทางด้านหลังบ้าง เพราะเป็นวันอาทิตย์ ร้านรวงฝั่งนี้ปิดหมดเลย มีแต่เด็ก ๆ เล่นบอลกันในสนามโรงเรียน ... ไม่ใช่ทีม FC MEN เลยไม่ได้เข้าไปส่อง สนามเด็กเล่นติดกับโรงเรียน ใกล้เวลาแล้ว ร่ำลาผู้จัดการที่แสนน่ารัก ถ้ามีโอกาสจะมาพักที่นี่อีก แล้วก็ลากกระเป๋าต๊อก ๆ ออกไปรอรถสาย 6015 (สายปาร์คฮา) ไปสนามบิน เป็นรถสาย Rooftop Prince จริง ๆ นะ ก็องค์ชายขึ้นมาตามปาร์คฮาบนรถสายนี้ใช่มั้ยล่ะ แล้วพอเราขึ้นรถแล้วก็เจอองค์ชายเลยอ่ะ รีรันตอนที่ดูที่ร้านแจเมื่อวันพฤหัส ได้ดูจนจบ ระหว่างทางไปสนามบิน นั่งฝั่งนี้มองเห็นริมแม่น้ำฮันไปตลอดทาง ขามาเห็นแต่ตึก เห็นตึกอะไรแวบ ๆ แปลกดี ริมแม่น้ำฮัน กลับถึงบ้านแล้วได้ดูละครตอนต่อจากในรถ ... นี่มันตึกที่จัดงานแต่งงานของ Home Shopping แล้วองค์ชายตกน้ำนี่นา ได้ตามรอยละคร (อย่างไกล ๆ ) โดยไม่ได้ตั้งใจอีกแล้ว หันมาดูในจอต่อ เอ๊ะ นั่น ... น้องจุนนี่ ยกกล้องไม่ทัน ฮือ... หรือจะเป็นรถเมล์สายน้องจุน ขอโทษน้าจุนซู เก็บภาพหนูไม่ทัน มาไวไปไวเกินอ่ะ ได้ภาพอลิซกะลูกสมุนท่านเดธแทน หลังจากโหลดกระเป๋า เช็คอินกันเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเอาใบเสร็จ Tax Free จากร้านเครื่องสำอางทั้งหมดปั๊มที่เคาน์เตอร์ด้านในตอนจะเข้าไปตรวจกระเป๋าก่อนผ่าน ตม. ด้วยนะคะ แล้วค่อยเข้าไปรับภาษีคืนที่แถว ๆ เกท 28 ค่ะ เราได้คืนมาอีกหลายร้อยแต่ก็ยังไม่พอซื้อใบนี้ พยายามไปสำรวจ Lotte ทุกร้าน แต่ ๆ ๆ น้องชั้นหายไปไหนหมด เดือนที่แล้วเพื่อนยังบอกว่ามีแต่ JYJ เต็มไปหมด มาช้าแค่เดือนเดียว เจอแต่พี่ชายคะ ผักกาด กะจางกึนซอกเต็มร้านไปหมด โฮ... เค้าอยากเห็นน้องอ่า เสียใจมากนะ ขอบอก มาสองครั้งไม่เคยเห็นหน้าน้องในลอตเต้เลยอ่า ทำไมคนอื่นมาถึงได้เห็นตลอด ๆ ดูแต่ในจอก็ได้ จำได้หมดว่าลูกจ๋าจะโผล่มาตอนไหนบ้าง มามะ ทำตลกปลอบใจมาม๊าหน่อย ถึงเชียงใหม่ตอนประมาณห้าทุ่มกว่า ๆ กำลังง่วงและมึนได้ที่ โดนเรียกตรวจกระเป๋า ... กระเป๋าเดินทางไซส์ 18 นิ้วสูงไม่ถึงเข่าเนี่ยนะ เรามีกระเป๋าใส่ขนมงอกออกมาอีกใบแต่ก็หิ้วได้สบาย ๆ กับกระเป๋าเดินทางไซส์เล็ก หนักแค่ 18 กิโลเอง ปกติเราใช้ใบนี้ตลอดเวลาไปต่างประเทศ ลงที่กรุงเทพไม่เคยถูกตรวจเลย เพราะใบเล็กมันก็ดูสมเหตุสมผลกับคนที่เดินทางคนเดียวเป็นอาทิตย์นะ แต่ที่นี่คงว่างกันมากสินะ คนไทยโดนเรียกตรวจกระเป๋ากันทุกคนเลย ทีต่างชาติหอบกระเป๋าใบใหญ่เท่ากระเป๋าไปอเมริกากันมาคนละสองสามใบ ไม่เห็นเรียกตรวจซักคน เมื่อคืนกว่าจะเรียงของปิดกระเป๋าได้แทบไม่ได้นอน ที่ไม่อยากเปิดนี่ก็เพราะกลัวปิดไม่ลงนั่นแหละ เครื่องสำอางก็เยอะอยู่แหละ แต่ถ้าเราเป็นคนเพื่อนเยอะอ่ะนะ ฝากกันคนละสามอย่างก็เต็มกระเป๋าแล้ว แต่ยังไงก็เพราะเรามั่นใจว่าของที่เราซื้อไม่มีของที่เหมือนกันแบบเดียวกันเกิน 5 ชิ้นแน่นอน ไม่ควรจะโดนภาษีแน่ ๆ อันนี้ฝากเพื่อนกับน้องสาว แล้วก็กู้ดน้อง กระเป๋าพองเพราะเจ้าพวกนี้แหละ
Create Date : 21 เมษายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 21 เมษายน 2555 0:19:58 น. |
Counter : 2076 Pageviews. |
|
|
|