|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
อ้วน forest เพื่อนนักอ่าน มิตรภาพไร้พรมแดน
ตั้งแต่เข้ามาในโลกไร้สายมีเพื่อนๆมาเม้นให้ นั่นก็เป็นกำลังใจมากมายแล้ว บางวันได้รับเมลจากผู้อ่านทั่วไป ก็ยิ่งทำให้ต้องหันมาใส่ใจกับงานเขียนและตั้งใจมากขึ้น เพราะเราไม่ได้เก็บไว้อ่านคนเดียวแล้ว เพื่อนร่วมงานมาเปิดอ่านบอกว่าชอบ เราก็รู้สึกดี มีเพื่อนมาชี้แนะทั้งติเพื่อก่อและชมเพื่อให้กำลังใจ ก็ยิ่งทำให้มีกำลังใจมากขึ้นไปอีก
แต่ที่แปลกใจมากก็เมื่อวานนี้ กำลังว่างๆในช่วงบ่าย มีเพื่อนคนหนึ่งที่เป็นนักอ่านแบบไม่มีล็อกอินแวะมาหาที่ทำงาน ยอมรับว่าตื่นเต้นที่ได้เจอกัน เขาเป็นเพื่อนที่ตามอ่านงานเขียนของเรามานาน ไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขาไม่ใช่สมาชิกบล็อกแกงค์
เขาหายไปนานๆครั้งก็มาทิ้งเม้นไว้ให้ เรารู้สึกรับรู้ได้โดยผ่านตัวอักษรว่าเขาเป็นผู้ชายอารมณ์ดี สุภาพและมีมุมมองต่อชีวิตที่เป็นธรรมชาติ และเมื่อมาพบตัวเป็นๆใกล้เคียงกันกับที่เรารู้สึก หัวเราะอารมณ์ดีมากมาย
แต่เขาอาจผิดหวังนิดหน่อย เจ้าคนซนๆที่ต่อปากต่อคำ ตัวจริงอาจไม่ใกล้เคียงกับที่คิดไว้ แต่เราก็คุยกันถูกคอ เอ๊ย ไม่ถูกคอสิ งั้นจั๊กกะจี๋ตาย เอาเป็นว่าคุยกันได้ทุกเรื่องราว
เมื่อวันที่เราไปประกวด Thailand blog awards เขาชวนเพื่อนไปช่วยโหวตให้ด้วย เจอที่เขาเม้นไว้ เลยตามไปขอบคุณที่ facebook แรกๆก็ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า
สังเกตช่วงเวลาที่เขาเข้ามาเม้นที่บล็อกกับตอนที่มาโหวตเวลาตรงกัน จึงตัดสินใจถามว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า เขาตอบว่าใช่ เราก็ดีใจ ที่สามารถสื่อสารกับเขาได้ วันไหนหายไปหลายวันก็ชะเง้อนะขอบอก
วันที่เราได้เจอกัน บอกได้เลยว่าเกินบรรยาย ออกจะปลื้ม ไม่คิดว่าเรื่องราวที่เขียนจะมีคนมาสนใจอ่าน และสละเวลาเพื่อมาหากัน พอดีเขาผ่านมาแถวนี้ด้วยเรื่องงาน เห็นว่าไม่ไกลนัก ถามเขามาเรื่อย ตามลายแทงที่เคยเล่าไว้ในบล็อก มาถึงและพบกันจนได้ คุยกันมากมายหลายเรื่อง
มีอยู่คำถามหนึ่งที่เขาถามว่าคุณแอมคงจะอ่านหนังสือเยอะใช่ไหม เวลาเพียงน้อยนิดคงตอบคำถามนี้ไม่ครบเท่าที่ใจอยากบอก เลยออกมาเป็นเรื่องราวในวันนี้ค่ะ
เมื่อตอนเป็นเด็ก เป็นคนชอบอ่านหนังสือ และชอบเล่านิทานให้เพื่อนๆฟัง ชอบวาดรูปแล้วนำมาผูกเป็นเรื่อง ในช่วงพักกลางวัน หรือในชั่วโมงว่าง เพื่อนๆนำกระดาษวาดเขียนมาให้ช่วยวาดรูปให้ เราก็นำมาผูกเป็นเรื่องราว เติมคำพูดลงไปในภาพ คล้ายหนังสือการ์ตูน
ด้วยว่าไกลตัวเมืองมาก หนังสือการ์ตูนจะหาอ่านได้ก็เฉพาะในห้องสมุด และมีจำนวนไม่มาก เลยใช้วิธีวาดเอง หนังสือก็เช่นกัน อาศัยอ่านในห้องสมุดและเท่าที่พอจะหาอ่านได้ในตอนนั้น ไม่มีเงินซื้อมาเก็บไว้เป็นสมบัติส่วนตัว หากหน้าไหนที่เราชอบ ก็จดจำเอาไว้ แล้วนำมาปฏิบัติ จนเกิดความเข้าใจ ทั้งจากเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาความจำ การปฎิบัติตัวอย่างไรเพื่อดูแลรักษาใจและกาย
เรื่องศาสนาคัมภีร์ต่างๆทั้งลัทธิความเชื่ออื่นๆ อ่านแล้วไม่ได้ปล่อยผ่าน นำมาคิดต่อ จึงได้ข้อยุติว่า เราเกิดมาต่างก็เป็นญาติกัน เป็นญาติที่เกิดมาร่วมโลกเป็นเพื่อนที่ร่วมชะตากรรม ต้องเกิดมาและต้องเจ็บต้องแก่และตายไปในที่สุด ทำให้มุมมองของชีวิตเปลี่ยนไปจริงๆด้วยการอ่านนี่เอง
ทำให้เข้าใจคนที่มีความแตกต่าง ทั้งจากภาษา ศาสนา ผิวพรรณ วรรณะ คนเรามาแบ่งแยกกันเอง แต่พระเจ้าหรือธรรมชาติไม่ได้แยก เราต่างมีบทขึ้นต้นและลงท้ายไม่ต่างกัน เป็นความยุติธรรมที่ธรรมชาติได้มอบให้แก่มนุษย์ทุกคน
ศาสดาทุกศาสนา ล้วนสอนให้เราใช้เวลาที่อยู่บนโลกใบนี้ อย่างเข้าใจและไม่เบียดเบียนกัน แต่มนุษย์กลับใช้กิเลสมาแยกเขาแยกเรา ไม่ศึกษาให้ถ่องแท้ เคยนั่งอ่านไบเบิ้ลเป็นวันๆเพื่อจะทำความเข้าใจ และได้ข้อสรุปว่าพระคริสต์ช่างเปี่ยมด้วยเมตตา ท่านถูกตรึงกางเขน เพราะกิเลสของมนุษย์ พันธสัญญาเดิมนั่นเหมาะกับยุคนั้นสมัยนั้น แต่พันธสัญญาใหม่ก็เหมาะกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
ภาษาที่มีในไบเบิ้ลเป็นภาษาธรรมะเป็นปรัชยา คนที่อ่านต้องขบให้แตกจึงจะเข้าใจ เมื่อก่อนคิดว่าเน้นที่ความเชื่อ แต่เมื่ออ่านจึงเข้าใจว่า เน้นให้ลงมือปฎิบัติด้วย เหมือนที่พระพุทธเจ้า ท่านบอกว่าหากลงมือปฎิบัติก็จะเห็นตถาคต
เรื่องที่เขียนส่วนใหญ่ได้ผ่านกระบวนการตกผลึกในความคิดมาแล้วทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นหนังสือที่ใช้อ้างอิงในห้องฟิตเนสใจ และห้องสุขภาพองค์รวม ก็คือตัวเอง โดยอาศัยตัวเองเป็นหนูทดลอง เห็นผลแล้วจึงมาบอกต่อ เพื่อยังประโยชน์ต่อผู้อ่านก็จะพยายามหาแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ มาแนบไว้ทุกครั้งโดยเฉพาะในห้องสุขภาพองค์รวม
อ่านมากจึงรู้เยอะคงไม่ใช่ สิ่งที่เขียนนั้นมาจากการใช้ชีวิตแบบที่มันเป็นล้วนๆ และสะท้อนมุมมองของตัวเราเองเป็นส่วนใหญ่ เมื่อก่อนเคยตั้งคำถามกับตัวเองว่าชีวิตคืออะไร และออกแสวงหาจากแหล่งอื่นๆ สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราใจเรานี่เอง
ตั้งแต่วันนั้นมุมมองต่อชีวิตก็เปลี่ยนไป แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่อยากทำคืออยากบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง และวิธีจัดการกับใจและร่างกายของตัวเอง อาจมีใครสักคนผ่านมาอ่าน และสามารถนำไปใช้แล้วถูกกับโรค ได้ประโยชน์บ้างก็ถือว่าเกิดมาไม่สูญเปล่า นี่จึงเป็นที่มาของเรื่องราวในบล็อก peeamp แอมอร
ขอบคุณคุณอ้วน forest นะคะ ที่แวะมาเยือนกัน และเป็นกำลังใจให้ จริงอย่างที่คุณบอก งานในนี้เป็นงานที่ออกสู่สาธารณะ คงต้องใช้ความตั้งใจและใส่ใจให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เรื่องราวในอดีต ไม่มีอะไรมาทำให้เจ็บช้ำได้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ
มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งในงานเขียน ที่อยากให้ผู้อ่านมองเห็นภาพ และร่วมรับรู้เรื่องราวในความรู้สึก ณ ตอนนั้น มันเป็นแค่ความทรงจำ เล่าแล้วก็แอบแนบวิธีคิดปะปนไปกับงาน คุณอ้วนคงสัมผัสได้ แต่บางวันก็อยากผ่อนคลายไร้สาระบ้างก็ขออภัย
คุณอ้วนบอกว่าแอบไปอ่านบล็อกของเพื่อนๆอีกหลายคน ชื่นชมในหลายๆบล็อก เราก็ออกปากชวนว่าให้มาเขียนด้วยกัน คุณอ้วนบอกว่าไม่รู้จะเขียนอะไร ขอเป็นคนอ่านไปก่อน ยังไงก็ฝากเพื่อนนักอ่าน คนนี้ไว้ด้วยนะคะ
แอมอร
ป.ล.คุณอ้วนคะ กวน มึน โฮ จะหามาดูแน่ๆค่ะ วันไหนผ่านมา อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ ที่นี่ยินดีต้อนรับคุณอ้วนทุกเมื่อค่ะ
ครั้งหน้าอยากตอบแทนคุณอ้วนบ้าง หมูทุบอร่อยมาก น้ำลูกหม่อนยังไม่ได้ชิมค่ะ กระซิบๆไม่รู้ว่าเจอหน้าเราแล้ว หัวโกร๋นไปอ่ะยัง
Create Date : 09 กันยายน 2553 |
Last Update : 10 กันยายน 2553 13:04:34 น. |
|
29 comments
|
Counter : 641 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กันยายน 2553 เวลา:21:26:47 น. |
|
|
|
โดย: อ้วนforest IP: 180.180.135.238 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:0:22:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:7:35:04 น. |
|
|
|
โดย: SongPee วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:7:44:38 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:9:45:41 น. |
|
|
|
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:10:49:53 น. |
|
|
|
โดย: peeamp วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:10:53:18 น. |
|
|
|
โดย: Nicky IP: 180.183.140.192 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:11:20:44 น. |
|
|
|
โดย: peeamp วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:11:29:58 น. |
|
|
|
โดย: peeamp วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:12:16:52 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:14:40:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:14:44:45 น. |
|
|
|
โดย: peeamp วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:15:39:31 น. |
|
|
|
โดย: peeamp วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:15:45:45 น. |
|
|
|
โดย: aenew วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:17:39:44 น. |
|
|
|
โดย: JinnyTent วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:18:46:33 น. |
|
|
|
โดย: มนุษย์ต่างดาว..ผมยาว..ปากหวาน... (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:19:30:39 น. |
|
|
|
โดย: sirivinit วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:19:59:35 น. |
|
|
|
โดย: aenew วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:20:59:04 น. |
|
|
|
โดย: nulaw.m วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:21:42:41 น. |
|
|
|
โดย: peeamp วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:23:05:24 น. |
|
|
|
โดย: SongPee วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:0:02:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:7:53:20 น. |
|
|
|
โดย: SongPee วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:11:39:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]
|
บางที ปลายทางก็ไม่ได้สำคัญมากไปกว่า
.....
สิ่งที่อยู่ระหว่างทาง
..............^^.... และความสุขในปัจจุบัน
ก็เป็นสิ่งที่เราจับต้องได้
....^^.....^^......
โดยไม่ต้องรอคอย
ความสุขของอนาคต
ปูปรุง
|
|
|
|
|
|
|
|