เสียงไอ้โต้งที่ข้างรั้วส่งเสียงขัน โอ้กอีโอ้กโอ้กๆๆๆๆๆ
ฉันสลัดเอาความขี้เกียจกระเด็นออกไป รีบผลุนผลันลุกจากที่นอน
คุณตาบอกว่าอากาศตอนเช้าๆบริสุทธิ์สะอาดจะช่วยให้ปอดแข็งแรง
รีบล้างหน้าแปรงฟัน และตามตาเข้าไปในสวน
ฉันหยิบบัวรดน้ำรดแปลงผักที่ปลูกไว้ สูดลมหายใจยาวๆรับอากาศสดๆ
ท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกยามนี้มีสีแดงเรื่อ ฝูงนกบินออกจากรวงรัง
ฉันหลับตานิ่งฟังสรรพสำเนียง ยามนี้ฉันรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน
ตาตัดดอกไม้กับเตยหอมกำใหญ่บอกให้เอาไปถวายพระ
ไม่ต้องช่วยแล้วลูก รีบไปอาบน้ำแต่งตัวจะได้ไปใส่บาตรกับยาย
ฉันกลับขึ้นเรือนไปอย่างว่าง่าย
ยายวางขันทองเหลืองที่บรรจุข้าวสวยร้อนๆ
แกงเขียวหวานในชามกระเบื้องเคลือบส่งกลิ่นหอม
ของหวานคือขนุนยวงใหญ่ที่ในสวนของเราเอง
ยายทำข้าวเหนียวมูลใส่ลงไปในยวงขนุน ทั้งหวานและมัน
วางใ ส่จานที่รองด้วยใฉับตอง ฉันแอบกลืนน้ำลาย
หิวแล้วใช่ไหมลูก ฉันพยักหน้า
ยายแบ่งไว้ให้แล้ว ประเดี๋ยวไปใส่บาตรแล้วค่อยกลับมากิน
ทุกเช้ายายไม่เคยเบื่อหน่ายที่จะลุกมาทำกับข้าวเพื่อใส่บาตร
ยามค่ำยายพาลูกๆหลานๆเข้าห้องพระและสวดมนต์ให้จิตใจผ่องแผ้ว
ยายบอกว่าเพื่อขจัดความขุ่นมัวที่มีอยู่ในใจ จะทำให้หลับสบาย
การทำบุญทำทาน เป็นการขจัดความตระหนี่
ทำกับผู้ทรงศีล จะได้กุศลแรง
เพราะผู้ทรงศีลจะนำสิ่งที่เราถวายไปสงเคราะห์ผู้อื่นต่อไป
ฉันและครอบครัวจากบ้านสวนไปเสียนาน วันนี้คิดถึงตากับยายเหลือเกิน
ตัดสินใจหอบลูกสาวและลูกชายใส่รถขับกันมาในเวลากลางคืน
กว่าจะถึงบ้านสวนก็ดึกดื่น ตากับยายหลับไปแล้ว
เราเข้านอนในห้องเดิมที่คุ้นเคย หลับสบายไปทั้งคืน
มาสดุ้งตกใจตื่นอีกทีก็เมื่อมีอ้อมกอดอุ่นๆรัดฉันเอาไว้
ฉันแกะมือเขาออก จะลุกจากที่นอน
อรุณสวัสดิ์จ้ะ วันนี้วันหยุด ตื่นสายๆสักวันเถอะแม่
ฉันหันไปกอดตอบและซุกนิ่งๆ
ฉันไม่ได้รีบตื่นไปทำกับข้าวเพื่อใส่บาตรมานานแล้ว
วันที่ไปทำบุญใส่บาตรมักจะเป็นวันสำคัญๆของคนในครอบครัว
ในวันบุญประเพณีทั้งหลาย
เมื่อครั้งที่ฉันยังเป็นเด็ก วัดคือศูนย์รวมของทุกสิ่งอย่างของชุมชน
เป็นโรงเรียน โรงพยาบาล สถานสงเคราะห์
เลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ปล่อยสัตว์ที่เจ้าของไม่ต้องการ
โกนจุก บวช เบียด ขึ้นบ้านใหม่ ตั้งแต่เกิดกระทั่งตายต้องอาศัยพี่งพา
ฉันผลุดลุกขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้กลิ่นกับข้าวที่โชยออกมาจากในครัว
ยายตื่นแต่เช้าอีกตามเคย
จะไปไหนล่ะคุณ
วันนี้เราพาเด็กๆไปใส่บาตรกันเถอะค่ะ
เดี๋ยวไปช่วยยายเตรียมกับข้าวสักหน่อย
ดีเหมือนกับจ้ะแม่ แล้วเราจะเอาอะไรไปร่วมใส่บาตรกันดีล่ะ
ฉันรีบพับผ้าห่มเก็บที่นอน
"คุณไปปลุกเด็กๆด้วยนะคะของใส่บาตรไม่ต้องกังวล
แม่ว่าทำบุญด้วยยาสามัญประจำบ้านดีกว่า
พวกยาดม ยาอม ยาหม่อง ยาแก้ปวด ยาทาภายนอกทั้งหลาย
อาหารคาวหวานมีคนทำเยอะแล้ว ท่านฉันไม่หมดจะบูดซะเปล่าๆ
เขาพยักหน้าเห็นด้วย เด็กๆวิ่งแข่งกันเข้าห้องน้ำ
เสียงสาดน้ำใส่กันดังโครมคราม ออกมาประแป้งแต่งตัวที่หน้ากระจก
แม่จ๋า ใส่บาตรที่หน้าบ้านเราเอง
ทำไมต้องอาบน้ำแต่งตัวด้วยล่ะคะ
ฉันนึกขันอยู่ในใจ นั่นเป็นคำถามที่ฉันเคยถามยายมาก่อนนี่นา
เด็กเอ๋ยเด็กฉันลูบหัวลูกเบาๆ
คุณทวดบอกว่าเวลาจะทำบุญตักบาตร หรือสวดมนต์ก็ตาม
ต้องชำระล้างทั้งกายและใจให้ผ่องแผ้วค่ะ
เจ้าลูกชายหยอกเย้าคนนั้นทีคนนี้ที
เสียงหัวเราะต่อกระซิกดังไม่ขาดสาย
นั่งนิ่งๆสิคะ แม่ยังทำไม่เสร็จ
ฉันถักเปียให้ลูกสาว เขาสวมถุงเท้าให้ลูกชาย
ฉวยตะกร้าที่ใส่ข้าวของที่เตรียมไว้
พร้อมช่อกล้วยไม้ที่ตัดจากริมระเบียงช่อใหญ่ที่ฉันปลูกไว้เอง
ทวดจ๋า พ่อจ๋า แม่จ๋า พระมาแล้ว
ทุกคนมายืนรวมตัวกันที่หน้าบ้าน ที่ที่เดิม
ที่เมื่อครั้งฉันยังเด็ก เคยยืนพร้อมหน้าตากับยาย
บัดนี้มีสมาชิกใหม่ คือสามีและลูกอีกสองคน
นิมนต์ทางนี้ด้วยค่ะหลวงตา
หลวงตาท่องบทสวดงึมงัมเบาๆและกล่าว
"ขอให้เจริญด้วยธรรมนะโยม"
ชิดกับชอบเดินถือปิ่นโตตามหลังหลวงตามาติดๆ
รู้สึกเย็นวาบตรงต้นคอขนลุกเกลียว
หลวงตาแวะเข้ามาบ้านนี้ทำไมครับ
เห็นใครๆเขาบอกว่าบ้านนี้ร้างไม่มีคนอยู่มาตั้งนานแล้ว
หลวงตาเดินไปตามถนนเงียบๆไม่ได้กล่าวอะไรสักคำเดียว
เสียงเปิดประตูเบาๆทำฉันสะดุ้งตกใจตื่น แสงแดดส่องผ่านเข้ามา
อาการปวดตุบๆในลำคอลดลง
แต่พอกลืนน้ำลายแล้วก็ยังรู้สึกเสียวแปลบ
ฉันสลัดผ้าห่มและพับเข้าที่ นี่คงเป็นเพราะพิษไข้ทำฉันฝันวุ่นวายทั้งคืน
"อรุณสวัสดิ์จ้าคุณแม่ เช้านี้เป็นไงบ้าง
พ่อลงมือทำข้าวต้มให้กินเลยนะ รับรองอร่อยที่สุดในโลกเลย"
เขายื่นมือมาแตะที่หน้าผาก
เร่งเร้าให้ฉันลงไปกินข้าวต้มจะได้กินยา ฉันส่งยิ้มให้
"อรุณสวัสดิ์ค่ะ"
เย้!!อรุณสวัสดิ์ บูร์ เจิม.. เจิม ....