ถนนสายนี้...มีตะพาบ(301) เรื่องที่อยากเล่า
ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 301
เรื่องที่อยากเล่า
โจทย์..toor36
มีน กุสุมา/เขียนคำ อากาศในเดือนเมษาร้อนจัดสลับกับหนาวสะท้าน ทำคนไม่เคยป่วยอย่างฉัน ทรุดไม่เป็นท่า มีคนเคยบอกว่า คนที่แข็งแรงมาตลอด ไม่ค่อยเจ็บค่อยป่วย เวลาเป็นอะไรทีจะเป็นหนัก และก็เป็นจริง ไม่ใช่โควิดแต่เป็นไข้หวัดใหญ่ ทำน้ำหนักลดฮวบไปเกือบสิบกิโล แรกเลยรู้สึกหนาวสะท้าน ตัวสั่น ไข้ขึ้นสูง ยาสามัญประจำบ้านที่เก็บมานานหมดอายุ แต่เกิดในยุคนี้ก็ดีไปอย่าง มีไลน์แมน สั่งยาเองได้ เช็ดตัว กินยา นอน เป็นแบบนี้อยู่สามสี่วัน
พอไข้ลด ก็เหม็นอาหาร เบื่ออาหาร สิ่งที่พอจะกินได้ เห็นจะมีก็แต่น้ำ น้ำข้าว แบรนด์ และกล้วยน้ำว้า ฉันนั่งๆนอนๆ เป็นตุ๊กตาล้มลุก กลางวันมีไข้ต่ำๆ กลางคืนไข้ขึ้นสูง รู้สึกอ่อนแรง หายใจยังเหนื่อย
บางทีจิตก็จมดิ่ง เศร้า เหงากลัว และกังวล ต้องเปิดคลิปและฟังธรรมะเพื่อเจริญสติ หากฉันเป็นอะไรไปอีกคน คนที่นอนอยู่เตียงข้างๆ จะใช้ชีวิตต่อไปยังไง
หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ และบอกกับตัวเองว่า “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” เข้าใจเลยว่าเวลาป่วย จิตใจจะเปราะบาง เหมือนเด็กเล็กๆ ที่ต้องการคนปกป้อง ต้องการคนปลอบโยน แต่หาจากคนใกล้ตัวไม่ได้สักคน แวดล้อมมีแต่คนป่วยและคนแก่ ก็ทำตัวเป็นคนเข้มแข็งมาตลอด
ฉันเข้าใจละว่าเพราะอะไร ที่ผ่านมาจึงมักมีแต่คนพึ่งพา พอถึงคราวตัวเองบ้าง ต้องพึ่งพาตัวเอง จริงๆแล้วเด็กหญิงตัวเล็กๆ ในตัวฉันก็มีมุมที่เปราะบาง ขี้กลัว ขี้กังวล ขี้เหงา บางครั้งที่ฉันมีเรื่องกังวลใจ รู้สึกป่วยหรือว่าอ่อนแอ จิตใจก็ยังร่ำร้องหาแม่ อยากให้มีคนมาคอยดูแล เสพติดผู้คนที่ดูคล้ายว่าจะเข้มแข็งกว่าตัวเอง
และคาดหวังว่าพวกเขาเหล่านั้นจะคอยปกป้องคุ้มครอง เหมือนกับตอนที่ยังเป็นเด็ก เจ้าเด็กน้อยมักไขว่คว้าหาคนๆนั้น อาจไม่ใช่ทางกายภาพ เพราะฉันดูแลตัวเองเป็น พึ่งพาตัวเองได้ แต่เป็นการพึ่งพาทางจิตใจทางจิตวิญญาณมากกว่า
ฉันมักรู้สึกเหงาในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ในวันที่อากาศหนาวท้องฟ้ามัวซัว หรือในคืนพระจันทร์วันเพ็ญ ฉันมักโทษแต่พ่อที่ทอดทิ้งฉันไปเป็นเวลานานๆ โทษสามีที่ไม่เคยมีเวลาให้ ไม่เคยปกป้องคุ้มครองในวันที่เจอปัญหาหนักๆ แต่เพราะสิ่งนี้ต่างหาก ที่ทำให้ฉันอยู่กับตัวเองเป็นและพึ่งตัวเองได้
ทุกครั้งที่ป่วย ฉันกลับมาเชื่อมโยงกับตัวเอง เชื่อมโยงกับเด็กหญิงเล็กๆ ที่อยู่ในตัวฉัน ฉันบอกกับเธอว่า เธอยังมีฉัน เธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
ทุกครั้งที่เห็นคนข้างๆ อาการทรุดหนัก เห็นพ่อแม่ของเขาและพ่อตัวเองในวัยชรา เป็นทุกข์กับสังขารที่เสื่อมทรุด เห็นพวกเขาอ่อนแอลง เด็กหญิงและเด็กชายเล็กๆ ในตัวพวกเขา ยังไม่ยอมเข้าใจธรรมชาติ เมื่อได้อยู่ใกล้ๆ ฉันรู้สึกคล้ายแบกของหนักๆ ไว้บนบ่า
ขณะนี้ฉันรับรู้ได้ว่าความรักของฉันได้เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนจากความรักที่มีแต่ความคาดหวัง เป็นความรักที่มีความเข้าใจและมีความเมตตา
อยากเขียนบันทึกไว้ให้เด็กหญิงเล็กๆในตัวฉันได้อ่าน ฉันอยากบอกกับเธอว่า แม้ว่าเธอจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา อ่อนแอบ้างก็ได้
ไม่จำเป็นตัองแบกพวกเขาใส่บ่าไว้ตลอดเวลา ปล่อยให้พวกเขาได้เรียนรู้ มีอิสระในการดูแลชีวิตตัวเองบ้าง ปล่อยวางและสงบสุข เหมือนกับที่เธอ ก็ต้องดูแลชีวิตตัวเอง รักนะเจ้าเด็กโง่
(ไดอารี่)
Create Date : 30 เมษายน 2565 |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2565 4:36:55 น. |
|
7 comments
|
Counter : 1390 Pageviews. |
|
|