7.เครียด วิตกกังวล กลัว
สวัสดีครับพี่แอม
ผมชื่อSuriya เพิ่งรู้ว่าตัวเองเป็นแพนิคอาการที่เป็นคือ เวลาเครียด วิตกกังวล หรือกลัว จะมีอาการ ร้อนวาบตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงหัว ท้องไส้ปั่นป่วนเหงื่อออกตามมือเท้า เวียนหัว คล้ายจะเป็นลม เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากหมอก็บอกว่าปกติทุกอย่าง อาการน่าจะเกิดจากความเครียดสะสมครับพอมาอ่านข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ก็รู้เลยว่าเป็นอาการของแพนิคครับจึงอยากสอบถามว่า จะมีวิธีจัดการกับอาการแพนิคเมื่อเกิดขึ้นอย่างไรบ้างครับ และโรคนี้มีโอกาสรักษาหายไหมครับและระยะเวลาประมาณเท่าใดครับขอบคุณมากนะครับ
ตอบคุณ Suriya
เมื่อเรามีความเครียด กลัว วิตกกังวล ประหม่า ร่างกายจะหลั่งคอติซอลหรืออะดรีนาลีน คือสารแห่งความเครียดออกมามากกว่าปกติ ซึ่งสารชนิดนี้กระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติซิมพาเททิก ให้เกิดความตื่นตัว ส่งผลให้เกิดอาการทางร่างกาย เช่น อาการร้อนวาบตั้งแต่ปลายเท้าจนถึงหัวท้องไส้ปั่นป่วน เหงื่อออกตามมือเท้า เวียนหัว คล้ายจะเป็นลม ใจหวิว หายใจไม่อิ่ม ตื่นตกใจง่าย จากนั้นความวิตกกังวลและความกลัว จึงติดตามมา เพราะความไม่รู้และไม่เข้าใจการทำงานของระบบประสาทในส่วนนี้ จึงทำให้เกิดความกลัวและความวิตกกังวลซ้ำไปซ้ำมา ย้ำคิดย้ำทำจนเป็นโรควิตกกังวล ช็อปปิ้งโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เพราะความกลัวตาย
อาการแพนิคจะหายไหม ใช้เวลาเท่าไหร่
การหายจากอาการแพนิค คงไม่เกี่ยวกับเวลา เพราะแพนิคขึ้นอยู่ที่ใจเราเอง ความวิตกกังวล กลัวไปแบบไร้ทิศทาง คืออุปสรรคขัดขวางความเข้าใจ เคยได้ยินได้ฟังเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสกับองค์คุลีมานไหมคะ "เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด" อาการแพนิคก็เช่นเดียวกันคือหยุดความกลัวและความวิตกกังวลได้ก็หายแล้ว
อาการแพนิคคืออะไร
อยากให้ทำความเข้าใจเสียใหม่ว่าอาการแพนิคที่เกิดขึ้นคือสัญญาณเตือนภัย ที่ถูกติดตั้งไว้(สำหรับคนพิเศษ)เพื่อเป็นดัชนีชี้วัดสุขภาพกายและสุขภาพใจของเรา เขาไม่หายไปไหน แต่แอบซุกซ่อนอยู่ในสมองที่เรียกว่าอมิกดาลา อยากให้เขาสงบนิ่งอยู่ในที่ที่ควรอยู่ อย่างแรกเลยคือมีสติ สติมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี เมื่อตรวจร่างกายคุณหมอบอกว่าเป็นปกติดี ก็หยุดจับผิดร่างกาย หยุดจินตนาการในแง่ร้ายๆว่าจะเป็นโรคร้ายแรง ต่อให้เกิดอาการแพนิคกี่ร้อยกี่พันหน ก็ไม่มีใครตายเพราะอาการนี้เลย
ต้องทำอย่างไรเมื่อมีอาการ
จงมีสติอยู่กับตัวเองมองอาการที่เกิดขึ้น คล้ายการมองออกไปนอกหน้าต่างในวันที่ฝนตกหนัก เราเป็นผู้เฝ้าดูไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะผ่า ฟ้าจะแล่บ หรือว่าฟ้าจะร้อง เราเป็นผู้เฝ้ามองด้วยใจที่สงบนิ่ง โดยปราศจากความกลัว เราไม่ต้องควบคุมบังคับว่าจะหยุดหรือไม่หยุด จะหายหรือไม่หายก็ช่างมัน ในไม่ช้าฝนที่เทกระหน่ำหรืออาการต่างๆที่เกิดขึ้นก็จะหยุดไปเอง จงเชื่อในกฎพระไตรลักษณ์ที่ว่าทุกสิ่งล้วนอนิจจจังไม่เที่ยง ไม่มีอะไรอยู่ยงคงสภาพ แม้แต่อาการที่เกิดขึ้นก็ตาม เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปในที่สุด
ผ่อนคลายจิตใจโดยใช้ธรรมะ ฝึกจิต ฝึกใจ ด้วยโยคะสมาธิ ไท้เก๊ก ชี่กง เพื่อฝึกการหายใจ หายใจเข้าลึกๆสบายๆผ่อนคลายๆ หายใจออกช้าๆสบายๆ อยู่กับธรรมชาติ เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ เป็นการยับยั้งความพลุ่งพล่านของจิตใจ ให้อยู่ในความสงบนิ่งเป็นประจำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนจากคนคิดลบมาเป็นคนคิดบวก จากอารมณ์เสียมาเป็นอารมณ์ดี คิดดี ทำดี พูดดี มีเมตตาต่อตนเองและผู้อื่น นึกถึงอกเขาอกเราให้มากขึ้น มองโลกอย่างเข้าใจ ใช้ความรักและเมตตา เป็นเครื่องนำทาง ทำจิตใจผ่อนคลายสบายๆ หยุดมองโลกในแง่ร้าย ปล่อยวางเลิกแบกทุกอย่างไว้ นกบนฟ้าปลาในน้ำ ไม่มียุ้งฉาง มันยังอยู่ได้ หยุดเอาแต่ใจ รอได้ อ่อนแอได้ ร้องไห้เป็น
ธรรมชาติบำบัดที่ดีที่สุดคือ นอน น้ำ อาหาร อากาศ ออกกำลังกายและอารมรมณ์ค่ะ ในความหมายของแพทย์ทางเลือก กายกับใจแยกกันไม่ได้ ทั้งสองสิ่งคือองค์รวมค่ะ เราควรรู้ว่าเมื่อไหร่ควรพักและเมื่อไหร่ควรไปต่อ ฝึกเป็นคนง่ายๆสบายๆ หยุดเป็นคนจริงจังบ้าคลั่งต่อความสมบูรณ์แบบ มองความล้มเหลวเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย มองความผิดพลาดเป็นครู ล้มก็ลุกได้ อย่าหยุดพัฒนาตัวเอง หาเวลาทำงานอดิเรกที่ชื่นชอบ จะนำความสุขมาให้ หากสามารถ แปลงเปลี่ยนงานอดิเรกเป็นรายได้ คุณจะพบว่าสนุกกับงานที่แท้จริงคืออะไร
แอมอร Amp Panic/นักธรรมชาติบำบัด
(ห้องสุขภาพ)
Create Date : 13 มีนาคม 2559 |
Last Update : 13 มีนาคม 2559 15:32:45 น. |
|
24 comments
|
Counter : 2050 Pageviews. |
|
|
แวะมาทักทาย
และอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ
สุขกาย สุขใจ สุขภาพแข็งแรงค่ะ