1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
1 สิงหาคม 2551
กว่าจะรักฯ (มอดินแดงบ้านเฮา) :17
ว่างเว้นไปจากการอัพบล็อกเสียนาน เพราะยุ่งเหลือเกิน นี่ก็ไม่ได้หายยุ่งเลย แต่คลายเครียดเสียหน่อย ด้วยการรำลึกความหลังครั้งยังวัยหวานซะหน่อย (ปัจจุบันเป็นวัยเบาหวาน) สังเกตได้ว่า เล่ามาเป็นก่ายเป็นกอง 16 ตอนเข้าไปแล้ว ยายนี่ยังไม่ขึ้นปี 2 สักกะที วนเวียนอยู่แค่นี้ กิจกรรมเยอะจริงๆ นะแม่คุณ (จิกกัดตัวเองเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวฮ่ะ) อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา คือกิจกรรมเชียร์ ... ซึ่งหลังจากแข่งกีฬาน้องใหม่เสร็จ ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายของห้องเชียร์แล้ว คือ สอนเพลง(ที่ดีๆ และที่น่าสะพรึงฯ)จนหมดไส้หมดพุงแล้ว น้องก็รู้จักและรักกันดีแล้ว (พร้อมๆ กับเกลียดพี่สต๊าฟว้ากกันครบหมดทุกคนแล้วว) ก็เตรียมปิดเชียร์ วิศวฯ จะปิดเชียร์ทั้งที จะดุ่ยๆ ปิดไปได้ยังไง มันต้องซาดิสต์เป็นการส่งท้าย ด้วยการพาน้องไปวิ่งแถวหน้ากระดานเรียง 10 ... จากหน้าคณะ อ้อมไปรอบๆ เขตการศึกษา (โชว์ strenght และเหล่หญิง) แล้วไปบึงสีฐาน ที่ทางเข้ามหาวิทยาลัย ฟังดูเหมือนง่าย แต่ชาวมข. จะรู้กันทั้งนั้นแหละว่า การวิ่งไปบึงสีฐานนี่ก็ประมาณ 4 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ขาไปอย่างเดียวด้วยนะ รวมกลับก็ 8 กิโลเมตรเหนาะๆ แล้วต้องสับขาวิ่งโดยพร้อมเพรียงกันอีกตะหาก (ตูจะบ้า) สองมือต้องยกขึ้นทำท่ากำหมัดเสมออกเตรียมวิ่ง จากนั้นก็สั่ง "น้องใหม่ น้องใหม่ ... วิ่ง" เราก็วิ่งตบขาซ้ายออกก่อน ตุบตับ ตุบตับ ไปบนถนนลาดยาง ฉันเป็นอะไรกับการวิ่งไม่รู้ (เราโดนซ่อมด้วยการวิ่งบ่อย) พอวิ่งไปได้สักร้อยเมตร จะเริ่มจุกแอ้ก ... บางทีก็ทนเอาจนหายจุก (เพราะวิ่งจนกล้ามเนื้อหน้าท้องชา) แต่หลังๆ เริ่มฉลาด ... ไม่เอาแล้ว พอจุกปั๊บ ... ฉันก็ยกมือ ... "พี่ค้า ... ปวดท้องค่า" พี่สต๊าฟผู้หญิงที่ขี่มอเตอร์ไซค์เคียงข้างก็จะรับขึ้นรถ "เป็นไรน้อง" ปวดท้องเมนส์ (มั่ง) กระเพาะ(มั่ง) ฯลฯ ... ปวดหัวมั่ง ไปเรื่อย ตามสถานการณ์ ก็อาศัยวิ่งบ้าง ซ้อนมอเตอร์ไซค์บ้าง สาวๆ บางคนก็กำลังวังชาดี ก็วิ่งเองตลอด 8 กิโลเมตรไปกลับ ส่วนสาวๆ อีกหลายคน แรกๆ ก็แรงดี (เหมือนฉัน) พอพี่สต๊าฟบอกให้วิ่งไปด้วย ร้องเพลงเชียร์คณะไปด้วย ... จุกเสวยไปเลย พี่ๆ จะหาเรื่องให้วิ่ง ให้หยุด ให้ร้องเพลง ให้วิ่งอ้อมไปอ้อมมา จากเริ่มตั้งแต่บ่ายสี่โมง ... ก็ให้เราวิ่งวนไปมาจนมืด ... ในที่สุดก็วิ่งกลับมาที่คณะ (คือที่จุดเริ่มต้น) พี่ๆ ก็จะพาน้องใหม่เข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง เพื่อเดินผ่านแถวพี่ๆ ที่คณะที่มาจุดเทียนสองข้างทางรอรับน้อง (ยุงได้กัดพี่ๆ เข้าให้บ้างทีนี้) พี่ๆ ก็จะร้องเพลงคณะรับอย่างขรึมขลังเลย "นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ล้วนองอาจพวกเราแสนภูมิใจ ............... " (จำเนื้อมะด้ายแร้นอ่ะนะ) บอกได้คำเดียวว่า ขนลุก ค่ะ ลุกทั้งๆ ที่เหงื่อชุ่มอ่ะแหละ (ก็เพิ่งวิ่งกลับมานี่ยะ) พวกเราจะได้เดินลอดป้ายคณะ ป้ายรูปเกียร์ครึ่งวงกลมจมดินอยู่ รัศมีประมาณ 1.5 เมตรอันสุดแสนคลาสสิค (ฉันมาเรียนที่นี่เพราะป้ายคณะ อย่าลืม คิคิ) จากนั้นเราก็เดินเข้าแถวไปเข้าห้องเชียร์ ... ประเพณีคือ เราจะบูมรับเกียร์ทีละคน จากพี่คณะ ด้วยการเดินขึ้นไปบูมรับเกียร์หน้าห้องเชียร์บนเวที (ก็บูมสุดยากที่เรียนมานั่นแหละ) ตามรหัสนักศึกษาตัวเอง เกียร์ที่ไปรับก็คือ เหรียญที่เป็นรูปเกียร์ขนาดประมาณเหรียญสิบบาท สำหรับน้องๆ ไว้ห้อยคออวดสาว(สำหรับน้องชาย) หรือบางรายก็ให้สาวไปซะงั้น พวกน้องใหม่อย่างเราก็เห่ออยากได้เกียร์มาห้อยคอเหมือนที่เห็นพี่ๆ ห้อยอย่างที่สุด ประดุจเครื่องรางของขลังเลย ดังนั้น เราต้องบูมให้พี่ๆ พอใจจึงจะผ่าน แล้วได้รับเกียร์ ถ้าไม่ผ่านก็บูมอยู่นั่นแหละ ไม่เลิก เนื้อเพลงบูมคือ Hey look out, we deavour dargon, we devour you. For we, are engineers, from K- K- U. En - Gi- N - E - E - R. Yeaaahhh! Engineer, HEY! เห็นไหมว่ามันยาก ไม่มีอะไรคล้องจองกันแถมยังบูมช้าเร็วไม่เท่ากันอีกตะหาก ด้วยความที่มันบูมยาก ฉันเลยจำฝังใจยันวันนี้เชียว ว่าแล้วถึงตายายกฤต (นามสมมุติ) ขึ้นไปบูม เธอเป็นสาวน้อยแสนเรียบร้อย เสียงแหลมเล็กแม้ในขณะที่พูด และตลอดเวลาที่เข้าเชียร์มาต้องร้องเพลงพร้อมกันเป็นหมู่คณะ เสียงยายกฤตจึงกลมกลืนหายไปในหมู่เสียงผู้ชายตลอดมา แต่วันนี้ ถึงคราวโชว์เดี่ยว ยายกฤตขึ้นไปบนเวทีด้วยความมั่นใจ แล้วสองมือวางบนเข่า ส่งเสียงบูมพร้อมโยกตัวขึ้นลงอย่างเข้มแข็ง เฮ้ยยยย .... ลู้กเอ้า วีดีเวาร์ดาร์กอน วีดีเวาร์ยู ฯลฯ ... เสียงยายกฤตแหลมปรี๊ดดดดด ทิ่มแทงแก้วหูพี่ๆ เพื่อนๆ ไปทั้งห้องเชียร์ ทุกคนอึ้ง ทึ่ง ตะลึง ... เหวอ ... เออ เสียงยายกฤตแน่เรอะ ภาพลักษณ์สาวน้อยแสนเรียบร้อยแตกกระจาย รุ่นพี่ที่ถือเกียร์อยู่ก็พลอยตาค้าง แล้วพอได้สติก็รีบสวมเกียร์ฉับเข้าให้ที่คอ ก่อนที่ยายกฤตตัดสินใจบูมรอบสองเอาเอง เสียงบูมรับเกียร์ของยายกฤตจึงเป็นตำนานเล่าขานในรุ่นฉันนับแต่นั้นมา
Create Date : 01 สิงหาคม 2551
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2554 20:04:45 น.
16 comments
Counter : 1417 Pageviews.
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:7:55:00 น.
โดย: น้ำเคียงดิน วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:10:56:19 น.
โดย: ดวงลดา วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:11:52:27 น.
โดย: ดวงลดา วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:14:12:25 น.
โดย: น้ำเคียงดิน*นู๋ฝน* IP: 125.26.182.214 วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:20:21:39 น.
โดย: ดวงลดา วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:8:44:09 น.
โดย: มิน (มินทิวา ) วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:6:33:47 น.
โดย: ดวงลดา วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:8:22:18 น.
โดย: ดวงลดา วันที่: 8 สิงหาคม 2551 เวลา:16:07:34 น.
โดย: gear 32 IP: 125.25.14.189 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:11:22 น.
โดย: ck_naka วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:23:35:40 น.
โดย: ing IP: 182.53.215.217 วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:22:05:46 น.
โดย: ดวงลดา วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:22:14:11 น.
ดวงลดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
" I simply know where my heart is " ================================= ข้อความและภาพถ่ายในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด ได้รับการสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ผู้ฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด =================================
หวัดดีค่ะคุณด้า
ทำไม๊..ความจำดีจังเลย
จำได้ละเอียดทุกเรื่องทุกราวเลยจริง ๆ
สมแล้วกับเรียนวิศวะอ่ะนะ..ฮ่า ๆ ๆ
มินสิ ตอนมหาลัยกลับไม่ค่อยมีเพื่อน
เพราะเป็นมหาลัยเปิด
แล้วมินก้อเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย
เพื่อน ๆ ที่สนิทมันก้อสอบติดกันไปหลายที่
ย้อนกลับไปคิดทีไร..โหย ช่วงนั้นชีวิต
มันเหนื่อยมากจริง ๆ ค่ะ