 |
 |
 |
 |
 |
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
| 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
| 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
| 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
| 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
| |
|
|
| 2 มีนาคม 2554 |
|
|
 |
|
|
|
|
|
| |
|
 |
 |
 |
 |
|
|
|
|
|
| |
แผนการลาคลอดของเรา สตอเบอร์รี่มาก ๆๆๆๆ
วางแผนการลาล่วงหน้า
ไม่รู้ว่ามีแม่ ๆ คนไหนเตรียมลาคลอดไว้แล้วหรือยัง สำหรับเรา เราเตรียมวางแผนล่วงหน้าไว้แล้ว แถมคนในแผนกเดียวกัน ที่ไม่ค่อยจะถูกกันก็ดันมาลาออกสิ้นเดือนมีนานี้อีก เราอ่ะ อย่างเซ็งเลย แถมกลัวจะลางานตามที่วางแผนไว้ไม่ได้ ต้องมาทำงานจนคลอดเอาสิ
เซ็งอย่างแรกคือ ตอนที่แม่นี่ยังไม่ท้อง แล้วยังไม่ลาออก แม่คนนี้เคยบอกกับเราว่า ขนาดช่วงที่เราลาตอนแรกที่มีภาวะแท้งคุกคาม เค้าเหนื่อยมาก งานเราเค้าก็ทำไมเป็น และถ้าเราลาคลอดจริง ๆ คงต้องเรียกเซลล์ หรือคนที่สาขามาทำแทนเรา เราก็เลยไม่ได้สอนงานเค้า เพราะไม่รู้จะทำยังไง ขนาดตอนเราลาพักหลังจากเจาะน้ำคร่ำ แม่คนนี้ยังพูดกับเราแบบนี้ เมื่อมีคนเอางานของเราจะให้เค้าทำ เค้าบอกเราว่า เค้าทำไม่ได้หรอก งานเค้าเยอะ เดี๋ยวจะต้องไปติดต่องานข้างนอกอีก บลาๆๆๆๆๆ
เซ็งอย่างที่สอง คือ พอวันจันทร์มาทำงาน แม่คนนี้ก็เที่ยวพูดกับคนทั้งแผนกว่าเธอท้อง และเธอจะลาออกสิ้นเดือนนี้แล้ว แต่ไม่มาบอกเรา เราเองก็ไม่สนใจเช้นกัน มีเรื่องก็คุย ไม่มีเรื่องก็คุย แต่การที่แม่คนนี้มาลาออกสิ้นเดือน ทำให้เราลำบากเลยหล่ะสิ
เพราะอะไรนะหรอ มันกระทบแผนการลางานของเราเข้าอย่างจัง เราวางแผนล่วงหน้าไว้ว่า เราจะขอลาหยุด กับลากิจช่วงวันที่ 4-12 เมษายน แล้วยื่นลาคลอด วันที่ 18 เมษายน ซึ่งหลังสงกรานต์พอดี แล้วพอใกล้ครบ 3 เดือนค่อยมาลากออก เพราะตั้งใจจะหางานใหม่ และเลี้ยงลูกให้ได้สัก 6 เดือน
พอเจออย่างนี้ เราเองเลยกังวลว่า แล้วแผนที่เราวางไว้จะลาได้ไหม เพราะก็ยังไม่รู้ว่า เค้าจะได้คนใหม่มาเมื่อไหร่ แต่ภาวนาว่า ขอให้ได้มาช้า ๆ นะ เราเองก็รีบเอาเรื่องนี้ไปบอกแฟน แฟนก็เลยบอกว่า ถ้าขอลาได้ ให้รีบเขียนขอลาหยุดไว้ล่วงหน้าเลย พอถึงเวลา บริษัทจะได้ไม่ว่าอะไร เพราะหัวหน้าอนุมัติให้ลาแล้ว แฟนเองก็ไม่อยากให้ลาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม เพราะอยากให้ได้เงินเดือนช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนเมษายนไว้ด้วย
เราก็เลยเขียนขอลากงาน อ้างว่าจะไปหาหมอก่อนในวันที่ 11/3/11 จริง ๆ หมอก็ไม่ได้นัดหรอ แต่อยากหยุด แล้วก็ขอลาพักร้อนวันที่ 8, 11, 12 เมษายน โดยเจ้านายมาเซ็นต์ใบลาแล้ว ต่อมา เราก็จะเขียนขอลากิจวันที่ 31/3/11 โดยอ้างว่า จะพาพ่อไปหาหมอ เพราะเจ้านายรู้อยู่แล้วว่า พอเราป่วยอยู่
เสร็จแล้ว พอพ้นวันที่ 11/3/11 เราก็จะเขียนลาไปหาหมอ อันนี้ไปหาจริง ๆ นะ เพราะวันที่หมอนัดตรวจจริง วันที่ 17/3/11 แล้วก็จะเขียนขอลากิจวันที่ 4, 5, 7/4/11 โดยอ้างว่าจะมีธุระกับทางบ้าน และย้ายที่อยู่อาศัย
หากเค้าถามรายละเอียดก็จะบอกว่า ของที่หอพัก สามารถย้าย และคืนของได้ หลังสิ้นเดือนมีนาคม เนื่องจากสัญญาค่าเช่า และค่าบริการ ต้องอยู่ให้ครบปี ซึ่งจะครบกำหนดปลายเดือนมีนาคม และบ้านที่จะย้ายเข้าไปใหม่ ฟอร์นิเจอร์ที่สั่งไว้ จะมาส่งช่วงนั้นพอดี เนื่องจาก ร้านที่สั่งไว้ ทำมาส่งก่อนไม่ทัน แหม ดูเป็นเรื่องเป็นราวเลยเนอะ สตอเบอร์รี่มากมาย
แล้ววันที่ไปพบหมอวันที่ 17/3/11 นั้น จะลองถามหมอดูว่า กำหนดคลอด จะคลอดได้ตามที่คุณหมอแจ้งหรือไม่ แล้วจะต้องเริ่มลาตั้งแต่วันไหน โดยจะอ้างว่า บริษัทให้ลาวันที่คลอด ไม่ให้ลาล่วงหน้า ถ้าจะลาต้องใช้ลาพักร้อนเอา แต่เราก็จะบอกคุณหมอนะว่า ใช้ลาพักร้อนกับลากิจช่วงวันที่ 4-12/11/11 ไว้ได้แค่นั้น ถ้าคุณหมอจะให้หยุดอีก จะขอให้หมอเขียนใบลาให้ ไม่รู้จะได้ไหม 555
แต่ยังไงหลังจากวันที่ 17/3/11 เราก็จะเขียนขอลาหยุดต่อ หากคุณหมอนัดช่วงปลายเดือนเราก็สบายไป แต่หากนัดช่วงวันที่ 21-25/3/11 ก็ค่อยว่ากัน แต่เราจะเขียนขอลาวันที่ 30/3/11 และ 1/4/11 ว่า ไปพบหมอ 555 โกหกอีกแล้วเรา ใครถามก็บอก หมอนัดบ่อย ใกล้คลอด แล้วเราก็จะเขียนขอลาคลอดไปเลย ลงวันที่ 18/4/11 16/7/11 ชัดเต็มที่ 90 วัน
ที่นี้ก็อยู่ที่หัวหน้าเราแล้ว ถ้าเซ็นต์ให้ครบก็โอเคไป แต่เจ้านายเราเค้าก็เซ็นต์ให้ง่ายอยู่แล้ว แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ใครมาว่าคงไม่ได้ ก็เราแจ้งเจ้านาย แล้วก็ได้รับอนุมัติมาเรียบร้อยแล้วนี่ จะบอกก็คงบอกแค่คนในแผนก ซึ่งก็มีเซลล์อยู่ 2 คน ว่าจะลากิจ และลาพักร้อนช่วงวันที่ 30/3/11 12/4/11 แค่นั้นแหละ
ใครเห็นเราลาแบบนี้คงคิดว่าเราใจร้ายกับแม่คนนั้น และบริษัท คงถามเราว่าทำไมไม่แจ้งบริษัท ไม่คุยว่าใครจะมาดูงาน เราไม่สนใจอะไรแล้ว เพราะแม่คนนั้นคงรู้ดีว่า เคยพูดอะไรกับเราเอาไว้ เราเองก็เฉย ๆ ใครมาทำงานของเราก็ไม่ต้องห่วง เราเขียนรายละเอียดไว้หมดแล้ว ทำเป็นวิธีการทำงานมีรูปภาพประกอบเลยทีเดียว 555
แล้วพอใกล้ ๆ ครบกำหนดที่เราลาคลอดไว้ หากฝ่ายบุคคลโทรมาสอบถามก็จะบอกว่า ไม่มีคนเลี้ยงลูก พ่อไม่สบายบ่อย บลาๆๆๆๆ อะไร ก็ว่าไป แล้วก็คงมีคนถามอีก ทำไม ไม่ลาออกตั้งแต่รู้ตัวว่าท้อง ก็แหม เงินเก็บก็มีน้อย ระหว่างท้องก็ต้องใช้เงิน ตอนคลอดก็ต้องใช้เงิน หลังลาคลอดก็ต้องใช้เงิน เพราะฉะนั้น ต้องงกเก็บเงินไว้ก่อน
แถมทนไปทนมา สิ้นปี โบนัสออกอีก ได้เงินมาพอสมควร แล้วถ้ายื่นลาคลอดหลังสงกรานต์ ก็ยังได้เงินเดือนเพิ่มอีกหากลาก่อนสงกรานต์ แล้วเราก็กะไว้ว่าพอครบวันลาคลอด และแจ้งบริษัทเรื่องลาออกแล้ว เรายังสามารถไปขึ้นทะเบียนที่ประกันสังคม รับเงินชดเชยได้อีก 3 ดือน ซึ่งก็น่าจะดีกว่า
หลายคนอาจมองว่าเราเห็นแก่ตัว ขอบอกว่าจริง เพราะก็ไม่รู้จะทำไง เราเห็นคนท้องที่นี่คนอื่น มีแต่คนถามให้ฝากงานไว้ แต่ของเราไม่ หรือเพราะแผนกเรามีธุรการแค่ 2 คนมั้ง แถมงานเราก็น้อยมาก ๆ จริง ๆ เสร็จก็คือเสร็จ ว่าง นั่งเล่นได้สบาย
แล้วว่าแต่ว่า แม่ ๆ คนอื่น ๆ วางแผนลาคลอดไว้อย่างไรบ้างคะ
| Create Date : 02 มีนาคม 2554 |
| Last Update : 2 มีนาคม 2554 14:20:11 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 5280 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: usagimom  วันที่: 2 มีนาคม 2554 เวลา:15:25:37 น. |
|
|
|
| โดย: appletuu วันที่: 3 มีนาคม 2554 เวลา:8:09:25 น. |
|
|
|
| โดย: กระแต IP: 110.169.32.135 วันที่: 22 พฤษภาคม 2554 เวลา:23:11:31 น. |
|
|
|
| โดย: appletuu วันที่: 29 พฤษภาคม 2554 เวลา:17:33:00 น. |
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
ยังงัยก้อเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีตามคาดค่ะ สู้ๆ ^.^