Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
26 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 

The Dark Knight Rises (2012) ...ขอพระเจ้าเมตตาผู้ใดก็ตามที่จะต้องมารีบู๊ตอัศวินรัตติกาลต่อจาก Nolan



The Dark Knight Rises เป็นหนังที่ดีมาก...แต่ยังไม่ดีเท่า The Dark Knight

นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่ควรกล่าวถึงอย่างรวดเร็วและตรงไปตรงมาที่สุดเพราะเชื่อว่ามีไม่น้อยคนเลยทีเดียวที่คาดหวังว่า The Dark Knight Rises จะเป็นหนังภาคสามที่สามารถยกระดับคุณภาพของตัวเองให้เหนือกว่า The Dark Knight จนเป็นจุดสูงสุดจุดใหม่ของไตรภาคนี้ไปพร้อมๆกับเป็นการปิดตำนานอัศวินรัตติกาลในแบบฉบับของผกก. Christopher Nolan ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่คนเราจะมีความคาดหวัง แต่ก็อย่างที่รู้ๆกันคือความคาดหวังที่มากไปนั่นไม่เคยส่งผลดีต่อใคร

เมื่อเอาข้อเท็จจริงข้อนั้นออกไปพ้นๆทางได้แล้ว ก็ต้องมาว่ากันต่อที่ตัวหนัง ซึ่งขอบอกได้เลยว่า The Dark Knight Rises คือหนังภาคที่มีสเกลเนื้อเรื่องที่ใหญ่ที่สุดในไตรภาค The Dark Knight (และกล้าพูดว่าใหญ่กว่าแม้กระทั่งหนังซูเปอร์ฮีโร่คู่แข่งประจำปีนี้อย่าง The Avengers)

เห็นได้ชัดว่าผกก. Nolan ต้องการปล่อยของทุกอย่างที่เขามีเพื่อให้ The Dark Knight Rises เป็นผลุไฟส่งลาลูกสุดท้ายที่ระเบิดได้ดังสนั่นหวั่นไหวกว่าทุกลูกที่เคยมีมาเพื่อสนองตอบคนดู ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ ถึงแม้ว่าด้วยสเกลหนังที่ใหญ่โตจะมาพร้อมกับความ“ล้น”ของเรื่องราวที่หลั่งไหลพรั่งพรูเป็นบางครั้งบางคราว ซึ่งนั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้และก็ไม่ได้หมายความว่า Nolan บกพร่องในหน้าที่ผู้กำกับของเขาแต่อย่างใดเพราะการคุมหนังสเกลใหญ่ขนาดนี้ให้ล้นได้เพียงแค่นี้นั้นก็ถือว่าเก่งโคตรๆแล้ว



ตัวบทของหนังบอกเล่าเรื่องราวของ Bruce Wayne/Batman และเมือง Gotham ที่ถูกทำลายย่อยยับ ถึงจุดตกต่ำอย่างถึงที่สุดก่อนจะค่อยๆบิวต์อารมณ์ผงาดไปจนถึงฉากแอ็คชั่นไคลแม็กซ์สุดตระการตาของหนังได้อย่างยอดเยี่ยม

การเล่นกับประเด็นศีลธรรม จรรณยาบรรณของตัวละครในหนังในแบบเดียวกับหนังสองภาคที่แล้ว(โดยเฉพาะในฉากเรือสองลำกับปุ่มระเบิดอันโด่งดังของ The Dark Knight) ยังคงมีให้เห็นใน The Dark Knight Rises และยังคงทำหน้าที่เป็นตัวชูรสให้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้น ถึงเครื่องความเป็นหนัง Nolan ได้เหมือนเคย

ฉากแอ็คชั่นทั้งสองฉากระหว่าง Batman กับ Bane คือฉากบู๊แบบหมัดต่อหมัดที่ดีที่สุดเท่าที่หนังไตรภาคนี้เลยมีมา ส่วนฉากแอ็คชั่นไคลแม็กซ์ตัดสินความเป็นความตายของ Gotham ฉากสุดท้ายของหนังที่ผกก. Nolan ขมวดทุกปมที่เขามีอยู่ในมือเข้าด้วยกันจนตึงเปรี๊ยะนั้นก็พีคไม่แพ้ไคลแม็กซ์ยับยั้งแผนการของ The Joker ใน The Dark Knight

ข้อด้อยที่เห็นได้ชัดที่สุดของ The Dark Knight Rises สำหรับตัวผู้เขียนแล้วจึงไม่ได้อยู่ที่ความล้นเป็นบางครั้งบางคราวของหนังหรือองค์ประกอบของหนังบางส่วนที่เป็นการจงใจดัดแปลงมาจากฉบับหนังสือการ์ตูนโดยตรง แต่เป็นในส่วนของตัวร้ายหลักของเรื่องอย่าง Bane

Bane เป็นตัวร้ายที่ประสบปัญหาเดียวกับตัวร้ายของ Batman Begins ทั้งสองตัวอย่าง Scarecrow และ Ra’s al Ghul คือเป็นตัวร้ายที่เปิดตัวมาได้น่าสนใจแต่ก็ค่อยๆแผ่วปลายจนถึงจุดที่ตัวหนังหาทางลงให้แบบห้วนๆง่ายๆจนน่าใจหาย ต่างจาก The Joker ใน The Dark Knight ที่คงความเป็นภัยธรรมชาติในคราบมนุษย์ได้เสมอต้นเสมอปลาย สุดท้ายแล้ว The Joker ของ Heath Ledger จึงยังคงครองตำแหน่งเป็นตัวร้ายที่ดีที่สุดเท่าที่หนัง Batman ภาคไหนๆเคยมีมาต่อไป



ในส่วนของการแสดง หลังจากโดน Heath Ledger ขโมยซีนไปเต็มๆใน The Dark Knight ... Christian Bale ก็กลับมามอบการแสดงที่ดีที่สุดของเขาในบท Bruce Wayne/Batman ใน The Dark Knight Rises ด้วยแรงหนุนของบทหนังภาคนี้ที่ทำให้เขาสามารถแสดงด้านที่ถูกทำลายยับเยินของ Bruce Wayne และการผงาดกลับมาเป็น Batman อีกครั้ง

Anne Hathaway มอบการแสดงสุดเซอร์ไพรส์ในบท Selina Klye/Catwoman (ที่ในเรื่องไม่ยักจะมีใครเรียกชื่อว่า Catwoman เลยแม้แต่ครั้งเดียว)ได้อย่างยอดเยี่ยม เจ้าเล่ห์ มีเสน่ห์เย้ายวน แต่ก็แอบแฝงความดีเอาไว้ลึกๆในแบบที่ตัวละครนางแมวป่าพึงเป็น ทำให้แม้แต่คนที่รักนางแมวป่าฉบับของ Michelle Pfeiffer ใน Batman Returns ที่สุดก็ยังต้องยอมรับว่านางแมงป่าฉบับของ Hathaway นั่นคือนางแมวป่าฉบับที่ดีที่สุดเท่าที่เคยปรากฏกายบนจอเงิน(มาคิดๆดูแล้วก็ตลกดีเหมือนกัน เพราะคราวที่แล้วผกก. Nolan ก็ทำเซอร์ไพรส์คนดูด้วยการแคสต์ไอ้หนุ่มอัศวินจาก A Knight’s Tale มาเล่นเป็น The Joker ได้อย่างยอดเยี่ยมมาแล้ว มาคราวนี้ยังจะแคสต์เจ้าหญิงจาก The Princess Diaries มาเป็น Catwoman ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกต่างหาก)

Joseph Gordon-Levitt ในบท John Blake คือนักแสดง/ตัวละครที่ส่วนตัวแล้วก่อนดูรู้สึกตะหงิดๆด้วยมากที่สุดเพราะความเป็นหน้าใหม่ต่อโลกแห่งอัศวินรัตติกาลของ Nolan แต่ Gordon-Levitt ก็ไม่ทำให้คนดูผิดหวังด้วยฝีมือการแสดงที่แข็งแรงและเสน่ห์แบบพระเอกคนดีที่ทำให้เขาเป็นนักแสดงที่ยืนหยัดท่ามกลางทีมนักแสดงชั้นยอดในหนังได้อย่างน่าจดจำ

และถึงแม้ว่าตัวละครของเขาจะยังเป็นตัวร้ายที่ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร แต่ Tom Hardy ในบท Bane (ที่ถ้าใครได้ดูการแสดงของเจ้าตัวในหนังอย่าง Bronson, Warrior มาก่อนก็คงจะไม่แปลกใจว่าทำไมเจ้าตัวถึงได้มารับบทนี้)ก็มอบการแสดงภายใต้หน้ากากแก๊สเหล็กผ่านสายตา,ภาษากาย,และน้ำเสียงได้อย่างน่าหวาดหวั่น

ส่วนนักแสดงสมทบที่เหลืออย่าง Michael Caine (ที่น่าเสียดายนิดๆที่ภาคนี้ตะแกมีบทนิดเดียว), Gary Oldman (ที่ถ้าว่ากันตรงๆแล้วยังคงเป็นนักแสดงที่มอบการแสดงที่ดีที่สุดในไตรภาคนี้),และ Marion Cotillard ต่างก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้อย่างไม่มีที่ติ



สรุป...คงเป็นการเหมาะที่จะย้ำอีกสักครั้งหนึ่งว่า The Dark Knight Rises เป็นหนังที่ดีมาก แม้ว่าจะยังดีไม่เท่า The Dark Knight ก็ตาม

แต่ก็เชื่อเถอะว่าหนังเรื่องนี้มีดีพอที่แม้แต่กับคนที่ผิดหวังว่ามันยังไม่ดีเท่า The Dark Knight ก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าตัวเอง“ผิดหวัง”

ในแง่ของเนื้อเรื่องแล้ว The Dark Knight Rises เป็นหนังที่ปิดฉากไตรภาค The Dark Knight ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกปมถูกคลี่คลายและการทำให้ตอนจบของหนังแลดูเหมือนกับเป็นเงาสะท้อนของ Batman Begins เองก็เป็นการสรุปรวบยอดไตรภาคนี้ได้อย่างสวยงาม(ใครที่ได้ดูแล้วคงจะเข้าใจ)






8.5/10




 

Create Date : 26 กรกฎาคม 2555
1 comments
Last Update : 26 กรกฎาคม 2555 10:38:08 น.
Counter : 11076 Pageviews.

 

เป็นหนังในดวงใจผมเลยครับเรื่องนี้
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=07-2012&date=21&group=2&gblog=342

 

โดย: คนขับช้า 20 สิงหาคม 2555 13:45:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Apple101
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add Apple101's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.