คู่เห่ยตะลุยคันไซ: อปอช.และหมีเยือนวัดคิโยมิสึ清水寺
17.03.2009
ตอนนี้หมีน้อยกลอยใจเชี่ยวชาญระบบรถเมล์เกียวโตแล้วอป.เลยถือโอกาสเกาะหาง สองคู่เห่ยจับรถเมล์ตอนบ่ายๆมุ่งหน้าไปวัดพระแก้วเวอร์ชั่นเกียวโต คือคิโยมิสึเดระนี่เอง พอขึ้นรถเมล์ก็รู้ทันทีว่านักท่องเที่ยวทุกคนมุ่งหน้าไปที่เดียวกันหมดไม่ต้องกลัวหลง
วันนี้อากาศเริ่มร้อนแล้วคู่เห่ยเตรียมเสื้อกันหนาวอย่างหนามา(ไปติดอยู่อลาสก้าก็คงรอดตาย)เลยต้องถอดมาถือไว้ ถนนขึ้นไปวัดต้องเดินขึ้นเนินจนหอบแฮ่ก ระหว่างทางก็มีไอติมหลายร้านล่อตาล่อใจอป.มาก แต่คุณหมีบอกว่าให้เก็บไว้กินทีหลัง (ชั้นเป็นอะไรกับไอติมเนี่ย) ระหว่างทางก็แวะพักเข้าห้องน้ำและสำรวจร้านไอติม ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงปี่แตรแห่มังกรขึ้นวัด คู่เห่ยรีบวิ่งตามไปดูทันที ได้เห็นการเชิดมังกรญี่ปุ่นเป็นบุญตา
สงสัยเพราะวันนี้เป็นเทศกาลพิเศษด้วยคนเลยแน่นวัดไปหมดหามุมถ่ายรูปแบบไม่มีหัวคนบังได้ยาก ก่อนเข้าไปในวัดพวกเราก็ตักน้ำล้างมือแต่ไม่กล้าเอามาล้างปากอย่างที่เห็นชาวญี่ปุ่นบางคนทำ
ด้านในวันคิโยมิสึก็มีศาลเจ้า...ง่า...ชื่ออะไรซักอย่าง(หมีตอบในคอมเม้นต์ด้วยเน้อ)ที่ขึ้นชื่อเรื่องขอพรแล้วสมหวังในความรัก ฮั่นแน่ ฮัดช่า อป.รีบรุดไปกราบไหว้เพื่อความสิริมงคลอย่างไม่รอช้า เทพเจ้าของศาลนี้เป็นท่านกระต่าย บ่อน้ำล้างมือก็เท่มีที่ตักเขียนตัวคันจิเป็นพรต่างๆให้เลือกได้ตามใจชอบ แน่นอนดิชั้นเลือกอันที่เขียนว่าเลิฟเลิฟเค่อะ
ในศาลเจ้านี้ยังมีป้ายปิดประกาศจดหมายจากทั่วสารทิศในญี่ปุ่นที่คนมาขอพรแล้วสมหวังได้แต่งงานได้แฟนหล่อเขียนมาขอบคุณท่านกระต่าย อป.ตัดใจซื้อเครื่องรางเลิฟเลิฟมาหนึ่งอัน ปัจจุบันกำลังรอให้เทพกระต่ายมาโปรดอยู่... เดินออกมาด้านนอกมีก้อนหินสองก้อนที่ร่ำลือกันว่าถ้าปิดตาเดินจากหินก้อนนึงมาถึงอีกก้อนนึงได้ก็จะไม่พลัดพรากจากคนรัก ดิชั้นก็เปิดตาเดินแปะหินซะดื้อๆอย่างนั้นแหล่ะค่ะ โฮะๆๆ
ถึงเวลาออกจากวัดทั้งหมีและอป.ก็แบกสังขารอันเหนื่อยล้าเดินกลับ...ระหว่างทางเห็นโรงเตี๊ยมขายเหล้าสาเก...หุๆ ให้ดูภาพเอาเอง
ขาเดินลงในที่สุดอป.ก็ได้กินไอติมงาดำที่อร่อยที่สุดในปฐพี เก็บกระดาษห่อโคนมาเป็นที่ระลึกด้วย โอ้วว...อยากกลับไปกินอีกที่สุด
แล้วจะจะอัพตอนต่อไปตามคุณหมีนะคะ
Create Date : 12 พฤษภาคม 2552 |
|
32 comments |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2552 15:14:02 น. |
Counter : 1985 Pageviews. |
|
|
|
คิโยมิสุเดระสวยเนอะคะ อยากไปเที่ยวอีกจัง