|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
วิเคราะห์มะละกอ GMO ตอนที่ 2 concept ในการสร้างมะละกอ GMO
b. ตอนที่ 2 concept ในการสร้างมะละกอ GMO
1. มาทำความเข้าใจโรคไวรัสจุดวงแหวน
โรคไวรัสจุดวงแหวน = Papaya ringspot virus (PRSV) อยู่ใน genus potyvirus ใน Potyviridae family เป็นไวรัสสายเดี่ยวที่มีขั้วเป็นบวก (single stranded RNA of positive polarity)
PRSV มี 2 types คือ type P (PRSV-P) และ type W (PRSV-W) ซึ่งทั้ง 2 types แยกจากกันไม่ออกโดยการใช้ immunological method แต่แยกจากกันโดยยึดหลักดูที่พืชอาศัย (host range)
:- โดย PRSV-P มีพืชอาศัยเป็นมะละกอกับพืชตระกูลแตงบางชนิด
:- โดย PRSV-W มีพืชอาศัยเฉพาะพืชตระกูลแตงเท่านั้น
ที่สำคัญมนุษย์ไม่ใช่ host ของ PRSV ทั้ง 2 types
ปัจจุบัน complete nucleotide sequence ทั้ง PRSV-P และ PRSV-W จากทั่วโลกอยู่ใน GenBank และค่อนข้างจะเป็น conserve sequence
เขียน genome PRSV ง่ายๆ เป็นดังนี้
VPg -5' UTR- P1 - HC-Pro - P3 -K1 - CI - K2 - NIa - NIb - CP - 3' UTR
โรคไวรัสจุดวงแหวนจะ transmit จากต้นหนึ่งไปต้นหนึ่งโดยแมลงปากดูดน้ำเลี้ยง โดยเฉพาะเพลี้ยแทบทุกชนิด
โรคไวรัสจุดวงแหวนจะเข้าทำลายทุกขั้นตอนของการเจริญเติบโตของมะละกอ อาการที่เห็นได้ชัด จะเห็นที่ใบจะหงิกงอ (mottling) มีสีเหลืองที่เส้น vein ของใบอ่อน (yellowing and vien-clearing) หากดูที่ผลจะพบลักษณะวงแหวนที่เปลือก ทำให้ผลไม่เจริญเติบโต และทำให้ต้นแคระแกรน ไม่ได้ผลผลิต
2. concept ในการสร้างมะละกอ GMO
ในบรรดาพืชดัดแปรพันธุกรรม ที่นักปรับปรุงพันธุ์พืชไม่อาจจะหายีนที่ต้านทานต่อโรคนั้นๆ ได้จากการทำการผสมเกสร (gene pool) และหวังว่าจะสร้างพืชที่ต้านทานต่อโรคของพืชชนิดนั้นๆ ต้องยกความดีและความคิดที่ล้ำหน้าตั้งแต่ปีคศ.1985 โดย Sanford and Jonhson ได้ตั้ง parasite-derived resistance (PDR) concept ไว้ว่า
" pathogen genes or sequences, when expressed by a host organism, could confer the resistance againt that pathogen"
ตรงกับสำนวนภาษาไทยที่ว่า " หนามยอกให้เอาหนามบ่ง"
และในปี 1990 เป็นครั้งแรกที่ใช้ PDR concept ได้มะกอดัดแปรพันธุกรรม ที่มี CP (coat protein) sequence อยู่ในมะละกอดัดแปรพันธุกรรม และต่อมาได้มีนักวิจัยจากหลายกลุ่มสร้างมะละกอดัดแปรพันธุกรรมจากการใช้ CP ที่ isolate ต่อพื้นที่นั้นๆ (same geographical region)
โดยมีข้อสรุปว่ามะละกอ GMO ที่สร้างขึ้นจะต้านทานเฉพาะ PRSV isolate นั้นๆ เท่านั้น (ตัวอย่าง มะละกอ GMO ที่ใช้ CP gene จาก PRSV Hawaii isolate จะต้านทานโรคไวรัสจุดวงแหวนเฉพาะ PRSV Hawaii isolate เท่านั้นแต่จะไม่ต้านทาน PRSV Thai isolate เป็นต้น)
ในเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ได้สร้างมะละกอดัดแปรพันธุกรรม โดยใช้ CP gene ของ PRSV Thai isolate (Ratchaburi isolate) แล้วตรวจสอบการต้านทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนในมะละกอ GMO ได้หรือไม่อย่างไร (ในรุ่น R0) และสามารถถ่ายทอดลักษณะการต้านทานต่อโรคไวรัสจุดวงแหวนตามกฏของเมนเดลหรือไม่ในรุ่น R1 และ R2
3. เคล็ดไม่ลับการตัดต่อยีน
ผมชอบจังคำว่า "ตัดต่อยีน" ความหมายมันตรงตัวมากเลยครับ
มันต้อง ตัด......เสียก่อน.....แล้วก็ ......ต่อ
ตัดต่ออะไร? คำตอบคือ ตัดต่อ nucleotide sequence (มันคือ DNA นั่นเอง และไม่ใช่ sequence ธรรมดา แต่จะต้องเป็น sequence ที่ function ได้ด้วย) ที่ต้องสามารถ transcription เป็น RNA sequence และจะต้องถูก translation เป็น protein ที่ทำหน้าที่ได้ตรงตามรหัสที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วอีกด้วย (มีการ expression) ตามนี้
DNA-------> RNA-----> Protein
เพราะฉะนั้นเพื่อทำให้ nucleotide sequence ที่เราจะใช้ให้ expression ได้ ก็ต้องเติม sequence หัวท้าย
promoter..........target gene...... terminator = gene cassette
พอเอาไปแทรกในสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่ใช่การตัดแล้วต่อมั่วๆ มันต้องตัดแบบเฉพาะเจาะจง แล้วไปต่อที่เฉพาะเจาะจงอีกต่างหาก โดยตัดแล้วต่อที่ nucleotide sequence ของเจ้าบ้านแบบ in-frame เพื่อให้ขบวนการ expression ของเจ้าบ้าน กับ target gene cassette ที่เราเอาไปใส่ได้ expression เป็นอิสระจากกันและเป็นการ expression ได้ด้วยตนเองอีกด้วย.............
หมายความว่า การได้ product expression ของเจ้าบ้านยังคงปกติเหมือนเดิม เพียงแต่มี product เป้าหมายที่นักพันธุวิศวกรรมต้องการออกมาเพิ่มเติมนั้นเอง
4. มีปัญหาแล้ว....จะเอา gene cassette เข้าไปยังพืชอย่างไรที่นี้
กว้างๆ นะครับ เดียวไม่ถึง มะละกอ GMO สักที
1. อาศัย Agrobacterium เลียนแบบการทำให้เกิดปุ่มปมของแบคทีเรียชนิดนี้ (ไม่ลงรายละเอียดนะครับ)
2. ยิงกราดโดยใช้ particle gun bombardment (ไม่ลงรายละเอียดหละกัน)
5. มาดู binary vector pSA1006 ที่คณะวิจัยใช้ (ดูเอกสารอ้างอิง 1 Fig.1)
สรุปมี 3 cassette ที่เรียงต่อกัน นะครับ
1. NPTII cassette ใช้เป็น selectable marker (kanamycin resistant gene) เป็นส่วนที่ NGO โจมตีที่สุด ว่าการใช้ antibiotic resistance gene หากคนกิน สัตว์เล็ก สัตว์น้อยกินแล้วจะทำให้ร่างกายชาชินต่อยาปฏิชีวนะ (ตลกป่าวครับ)
2. CP cassette เป็น target gene ที่ได้จาก PRSV Ratchaburi isolate
3. GUS (uidA) cassette เป็น screenable marker สำหรับ check transfomation ว่าสำเร็จหรือป่าว
ผู้วิจัยเลือกใช้วิธี ยิงกราดโดยใช้ particle gun bombardment ในการสร้างมะละกอ GMO ในขั้นตอน somatic embryogeenesis calli ในมะละกอแขกดำ
จบตอน b
Create Date : 24 กันยายน 2550 |
|
17 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2550 16:49:13 น. |
Counter : 2314 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: พ่อหมี (pohmie ) 28 กันยายน 2550 22:48:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: บ้านค่าย IP: 202.57.155.137 8 ตุลาคม 2550 13:39:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: พ่อข้าวปั้น (takechio ) 8 ตุลาคม 2550 21:49:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไม่รู้หนูไม่ได้ทำ IP: 124.120.67.97 28 ตุลาคม 2550 19:11:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: nuch (krisorchid ) 12 ธันวาคม 2550 0:46:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: p'cy IP: 125.27.166.174 27 มกราคม 2551 17:33:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ankown IP: 202.28.27.3 31 มกราคม 2551 14:10:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธเนศร์ มีพริ้ง IP: 118.173.116.54 26 พฤษภาคม 2551 18:41:18 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]
|
ไม่เคยชอบกล้วยไม้มาก่อนเลย แต่หน้าที่การงานเข้าไปเกี่ยวข้องกับกล้วยไม้....เลยสนใจบ้าง แล้วมาจับกล้วยไม้สกุล Phalaenopsis เลยชอบ และได้ทำการสะสมพันธุ์แท้เพื่อทำ DNA fingerprint โดยขณะนี้ เริ่มสะสมกล้วยไม้ดินบางชนิดเพื่อการปรับปรุงพันธุ์กล้วยไม้ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในแง่ การปลูกเลี้ยงที่ง่ายขึ้น มีสีสรรแปลกใหม่ไปกว่าเดิมและอื่นๆ
ชอบการท่องเที่ยวเดินทางและการถ่ายภาพ
|
|
|
|
|
|
|
|