ไม้ประดับดูดสารพิษ

               ก่อนอื่นผมต้องขอบคุณคุณอดิศร แก้วบูชา ( CEO Dataone Asia ) ที่ได้ให้หนังสือ "ไม้ประดับดูดสารพิษ " ซึ่งทำให้ผม มนุษย์คนทำงานในตึกสูงเข้าใจเรื่องสารพิษในสำนักงานมากขึ้น เฟอร์นิเจอร์ทันสมัยและอุปกรณ์สำนักงานเช่น เครื่องคอมพิวเตอร๋ พริ้นเตอร์ และ เครื่องถ่ายเอกสาร ฯลฯ ทั้งหลายเหล่านี้ได้แฝงซึ่งอันตรายจากการที่เราต้องสัมผัสกับสารพิษที่ปล่อยออกมาที่ละเล็กละน้อยจากอุปกรณ์เหล่านั้น ตัวอย่างเช่น สารพิษหลัก ชื่อว่า"สารฟอร์มัลดีไฮด์" ซึ่งจะมีอยู่ในตัวตึกหรืออาคารที่สร้างใหม่ หรือบ้านที่ใช้เฟอร์นิเจอร์ ไม้อัด บอร์ด สี พลาสติค รวมไปถึงสารพิษในเนื้อปูน ซึ่งจะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เซื่องซึม ภูมิแพ้ หืด ผื่นคันตามผิวหนังระคายเคืองตา คอ จมูก ไซนัส จนถึงอาการทางประสาทที่ผิดปกติ

                และผมได้ค้นเนื้อหานี้ใน Internet และพบว่า เมื่อปี 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัส เกี่ยวกับคาร์บอนไดออกไซด์ กับปรากฏการณ์เรือนกระจก และดำริให้มีการวิจัย ว่าตันไม้ชนิดใดบ้างที่ สามารถ ลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ในอากาศลงได้ ดังนั้นทีมผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงตั้งชุดทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาโดย มี ดร.พูนพิภพ เกษมทรัพย์ อาจารย์ประจำ ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหัวหน้าชุดทำงาน จากการวิจัยของทีมดร.พูนพิภพ พบว่าไม้ประดับที่สามารถช่วยลดปริมาณ คาร์บอนไดออกไซด์ ในอากาศได้ปริมาณสูง แบ่งตามประเภทของต้นไม้คือ

• ประเภทไม้ดอก ได้แก่ ดาวเรือง ยี่โถ เวอร์บีนา แพงพวยฝรั่ง


• ประเภทไม้ประดับ ได้แก่ ตีนตุ๊กแก เทียนทอง เกล็ดแก้ว มะขามเทศด่าง ประเภทผัก ผลไม้ ได้แก่ ผักบุ้งจีน คะน้า กระเจี๊ยบเขียว


• ประเภทไม้ยืนต้น ได้แก่ เสม็ดแดง มะเกลือ ราชพฤกษ์ พญาสัตบรรณ ชงโค ถ้าจะปลูกต้นไม้เพิ่ม หาต้นไม้ดูดสารพิษมาปลูกไว้บ้าง อากาศรอบบ้านจะดี

                  ดร.บี ซี วูฟเวอร์ตัน (Dr. B.C. Wolverton) นักวิจัย แห่งสถาบันวิจัยอวกาศนาซ่า สหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยมาเป็นเวลากว่า 25 ปี จนค้นพบความสามารถ และประสิทธิภาพของไม้ประดับในการกำจัดสารพิษหรือมลภาวะในอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และผลการวิจัยนี้ก็ได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลกได้มีการวิจัยต่อเนื่องเพื่อหาวิธีช่วยลดและกำจัดสารพิษจากวัสดุใน อาคารที่อยู่ดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และประหยัด ก็คือ การใช้ไม้ประดับที่มีคุณสมบัติในการดูดสารพิษซึ่งขณะนี้มีจำนวนถึง 50 ชนิดด้วยกันคือ

1.หมากเหลือง  2. จั๋ง 3. ปาล์มไผ่ 4. ยางอินเดีย 5. Dracaena "Janet Craig" 6. ไอวี่ 7. สิบสองปันนา 8. ไทรใบเล็ก 9. เฟิร์นบอสตัน 10. เดหลี 11. วาสนาอธิษฐาน 12. พลูด่าง 13. สับปะรดสี 14. เบญจมาศ 15. เยอร์บีรา 16. ประกายเงิน 17. เข็มริมแดง 18. มรกตแดง 19. ออมทอง 20. สาวน้อยประแป้ง 21. ปาล์มไผ่ 22. ไทรย้อยใบแหลม 23. หนวดปลาหมึก 24. กุหลาบหิน 25. ฟิโลเซลลอม

26. ฟิโลใบหัวใจ 27. ลิ้นมังกร 28. สโนว์ดร็อป 29. ฟิโลหูช้าง 30. สนฉัตร 31. เสน่ห์จันทร์แดง 32. แววมยุรา 33. กล้วยแคระ 34. คริสต์มาส 35. ว่านหางจระเข้ 36. ซุ้มกระต่าย 37. กล้วยไม้สกุลหวาย 38. เศรษฐีเรือนใน 39. เขียวหมื่นปี 40. ดอกหน้าวัว 41.โกสน (Croton) 42. คริสตมาส (poinsettia) 43.Dwarf Azalea 44. Pracock Plant 45. หางจระเข้ 46.Cyclamen 47.สับปะรดสี 48.ทิวลิป 49.กล้วยไม้ผีเสื้อราตรี 50.กุหลาบหิน

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2552		0 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 19:11:37 น.
Counter : 1929 Pageviews.
Share Tweet