ฉันกำลังทำงานใน Law firm (1)
ไม่ได้อัพบล็อกเสียตั้งนาน เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาซักเท่าไหร่ เนื่องจากตอนนี้เข้าสู่วัยทำงานแล้ว ต้องใช้เวลาในการปรับตัว

คิดไปแล้วก็เร็วเหมือนกันนะเนี่ย จำได้ว่าตอนเปิดบล็อกนี้มาใหม่ๆ ยังโอดครวญเรื่องสอบเข้ามหา’ลัย อยู่เลย

ตอนนี้เรียนจบ จนทำงานแล้ว อยู่ดีๆ ก็นึกอยากเล่า อยากระบาย เรื่องการทำงานของตัวเองให้คนอื่นได้อ่านกันบ้าง

ตอนนี้ฉันกำลังทำงานใน Law firm ขนาดเล็กที่ดูแลงานเฉพาะด้าน Corporate แห่งหนึ่งในย่านสาทร เป็น Law firm สัญชาติเยอรมัน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป

ก่อนอื่นก็ขอเล่า ณ ตอนช่วงที่เริ่มร่อนใบสมัครหางานก่อนละกันนะ

ปลายเดือนมีนาคม ของปีนี้ ฉันเพิ่งสอบวิชาสุดท้ายของชีวิตนักศึกษามหา’ลัย และรอผลสอบออกจนครบประมาณกลางเดือน พฤษภาคม

ช่วงระหว่างรอผลสอบฉันค่อนข้างตื่นเต้นและกังวลอย่างมาก เพราะกลัวสอบตก หากสอบตกฉันต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบแก้ตัวใหม่ และถ้าสอบแก้ตัวไม่ผ่าน ก็เรียนไม่จบ 4 ปี ช่วงระหว่างที่รอ ฉันไม่อยากอยู่แบบว่างๆ เพราะฉันจะฟุ้งซ่านมาก เลยลงคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่นเร่งรัดไปพลางๆ จนกระทั่งผลสอบออกครบว่าผ่าน ฉันดีใจแบบสุดๆ เพราะการเรียนจบเป็นสัญญาณว่า ได้เวลา ก้าวไปอีกหนึ่งขั้นแล้ว

ซึ่งฉันได้วางแผนไว้แล้วล่ะ ว่า ฉันจะหางานทำทันที เพราะอยากได้ประสบการณ์และมีเงินเป็นของตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่อีกต่อไป

ฉันก็รีบไปติดต่อสำนักทะเบียนเพื่อขอทรานสคริปเพื่อมาสมัครงาน จากนั้นก็บรรจงสร้างรีซูเม่ขึ้นมา พร้อมไปสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (Toeic) เอามาประดับรีซูเม่ซะหน่อย

ด้วยความที่ฉันเรียนจบกฎหมายมา เป้าหมายหลักจึงเป็น Law Firm เพราะอยากทำงานทางด้าน Consult เป็นพิเศษ

ฉันได้เข้าไปดู ในเว็บ Legal500 ซึ่งเป็นเว็บที่รวบรวมรายชื่อ Law firm จากทั่วโลกและมีการจัดอันดับในแต่ละด้านเอาไว้

จากนั้นฉันก็ทำลิสต์ของฉันเองขึ้นมาว่าฉันจะสมัคร Law firm ไหนแล้วส่ง Resume ไปทางอีเมล์ของ Law firm นั้น ซึ่งหาได้จากในเว็บของ Law firm นั้นๆ จากนั้นก็รอเขาเรียนสัมภาษณ์

นอกจากนี้ฉันก็หางานตามเว็บประกาศทั่วไปอย่าง Jobtopgun และ Jobdb เผื่อจะมีงานไหนที่ฉันสนใจบ้าง แล้วฉันก็ส่ง Resume ไป

ผลหลังจากการที่ฉันส่ง Resume ไปนั้นคือ เงียบมากกกกกกก ไม่มีบริษัทไหนโทรมาเรียกสัมภาษณ์เลยประมาณครึ่งเดือน บอกเลยว่าเครียดมาก เหมือนเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกจากรอให้เขาติดต่อมา

ช่วงที่รอก็เข้าเรียนเนติไป แต่บอกเลยว่าไม่มีความคิดอยากจะเรียนเนติสักนิดเนื่องจากไม่ได้อยากเป็น ผู้พิพากษา อัยการอะไร และบรรยากาศที่นั่นฉันก็ไม่ชอบเอาเสียเลย แต่ที่อยากไปเรียนเนื่องจากไม่อยากอยู่แบบว่างๆ

ผ่านมาได้เกือบเดือนก็มีบริษัทติดต่อมาบ้าง แต่เป็นบริษัทที่ฉันไม่รู้จัก ติดต่อให้มาทำ HR ซึ่งฉันก็ได้ปฏิเสธไป

จากนั้นก็มีบริษัท 1 ใน BIG4โทรมา บอกเลยว่าตื่นเต้นและตกใจมากกกกกกกกกก แต่ประมาณโทรมาถามว่าสนใจงานส่วนนี้มั้ยเท่านั้น ไม่ได้เรียกให้ไปสัมภาษณ์แต่อย่าง แล้วก็หายไปเลย มาให้ดีใจเล่นๆ

จากนั้นก็มี Law firm ขนาดเล็กมากๆ ติดต่อให้ไปทำ Visa work-permit ก็ปฏิเสธไปอีกเช่นเคย

จนกระทั่งวันหนึ่ง มีโทรศัพท์โทรมาจาก Law firm แห่งหนึ่งนั่นคือบริษัทที่เราทำอยู่ตอนนี้นี่เอง โทรมาขอสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษแบบตอนนั้นเลย ไม่ได้ให้ตั้งตัวแต่อย่างใด แล้วแบบตื่นเต้นมากให้แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ ไอ้เราก็พูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เค้าก็ยิงคำถามกลับมาบ้าง ยังดีที่พอฟังออก ก็ตอบกลับไปแบบตะกุกตะกัก หลังจากวางสายไป คิดในใจไม่ผ่านชัวร์

แต่แล้วตอนเย็นบริษัทนี้ก็โทรกลับมาบอกว่าให้เข้ามาสัมภาษณ์อีกรอบนึงกับ Partner
บอกเลยดีใจแบบสุดขีดดดดด

ตื่นเต้นมากๆ
แต่ก็พยายามตั้งสติและคิดว่าเราควรทำอะไรต่อไป ซึ่งนั่นคือการเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์

ซึ่งฉันพยายามหาข้อมูลของบริษัทนี้ให้มากที่สุด และพบว่าเขาทำงานด้าน corporate ซึ่งเกี่ยวกับกฎหมายหุ้นส่วน บริษัท

ฉันก็คิดแล้วว่าเขาน่าจะถามกฎหมายด้านนี้ ฉันจึงตั้งหน้าตั้งตาอ่านและทำความเข้าใจให้มากที่สุด และพยายามคิดว่าเขาจะถามอะไร

เมื่อถึงวันสอบสัมภาษณ์ ฉันพบว่ามี Candidate 4 คนด้วยกัน
จบใหม่ 2 มีประสบการณ์แล้ว 2
ตอนแรกนึกว่าจะให้เข้าไปสัมภาษณ์ทีละคน แต่สุดท้าย เรียกเข้าไปหมดเลย และถามทีเดียว

และสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่ผิด ถามกฎหมายบริษัทจริงๆด้วย โชคดีมากที่อ่านมา
ฉันสามารถตอบได้หมดเลย เพราะคำถามไม่ซับซ้อนมาก หาได้จากประมวลกฎหมาย ในขณะที่ 3 คนที่เหลือตอบผิดซะส่วนมาก

หลังจากสัมภาษณ์ความมั่นใจฉันมาแบบเปี่ยมล้น และรอคอยว่าจะผ่านหรือไม่
และสุดท้ายเค้าก็รับฉันเข้าทำงาน ด้วยเงินเดือนที่ไม่ได้สูงมากนัก แต่สามารถอยู่ได้
เพราะด้วยคุณสมบัติของฉันแล้ว ฉันว่าเงินที่ฉันได้มันเพียงพอแล้ว เนื่องจากฉันไม่เคยทำงานมาก่อนและ ตั๋วทนายก็ไม่มี เกรดก็ไม่สูง ดีแค่ไหนแล้วที่เขารับฉันเข้าทำงาน
ฉันตั้งตารอคอยวันที่จะได้เริ่มงานวันแรก และมุ่งมั่นว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่

วันนี้ขอจบเพียงแค่นี้ก่อน
ตอนหน้าค่อยเล่าเรื่องการทำงานของฉันบอกเลย ดราม่า สุดๆ



Create Date : 21 ธันวาคม 2557
Last Update : 21 ธันวาคม 2557 22:49:45 น.
Counter : 3889 Pageviews.

1 comments
  
ไม่ได้เห็นน้องเอวาเขียนบล๊อกนานมาก เรียนจบแล้ว ได้งานแล้ว ยินดีด้วยครับ ตอนนี้ชีวิตก็ก้าวไปอีกขั้นละนะ สู้ๆ ครับ
โดย: DarthTrowa วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:20:50:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เอวาเจลีน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ธันวาคม 2557

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31