การเรียนคอร์สธรรมดานั้นต้องเรียนถึง 4 คอร์สถึงจะจบหนึ่งเล่มได้และกินเวลานานมาก ตอนเรียนเล่มหนึ่งนั้น ใช้เวลาเกือบปีแต่ไม่ได้เรียนแบบคอร์สต่อคอร์สนะ มีพักไปบ้างประมาณ 1 เดือนระหว่างที่จบแต่ละคอร์ส เราจึงสนใจที่จะเรียนเร่งรัดมาโดยตลอด เพราะอยากเก่งญี่ปุ่นเร็วๆ

และ ณ อยู่ในตอนนี้ปิดเทอมยาวรอผลสอบ เตรียมหางานทำแบบนี้ เวลาว่างจึงเยอะนอกจาก ฝึกภาษาอังกฤษแล้วก็อยากฝึกภาษาญี่ปุ่นด้วย เลยลงแบบเรียนเร่งรัดไปเลย เรียนทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ วันละ4 ชั่วโมง เรียน 1 คอร์ส จบหนังสือมินนะ 1 เล่มกินเวลาประมาณเดือนครึ่งเท่านั้น

ตอนนี้ก็เริ่มเรียนเร่งรัดมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ มีนักเรียนแค่ 9 คนเอง สบายมากชิลสุดๆ ได้ฝึกพูด ฝึกตอบคำถามเยอะ อยากถามอาจารย์ก็ถามได้เลย สบายๆ

ข้อดีของการเรียนเร่งรัดคือไปเร็วไปไว เรียน 1 บท ใช้เวลา 8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจังอาจจะเพื่อใช้ทำงาน ใช้เรียนต่อ หรือเพื่อโอกาสอื่นใดที่จำเป็นต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นแต่เรายังไม่มีโครงการใดๆ เรียนภาษาญี่ปุ่นเร่งรัดเพราะ รัก และมีเวลาว่างเยอะเท่านั้นเอง

แถมอีกอย่างจบคอร์สเร่งรัดแต่ละคอร์สของที่นี่ได้ประกาศนียบัตรไว้เชยชมด้วยนะจ๊ะ

นอกจากนี้จบคอร์สเร่งรัดคอร์สที่2 (จบมินนะเล่ม2) ทางโรงเรียนมีจัดให้สอบวัดระดับ N5 ให้ด้วยฟรีๆแต่ผลที่ได้จะมีค่าเท่ากับการสอบ JLPT เลยมั้ย อันนี้ไม่แน่ใจเดี๋ยวลองสอบดูก่อนค่อยมาบอกนะจ๊ะ

และหากจบคอร์สเร่งรัด4 (จบมินนะ 4 เล่ม) ก็ยังมีจัดให้สอบวัดระดับ N4 ให้อีกเช่นกัน

ข้อเสียของการเรียนเร่งรัดคือด้วยความที่ต้องเรียนแบบเร่งรัดนี่แหละที่อาจทำให้การทบทวนน้อยลงเพราะแป๊บๆขึ้นบทใหม่ละ บางคนยังจำศัพท์ จำไวยากรณ์ของบทที่แล้วไม่ได้ยังมาเจอของใหม่ในบทใหม่อีก อาจทำให้เสียกำลังใจในการเรียนได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะเรียนเร่งรัดได้ต้องใส่ใจมากๆทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนต้องพยายามทำความเข้าใจกับเนื้อหาในแต่ละบทที่เรียนมาแล้วให้มากที่สุดเพื่อเตรียมพร้อมที่จะขึ้นบทเรียนใหม่

ตอนนี้เราเรียนJI2 หรือคอร์สเร่งรัด 2 อยู่ เสียค่าเรียนไปหนึ่งหมื่นสองพันบาทถามว่าแพงมั้ย ถ้าเทียบกับที่อื่นก็ถือว่าถูกนะและถ้าเทียบกับราคาที่เรียนคอร์สธรรมดา ซึ่งคอร์สละ 4200 บาทเรียนคอร์สธรรมดา 4 คอร์สเท่ากับเรียนเร่งรัด 1 คอร์ส เท่ากับ ต้องเสียค่าเรียนคอร์สธรรมดาถึง 16800

ยังไง เรียนคอร์สเร่งรัดก็คุ้มกว่าอยู่ดีนะ^^