www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Blog No.15 : คบอาจารย์ พาลพาไปหาผิด + คนดีที่มีปืน



... ถ้าแอนาคิน สกายวอร์กเกอร์ ตัวเอกในหนังสตาร์ วอ์ ผันตัวเองไปทำอาชีพอื่นเช่นนักธุรกิจขายตรงหรือเปิดเว็บทำสตาร์ตอัพฯลฯ เขาอาจประสบความสำเร็จนะครับไม่ต้องกลายเป็นดาร์ธ เวด้ง เวเดอร์ แต่อาจกลายเป็นแจ๊ค หม่า เวอร์ชั่นทาทูอีนก็ได้เพราะเขาเป็นคนเก่ง ขยัน มีความทะเยอทะยานแถมเมียมีเชื้อเจ้า(เจ้าหญิงแพดเม่)ซึ่งก็ดูมีคอนเน็คชั่นเยอะ

แต่เมื่อเขาเลือกเป็นเจได มันก็เกิดปัญหาทันที แล้วปัจจัยที่พาเขาสู่ด้านมืดก็อธิบายในไตรภาค 1-2-3 ซึ่งผมสรุปได้คร่าวๆดังนี้


(1) ความกลัวทำให้เสื่อม

 

... ไล่ย้อนไปแอนาคิน เป็นเด็กหนุ่มที่ถูกค้นพบว่ามีพลังเจไดตั้งแต่เล็กมีระดับค่าความสามารถสูงลิบลิ่ว พร้อมจะโตไปเป็นมหาเทพเจไดได้แน่นอน แต่โยดาซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะดูออกแล้วเตือนแอนาคินตั้งแต่ยังหนุ่มว่า เขามี ‘ความกลัว’ ที่จัดการไม่ได้อยู่มาก

ความกลัวที่ว่าจะเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ด้านมืดเพราะมันจะพา ความโกรธ ความเกลียดชัง มาครอบงำจิตใจ

แล้วก็อย่างที่เห็นด้วยความรักแม่แล้วเมื่อเห็นแม่ต้องทรมานจนตาย เขาก็ปล่อยให้ความโกรธมาครอบงำใช้พลังเจไดที่ตัวเองมีไปตามความแค้นสังหารชนเผ่าที่จับแม่ของเขามาไม่เว้นแม้แต่ลูกเด็กเล็กแดง

ต่อมาก็ด้วยความรักเมียกลัวเมียจะตาย ความกลัวก็ผลักดันให้เขาทำเรื่องเลวร้ายไล่ตั้งแต่ตัดแขนอาจารย์อาวุโสแล้วก็ลามไปฆ่าเยาวชนเจไดเหี้ยนสำนัก จากนั้นก็กู่ไม่กลับอีกเลย

สตาร์วอส์ จึงเป็นตัวอย่างที่ดีมากนะครับ กับการทำให้เห็นว่า

คนดีๆที่ทำเรื่องชั่วร้ายไม่จำเป็นว่าเกิดจากความโลภ เห็นแก่ตัว ฯลฯ แต่คนดีๆหลายคนทำเรื่องชั่วร้ายก็เพราะ ‘ความกลัว’แล้วมันจะรุนแรงมากถ้าเป็นความกลัวที่ผูกพันกับคนที่ตัวเองรัก

ดังนั้นการบริหารจัดการอารมณ์การรู้เท่าทันอารมณ์ คือ สิ่งที่โยดากับโอบีวัน เคโนบีพยายามย้ำมาตลอดแต่ก็เหมือนจะไม่เข้าหูแอนาคิน เพราะเขาสนแต่โลกภายนอก(การเป็นอาจารย์เจได ฯลฯ) มากกว่าจะใส่ใจโลกภายในของตัวเอง (อารมณ์ , ความคิด ฯลฯ)

ซึ่งโลกภายในคือปัจจัยสำคัญที่คนจะเป็นเจได ต้องรู้เท่าทัน

***

(2) คนดีที่มีปืนกับ เจไดที่ไร้การควบคุม

... กฎหมายครอบครองอาวุธปืนคือ ประเด็นสำคัญที่อเมริกาถกเถียงกันอย่างหนัก โดยเฉพาะเมื่อมีกรณี mass shooting หรือก่อการร้าย ก็มีบทความทำนองว่า“คนดีที่มีปืน’ อย่างบทความล่าสุดโดยแอนนานอร์ธในนิวยอร์ค ไทมส์ก็เขียนชื่อหัวข้อมีนัยคล้ายกันว่า Why ‘Good Guys’ With Guns Won’t Keep Us Safe

ในบทความนี้ยกประเด็นที่ว่าการมีปืน ไม่ใช่แค่เรื่องรู้จักวิธียิงแต่คนที่ต้องใช้ปืนเป็นอาชีพประจำเช่นทหารตำรวจ ฯลฯ ยังต้องมีประสบการณ์การเรียนชีวิตที่อยู่ร่วมกับปืน หรือช่วยเหลือทางจิตใจเมื่อเขาใช้มัน

และเหตุการณ์ยิงกันเช่นที่San Bernardinoอาจจะวุ่นวายและมีคนตายมากกว่านี้ ถ้าทุกคนพกปืนแล้วหยิบปืนขึ้นมาสู้กับคนร้ายหรืออาจมีคนมุสลิมผู้บริสุทธิ์หลายคนต้องตายเพราะถูกชาวบ้านที่พกปืนระแวงสงสัยแล้วชักปืนขึ้นมายิง

สิ่งที่ผมอ่านจบแล้วคิดมาตลอดและเราก็จะเห็นได้ชัดมากจากชีวิตของแอนาคินในสตาร์ วอส์ คือ

- ศีลธรรมไม่ใช่ ‘ค่าตายตัว’ ที่เราจะ fix ให้มันดีแล้วดีตลอดไม่มีทางหลุดหรือพลาดตกต่ำลง

- และเรื่องของ ‘อารมณ์’ คือสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างเบ็ดเสร็จต่อให้คุณฝึกมาดีแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่หลุด

ดังนั้นหากคุณมีพลังทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่มีอาวุธที่พร้อมทำลายล้างชีวิตคนอื่นในมือ ในสังคมที่ไม่มีข้อควบคุมไม่มีคนคอยเตือน หากวันใดวันหนึ่งที่ด้านมืดเข้าครอบงำ คุณก็อาจเปลี่ยนเป็นฆาตกรแม้ว่าในชีวิตนี้คุณจะเคยทำบุญหรือทำดีมาตลอดก็ตาม

การครอบครองอำนาจ หรือ การครอบครองอาวุธ จึงไม่ใช่แค่เรื่องเป็นคนดีหรือมี internal control แต่ต้องมี external control ด้วยเช่นกัน


*****

 

(3) ‘ความยโสและหลงตัวเอง’

... แม้ว่าแอนาคินจะมีความสามารถสูงแต่การเป็นเจไดก็มีการฝึกคล้ายกับเป็นนักบวชคือต้องฝึกปล่อยวาง ไม่ยึดติด และ อดทนซึ่งแอนาคินก็สอบตกในเรื่องเหล่านั้น

เขาเชื่อมาตลอดว่าตัวเองเก่งมาก(ซึ่งก็จริง) แต่ความยโสกับหลงตัวเองทำให้เขามีระบบคิดที่บิดเบือน เช่น เชื่อว่าโอบีวัน เคโนบี อิจฉาคอยสกัดไม่ให้เขารุ่ง หรือ คิดว่าสภาเจไดหมั่นไส้ที่เขาเก่งและสภาเจไดไม่เห็นคุณค่าของเขา

ซึ่งความจริงปัญหาที่โอบีวันกับโยดาไม่เร่งให้เขาได้เป็นอาจารย์ไม่ใช่อิจฉาใน
‘ความเก่ง’แต่เป็นห่วงเรื่อง ‘ความกลัว’ และ ‘ความกร่าง’ ซึ่งถ้าเขาฟังโอบีวันซักนิดก็จะพบว่าเทียบอายุกับคนอื่นๆเขามาอยู่ตรงนี้ได้ก็เก่งมากพอแล้ว

คนหลงตัวเองมากก็เหมือนคนที่โหยหาเสียงเยินยอโหยหาความโดดเด่นท่ามกลางแสงไฟและจะหงุดหงิดเกรี้ยวกราดในเรื่องเล็กๆน้อยที่ตัวเองไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างที่คิดว่าคู่ควร

ดังนั้นพอฝ่ายด้านมืดหันมาป้อยอยกย่องว่าเขาสามารถยิ่งใหญ่กว่านี้ได้ แถมให้คำมั่นว่าจะสอนวิธีช่วยให้คนรักรอดตายก็ทำให้แอนาคินทรยศต่อเจไดแล้วหันเข้าหาด้านมืดในที่สุด

*****

 


(4) คบอาจารย์พาลพาไปหาผิด - คบซิธ(ลอร์ด) ซิธพาไปด้านมืด

... Genes เป็นปัจจัยที่เรากำหนดไม่ได้ครับว่าจะสร้างให้ใครเกิดมามี พื้นฐานแข็งแรงดีไม่ทำชั่วง่ายๆ หรือพื้นฐานที่ง่ายต่อการเข้าสู่ด้านมืด

อย่างแอนาคิน ถ้าไม่ได้เจอโอบีวัน เคโนบี แต่ถูกเลี้ยงโดยพัลพาทีนไม่ต้องรอจนถึงวัยรุ่นหรอกครับ รับประกันว่าแกคงเป็นด้านมืดตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วการที่เขาอยู่ในเส้นทางคนดีมาได้นานขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะการคบคนดีๆมีอาจารย์ที่ดี และได้เมียดี

แต่เมื่อเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมปุ๊บเราก็จะเห็นเลยว่า พื้นฐานที่พร้อมถลำตัวได้ง่ายก็พาเขาเข้าสู่ด้านมืดอย่างรวดเร็วจนแทบจะไม่กลับมาดีอีกเลย

กระนั้นก็ดีใน Return Of the Jedi ก็ทำให้เห็นสิ่งสำคัญมากๆอย่างหนึ่งนะครับว่า

คนดีไม่ได้ดีทุกเรื่องคนดีเปลี่ยนไปทำชั่วจนถึงขั้นเป็นคนเลวได้ ฉันใดก็ฉันนั้นคนเลวก็ไม่ได้เลวทุกเรื่องและคนเลวก็สามารถทำเรื่องดีๆกับเปลี่ยนตัวเองได้เช่นกัน

เมื่อดาร์ธ เวเดอร์ ได้พบสิ่งแวดล้อมใหม่ๆซึ่งก็คือ ลูกชายที่พยายามจะดึงด้านดีที่มีของพ่อออกมา แม้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดแต่บทสรุปก็ทำให้เห็นว่าการคบคนนั้นมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงมากมายเพียงใด

และทำให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนมีทั้งด้านมืดและด้านสว่างที่ต่างฝ่ายต่างถ่วงดุลกันอยู่ในตัว

ไม่ว่าจะคนดีหรือคนชั่วเราล้วนสามารถที่จะเปลี่ยนแปลง Smiley




Create Date : 10 ธันวาคม 2558
Last Update : 10 ธันวาคม 2558 13:42:02 น. 0 comments
Counter : 3340 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.