The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก ...1 ปีก่อน Sarah กับสามีและลูกสาว และ เพื่อนของเธออีกสองคน (Juno , Beth) ไปเล่นล่องแก่ง ในวันที่เดินทางกลับ อุบัติเหตุอันแสนเศร้าคร่าทุกสิ่งไปจากชีวิตเธอ ...1 ปีถัดมา Juno ชวนผองเพื่อนมาสำรวจถ้ำ โดยหวังว่าทริปนี้จะทำให้ Sarah ลืมอดีตที่เลวร้าย โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พวกเธอกำลังจะเจอมันเลวร้ายยิ่งกว่า หนังสามารถสรุปได้สั้นๆด้วยไม่กี่คำว่าเป็น เรื่องราวของ 6 สาวเข้าถ้ำ พบกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คน ...แต่ถ้าหนังเดินหน้าด้วยเรื่องราวแค่นั้น หนังเล็กๆจากประเทศอังกฤษเรื่องนี้ ก็อาจจะเป็นหนังที่มีแต่ 99 นาที แห่งการไล่ฆ่า ในตอนต้นหนังจึงพยายามที่จะผูกเรื่องให้มีอะไรมากไปกว่า การวิ่งไปหาความตายจากบางอย่างที่ไม่ใช่ฆาตกรโรคจิตก็สัตว์ประหลาด การผูกความสัมพันธ์ของตัวละคร ส่งผลให้หนังมีเรื่องราวมากกว่านั้น แย่ตรงที่เวลา ช่วงเวลาก่อนเข้าถ้ำที่ให้ตัวละครสาวๆมาพบปะสังสรรค์กันนั้นเป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อจนเกือบหลับ หนังยังไม่สามารถปูให้คนดูรู้สึกร่วมไปกับพวกเขาได้ หากไม่มีฉากชวนตกใจ 2 ฉาก คนดูก็อาจไม่คิดด้วยซ้ำว่านี่คือ หนังสยองขวัญ เพราะอย่าลืมว่าคนดูที่เลือกซื้อตั๋วดูหนังในแนวนี้ ย่อมอยากที่จะเห็น การไล่ฆ่า มากกว่าการพูดคุย และนั่นทำให้กว่าครึ่งชั่วโมงแรกของหนังทำให้ผมถอดใจว่านี่คงจะเป็นการตัดสินใจตามกระแสที่ผิดอย่างใหญ่หลวง จนกระทั้งตัวละคร 6 สาวเข้าถ้ำ ...หากถ้ำเป็นเหมือนจิตใจคน ยิ่งเราสำรวจลึกมันยิ่งพาเราไปพบความมืดมนที่ซุกซ่อนอยู่ และ จิตใจตัวละครในเรื่องก็เป็นเหมือนถ้ำจริงๆ เพราะ คนหนึ่งมืดมนจากความจริงที่ไม่เคยรับรู้ คนหนึ่งมืดมนจากความรู้สึกผิดฝังใจ อีกคนก็มืดมนกับการต้องเก็บความลับของเพื่อนซ่อนเอาไว้ เมื่อถ้ำถูกสำรวจ เมื่อใจถูกเปิดเปลือก มันไม่ใช่ว่าจะสว่างขึ้นแต่มันกลับยิ่งดำดิ่งลึกเข้าไปอีก เพราะ ถ้ำในใจ นั้นไม่มีทางออกไว้สำหรับพวกเธอ ... Sarah มาเที่ยวครั้งนี้เพื่อหวังว่าความสนุก ความตื่นเต้น จะทำให้ชีวิตของเธอเดินไปข้างหน้าข้ามฝันร้ายที่หลอกหลอนทุกวี่วัน เธอและเพื่อนๆต่างตะลึงกับความงามของถ้ำ สนุกกับการสำรวจหาทางออกที่ท้าทาย แล้วทั้ง 6 สาวก็ต้องพบกับปัญหายากลำบาก เมื่อพวกเธอมาติดอยู่ใจกลางถ้ำเพราะช่องทางที่เธอลอดมาสำรวจถล่มปิดทางเข้า อุปกรณ์ส่วนหนึ่งติดอยู่ในช่องแคบนั้น พวกเธอเหมือนอยู่ในห้องแคบที่ปิดตาย โดยที่ไม่มีแผนที่ ไม่เคยมีคนมาสำรวจ และ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเธออยู่ที่นี่ ... แค่ติดอยู่ในถ้ำที่ไม่เคยมีในแผนที่ก็ยากลำบากอยู่แล้ว การขาดอาหาร การติดอยู่ในที่มืด สามารถทำให้คนอาจเกิดสภาวะจิตใจสับสนจนมีอาการหวาดผวาหวาดระแวงได้ และ สถานการณ์ของ 6 สาวกลับยิ่งเลวร้ายมากขึ้นไปอีก เมื่อพวกเธอพบว่า ในถ้ำนั้นมีโครงกระดูกอยู่มากมาย มีร่องรอยของมนุษย์ที่เคยติดอยู่มาก่อนพวกเธอ นั่นหมายความว่า ก่อนหน้านี้อาจเคยมีคนมาก่อนพวกเธอ และ ในเวลาเดียวกันนี้น่าจะมี สิ่งมีชีวิตที่กำลังหายใจร่วมกับพวกเธอในอากาศที่น้อยนิด ความเครียดในช่วงแรกอาจจะยังที่ว่างเหลือพอจะใช้ความคิดและสติของตัวละครฝ่าฟันไปได้ แต่เมื่อพวกเธอเดินทางลึกเข้าไปอีก มันยิ่งทำให้รู้สึกสับสนมากขึ้น เมื่อ Sarah ได้ยินเสียงและเห็นอะไรบางอย่างที่เธอก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นอาการจากฝันร้ายที่ผ่านมาหรือไม่ และ ความสับสนวุ่นวายที่แท้จริงก็เกิดขึ้น เมื่อตัวละครหนึ่งประสบอุบัติเหตุ หลังจากนั้น The Descent ก็ระดมความตกใจสาดใส่คนดูอย่างไม่ต้องหยุดพัก เพราะไม่เพียงทั้ง 6 สาวจะหาทางออกไม่ได้แล้ว เธอกลับยังต้องเผชิญกับสิ่งที่น่ากลัวและร่นเวลาชีวิตพวกเธอให้ตายเร็วกว่าการติดถ้ำ นั่นคือ สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่กินเนื้อเป็นอาหารและสามารถไต่เพดานถ้ำได้ปานประหนึ่ง Spiderman พวกมันเห็นพวกเธอเป็นเหยื่อและก็ตามฆ่ากันอย่างไม่ปราณีปราศรัย ... ยิ่งพวกเธอเดินทางลึกขึ้นเพื่อหาทางออก แต่มันกลับกลายว่ามันยิ่งไร้วี่แวว แถมยังต้องเผชิญกับสิ่งมีชีวิตในถ้ำที่ตามฆ่าพวกเธอจำนวนมากขึ้นทุกที ไม่ใช่แค่ความมืดมนในการหาทางออกจากถ้ำ เพราะ เมื่อความจริงบางอย่างถูกเปิดเผย เมื่อความมืดหม่นในใจตัวละครเริ่มแสดงออก เมื่อสัญชาติญาณดิบในตัวของมนุษย์ถูกปลุกให้ตื่น เมื่อความโกรธ ความเกลียด ความแค้น ไม่สามารถถูกเก็บไว้อีกต่อไป ตัวละครในเรื่องก็ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตในถ้ำนั้นเท่าไหร่เลย แถมอาจจะเลวร้ายกว่า เมื่อพวกเธอนั้นมืดบอดทั้งสายตาและจิตใจ ...สิ่งที่คนดูจะได้เห็นอุดมไปด้วย โปรตีนและแคลเซี่ยม จากเนื้อและกระดูกอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นฉาก ไม้ทิ่มทะลุหัว กระดูกหัก มีดแทงทะลุคอ บีบลูกตาทะลัก กัดคอจนเลือดสาด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้หากมีแบบสักแต่ว่าใส่เพื่อขายความโหดอย่างเดียว มันก็สามารถที่จะทำให้หนังเรื่องนั้นกลายเป็นหนังเกรดต่ำรสนิยมและถูกลืมหายไปอย่างรวดเร็ว แต่กับบางเรื่องแม้จะคลาคล่ำไปด้วยเลือดเนื้อตับไต มันก็สามารถกลายเป็นหนังสยองขวัญชั้นดีไปได้ นั่นหมายความว่า การให้เห็นจะจะ ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นหนังสยองขวัญขยะ ขึ้นอยู่กับว่า การใส่ฉากเหล่านั้นมาสักแต่ว่าใส่ให้เลือดท่วมจอหรือใส่อย่างมีลีลาชั้นเชิง และ องค์ประกอบอื่นๆเช่น บทภาพยนตร์ ฯลฯ เป็นอย่างไร ...ตัวอย่างหนังเลือดโชกที่ไม่ต้องไปไกลมากนัก แค่ดูปีที่ผ่านมานี้กับ Haute tension หนังสยองขวัญที่สามารถคว้า NC – 17 มาครองอย่างเต็มภาคภูมิกับความโหดสยองแบบแทงกันดีไม่มีกั๊ก ทั้งเชือดทั้งหั่นกันเห็นๆ แต่หนังกลับเป็นที่กล่าวขวัญและได้รับการเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์กับคนดูไปในแง่บวก เพราะหนัง มีเรื่องที่ซับซ้อนมากกว่าการไล่ฆ่า + ในส่วนของการไล่ฆ่าก็ทำออกมาไม่ใช่น่าขยะแขยงแต่น่ากลัวและลุ้นระทึก ...ฉากหนึ่งที่สามารถยกมาเปรียบเทียบได้ดีในเรื่องของ การให้เห็นเหตุการณ์สยอง คือ ฉากไม้ปักหัว ที่เรื่องนี้มีเหมือนกับ รับน้องสยองขวัญ แต่ใน รับน้องสยองขวัญ ฉากนี้มันไม่ใช่ทำให้คนดูตกใจกลัว มันออกมาในแนวตกใจ อี๋แหวะ ดูน่าขยะแขยง แต่กับเรื่องนี้ที่มีฉากเหมือนไม้ปักหัว 2 ครั้ง ครั้งแรกหนังให้เราไม่ได้เห็นเต็มๆแต่เห็นว่าแขนขาของตัวละครที่กำลังจะตายเป็นอย่างไรจากการซูมออกมาในระยะไกล และ อีกฉากเป็นจังหวะที่มาแบบไม่คาดฝันและต้องร้อง เฮ้ย กันแบบไม่ได้ตั้งตัว หรืออย่าง ฉากกระดูกหักทิ่มเนื้อออกมา แม้ว่าบางคนอาจเคยเห็นกระดูกหักมาหลายหนแล้ว รวมถึงผมที่เคยเห็นของจริงมาแล้วหลายครั้ง แต่ในหนนี้ ภาพที่ออกมามันก็ยังทำให้รู้สึกกลัวและรู้สึกหวาดเสียวเจ็บปวดไปพร้อมกับตัวละคร ...ต้นทุนของหนังที่ปูทางไว้ในตอนแรกในส่วนซับพล็อต ความสัมพันธ์ของเพื่อน และ ฝันร้ายของ Sarah ที่กินเวลาเกือบครึ่งเรื่อง ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์กับหนังได้ดี ทำให้แทนที่หนังจะมีพล็อตแค่ 6 สาวติดถ้ำ กับ มนุษย์ถ้ำ ไล่ฆ่า 6 สาว มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น แต่น่าเสียดายตรงที่ว่าหากหนังพัฒนาเรื่องราวความสัมพันธ์นี้ให้กระชับแน่นมากกว่านี้ หนังจะมีเรื่องราวให้เล่นในประเด็นของเรื่องราวได้มากขึ้น และมันอาจจะทำให้หนังเล่นสนุกกับการไล่ฆ่ามากขึ้นไปกว่าการถูกมนุษย์ถ้ำเหล่านั้นไล่กิน อย่างไรก็ดีจัดได้ว่าจากต้นทุนที่วางไว้หนังก็ได้กำไรในส่วนนี้ไป แต่กับต้นทุนเวลาที่เสียไปนั้นหนังขาดทุนในแง่ของอารมณ์ความผูกพันหรือมิตรภาพของตัวละคร เพราะช่วงเวลากว่าครึ่งชั่วโมงที่หนังให้พวกเธอมาสังสรรค์กันนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อความรู้สึกในช่วงท้ายนี้เลย ....เมื่อมองย้อนไปดูหนังปีที่ผ่านมานี้แล้ว ผู้กำกับ Neil Marshall ที่เคยทำหนังเล็กๆแต่เป็นที่จับตามองมาจากDog Soldiers ทำ The Descent ให้ออกมาเป็นหนังทำได้ดีมากในการทำให้คนดูลุ้นระทึก ตกใจ กดดัน แม้ว่าแนวทางของหนังจะไม่ใช่หนังที่เล่นสนุกกับบทแบบมีชั้นเชิงเหมือนใน Saw โดย The Descent ออกจะไปในทางโฉ่งฉ่างมากกว่า แต่ในความโฉ่งฉ่างนั้นหนังก็กำกับและนำเสนอออกมาอย่างมีชั้นเชิงเหมือนกัน ทั้งจากฉากเลือดท่วม และ ฉากไม่มีเลือด มุมกล้องของหนังในหลายฉากช่วยเสริมอารมณ์เหล่านี้ได้มาก เช่น ฉากที่ Sarah ติดอยู่ในช่องแคบในช่วงแรก ฉากนี้ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียวแต่ก็สร้างความลุ้นระทึก อึดอัด และ ตึงเครียดได้เป็นอย่างดี เธอทำให้คนดูหายใจไม่ออกและไม่รู้ว่าจะออกจากที่แคบนั้นได้อย่างไร ตัวละครของเธอที่ติดอยู่ในช่องแคบมันก็เหมือนกับ จิตใจ ของเธอนั่นเองที่ยังคงติดอยู่กับที่แคบที่เธอไม่เคยลืมเลือน นั่นจึงส่งผลให้เธอยังคง ฝันร้าย เห็นภาพหลอน ได้ยินเสียงแว่ว อยู่ตลอดเวลา หลายฉากในเรื่องทำให้ผมผวาขณะนั่งดูชนิดไม่อายใคร(เพราะในแถวผมมีผมนั่งอยู่คนเดียว) หนังเรื่องนี้มีการใช้ ภาษาภาพ สื่อสารออกมาได้ดี (และดีกว่าภาษาพูดมาก เพราะในช่วงที่ตัวละครพูดๆมันดูไม่เป็นธรรมชาติและเหมือนพูดตามบท) จึงทำให้ฉากกระตุ้นอดรีนาลีนในตัวคนดูทั้งหลายแม่นเหมือนจับวาง อยากให้ลุ้นคนดูก็ลุ้น อยากให้ผวาก็ผวา อยากให้หวาดกลัวก็หวาดกลัว และ สิ่งที่ยืนยันคือ ไม่ใช่แค่ฉากตื่นเต้นเท่านั้น ในส่วนของฉากชีวิต เช่นในฉากที่เป็นปมของความสัมพันธ์ ที่เริ่มตั้งแต่การล่องแก่นไปจนถึงอุบัติเหตุ แทบจะไม่มีการพูดอย่างชัดเจนหรือแสดงออกชัดเจน แต่คนดูรับรู้ได้ว่า มีเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์ของตัวละคร 4 คนนั้นที่ไปล่องแก่ง และ อะไรที่นำไปสู่อุบัติเหตุอันน่าเศร้าสยอง นอกจากภาพแล้ว เสียงในเรื่องนี้ยังมีอิทธิพลต่อคนดูมากทีเดียว ทั้งเสียงมนุษย์ถ้ำ เสียงกรีดร้อง เสียงน้ำ และ หนังยังเล่นกับเสียงของความเงียบที่ทำให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้องในการลุ้นเอาตัวรอดไปพร้อมกับตัวละคร สิ่งที่ชอบ 1.ช่วงเวลา 6 สาวเข้าถ้ำ ... นับตั้งแต่ตัวละครทั้ง 6 เข้าถ้ำไปจนถึงตอนจบ หนังทำให้คนดูนั่งอย่างไม่ติดที่นั่ง จะดูจนจบก็อาจจะไม่กล้า แต่จะออกไปเข้าห้องน้ำก็กลัวว่าจะพลาดอะไรไป 2.ช่วงเวลาคนดูตกใจ ... อาจด้วยภูมิต้านทานที่เกิดจากการดูหนังมาบ่อยๆ ผมจึงไม่ค่อยที่จะรู้สึกสะดุ้งตกใจได้ง่ายมากนัก แต่กับ The Descent หลายจังหวะที่ทำให้ต้องสะดุ้งเฮือก และ หลายจังหวะที่ไม่แน่ใจว่าเสียงร้อง เฮ้ย ดังในใจหรือดังออกมาในโรง 3.ภาษาภาพ ... แม้ภาพที่ออกมาจะดูเหมือนหนังแผ่นที่ไม่ชัด แต่หนังใช้ภาษาภาพได้น่าประทับใจ ทั้งในส่วนของดราม่าหรือในส่วนของความระทึกขวัญ หลายเรื่องมีฉากโหดสยองแต่ดูจบแล้วก็จบไป ในขณะที่เรื่องนี้เชื่อว่าหลายฉากที่คนดูได้ดูจะต้องติดตาติดใจไปอีกหลายวัน แม้แต่ฉากที่ไม่ได้ฆ่ากันอย่าง ฉากตัวละครโผล่มาจากน้ำสีแดงฉาน ก็ยังทำได้สวยสยองติดตา สิ่งที่ไม่ชอบ 1. ช่วงเวลาสังสรรค์ของ 6 สาว ... ยาวนาน น่าเบื่อ และ ไม่ได้มีผลอะไรกับความรู้สึกคนดูเมื่อหนังจบ มีใช่ว่าไม่ดีแต่การเสียเวลามากมายในช่วงนี้ตอนต้นนั้น หนังทำได้ไม่ดีเลย ทั้งจากตัวนักแสดงเองและจากบทพูดที่ออกมาแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ สรุป ... นี่คือหนังสยองขวัญประเภทถึงเลือดถึงเนื้อถึงกระดูก เลือดพุ่งปรี๊ดปร๊าดแบบไม่เกรงใจใคร ความรุนแรงออกมาในระดับน้องๆ Haute tension ภาพที่ออกมาในตอนแรกอาจเข้าใจว่าเป็นหนังเกรดบีที่ดูเล่นฆ่าเวลา แต่เมื่อดูไปเรื่อยๆจะพบว่า นี่เป็นหนังสยอง-ระทึกขวัญตระกูลเลือดโชก ที่ทำได้ชวนผวาตื่นเต้นที่สุดของปีนี้ ไม่ควรพลาดหากเป็นคอหนังประเภทลาบเลือด และ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะให้เด็กเข้าไปดู ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง   Create Date : 13 ธันวาคม 2548 24 comments Last Update : 13 ธันวาคม 2548 1:06:22 น. Counter : 5814 Pageviews. Share Tweet

ดูมาหลายเดือนแล้ว ยังติดตาอยู่เลยค่ะเรื่องนี้   โดย: นางมารนอกสังกัด 13 ธันวาคม 2548 2:51:42 น.

อยากดู แต่กลัวจะดูไม่ไหว แค่อ่านก็น่ากลัวแย๊ว   โดย: jms IP: 202.156.6.52 13 ธันวาคม 2548 11:53:06 น.

ชอบคร้าบเรื่องนี้ ผมคิดว่าตอนที่คุณว่าน่าเบื่อในช่วงแรก ๆ มันมีประโยชน์อย่างตั้งใจและมีนัยสำคัญอ่ะครับ คือผ่อนคลายอารมณ์ก่อน ค่อยมาเจอกับสิ่งหนัก ๆในช่วงท้าย ๆเหมือนกันล้อมกรอบสีขาวให้สีดำมันเด่นขึ้นน่ะ แต่ก็เห็นด้วยว่าหนังยังไม่ถึงในการดึงผู้ชมเข้าไปมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ของตัวละคร เพราะรู้สึกว่าเหมือนมาดูเพื่อนคนอื่นคุยกันมากกว่า เขียนได้ดีครับ อยากดูหนังได้ลึกซึ้งแบบนี้บ้าง (ชอบโดนพล๊อตจูงไป จนลืมแก่นหนังไปซะฉิบ แย่จริง)   โดย: =กาละมัง= IP: 58.8.97.213 13 ธันวาคม 2548 13:26:30 น.

โดย: 236 IP: 58.11.74.203 13 ธันวาคม 2548 15:32:57 น.

อยากดู ไม่ไม่กล้าพอ555   โดย: fox IP: 61.91.71.192 13 ธันวาคม 2548 16:38:38 น.

ว่าจะไปดูเหมือนกันครับ   โดย: ตั้ม IP: 61.7.137.232 13 ธันวาคม 2548 20:58:37 น.

ดูแล้วเครียดดีครับ - -' หนังกดดันมั่ก ๆ แล้วหนังจบได้ ให้ความหวังคนดูมาก ๆ พอตัดกลับมา ที่ความจริงนี่ เหมือนตกนรกยังไงหยั่งงั้น หุหุ   โดย: Crach_On_You IP: 61.91.67.75 13 ธันวาคม 2548 22:00:30 น.

ฮุ้ย!!! ความเห็นผมมัน Spoil ป่าวเนี่ย ลบก็ได้นะครับ (เพิ่งจะรู้ตัว - -") เขียนเปรียบเทียบได้เท่ดีครับ สำหรับถ้ำกับใจคน ^^b   โดย: Crach_On_You IP: 61.91.67.75 14 ธันวาคม 2548 1:01:40 น.

^ ^ ... ไม่ spoil หรอกครับ ภาพจากหนังยังติดตาอยู่เลยกับบางฉาก ... ขอบคุณครับกับทุกความเห็น รอความเห็นท่านอื่นๆอยู่ต่อไปนะครับ   โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 14 ธันวาคม 2548 1:29:48 น.

น่ากลัว ใจไม่ถึงที่จะดู   โดย: ผ่านมาดู IP: 203.151.140.119 15 ธันวาคม 2548 13:29:15 น.

Haute tension ผมซื้อแผ่นมายังดูได้นิดเดียวเองครับ ขอผ่านดีกว่า   โดย: infonoom 15 ธันวาคม 2548 15:59:32 น.

แล้วตอนจบเปนไงอะ   โดย: คน IP: 58.8.243.73 18 ธันวาคม 2548 20:41:13 น.

ไม่มีโรงจะดู แล้ว เพิ่งกลับมา อยากดู ทำไงดี ปล.ไม่อยากดูแผ่นไม่ได้บรรยากาศ   โดย: rhino IP: 203.170.228.229 22 ธันวาคม 2548 18:27:31 น.

โหลดบิตมาดู ไม่ค่ออยสนุกลบทิ้งไปแล้ว จะเอาตอนจบมาดูสักหน่อย   โดย: a IP: 203.154.190.11 8 กุมภาพันธ์ 2549 13:39:52 น.

เพิ่งได้ดู VCD วันนี้ครับ ช่วงแรกของหนังน่าเบื่อจริงๆ ..ต่อมาก็สนุก แต่ตอนจบผมไม่เข้าใจเลยครับ ดูแล้วงงตอนจบ..   โดย: IP: 58.10.195.54 24 กุมภาพันธ์ 2549 1:46:34 น.

พอๆกับ THE CAVE เลย แต่ตอนจบหดหู่สุดๆ   โดย: Ackaru IP: 210.86.147.68 2 มีนาคม 2549 18:46:06 น.

แล้วชื่อหนังมันแปลว่าอะไรเหรอครับ "ต้นตระกูล" "รากเหง้าศักราช" หรือว่า "เลือด" ครับ   โดย: แล้วผมบังคุณรึเปล่าครับเนี่ย IP: 58.10.110.228 29 มีนาคม 2549 0:12:04 น.

Hault Tension ผมคิดว่าไม่น่ากลัวนะ ออกจะน่าเบื่อๆอะ   โดย: หนุ่ม IP: 58.11.70.170 8 เมษายน 2549 0:07:41 น.

น่ากลัวจริงๆตอนที่ผมนั่งติดเบาะเก้าอี้ได้ก็เป็นตอนที่นางเอกอ้วกและแต่ก็ยังทำให้ผมประหลาดใจอีกสรุปแล้วมันดีชอบ   โดย: aun IP: 203.113.66.9 25 เมษายน 2549 7:47:00 น.

เพิ่งได้ดูเมื่อกี้เองครับ บรึ๋ยดีจริงๆ ตอบคุณความเห็นที่ 17 นะครับ เรื่องชื่อหนัง The Descent มีหลายความหมายครับ ซึ่งเป็นการเลือกใช้คำได้เหมาะกับตัวหนังอย่างยิ่งครับ ลองมาดูกัน 1. The act of moving down to lower place or position การเคลื่อนลงไปยังที่ที่ต่ำกว่า (คำความหมายตรงข้ามคือ ascent) อันนี้บอกชัดเจนว่าตัวเอกอยู่ใต้ดินแน่นอน 2. มีความหมายเหมือน Ancestry อันนี้ไม่น่าเกี่ยว 3. The process of gradually changing to a worse condition การเปลี่ยนแปลงสู่สภาพที่เลวร้ายกว่า 4. A sudden and unpleasant visit or attack การมาเยือนหรือการโจมตีที่ฉับพลันและไม่น่าพิสมัย ทุกความหมาย (ยกเว้นอันที่สอง) น่าจะอธิบายเรื่องราวขอหนังได้เป็นอย่างดีนะครับ   โดย: absent-minded IP: 222.212.76.105 10 สิงหาคม 2549 22:38:02 น.

เป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญที่ดีที่สุดเลยครับ คอแนวนี้ไม่ควรพลาด ใครยังไม่ได้ดูนะครับ ผมขอให้เวลาดู ปิดไฟ เปิดเสียงดัง และตั้งใจดู จะเพิ่มอรรถรสในการดูเป็นอย่างมากเลย ฉากตกใจมีไม่กี่ฉากหรอกครับ แต่ผมมั่นใจว่าแต่ละฉากที่คุณเจอนี่ หัวใจแทบวาย....(ขนาดผมคอหนังสยองขวัญนะ)   โดย: YoiChi IP: 202.57.178.112 28 กันยายน 2550 13:06:47 น.

8.5/10 คะแนน เป็นหนังแนวสยองขวัญที่ดีที่สุด เพราะไม่ได้ขายแค่ความโหด และความสะดุ้งตกใจ   โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 3 พฤศจิกายน 2550 13:11:05 น.

หนังกดดันมากๆ แล้วหนังจบที่ความจริงตอนจบ หดหู่สุดๆ   โดย: Akasaka IP: 220.220.122.173 9 พฤษภาคม 2551 10:19:47 น.

ดูตอนเเรกหดหู่มากมายlol ตอนที่ติดในช่องเเคบก้อเหมือนตัวเองหายใจไม่ค่อยออกเหมือนกัน x x นั่นไงจะตายเเทนคนเเสดงละ จบคะดูเเค่นี้จิงๆ55555 ยังดูไม่ถึงไหนก็จะช็อคตายละค่ะ ดูได้สักพักต้องมานั่งอ่านสปอย(กัดฟันอ่าน)มันจำเป็นต้องอ่านค่ะ เดี๋ยวตายเเทนคนเเสดง (จิตอ่อนเเล้วมาดูก้องี้555) เห็นเค้าบอก กระดูกหักทะลุเนื้อ เเค่อ่านภาพก้อมาละ มีทิ่มคออีกอื้อหือ5555 เเต่ท่าอ่านสปอยเเล้วไม่ดูก้อน่าจะพลาดครั้งใหญ่   โดย: ขี้เเบบนี้อย่าขี้เลยดีกว่า IP: 171.5.89.173 21 ตุลาคม 2559 16:39:43 น.