+ จริงๆ แล้วสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมชั่งใจอยู่ว่าจะดู Hwang Jin-yi ที่โรงสยามดี หรือจะไปดูหนังควบที่เฮาส์ดี ... แต่สุดท้ายก็เลือกหนังควบอ่ะครับ (ส่วน ไชยา เนื่องจากไม่ใช่หนังแนวผม จึงคิดว่าจะรอเสียงวิจารณ์จากเหล่าบล็อกเกอร์ในวันจันทร์ - ซึ่งตอนนี้ก็ได้รับคำตอบเรียบร้อยแล้ว )

+ 2 Days in Paris - เนื่องจากผมยังไม่เคยดูทั้ง Before sunrise และ Before sunset มาก่อน แต่ก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ความโด่งดังอยู่เนืองๆ เลยพอรู้แนวอยู่บ้างว่า 2 เรื่องนั้น รวมทั้งเรื่องนี้ที่ทั้งเขียนบทและกำกับโดย จูลี่ เดลปี้ จะหน้าตาออกมาเป็นยังไง ... ซึ่งพอได้ดูจริงๆ ก็ยอมรับว่า ประเด็นของหนังเกี่ยวกับอุปสรรคของการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน (ในความแตกต่าง) ของผู้ชายและผู้หญิงจัดว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ... แต่กับมุกเยอะๆ ในบทสนทนาระหว่างทางเนี่ยสิ ที่ผมเก็ทได้ไม่หมด ก็เลยทำให้ไม่อินเท่าที่ควร อีกอย่างช่วงท้ายๆ เรื่อง ผมรู้สึกเหวอไปหน่อย กับพฤติกรรม(จิต)หลุดๆ ของนางเอกอ่า
... อดัม โกลด์เบิร์ก (หลังจากเล่นเป็นตัวประกอบมาหลายเรื่อง เพิ่งจะมาได้รับบทเด่นฝ่ายชายก็เรื่องนี้) เล่นได้ลื่นไหลดี ส่วนจูลี่ เดลปี้ ทำเซอไพรซ์ด้วยการขนคุณพ่อคุณแม่ตัวเองมาเล่นในหนังด้วย ซึ่งก็ขโมยซีนได้ดีทีเดียว ทำให้หนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยคาแรคเตอร์ที่เพี้ยนๆ อยู่เยอะแยะมากมาย
... สำหรับคู่รักที่ชีวิตคู่กำลังเริ่มมีปัญหา ลองไปศึกษาจากหนังเรื่องนี้ก่อนก็ดีครับ

+ Spider Lilies (ฉายที่เฮาส์โรงเดียว) - เป็นหนังเลส ที่ดูดีมีประเด็น เกี่ยวกับความรักที่คนนึงอยากจำ แต่อีกคนพยายามจะลืม โดยมีเส้นกั้นกลางที่แน่นหนาเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในไต้หวันเมื่อไม่กี่ปีก่อน ... ชื่อหนังมาจากลายสักรูปดอก Spider Lily (แปลกันทื่อๆ ว่า "พลับพลึงแมงมุม!" ) ซึ่งที่นั่นเชื่อกันว่าดอกไม้ชนิดนี้มักจะขึ้นไปตามรายทางที่จะต้องเดินผ่านเพื่อจะไปยังนรกภูมิ (คงเหมือนการนั่งเรือแจวข้ามแม่น้ำสติกซ์ ของฝรั่งนั่นแล) ที่นางเอกสักอยู่บนแขน ... ทำไมถึงต้องสักลายนี้ ไปหาคำตอบได้ในหนัง แต่ที่แน่ๆ คือ อิซาเบลลา เหลียง เป็นทอมที่สวยที่สุดในโลก! (ตอนแสดงเป็นทอมบอยจริงๆ ตอนวัยรุ่น เธอก็เท่ห์ซะ) และฉากเข้านางเข้านาง ... เอ๊ย เข้าพระเข้านาง (แหะๆ ) กับเรนนี หยางในเรื่อง (ไม่แน่ใจว่าถูกกองเซ็นเซ่อหั่นบ้างรึเปล่านะ) ก็แสดงกันได้ร้อนแรงทีเดียว

+ หนังใหม่สัปดาห์ที่จะถึง ผมเล็งไว้ถึง 3 เรื่อง แต่ก็ออกอาการลังเลเล็กน้อย กับ ...
* สายลับจับกิ๊ก ... เอ๊ย จับบ้านเล็ก - (ถึงจะอยากเชื่อมือ ผกก. แต่ดูจากหนังตัวอย่าง กลัวจังเลยว่ามันจะออกมาเน่ามากกว่าซึ้ง และมุกตลกเป็นมุกดาดๆ ทั่วไปอ่า ... ยังงี้ต้องฟังเสียงวิจารณ์ก่อนดีฝ่าแฮะ) ,
* Ensemble, c'est tout - อยากไปดูน้องออเดรย์ ตาโต เอ๊ย โตตู อีกนะครับ ... แต่พล็อตเรื่องนี้แทบไม่มีอะไรต้องสปอยล์เลย แถมเป็นหนังฝรั่งเศสด้วย คงจะเนิบๆ เนือยๆ เอาการอยู่

* Bug - หลังจาก 1408 โดนเลื่อน ... Bug กลับเข้าเฉยเลย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เป็น 'หนังแนวผม' (Psycho/Thriller) แถมยังไม่เห็น แอชลี่ จัดด์ บนจอตั้งนานแว้ว ... แต่พออ่านบทวิจารณ์เลยออกอาการลังเลเล็กน้อย เพราะถ้าไม่ชอบก็เกลียดไปเลย (แต่คะแนนฝั่งนักวิจารณ์สูงกว่าคนดู ... แสดงว่าหนังคงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่)
... ก็คงต้องตัดสินใจอีกทีอ่ะครับ ว่าจะดูเรื่องอะไรดี และกี่เรื่องดีอ่า ...

ผมกลับไม่ค่อยปลื้ม Hwang Jin Yi เท่าไหร่ครับ เลยมาแปะป้ายเตือนเอาไว้ก่อนว่าถ้าใครคิดจะดู อย่าหวังที่จะเห็นอะไรเลิศๆแบบขั้น King and the Clown หรือแดจังกึม หรืออะไรเทือกนั้น หวังแค่ไปดูการแสดงที่อยู่ในระดับน่าชื่นชมของซองเฮเคียว พร้อมกับหน้าตาสวยๆ และตาใสๆ ของเธอจะดีกว่า

เพราะในความคิดผม Hwang Jin Yi พยายามยัดประเด็นและเรื่องราวเข้ามามากมายจนผู้กำกับคุมไม่อยู่ ทั้งเรื่องชนชั้นในสังคม เฟมินิสต์ ระบบยุติธรรม ลามไปถึงความรักของพระเอกนางเอกที่ทำออกมาได้ไม่อินเอาเสียเลย แถมจุดที่น่าจะเป็นจุดหักเหของเรื่องก็ไม่ทำให้คนดูรู้สึกตามอารมณ์ที่ควรจะเป็นได้เสียอีก ทั้งๆที่หนังให้เวลาตัวเองตั้งสองชั่วโมงครึ่ง!!!

ส่วนอีกเรื่องที่เพิ่งไปตามเก็บมาก็คือ Midnight Sun ที่ผมชอบเพลง Good-Bye Days มากกว่าหนังทั้งเรื่อง แต่ก็พอเข้าใจว่ามันเป็นความปกติของหนังญี่ปุ่นที่จะมีตัวแสดงหลายตัวที่เล่นกัน "ใหญ่" ราวกับหลุดมาจากหนังสือการ์ตูน และรักกันง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ

Spider Liliy เขาเรียกว่า พลับพลึงตีนเป็ด
ดูเรื่องนี้ เพราะชอบนักแสดงแท้ๆ
(ยามเป็น)นางเอกก็สวย
(ยามเป็น)พระเอกก็เท่ ไม่ไหวแล้ว

สายลับจับบ้านเล็ก กลายเป็นหนึ่งในหนังไทยที่น่าผิดหวังที่สุดของผมในปีนี้ไปแล้วครับ ไม่น่าเชื่อว่าจีทีเอชจะทำหนังออกมา "คาเฟ่" ได้ขนาดนี้เลย...

ส่วนอีกสองเรื่องนั้น เรื่องแรกคือ The Corporation สารคดีแฉความเห็นแก่ตัวของบรรษัทในรูปแบบการเล่าแบบจิกกัดและเสียดสีเหมือนสารคดีแบบไมเคิล มัวร์ ที่ต้องดูเพราะว่าอาจารย์จะเอาไปออกข้อสอบวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่หนังสนุกดีครับ ยาวสองชั่วโมงครึ่งแต่ไม่น่าเบื่อ (เอ่อ... สำหรับเพื่อนคนอื่นก็บ่นกันระนาว ใช่สิ มันเป็นสารคดี 555+)

อีกเรื่องคือ The Truth be Told ของคุณพิมพกา โตวิระ ได้ดูในงาน Digital Forum ที่แกรนด์อีจีวี (งานยังมีวันที่ 7-8-9 โดยเฉพาะวันที่ 9 น่าสนใจสุดๆ เพราะฉายหนังฟิลิปปินส์ความยาว 9 ชั่วโมง!!) เป็นสารคดีตามติดชีวิตของคุณสุภิญญา กลางณรงค์ ซึ่งเน้นตามติดชีวิตจริงๆหลังที่ถูกทักษิณฟ้อง 400 ล้าน โดยไม่ได้เน้นที่คดีมากจนกลายเป็น courtroom drama แต่มาเน้นที่ชีวิตของเธอในช่วงสามปีที่ต้องสู้คดี ลากยาวมาจนถึงคราวรัฐประหาร ทำให้ออกมาดูดีว่าไม่เน้นการเมืองมากเกินไปจนดู bias (เพราะคุณพิมพกาก็เกลียดทักษิณ) แต่ที่ชอบที่สุดคือตอนจบ irony มากๆ

รอแผ่นทำไม ไปดูที่ House ทันทีเลย เพราะไม่รู้ว่าตอนออกแผ่นแท้ในไทยจะโดนหมอกลงหรือเปล่า

1408 สมเป็นหนังสตีเฟน คิงจริงๆ คือเป็นหนังที่ไม่น่ากลัว แค่แนวคิดแปลก เพราะเหตุนี้เลยไม่อยากดูหนังสตีเฟน คิงเท่าไหร่เพราะเห็นคนว่าดีทีไรดูแล้วผิดหวังทุกที

เรื่องนี้ไปดูเพราะชอบ John Cusack ค่ะ ดูแล้วก็เออเล่นเก่งดีจังเลย ทั้งเรื่องนั่งเล่นอยู่คนเดียวในห้อง เก่งมากเลย

ผมชอบดูหนังที่โรงมาก แต่ทางบ้านไม่มีเงินพอที่จะดูบ่อย นานๆทีถึงจะดู แต่อยากดูเรื่องที่คุยกันอยู่จัง

สายลับจับบ้านเล็ก ผมก็ไม่ได้มองมันว่าเป็นแบบ "เพื่อนสนิท" นะพี่ ผมมองมันเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ด้วยซ้ำ (ตามที่ตัวอย่างหนัง + เพลงประกอบทำให้ผมคิดไปแบบนั้น) แต่ก็อย่างที่บอกว่ามีหลายอย่างที่มันดูขัดหูขัดตาเกินไป

ชอบหนังเรื่อง the insider กับ shattered glass รบกวนช่วยเขียนบทวิจารณ์ให้หน่อยได้มั้ยครับ แบบว่าอยากอ่าน อ่านเรื่องอื่นแล้วสนุกดี เดี๋ยวจะเข้าไปอ่านและเขียนคำนิยมให้ครับ

แวบมาทักทายสวัสดีค่ะ เข้าใจความรู้สึกของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"ค่ะ เรื่องอาชีพแยกจากเรื่องของหนัง เพราะวันวันก็คงต้องอยู่กับเรื่องงาน ว่างก็อยากสนุกกับเน็ต คิดว่าเพื่อนคนอื่นก็คงเข้าใจเช่นกันค่ะ

จะเล่าว่าไปดู the invasion มาครับ

(ปรากฏว่าทั้งโรงมีผมกับแม่เท่านั้นที่เป็นคนไทย นอกนั้นฝรั่งตรึม)

สิ่งที่ชอบ(ขออนุญาตเลียนแบบ)
1. ดำเนินเรื่องกระชับ ไม่อืดดี
2. นิโคล ...แน่นอนอยู่แล้ว


สิ่งที่ไม่ชอบ
1. เนื้อเรื่องเดาได้ง่ายมาก ตามสไตล์
2. ไม่สมจริง(ทางการแพทย์)หลายประการ ซึ่งว่าจะไม่คิดมากแล้วครับ แต่ด้วยความที่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก และผมก็เรียนมา ก็เลยอดคิดไม่ได้

แต่ที่แน่ๆ รู้สึกว่าอยากเรียนต่อPsychiมากขึ้น
ปล. รออ่านหนังสือเล่มใหม่อยู่ครับ สู้ๆ

รอดู 1408 เหมือนกันค่ะ
spider lilies เป็นหนังที่ลงตัวมากเรื่องนึง
อิซาเบลลา ก็เป็นผู้หญิงที่หล่อที่สุดในโลกเลยค่ะ

ดีใจจังเลย หนังที่เราชื่นชมได้ไปอินเตอร์อีกรายแล้ว ก็เรื่อง" คนไฟบิน "งัย ก่อนหน้านี้เราก็เชียร์ "ฟ้าทลายโจร"นะ ก็สำเร็จอะ ขนาด 007 ตอนพี่เคร็ก เราดูแล้วว่าแสดงดีมากเลย ต้องได้รางวัลแน่ๆ (พระเอก)ก็ได้จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก จะเข้ามาชื่นชมตัวเองน่ะ 55555 หนังตอนนี้เหรอ จะรอดูเรื่อง....อะไรว้า ดูซิจำไม่ได้ ที่เป็นหนังสงคราม ที่เจนนิเฟอร์ การ์ดเนอร์แสดงน่ะ ใครดูตัวอย่างแล้วจำชื่อได้ก็บอกด้วยนะคะ

แวบมาดูว่ามีหนังอะไรเข้าใหม่ ช่วงนี้วุ่นๆกับงานเลยไม่ได้ไปดูอะไรเลย

คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ นอนดึกเป็นประจำหรือคะ? งานประจำ งานหนังสือ งานบล็อกมากมาย พักผ่อนมากๆนะคะ แฟนๆเป็นห่วงสุขภาพค่ะ

^^

ช่วงนี้ดูแต่หนังแผ่นจริงๆ โรงหนังนี่ไม่ได้เข้ามานานทีเดียว แต่ดูแผ่นก็ดีอย่างนะคะ ดูซ้ำ ย้อนไปเก็บตกได้ ดูเข้าใจ อินกว่าเยอะเลย ที่สำคัญ ไม่หนาว เป็นคนเจอหนาวไม่ได้ เจอแล้วง่วงนอน

กำลังพยามแย่งชิงเช่า ไวด์ฮอค อยู่เลย ทั้งร้านมี dvd แผ่นเดียว ใช้บริการร้านเช่าสีน้ำเงินนี่ได้ดูหนังไม่ครบเลย จะให้ซื้อทั้งหมดก็ไม่ไหว เฮ้อ

+ ช่วงนี้ผมห่างหายจากโรงหนังพอดูเลยครับ ... หลังจากช่วง 2-3 เดือนก่อน เล่นดูเข้าไปเดือนละ 10 กว่าเรื่อง (รวมหนังในเทศกาลต่างๆ ด้วย) เดือนนี้ไม่มีโปรแกรมพิเศษอะไร เลยต้องขอพักสายตา (และกะตังค์) บ้าง (แต่เดือนหน้าก็ได้เวลา Worldfilms อีกแล้วรึเปล่าเนี่ย?)
+ ช่วงนี้เลยเพิ่งได้ไปดูเพิ่มคือ ไชยา มาแค่เรื่องเดียว ตามแรงเชียร์ของบรรดาบล็อกเกอร์ที่รู้จักทุกคน ซึ่งประสานเสียงเป็นเสียงเดียวกัน ... ผลลัพธ์ผมได้ไปเขียนไว้ที่หน้า 'ไชยา' ของคุณจขบ. แว้ว ซึ่งก็นับว่าเรื่องนี้เป็น 'หนังดี' อีกเรื่องนึงของปีนี้ครับ ... และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นหนังไทยด้วย ดังนั้นสมควรจะไปอุดหนุนกันเยอะๆ ครับ

+ สำหรับผม ถ้ารวมหนังสัปดาห์นี้ด้วย ... ดูแน่ๆ คือ 1408, คาดว่าอาจจะดู ถ้ามีเวลาพอคือ Ensemble, c'est tout กับ Bug, คิดดูอีกทีก่อนคือ สายลับจับบ้านเล็ก และรอฟังเสียงวิจารณ์คือ The brave one ... เด๋วถ้าได้ไปดูเรื่องอะไรมา แล้วจะมาเขียนแปะเพิ่มไว้นะขอรับ

+ [คุณจขบ.] แม่นแล้วครับ Children of glory ... เห็นหนังสือหนังบางเล่มก็พูดถึงอยู่เหมือนกัน และผมคิดว่าน่าจะเข้านะครับ เพราะปกติหนังเทศกาลจะไม่ค่อยมีซับไทย แต่เรื่องนี้ตอนดูมีทั้งซับไทยและปะกิดอ่ะครับ
+ 2 เรื่องที่คุณเด็กหนัง Zikou #10 พูดถึง ... The insider เป็นหนังดี ที่ผมดันไม่ชอบครับ แหะๆ ... ส่วน Shattered glass นี่ติดท็อปเท็นของสรุปหนังท้ายปีในปีที่ผมดูนั้นด้วย คือผมว่าหนังดีๆ ที่เกี่ยวกับสื่อ ทำออกมาให้ดูดีแบบนั้นได้ยากอ่ะครับ ... แล้วเฮย์ดี้ กับปีเตอร์ ซาร์สการ์ด ก็เฉือนบทกันซะมันส์หยดติ๋งๆ เลย

แว๊บดูโปรแกรมที่เมเจอร์(เชียงใหม่) หนังไชยายังไม่ลาโรง ถึงจะเหลือแค่รอบเดียว/วันก็เหอะ ...ไม่รู้จะมีโอกาสดูตามแรงเชียร์ของใครๆหรือเปล่า แต่ก็จะพยายามตามไปเก็บ ถ้ามีเวลาพอ

วันนี้มีโอกาสดูหนัง 2 เรื่อง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทั้งที่ช่วงหลัง แหะๆ วัยไม่อำนวยให้ดูมากเรื่อง เพราะชีวิตจะสับสนเป็นที่ยิ่ง

เลือกดู เพื่อนฯ เพราะชอบเพลง อยากรู้แต่ไม่อยากถาม ตอนดูหนังตัวอย่างมันเข้ากั๊น..เข้ากัน พอมาดูจริงๆ มันก็ยังเข้ากันอยู่นั่นแหล่ะ ถึงจะคนละเวอร์ชั่นกับที่อยู่ในอัลบั้ม VOICE MAILก็เหอะ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าไงบ้างไม่รู้ เพราะไม่อ่านก่อนไปดู แต่ดูแล้วภาพสวยน่ะ เหมือนดูมิวสิคฯสวยๆ แสงเงาก็โอ นะคะ แถมมีเพลงประกอบช่วย(บิ้ว)อารมณ์ตลอดเรื่อง สไตล์หนังเกาหลียังไงก็ยังงั้น โอ้ นึกว่าดูมิวสิคเรื่องยาว!! หนังโจ่งแจ้งกว่าโบร๊คแบ๊คฯ เยอะ คงเพราะตัวผู้กำกับ!! แม้หลายๆฉากที่ดูแล้วภาพสวย หากในความเป็นจริง ก็ยังสงกะสัยอยู่ว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด สรุป ไปดูเพราะปลื้มเพลงนะเนี่ย ส่วนประเด็นรันทดในหนังที่เป็นความจริงในสังคม ก็ถูกใส่ลงไปพอให้ตัวหนัง ดูมีคุณค่าดูมีความหมายขึ้นกระมัง? ดูจบก็จบ แต่ไงก็ตาม สาวๆอาจต้องพินิจพิเคราะห์คนข้างเคียง คนใกล้ตัวมากขึ้น เพราะในสังคมที่แม้จะดูเปิดกว้างกับความหลากหลายทางเพศ แต่ก็ยังมีผู้หญิงอีกมากที่ถูกเกย์หลอกเพื่อสถานะทางสังคม!!

ส่วนอีกเรื่องที่ชมมา คือ The Brave One ที่จริงตอนอ่านพล็อตเรื่อง ก็คาดว่าคงเหมือนหนังแก้แค้นทั่วๆไปที่ออกฉายบ่อยๆ ไม่น่าจะมีอะไรชวนให้ติดตาม แต่ดูไปๆแล้วกลับชอบ เจ๊โจดี้แสดงหายห่วงอยู่แล้ว ใครที่เคยมีประสบการณ์คล้ายๆที่เกิดในหนัง คงเข้าใจความรู้สึกกลัวและหวาดระแวง รวมถึง การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พอไปตามเรื่อง ตามคดี ก็ให้คำตอบคล้ายๆกันว่า ใจเย็นๆ นั่งรอก่อน เดี๋ยวจะมีคนไปดูแลคุณ และก็มีคนนั่งหลับบ้างตื่นบ้าง รออยู่เต็ม!! เอ๊ะ นั่นไทยในอดีตหรือเปล่า เพราะปัจจุบัน เค้าบอกว่า โรงพักเพื่อประชาชนนี่นา(หรือช้ากว่าเดิมก็ไม่รู้) เพราะกฎหมายคือกฎหมาย ถ้าต้องเลือกทำตามขั้นตอน กับทำตามใจ จะเลือกทำอย่างไหนดี? ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าตอนจบสะใจดี(มั่กๆ) ถึงจะไม่ใช่ของใหม่อะไร ตำรวจประเทศไหนๆก็ทำ แต่ก็ยังสะใจอยู่ดี ในหนังเรื่องนี้ มีตัวละครอีกตัวที่เราชอบ เป็นผู้หญิงผิวดำที่อยู่แฟลตเดียวกับนางเอก ถึงช่วงต้นๆเรื่อง เธอจะดูเพิกเฉยกับสังคมและคนรอบข้าง แต่เวลาต่อมา เธอกลับเป็นตัวช่วยที่ดีของนางเอก มีคำพูดประโยคหนึ่ง ที่เธอพูดกับนางเอกว่า มีหลายวิธีที่จะตาย แต่คุณต้องมีกำลังใจที่จะอยู่ ประมาณนี้ โห!! ซึ้งอ่ะ

เท่านี้ก่อนดีกว่า แล้วจะรออ่านเรื่องนี้หลังจาก จขบ. ไปชมมาแล้ว มุมมองของความหวาดกลัวและความแค้นของนางเอก น่าจะถูกถ่ายทอดออกมาได้ดี ช่วยสรุปความสัมพันธ์ ระหว่างนางเอกกับตำรวจนักสืบด้วยว่าน่าจะไปในทิศ ทางใด?

chuck and Larry ฮามากกกกกกกกกกกกก ขำทั้งเรื่อง แต่ว่าก็มี โรแมนติกบ้าง ชอบ โดน ฮาได้ใจสุดๆๆๆๆ

ธุรกิจเสริมระบบ Online สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ทั่วประเทศ

ธุรกิจเสริม Online ไม่ต้องอบรม ไม่ต้องรักษายอด สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ทั่วประเทศ
L.Direct บริษัทในเครือ LOXLEY ซึ่งมีความมั่นคงยาวนานกว่า 68 ปี ได้เปิดโอกาสทางธุรกิจให้กับทุกคน
สมัครร่วมทีมกับ directonline team ทีมงานมืออาชีพ รีบตัดสินใจสมัครวันนี้ คว้าโอกาสต้นสายไว้ในมือ
พร้อมรับฟรี เว็บไซต์ขยายสายงาน เพื่อชิงความได้เปรียบในสนามรบธุรกิจออนไลน์ มีทีมงานคอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในการทำงาน ด้วยระบบ online100% รายได้หลักหมื่น จนถึง แสน แล้วแต่ความขยัน เป็นธุรกิจ Online เต็มรูปแบบ ไม่ต้องมีประสบการณ์ สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ทั่วประเทศ ง่ายๆรายได้ดี
1. รายได้ตั้งแต่หลักหมื่นจนเกินหลักแสน
2. ไม่ต้องอบรม ให้เสียเวลา ศึกษาทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์
3. ไม่ต้องเดินขาย หมดยุค กับระบบขายแบบเก่า ๆ
4. ไม่ต้องรักษายอด ไม่มีการบังคับซื้อสินค้าทุกเดือน จนคุณต้องควักเงินหมดเนื้อหมดตัว
5. สามารถทำได้ทั่วประเทศ ทำงานอยู่ที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต มีอิสระในด้านเวลา
6. รายได้เป็นมรดกตกทอด ตลอดไป
7. ตัดสินใจทำธุรกิจเรามีเว็บไซต์ขยายสายงานให้คุณ สำหรับทำงานออนไลน์ มีที่ปรึกษาเราจะไม่ทอดทิ้งคุณ
สนใจสมัครเข้าร่วมทีมออนไลน์กับเราวันนี้ รับฟรีเว็บไซต์เพื่อขยายงานทันที ศึกษางานก่อนได้ที่นี่ ฟรี //www.businessonline.tht.in/?id=223

กรี๊ด Black Snake Moan อยากดู
แต่ไม่รู้โดนลงหมอกหรือเปล่า เพราะเห็นว่าเรื่องนี้ แรงไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะติ๊นา ริกชี่ (ขวัญใจฉัน) เปลืองจริงๆ

อยากดู Black Snake Moan ง่า~~~~


Vacancy ไปเขียนในบล๊อกแล้ว... (จริงๆจะดู Bug แต่เอสเอฟเวิลด์ตัดรอบทิ้งเฉยเลย เซ็งเป็ด)

Ensemble c'est Tout หนังน่ารักดีครับ กลางๆค่อนไปทางดีนิดนึง พูดถึงความสัมพันธ์ของยุคใหม่ที่คนข้างบ้านแทบไม่รู้จักกัน พอมารู้จักกันมันเลยดูพิเศษไปเลย

และไฮไลต์ประจำช่วงนี้ครับ "เพื่อน...กูรักมืงว่ะ" ที่ขึ้นทำเนียบหนึ่งในหนังฮาที่สุดประจำปีนี้ของผมไปเรียบร้อยแล้ว (ถ้าจะให้สปอยล์ เขียนได้เป็นหน้าๆเลยครับ แต่ตอนนี้ขี้เกียจ 555+)

ใครอยากดูอะไรแบบ BBM อย่าดู
แต่ถ้าใครอยากคลายเครียด เชิญเลยครับ กรั่กๆๆๆๆ

สวัสดีครับ คุณ ผมฯ
มีเรื่องขอความช่วยเหลือหน่อยน่ะครับ
วันนั้นอ่านในบล็อคของคุณ เห็นมีพูดเกี่ยวกับหนังเรื่อง BLADE RUNNER ว่าเป็นหนังไซ-ไฟ
ที่ดีมีการหักมุมตอนจบ จึงไปดั้นด้น หาอยู่นานจนมาเจอจนได้ อารมณ์ตอนนั้นดีใจมาก เหมือนเจอสมบัติในตำนานเลยทีเดียว แต่หลังจากดูจนจบแล้ว.... ไม่รู้เรื่องเลยง่ะ ตอนจบก็ดูงงหรือมันเพราะเป็นฉบับปรับปรุงก็ไม่รู้ เลยอยากให้คุณ ผมฯ ช่วยอธิบายตนจบให้เข้าใจหน่อยครับว่ามันหักมุมยังไง ขอบพระคุณมากครับ
ส่งมาที่ mail ผมก็ได้ครับ siamjang@hotmail.com
ปล. เป็นแฟนผลงานการเขียนของคุณ ผมฯ มานานแล้วแต่เพิ่งได้เขียนคุยนี่แหละครับ ตื่นเต้นจัง

... เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมไปดูมาอีก 2 เรื่องครับ
+ Ensemble, c'est tout (@ลิโด) - หนังฝรั่งเศสที่แค่ชื่อเรื่อง (ภาษาอังกฤษคือ Hunting & Gathering) ก็สปอยล์ไปถึงตอนจบแล้วว่าพล็อตจะออกมาเป็นยังไง ... สิ่งดึงดูดใจสำหรับเรื่องนี้คงมีเพียงแค่น้อง Audrey Tautou (ผู้ตอนนี้คงเป็นนางเอกฝรั่งเศสที่คนไทยได้ยลโฉมเธอบนจอบ่อยสุด) กับพระเอก (ที่เคยเล่นเป็นเพื่อนลีโอใน The beach และเป็นพระเอกเรื่อง Love me if you dare) Guillaume Canet นั่นเอง ... ไม่รู้สิครับ ผมว่าถึงแม้เนื้อเรื่องจะดูอบอุ่น ฟีลกู๊ด มองโลกในแง่ดีสุดๆ ... แต่ความสัมพันธ์ตามท้องเรื่องมันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถืออ่ะครับ นับตั้งแต่ ...
### Spoil จ้า ###
พระเอกกับเพื่อน (ที่นิสัยต่างกันสุดขั้ว) มาเป็นรูมเมทกันได้ไง, วิธีที่นางเอกรู้จักกับเพื่อนพระเอกจนสนิทกันพอที่จะมาอยู่ร่วมห้องกัน, การที่พระเอกกับนางเอกเกลียดกันอยู่ดีๆ แล้วก็มาดีกันเฉยเลย, หรือแม้แต่ตอนคลี่คลาย ... and happily ever after ... มันดูดี เหลือเชื่อ เกินจริงไปหมด
... ออเดรย์ โตตู เธอเล่นเป็นสาวเปรี้ยวกร้านโลกสู้ชีวิตอีกครั้ง, Guillaume Canet (อ่านเป็นไทยไม่ออกง่ะ) เล่นได้ดิบเถื่อน แต่ก็แอบมีแง่มุมอบอุ่นและน่าสงสารได้ดี ส่วนคนอื่นๆ ก็เป็นไปตามบท
... สรุปแล้ว ถึงผมจะชอบหนัง feel good แต่เรื่องนี้ 'ไม่ถึงกับโดน' ผมแฮะ

+ 1408 - จุดที่ทำให้ผมรู้สึก 'ไม่กลัว' ในตอนแรกจนถึงกลางๆ เรื่อง ก็เพราะมีความรู้สึกว่า "มันเป็นแค่ห้องๆ เดียว จะอาถรรพ์ซักแค่ไหนกันเชียว" ... แต่พอเอาเข้าจริงๆ หนังก็ทำได้ค่อนข้างดีนะครับ เห็นด้วยกับคุณ TaMaCHaN #7 ว่าจอห์น คูแซ็ค เก่งที่เล่นอยู่คนเดียวแทบทั้งเรื่อง (จริงๆ ผมชื่นชมเค้ามานานล่ะ อย่างใน Identity ที่เป็นแนวไซโค/ทริลเลอร์คล้ายๆ กันนี่ก็เล่นดีเช่นกัน และผมชอบเรื่องนั้นมากกว่าเรื่องนี้ตรงความลึกของเรื่องราว กับตอนโหดก็โหดจริงๆ นั่นแหละครับ) ... ถ้าไม่นับน้าแซมมวล แอล แจ๊คสัน ที่โผล่มาแค่ไม่กี่ฉากนะ ... แต่โดยคอนเซ็ปต์ก็พอจะเข้าใจว่าหนังต้องการพูดถึง "ความศรัทธา" เพราะพระเอกซึ่งเขียนเรื่อง 10 อันดับของสถานที่สยองขวัญต่างๆ (ตั้งใจล้อ High fidelity ที่เล่นโดยจอห์น คูแซ็คเหมือนกันรึเปล่าเนี่ย?) จริงๆ แล้วแทบจะเรียกว่านั่งเทียนเขียนทั้งนั้น แทบไม่ได้เคยเจอความสยองของจริงเลย จนกระทั่งมาเจอจังๆ กับห้องนรกแตกห้องนี้
### Spoil จ้า ###
... หนังเข้าใจเล่นมุกว่าห้องนี้จริงๆ แล้วอยู่ชั้น 13 (เพราะตึกฝรั่งจะข้ามจากชั้น 12 ไป 14 เลย) แล้วห้องนี้ก็คือ 1+4+0+8 = 13 นั่นเอง ... แต่จุดเริ่มต้นความสยองจริงๆ ก็คงเมื่อเพลง We've only just begun ของ Carpenter ดังขึ้นนั่นแหละครับ เล่นโผล่มาในบรรยากาศและอารมณ์แบบนั้น ทำเอาขนหัวลุกเลย แล้วยังนาฬิกาที่นับถอยหลังอีกล่ะ ... ตอนปีนหา "หน้าต่างที่ไม่มี" ของห้องถัดไป, ตอนมุดช่องแอร์หนี, ตอน "คนในห้องฝั่งตึกตรงข้าม", ตอน "แผนที่ You're here" ก็สยองใช้ได้
... แต่ก็มีอีกหลายตอนที่ผมกลับไม่อิน อย่างเช่น ตอน "รูปภาพมีชีวิต", ตอน "หิมะตกในห้อง", ตอน "วิญญาณต่างๆ ในห้องปรากฎร่างให้เห็น" เป็นต้น แล้วยิ่งตอน "ไปไปรษณีย์แล้วกลับมาที่ห้อง" นั่นก็ดูเหลือเชื่อเกินไปหน่อย
... ก็ถือว่าชอบในระดับนึงนะครับ ... แต่ไม่ถึงระดับที่คาดหวังไว้

... อ้าว ยังเขียนไม่จบ ดันเผลอกด submit เฉยเลยตรู ...
[คุณ จขบ.]
+ ตกลง Children of glory เข้าที่โรงค่าย Apex สัปดาห์นี้นะครับ ถึงไม่มีโปรแกรมที่หน้าเหลิมไทย แต่ลงใน นสพ. ไปแล้ว แสดงว่าฉายแน่ๆ ครับ
+ อ๊ากกกกก Black Snake Moan อยากดูเช่นกันครับ (เหมือนผมเคยเขียนถึงหนังเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ใน 'หน้าแรก' หน้าไหนซักหน้านึงอ่า)

+ หนังเก่าๆ ตกค้าง ตอนนี้คิดว่าคงต้องปล่อย Bug ไป เหลือ The brave one กับ สายลับจับกิ๊กไว้พิจารณา ... ส่วนหนังใหม่สัปดาห์นี้ ผมสนใจ 3 เรื่องอ่ะคับ คือ ยิง แม่งเลย, Shindo หนังดนตรีที่แสดงโดย Lคุงจาก Death note (ไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้ใช่หนึ่งในหนังโครงการเดียวกับที่ให้ทุนคุณเจ้ยทำ "แสงศตวรรษ" หรือไม่ ที่เป็นทุนจากออสเตรียเนื่องในวาระครบรอบกี่ร้อยปีของโมสาร์ทเนี่ยแหละ) กับอีกเรื่องคือ Eternal summer (@House) หนังสไตล์ 'เรา 3 คน' แบบ coming-of-age ... เด๋วดูเรื่องไหนแล้วจะมาแปะต่อนะขอรับ

Guillaume Canet = กีโยม กาเนต์ ครับ
ล่าสุดเป็นผู้กำกับหนังเรื่อง Tell No One ที่รีเมคมาจากหนังสือชื่อเดียวกันของ Harlan Coben ด้วย
(แต่เปลี่ยนท้องเรื่องจากอเมริกาเป็นฝรั่งเศสทั้งหมด)

แวะมาบอกกล่าวกันว่า "แหกคุก" (Prison Break) ซีซั่น3 ที่อเมริกาออกฉายแล้วนะฮะ ตอนนี้มีให้โหลดตามเว็บบิทหลายๆเว็บแล้ว แฟนๆหนุ่มหน้ามน คนแหกคุกเชิญหามารับชมกันได้เลยฮะ

เชิญชวนฟัง จขบ. ให้สัมภาษณ์รายการวิทยุที่เชียงใหม่เจ๊า //www.fm100cmu.com/fm100/100programs_detail.php?id_sub_group=19&id=5128

เพิ่งได้ดู ฝันบ้าคาราโอเกะ ครับ ผมว่าผมชอบหนังเป็นเอกยุคที่กำลังบ้ากำลังคึกคะนองแบบนี้นะ มันดูหลุดโลกดี (แต่ก็ไม่มีเรื่องไหนที่ถึงขั้นเกลียด มีแค่ไม่ค่อยชอบก็ Invisible Waves)

แล้วก็ Cries and Whispers ของเบิร์กแมน วูบๆไปหน่อยกลางๆเรื่อง(ตามกิตติศัพท์ที่ได้ยินมา) แต่ตอนท้ายเรื่องขมวดปมได้รุนแรงดีเหลือเกิน

ปิดท้ายด้วย เพื่อน-แพง ในสัปดาห์ภาพยนตร์เชิด ทรงศรี ชอบมากๆที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เป็นหนังรักน้ำเน่าเชยๆ และตอนจบคลาสสิกมากๆ


ปล. ทั้งสามเรื่องดูฟรีหมด 555+ เพราะกำลังยากจนข้นแค้น เดี๋ยววันนี้จะไปทัศนา La Notte กับ L'Eclisse ของ มิเกลันเจโล อันโตนิโอนี่ ล่ะคร้าบ

"สายลับจับบ้านเล็กนั้น "
ผมค่อนข้างชอบและเพลิดเพลินกับมันมาก
แม้เนื้อเรื่องจะธรรมดาเนิบๆ จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งไปนิดๆ (ซึ่งจริงๆผมก็ชอบอยู่ดีแหละ)
แต่ทีเด็ดคือ
- จังหวะการปล่อยมุขที่ผมว่าไม่ธรรดา และเข้าเป้าซะเยอะ
-ผมชอบที่นางเอกในเรื่องเป็นเมียน้อยจริงๆ คือผมว่ามันเป็นเรื่องที่มีจริง แต่หนังไม่ทำให้หนักเกินไป
-นางเอกครับ เล่นดีหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจนัก
แต่ผมชอบครับ

ที่ทำงานที่ผมมาใช้ทุนนั้นมีแต่หนังไทยมาเข้าส่วนใหญ่ ไม่ทราบว่าพี่"ผมอยู่ข้างหลังคุณ) ได้ดูรึยังครับ
ทำไมผมรู้สึกว่าคุณ พิง แกคล้ายเล่นเป้น โน้ต อุดม อย่างไรอย่างนั้น

หรือผมคิดไปเอง

สายลับจับบ่านเล็กที่เมเจอร์ รัชโยธินมา นางเอกน่ารักดี ชอบเพื่อนพระเอก มากเลย น้องแจ๊ค(แฟนฉัน) จิ๋มดำ (แจ๋ว) ตลกดี ทำให้หนังไม่น่าเบื่อดีค่ะ เสร็จแล้วไปกินเสี่ยวหลงเปา ได้ลด 15%ด้วย (เพราะปริ้นคูปองส่วนลดจาก //www.vipecoupon.com มีร้านเพียบเล้ย ) อาหย่อยจางเลย ...ได้ลดด้วย อิ...อิ ....

พรุ่งนี้ จะไปดู Children of Glory เด้อครับ...(สาธุ ขออย่าให้มีอะไรอย่างอื่นมาดลใจให้ไปไม่ได้เลย)

ดูจบแล้วเดี๋ยวจะมาคุยกันเน้อ...

ปล. 1408 ชอบมากๆ ผมประทับใจนะ ไม่ได้เข้าถึงจิตวิทยา แต่เข้าถึงความหลอนในใจผมได้ลึกๆเลย , ยิงแม(ร่)งเลย ก็ ชอบแม(ร่)งเลย สนุกสาด..สาด!!!

+ ขอบคุณ คุณ จขบ. นะครับ ที่เอ่ยถึงชื่อผมเป็นเครดิตสำหรับเรื่อง Children of glory ด้วย ... ตอนนั้นผมก็เขียนไปตามความรู้สึกที่ได้ดูมาแหละครับ เพราะผมทึ่งตรงที่หนังสามารถหล่อหลอมธีมทั้งหลายทั้งปวงที่ผมไม่ค่อยจะชอบดูเท่าไหร่ (หนังกีฬา/หนังสงคราม) ออกมาได้กลมกล่อมลงตัวดีโดยมี ความรัก ของคู่พระนางเป็นตัวขับเคลื่อนให้หนังเดินไปข้างหน้า (พร้อมๆ กับเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์) และหนังเหมือนจะเสียดสีชาติมหาอำนาจที่ชอบใช้ทั้งกำลังทหารและความได้เปรียบอื่นๆ ข่มชาติเล็กๆ อีกด้วยอ่ะครับ

... ถึงแม้สัปดาห์นี้ ผมจะมีแขกบ้านแขกเมืองมาให้ต้อนรับ (ก็เพื่อนผม คนที่ผมไปเยี่ยมที่เมกาเดือนเมษานั่นแหละครับ เค้ากลับมาต่อทุนที่เมืองไทย 2 อาทิตย์) แต่ผมก็ยังอุตส่าห์แว่บไปดูหนังมาเพิ่มอีกจนได้ ...
+ The brave one - ดูมาตั้งแต่พุธที่แล้ว เอาความเห็นไปแปะไว้ที่หน้า The brave one แล้วนะครับ

+ Shoot'em up - ไม่แน่ใจว่าคุณ จขบ. จะเขียนถึงเรื่องนี้ในกรุ๊ป 'ดูแล้วมาคุยกัน' รึเปล่า ... งั้นขอเขียนถึงสั้นๆ ก่อนแล้วกันว่า ถ้าใครที่ชอบหนังแนวบู๊แอ๊คชั่นขายสไตล์ (ประมาณ Sin city) เข้าไปชมเรื่องนี้แล้วจะไม่ผิดหวังครับ ... 3 ดารานำ เล่นกันได้อย่างระห่ำถึงใจ ไม่ว่าจะเป็นเฮียไคลฟ์ โอเวน (ที่มาดมือปืนพ่อพระยังติดตาใน Sin city) เรื่องนี้เป็น 'มือปืนหัวแครอต' ที่มาดกวนโอ๊ยสุดๆ, โมนิก้า เบลุคชี่ที่ยังเอ็กซ์แตกเหมือนเดิม และลุงพอล จิอาแมตติ ที่ถึงจะดูเป็นมือปืนที่ไม่โหดเท่าไหร่ (แถมยังมีลูกน้องที่ไม่ค่อยได้เรื่องทั้งแก๊ง) แต่บทจะเหี้ยม ก็เหี้ยมได้อย่างถึงกึ๋นเช่นกัน

### Spoil จ้า ###
+ เรื่องเหตุผล คงไม่ต้องพูดถึงกันมากนัก ... แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้มีฉากมันส์ๆ หลุดโลกให้ดูกันเพียบ เช่นฉากทำคลอดกลางห่ากระสุน, เอาแครอตจิ้มลูกกะตาสมุนโจร, การทำค่ายปืนกลในโรงงานปืนกล, ฯลฯ และโดยเฉพาะฉาก X ไป-ยิงไป-Orgasm เสร็จ โจรตายกันเรียบวุธพอดี เนี่ย คิดได้ไงเนี่ย เหอๆๆ

+ Shindo : อืม ... นอกจากเสียงเปียโนอันไพเราะเพราะพริ้ง, ความน่ารักสุดๆ ของนางเอก (พอดีผมเพิ่งติดตามหนังเอเชียเมื่อไม่นานเท่าไหร่ เลยไม่แน่ใจว่าน้องเธอดังมาจากหนังเรื่องไหนมาก่อนรึเปล่า) บวกกับความเป็น 'L คุง' ของพระเอกเคนอิจิ มัตซึยามะ (ที่พอทำผมทรงแบบในเรื่องนี้แล้ว ดูเท่ห์น้อยลงเยอะเลย แต่ก็สามารถสลัดมาด Lคุง ออกไปได้) แล้ว ทำไมผมถึงรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ บทมันช่างไม่สมูธเอาซะเลย (ผมไม่ได้ชอบจับผิดหนังนะ แต่มันรู้สึกได้เองง่ะ) ...

### Spoil (อย่างแรง) จ้า ###
... ยกตัวอย่างเช่น ตอนเปิดเรื่องพระเอกรู้จักกับนางเอกโดยบังเอิญที่สระน้ำ ด้วยตุ๊กตานำโชคของนางเอก ... แล้วอยู่ไม่อยู่ ทำไมนางเอกถึงได้ติดใจพระเอกที่เป็นรุ่นพี่ตั้งหลายปีนักหนา ถึงกับตามมาอยู่ที่บ้าน (ร้านขายผัก) ด้วยเป็นพักๆ
... พระเอกฝีมือการเล่นเปียโนแทบไม่เคยมีพัฒนาการเลย นางเอกก็เหมือนไม่รู้จะช่วยยังไง ... แต่พอฉากจบ ดันเล่นเปียโนด้วยกันใน 'สุสานเปียโน' ซะงั้น
... ตาอาจารย์คนนี้ปลื้มพระเอกตอนที่เล่นเพลงสอบเข้า จนทำให้ได้คะแนนสูงปรี๊ดนั่น หูแกเป็นอะไร แล้วมาหาว่าตอนนั้นเป็น 'ภาพลวงตา' อีกต่างหาก
... เพื่อนชายในชั้นเรียน คนที่แอบหลงรักนางเอก ถึงจะมีความสำคัญต่อเรื่องเป็นบางช่วง แต่ตอนจบดันถูกทอดทิ้งอย่างโหดร้ายไม่เห็นหัวซะงั้น (แหะๆ ผมชอบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง)
... เพื่อนสาวของพระเอกในโรงเรียนดนตรี ก็ใส่เข้ามาเหมือนเป็นส่วนเกินต่อเนื้อเรื่องยังไงไม่รู้
... แม่นางเอก หนังก็ไม่อธิบายว่าทำอะไร ทำไมถึงผลุบๆ โผล่ๆ แล้วก็ทำไมถึงทำอะไรแบบที่ทำในหนังนั่น ... และแถมยังไว้ใจให้ลูกสาวตัวเองไปกินไปนอนอยู่บ้านพระเอกได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ห่วง (มือ) ลูกสาวซะขนาดนั้น
... ตอนนางเอกขึ้นไปเล่นคอนเสิร์ต ถึงจะมีพรสวรรค์ แต่เธอจะทำได้ถึงขนาดนั้นเชียว? แล้วตาฝรั่งคนที่จะมาแสดงนั่นก็ ทำไมถึงไว้ใจนางเอกง่ายจัง แล้วทำไมถึงไม่ยอมเล่นเอง หนังก็ไม่ได้ใส่ว่าแกมีผลอะไรต่อหนังในช่วงถัดไปอีก
... ตกลงที่นางเอกไม่อยากเล่นเปียโน เป็นเพราะคาใจเรื่องพ่อ, ถูกแม่บีบคั้น หรือเรื่องประสาทหูที่เริ่มเสื่อมลงเรื่อยๆ ของเธอกันแน่ ผมยังเง็งๆ อ่า
... ฉากจบ นางเอกไม่เคยบอกพระเอกว่า 'สุสานเปียโน' อยู่ที่ไหน แต่ดันตามมาถูกเฉยเลย แถมแง้มประตูเข้ามาได้อย่างดิบดี (นางเอกต้องปีนเหยียบหลัง 'เพื่อนผู้แอบรัก' แทบตาย สุดท้ายดันถูกปล่อยทิ้งให้ร้องไห้อยู่ข้างนอกเฉยเลย)
... ฯลฯ
### จบ spoil ###


+ หนังสัปดาห์หน้า เห็นโปรแกรมในเหลิมไทยลงไว้ตั้งหลายเรื่อง แต่ไมผมเห็นใน นสพ. เหมือนจะมีแค่ ผีฟิสิกส์ ... เอ๊ย ผีชีวะ3 เป็นโปรแกรมใหญ่เรื่องเดียวเองอ่ะครับ? (ซึ่งผมไม่ได้ดู 2 ภาคแรก ลงก็คงไม่ดูภาคนี้ไปด้วย), แล้วก็อาจจะดู Blood brother กับเก็บของเก่า Eternal summer@House กับสายลับจับกิ๊ก ถ้าไม่ออกไปซะก่อน

ดู Children of Glory แล้วครับ ...เป็นหนังที่ดีนะ แต่ไม่ค่อยโดนใจผม แอบรู้สึกผิดหวังด้วย

คือ เนื้อหาอะไรมันดีหมดแหละ การแสดงก็เล่นได้อิน แต่ที่มันไม่ดี ก็การตัดต่อที่ผมรู้สึกว่ามันโดด ให้อารมณ์ไม่ต่อเนื่องกัน มันจะดูประดักประเดิด แบบว่าจะซึ้งก็ไม่ถึงจุดนั้นทั้งๆที่ฉากมันต้องการ การเชื่อมฉากแต่ละฉากมันดูจะแบบทื่อๆ แถมการถ่ายภาพก็ไม่ค่อยให้ความทรงพลังเท่าที่ควรจะเป็น อย่างฉากสงครามต่อสู้ ก็ไม่ค่อยจะหดหู่ หรือแข่งโปโลน้ำ ก็ถ่ายแบบแข็งๆ ไม่ได้สร้างความรู้สึกตื่นเต้นอะไรเท่าที่มันน่าจะได้ ...และที่ไม่ปลื้มสุด ก็ฉากจบ ที่มันค้างๆคา ทั้งๆที่น่าจะเล่าความเป็นไปของพระนางอีกสักหน่อยก็น่าจะดี (หรือแค่ขึ้นตัวหนังสือเล่าเรื่องอะไรก็ได้อยู่)

แต่ก็ยังไม่ถึงกับเสียดายเวลา กะตังค์อะไรนะ ...อย่างน้อยๆ เนื้อหาที่ผมเคยเรียนจากวิชาสังคมมาทำเป็นหนัง ก็ให้อะไรที่มันคุ้มค่าต่อการได้ชม
เพียงแต่เสียดายที่อุตส่าห์หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งหนังประทับใจได้แน่ๆเลยเชียว

ช่วงนี้ได้ดูหนังเก่าๆเยอะครับ เพราะว่าเขาตั้งใจจัดกันเหลือเกิน 55+

สรุปสัปดาห์ภาพยนตร์เชิด ทรงศรี ก็ดูไปทั้งหมด 4 เรื่อง ได้แก่ เพื่อน-แพง, แผลเก่า, พลอยทะเล และ อำแดงเหมือนกับนายริด
ขาดเรื่องทวิภพ เพราะวันแรกที่ฉายผมก็ไปดูหนังอันโตนิโอนี่ อีกวันก็ใกล้วันสอบมากเกินไป อดอีก ไม่อยากเสี่ยงเพราะข้อสอบทารุณมาก - -*

หนังคุณเชิดจะมีจุดร่วมคล้ายๆกันอยู่เกือบทุกเรื่อง คือผู้หญิงเป็นเพศที่ถูกกระทำ (ซึ่งชัดเจนไม่อ้อมคอมตรงไปตรงมาสุดๆใน "อำแดงเหมือนกับนายริด") แม้จะไม่ตรงไปตรงมามากนักแต่ก็พอจะสัมผัสเรื่องราวตรงนี้ได้ และอีกจุดคือการเชิดชูสังคมชนบท (ซึ่งใน "พลอยทะเล" ชัดเจนเกินไปจนผมรู้สึกรำคาญ เพราะเหมือนหนังพยายามยัดเยียดแนวคิดว่าเมืองใหญ่คือสถานที่แสนเลวร้าย ให้เราอยู่เกือบตลอดเวลา)

ตัวละครหญิงแต่ละตัวของหนังทั้ง 4 เรื่อง ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงที่มักถูกตีตราว่าเป็นหญิงเลวในบริบทสังคมของแต่ละเรื่อง ทั้งอีแพงในเพื่อน-แพง ที่หลงรักผัวพี่สาว อีเรียมในแผลเก่าที่ได้ใหม่แล้วลืมเก่าเพราะเขารวยกว่า(โดยที่เธอเองก็ไม่ได้สมัครใจนัก) อีกระถินในพลอยทะเล ที่มีผัวใหม่เพราะคิดว่าผัวเก่าตายไปแล้ว สุดท้ายกับอีเหมือนที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิในความเป็นมนุษย์ของผู้หญิง

เรียงลำดับความชอบ
1. แผลเก่า (A+)
2. เพื่อน-แพง (A+)
3. อำแดงเหมือนกับนายริด (A เกือบบวก)
4. พลอยทะเล (B)

อนึ่ง...
3 จาก 4 เรื่องนำแสดงโดย สรพงศ์ ชาตรี
2 จาก 4 เรื่องนำแสดงโดย ชณุตพร วิศิษฎโสภณ

วันนี้ได้นั่งข้างคุณบรรเจิดศรี ยมาภัยด้วย ตอนดูอำแดงเหมือนกับนายริด ตอนแรกก็นึกว่าไม่ใช่ มาเห็นหน้าชัดๆตอนหนังจบแล้วเดินออกมาจากโรง กรี๊ดๆ
------------------------------------------

หนังเก่าอีกชุดคือ Michelangelo Antonioni ที่ไบโอสโคปจัดฉายคือ La Notte กับ L'Eclisse (ไม่ฉาย L'Avventura เพราะพี่เตเต้-ไกรวุฒิ บอกว่าน่าเบื่อ พี่ไม่ชอบ 55555)

ส่วนตัวชอบ L'Eclisse(A เกือบบวก) มากกว่า เพราะมันดูมีอะไรให้ติดตามมากกว่า คือ La Notte(A-) มันนิ่งๆเงียบๆ จนวูบๆไปหลายรอบอยู่5555+ เหมือนนั่งดูหนังหว่องกาไว
----------------------------------------

ปิดท้ายด้วย Shoot'Em Up ที่แก้เครียดหลังสอบได้ดียิ่ง หนังฮาสาดและแอ็คชั่นอย่างเสียสติ สาดกระสุนและแครอทกันแบบบ้าคลั่ง ไดอะล็อกเสียดสีจิกกัดบาดมนุษย์สุดๆ

ฮี้ย เพิ่งไปดู shindo มาค่ะ
หนังมีดีที่หน้าตาพระเอก นางเอก
นอกนั้น ดูแทบไม่รุเรื่องไม่เข้าใจว่าหนังต้องการสื่อไร
ไม่ชอบเรยอ่า หนังชอบทำเหมือนกับว่า คนสร้างฉลาดล้ำลึก ไม่ต้องเฉลย ก็น่าจาตีความได้เอง
(จะบ้าเรอะ )
เซ็งจิงๆหนังเงียบ + ไม่เฉลยเหตุผล
ไม่ปลื้มเรย ๆ - -''

เพิ่มเติมๆ
อยากให้คนที่อยากเสียน้ำตาไปดูเรื่อง hearty paws หนังเกี่ยวกับเด็ก หมา สังคม
หนังสะท้อนปัญหาสังคมแนวแม่ทิ้งลูกได้ดีอ่า
เหนคนร้องไห้ทั้งโรงเลยนะ หมาก็น่ารัก เด็กชาย หญิง ที่แสดงก็แสดงดี หลายคนอาจมองข้ามไปเพราะว่ามันเด็กๆ แต่พลอยก็อยากให้ลองไปดูกันนะ คนรักหมา ชอบเด็ก น่าจาชอบ ไม่รุจะออกจากโรงไปยังนะ เปนหนังซึ้งดี มีเฉพาะโรงลิโดจ้า

//www.youtube.com/watch?v=AlKq-duvQtY
เปนตยหนัง เพราะอยากให้ดูจิงๆ

เห็นชื่อ blog ผมอยู่ข้างหลังคุณ มาพักหนึ่งแล้ว
แต่ไม่เคยได้เข้ามาเที่ยวพื้นที่ส่วนตัวคุณเลย
พอวันนี้ลองเข้ามาดู...ติดใจค่ะ
ส่วนตัวเป็นคนดูหนัง แต่วิจารณ์ไม่เป็น
บอกได้แค่ว่า สนุก หรือ ไม่สนุก ชอบ หรือ ไม่ชอบ
แล้วยังไงจะแวะมาเยี่ยมอีกแน่นอนค่ะ ^^

- เพิ่งกลับจากฮ่องกงมาได้พักนึงค่ะ ช่วงนี้ก็เลยไม่ได้ดูหนังในโรงเลย แต่ที่คาดว่าจะดูก็คือ Children of Glory อยากดูตั้งแต่ที่พี่บลูฯพูดถึงครั้งแรกเมื่องานเทศกาลแล้วค่ะ ถ้ามีเวลาคงจะไม่พลาดแน่ๆ

อีกเรื่องก็คือ hearty paws ที่คุณploy แนะนำ เพราะโดยส่วนตัวชอบน้องหมาค่ะ และชอบหนังเรียกน้ำตาด้วย ก็เลยคิดว่าจะหาเวลาไปดูให้ได้นะคะ

- ตอนนี้กำลังดู Lost season 3 ไปพร้อมกับ Prison Break season 2 ค่ะ โดยเรื่องหลังตอนดูซีซันแรกในคุก ไม่ชอบเอาซะเลย แต่พอซีซัน 2 นอกคุก กลับชอบมากกว่าเพราะมันส์มากๆๆๆ

- ตอนนี้กุ้งล้มเลิกโครงการที่จะเปิดร้านเสื้อที่สยามไปเรียบร้อยแล้วค่ะ เนื่องด้วยความไม่ลงตัวของอะไรหลายๆอย่าง ก็เลยเป็นช่วงกำลังจะทำ resume เพื่อสมัครงานอยู่ แต่ขอโอ้เอ้อีกพักนึงก่อน เพราะกลางเดือนนี้มีทริปไปจิ่วไจ้โกว 8 วันเต็มๆ กะว่าจบทริปนี้แล้วจะกลับมาลุยเรื่องงานเต็มๆอีกทีค่า ตอนนี้ก็ได้แต่ช่วยงานป่าป๊าที่บ้านไปพลางๆก่อน ได้ข่าวว่าพี่บลูฯเคยไปจิ่วไจ้โกวมาใช่มั้ยคะ เป็นไงบ้างอะคะพี่ หนาวมากหรือเปล่า แล้วกุ้งต้องเตรียมตัวอะไรยังไงบ้าง วานเล่าสู่กันฟังหน่อยนะคะ

คุยกะพี่จขบ.
- หนังสือของพี่จะเปิดตัวเมื่อไหร่คะ จะใช่ช่วงสัปดาห์หนังสือเหมือนอย่างเล่มที่แล้วหรือเปล่า เพราะถ้าใช่ กุ้งคงอดไปแหงๆเลย เพราะ 17-24 ตุลา กุ้งไม่อยู่อะค่ะ แงๆๆๆๆๆ (เปิดหลังจากนั้นได้มั้ยพี่ จะได้ตามไปแสดงความยินดีด้วยได้)

คุยกะพี่บลูฯ
- นางเอกเรื่องชินโดเนี่ย กุ้งว่าเค้าคือคนเดียวกะนางเอก Sugar&Spices ที่น้องเฉินป้อหลินกับน้องยูยะขวัญใจกุ้งเป็นคนเล่นหรือเปล่า ถ้าใช่ กุ้งรู้ว่าน้องเค้าดังจากซีรีส์เรียกน้ำตาสุดดังของญี่ปุ่นเรื่อง 1 Litre no namida (หรือชื่ออังกฤษประมาณ one liters of tear ทำนองเนี้ยล่ะ) แต่กุ้งก็ไม่แน่ใจนะคะ แค่รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา มีซีรีส์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน แต่ได้ดูไปแค่ตอนเดียวเองอะ
- อย่าลืมเรื่องจิ่วไจ้โกวนะพี่นะ

คุยกะน้องนาโนฯ
- เรื่องเพื่อน-แพงเนี่ยเป็นเรื่องในความทรงจำพี่เลย จำได้ว่าหม่าม้าจูงพี่ไปดูที่โรงตั้งแต่พี่ยังเด็ก ดูจบแล้วจำอะไรไม่ค่อยได้ นอกจากเนื้อเพลงที่พี่ร้องเอาเองว่า “โอ้บายมายดาร์ลิ้ง คั้มมิ่งทูมี้....” ว่าแล้วก็อยากดูอีกรอบเหมือนกัน และถ้ามีแผ่นขายก็จะหาซื้อมาให้หม่ามี้ดูนะเนี่ย
- ดูหนังเยอะขนาดนี้ จะได้มีเวลาดูดีวีดีที่เอาจากพี่ไปบ้างเหรอจ๊ะเนี่ย แต่อย่ามัวแต่ดูเพลินจนลืมอ่านหนังสือสอบน้า

อัพเดทงานคอนเสิร์ต
- เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา กุ้งได้ไปดูคอนเสิร์ต Lost Love Songs มาค่ะ โดยรวมถือว่าประทับใจ (แต่แอบเบื่ออยู่ตอนนึงคือตอนคุณหนุ่มเสกมา marketing ตัวเองบนเวที หันไปมองคนข้างๆ ทุกคนทำหน้าไม่อินกันทั้งนั้น) ชอบตอนที่พี่เอ๋ XYZ ขวัญใจกุ้งตอนเด็กๆขึ้นมาร้องเพลงสบายดีหรือเปล่า กับกว่าจะรัก แค่นี้ก็คุ้มแล้วค่ะ ชอบ XYZ มา 20 กว่าปี เพิ่งได้เจอตัวเป็นๆก็คราวนี้แหล่ะ (แต่ที่จริง ตอนเด็กปลื้มพี่ติ๊กมากที่สุด) / สำหรับนักร้องคนอื่นๆ แม้จะไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ แต่พอเพลงขึ้น ก็พอร้องตามได้ค่ะ
- อ๊อฟ ปองศักดิ์ ร้องสดเพราะมากๆ อินมากๆ แต่หลายๆท่าเต้นแกแต๋วแตกไปหน่อยนะ แต่ดูแล้วขำดี
- ในฮอลล์หนาวมั่กๆๆๆๆๆ ดูคอนเสิร์ตมาก็หลายที่แล้ว ไม่เคยมีให้รู้สึกหนาวเลย แต่คอนเสิร์ตนี้หนาวซะจน พอตอนเลิกคอนเสิร์ตไปยืนรอคิวห้องน้ำ ทุกคนยืดกอดอกและบ่นว่าหนาวกันเป็นแถว / ถ้าไม่หนาวขนาดนี้ คงมีสมาธิดูคอนเสิร์ตมากกว่านี้อะค่ะ

ไปล่ะค่า

5555555
แวะมาสารภาพกับพี่กุ้งว่า....
"ยังไม่ได้ดูซักเรื่องเลยครับ"

+ รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเก็บเพิ่มได้อีก 2 เรื่อง คือย้อนกลับไปดูของเก่าที่ยังยืนโรงฉายอยู่อย่าง สายลับจับบ้านเล็ก ซึ่งเนื่องจากอ่านข้อมูลไปเยอะ ดังนั้นจึงพอจะรู้ว่าจะต้องเจอกับ 'อะไร' และผมก็ได้ไปเขียนไว้ที่หน้า สายลับฯ แล้ว ... โดยสรุปก็คือในส่วนโรแมนติค ทำอารมณ์ออกมาใช้ได้ แต่ตรรกะไม่ค่อยได้, ในส่วนคอมิดี้ เนื่องจากหนังวางตัวออกแนวการ์ตูนเว่อร์ๆ มาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ถึงกระนั้นหลายมุกที่ออกแนวคาเฟ่ โป๊งชึ่ง กับมุกคำหยาบ ก็ไม่โดนสำหรับผมอยู่ดีอ่ะครับ
... ส่วนอีกเรื่องที่ได้ไปดูมาก็คือ

+ Eternal summer (@House) - หนังแนว 'เรา 3 คน' ที่เคยดูมา ... เนื่องจากต้องมี 'คนที่ 3' มาเกี่ยวข้อง ดังนั้นย่อมจะต้องมีเพศตรงกับฝ่ายใดฝ่ายนึงในคู่นั้นๆ ดังนั้นอารมณ์แนว Homo-Erotic จึงมักเลี่ยงไม่พ้นสำหรับหนังแนวนี้ ซึ่งก็มีทั้งแบบ 'เผลอไป' อย่าง Y tu mama tambian ไปจนถึงแบบเปิดเผยอย่าง You I love (หนังรัสเซีย ฉายที่เฮาส์เมื่อ 2-3 ปีก่อน) หรือ A home at the end of the world
... ส่วนพล็อตเรื่องของเรื่องนี้ เป็นอารมณ์ Coming-of-age เป็น "เพื่อนสนิท" เวอร์ชัน 'เรา 3 คน' อารมณ์หนังก็นิ่ง ลึก สไตล์เอเชีย ... แหม พอดูจบแล้ว มีใครอยาก 'สารภาพ' อะไรกับเพื่อนรักข้างๆ ตัวบ้างมั้ยเนี่ย? หุๆ

... ช่วงสนทนา
+ [คุณ จขบ.] - Blood brother มีฉายไม่กี่โรงเองนี่ครับ ... และจริงๆ ก็ไม่ใช่หนังแนวผมซะด้วยแหละ คิดไปคิดมา ก็ว่าจะบายอ่ะครับเนี่ย

+ [น้องกุ้ง - ลิปดาฯ] - ข้อมูลจิ่วไจ้โกวเด๋วพี่โทรไปคุยเลยแล้วกันนะจ๊ะ เพราะคุยตรงนี้คงจะยาวน่าดู เด๋วเปลืองพื้นที่เค้าเปล่าๆ อ่า
... หุๆ เสพย์ติดซีรีส์ด้วยเหรอเนี่ย? สงสัยจะถอนตัวไม่ขึ้นอีกคนแล้ว
... อืม นางเอก Shindo พอน้องกุ้งบอกข้อมูลเพิ่ม พี่เลยลองไปเสิร์ชใน imdb ดู ... น้องเธอชื่อ Riko Narumi รู้สึกว่าเธอจะไม่ใช่นางเอก Sugar & Spices นะครับ (ไม่เห็นมีชื่อเรื่องนี้ในเครดิต) แต่เป็นนางเอกซีรีส์เรื่องที่น้องกุ้งบอกนั่นแหละ ชื่อเรื่อง "Ichi ritoru no namida" อ่ะครับผม

+ [น้องนาโน] - ดองนานๆ เยี่ยงนี้ ระวังโดนคิดค่ายื้ม DVD นะครับ 555

+ หนังใหม่สัปดาห์นี้ น่าสนใจสุดสำหรับผมคงเป็น Stardust (แหม! ก็มันหนังแนวโปรดผมนี่นา แหะๆ )
... ส่วน Body ศพ#19 สิ่งที่ดึงดูดให้อยากดู คือคนเขียนบท (คุณมะเดี่ยว & คุณเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ จาก 13 เกมสยอง) อ่ะครับ แต่ผมไม่ชอบหนังตัวอย่างเท่าไหร่ ดูเหมือนจะเล่นกับ CG และภาพโหดอี๋แหวะมากไปหน่อย มีน้องคนนึงในบล็อกเนี่ยแหละ ไปดูรอบพิเศษมาแล้วเมื่อคืน เด๋วจะต้องถามเค้าซะหน่อยว่าเป็นไงบ้าง

จ๊าก.....ไม่ได้มา"หน้าแรก"นานมั๊กมาก ล่าสุดที่ดูก็อยู่ที่บล็อกผมหมดแล้วครับ แฮ่ๆ
บ้านเล็ก - หนุก แต่งั้นๆ ครับ
บ้านผีสิง - ถือว่าทำบุญทำทานกับหนังไทยละกัน หึๆ
The Brave One - หนังเหมือนธรรมดา แต่เล่าเรื่องไม่ธรรมดา ดูแล้วดีใช้ได้เลยทีเดียว
1408 - ดูจบแล้วก็จบกันครับ
Shoot'Em Up - กล้าบ้ามา ผมก็กล้าดูเอาฮาครับ 555


ล่าสุดจริงๆ เพิ่งไปดู Body ศพ 19 มาครับ
คิดว่า พี่ผมฯคงจะไปดูเร็ววันนี้ เป็นอีก 1 เคสของพี่ผมฯแน่ๆ ครับผมว่า น่าเอามาชำแหละเล่นนะเรื่องนี้อ่ะ
โดยส่วนตัว "บอดี้" ทำได้น่าพอใจครับ ไม่ใช่ว่าเราจะเดาจุดจบของหนังไม่ได้ซะทีเดียว แต่มันก็ยังมีประเด็นสำคัญเรื่องอื่นแฝงอยู่ด้วย
เป็นหนัง Psycho - Thriller เรื่องนึงของไทยที่ทำดีนะครับ
(ผมรู้สึกว่ามันไม่ Horror เท่าไหร่นะครับ)

อยากให้มาวิจารณ์เคส ศพ 19 กันครับ ท่าจะมันส์
เดี๋ยวผมขอเก็บรายละเอียดสักพักแล้วจะอัพลงบล็อกตัวเองเหมือนกัน
แต่ไม่ใช่ในมุมมองจิตแพทย์แต่เป็นมุมมองแบบบ้านๆ ครับ

ปล.ดีใจจังมีคนติดซีรี่ส์เป็นโขยง หุๆ

เข้ามารายงานตัวอีกรอบค่ะ เมื่อวานพอดีนัดเอาของที่เพื่อนฝากซื้อจากฮ่องกงไปให้ เสร็จธุระราว 5โมง20 ก็เลยว่าจะไปดูหนังเรื่องที่บอกไว้ดีกว่า ก็เลยโทรไปเช็ครอบ Children of Glory ที่ลิโด้ พี่เสียงหล่ออารมณ์ดีบอกว่ามีรอบ 5โมงครึ่งกับสองทุ่ม ดูเวลาแล้วจะให้อีก 10 นาทีไปถึงก็คงไม่มีทางแน่ๆ (แถมโฆษณาของโรงหนังเครือนี้ก็ไม่ได้ยาวเวอร์เป็นครึ่งชั่วโมงเหมือนบางเครือที่ชอบเอาเปรียบด้วย) ครั้งจะรอสองทุ่มก็คงไม่ไหวล่ะ

ก็เลยลองถามถึงรอบ Hearty paws ที่คุณพลอยแนะนำดู พี่แกตอบมาว่า "ใครไม่รู้เปิดกรง มันเลยหนีไปหมดแล้ว ไม่มีรอบแล้ว" ฟังแล้วก็แอบขำ แล้วพี่แกก็แนะนำเรื่องอื่นมาให้ แต่ก็ไม่ใช่ที่อยากดูอะค่ะ ก็เลยกลับบ้าน อดดูเลย

คุยกะน้องนาโน
- พี่ก็ว่างั้นล่ะ จะเอาเวลาที่ไหนไปดูล่ะเนี่ย เอา Irreversible ไปให้พี่บลูฯดูก่อนยังทันเลย

คุยกะพี่บลูฯ
- ไว้พี่ว่าง แล้วโทรมาคุยน้าค้า


คุยเรื่องหนัง
- อ่านรีวิว Shoot 'Em Up แล้วท่าจะมันส์นะคะ ก็เลยว่าจะชวนคุณแฟนไปดู ตามใจแกมั่ง หลังจากพอแกไปหลับในโรงกับหนังสไตล์กุ้งมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง แถมตอนนี้พี่แกกำลังเครียดเรื่องงานด้วยค่ะ ไปดูเรื่องนี้ถ้าจะได้คลายเครียดล่ะ / ที่จริงอยากดูป้าโจดี้มากกว่า แต่แกคงบายล่ะ
- เมื่อวานน้องสาวมาร้องเพลง "คิดถึงเธอทุกทีที่อยู่คนเดียว" ให้ฟัง แล้วถามกุ้งว่ารู้สึกยังไง กุ้งบอกว่าเพลงนี้ก็ชอบอยู่แล้ว บลาบลาบลา (และเคยมีคนเขียนเพลงนี้ให้กุ้งในบล้อคเค้าด้วยล่ะค่ะ) แล้วมันบอกว่าเป็นเพลงประกอบเรื่อง "Body ศพ#19" ล่ะ พอฟังจบก็เลยหลอน จากเพลงโรแมนติกกลายเป็นน่ากลัวได้เลย ก็เลยอยากรอลุ้นคะว่าหนังเรื่องนี้จะออกมายังไงเน้อ แต่กุ้งเป็นคนกลัวผอสระอีมากๆ (ขนาดจะให้พิมพ์คำนี้ยังไม่กล้า) เลยคงขอลุ้นนอกโรงก่อนดีกว่าค่ะ

เหมือนกับคุณคำห้วน(เขียนแล้วต้องย้อนกลับไปดูชื่อคุณเขาใหม่ กลัวสะกดผิด!)อยากให้คอมเมนต์ ศพ 19 ด่วนเลยค่ะ เพราะทำเอาดิฉันและแฟนฝัน(ไม่หวาน)ไปเลย ก็ดูรอบดึกกลับมานอนเลย เช้ามาตอนทานข้าวเช้าต้องมานั่งช่วยกันเคลียร์ ! คิดดูละกัน ตอนขับรถกลับบ้านก็คุยกันนะ แต่ยังคิดไม่ออกกันงัย (รู้แต่ว่าเช้าพรุ่งนี้ไม่กินโจ๊กนะ 55555)
นั้นก็เป็นความข้องใจอีกอย่างหนึ่งคือไอ้ภาพที่มันอุจาดน่ะ เขาไม่เซ็นเซอร์บ้างเหรอ หรือจะหั่นแต่ภาพแนว xx อย่างเดียว แล้วกฎกติกาของเวบนี้เป็นงัยคะ แบบว่าอย่าเพิ่งเล่านะให้หนังใกล้ออกก่อนหรือถ้าเล่าต้องแบบเม้ม หรืออะไรก็ได้ใส่เต็มที่ จะได้ทำตัวถูกอะ

พี่บลูฯ จะเอา Irreversible ก่อนเลยมั้ยอะครับ
รู้สึกผิด 555+

หวัดดีครับผมพึ่งมาใหม่ครับ ติดตามผลงานของพี่ ผมฯ มาซักพักละ ไม่มีโอกาสได้ทักทายทุกๆคนซะที แต่พอดีวันนี้เพิ่งได้ดู 2499 อันธพาล ครองเมือง(รอบที่20 แล้วมั้ง) มาครับ แหมดูกี่รอบก็ยังสนุกเหมือนเดิมเลย

แล้วคนอื่นคิดไงบ้างครับกับเรื่องนี้อะ สำหรับผม ผมชอบมากเลยครับ ได้อารมณ์นักเลงไทยดีครับ ยังไงพี่ผมฯ ลอง review พวกหนังนักเลง จิ๊กโก๋ อะไรงี้บ้างสิครับ

ป.ล.ว่าจะไปดู บอดี้ ศพ 19 อยู่เหมือนกันครับ

ตามมาอ่านเรื่องหนังค้าบ พักนี้ไม่ได้ไปดูเยย มัวแต่ไปดำน้ำ

ว่างๆ แวะไปเที่ยวดำน้ำเล่น ดูปะการังเปลี่ยนบรรยากาศได้นะค้าบ

สวัสดีค่ะ พอดีเพิ่งได้เช่า Walk the line มาดู แล้วชอบมาก ๆ เลยเข้ามาอ่านที่นี่ ไม่ผิดหวังค่ะ เขียนได้ถูกใจเราจริง ๆ

วันนี้พอมีเวลา เลยเข้าไป หาหนังใน "ห้องเก็บหนัง" ของคุณ เห็นมีหนังของดาราขวัญใจเรา ก็ต้องอ่านซักหน่อย คลิกเข้าไป ปรากฏว่า "ไม่ปรากฏ blog นี้ค่ะ" แป่ว

เอ้า กวาดสายตาใหม่ เจออีกเรื่องแล้ว คลิกเข้าไป โอ้ว แป่ว อีกแล้วค่ะ เหมือนเดิม "ไม่ปรากฏ blog นี้ค่ะ"

ไม่ยอมอ่ะค่ะ คุณผมฯเขียนไว้ยังคะ? แล้วมันหายไปไหนแล้ว ขออ่านมั่งสิคะ น้อยใจจริง ๆ กระซิก ๆ
2 เรื่อง คือ A World without thieves และ Yesterday once more ค่ะ

นอยไม่ได้เข้าโรงหนังมา นานมากแหระ
เรื่องล่าสุดที่ไปดูก็พระนเรศวรฯ

คนเราเวลาน้อยลง เบื่อสังคมภายนอกมากขึ้น ก็มักดูหนังอยู่กับบ้านกันเยอะขึ้นค่ะ

เอ หรือว่าเพราะแก่ตัว อิอิ

ถ้าว่างนะครับรบกวนช่วยไปสดุดีวีรชนผู้กล้าที่Bolg เราด้วยนะครับเป็นการทำเพื่อพร้องเพื่อนนะครับ
ขอบคุณมากรับ

สวัสดีค่ะ
มาหาความรู้จากBolg
ช่วงนี้บ้าดูหนังฝรั่งมากเลยอะ อิอิ

"พี่น้องคนรักหนังจ้า"

^
^
^
มิน่า เห็นตั้งกระทู้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องความรุนแรงในภาพยนตร์ อิอิ

ตอนนี้บอดี้ ที่กระแสออกมาด่าหนังก็มีแล้วครับ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาล่ะ มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ แต่เวลาเห็นแต่ละคห.ทะเลาะกัน แล้วก็นะ.........(เกือบร่วมวงไปด้วยแล้วเรา โชคดีที่ถอนตัวทัน....)

Kingdom มีคนชมแล้วนาครับ
แต่ไม่รู้ดิ หนังมันเป็นมุมมองของอเมริกาต่อตะวันออกกลาง... ผมระแวงหนังเรื่องนี้ไงชอบกล
แต่คิดว่า คงได้ดูปลายๆ สัปดาห์หน้าครับ...

ว่าแต่ชื่อผมมันสะกดยากเหรอครับ

^
^
+ ไม่ยากมั้งครับ แต่มันยาวมากกว่าง่ะ
+ น้องนาโน ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกครับ ... เพราะขนาด 'ลำแสง' จากน้องคำห้วนฯ จนป่านนี้พี่ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลยอ่า เหอๆๆ
+ (โอยย ... เขียน 2 หน้า หาย 2 รอบ กู้ไม่ได้ทั้งคู่ ตรูจะบ้าตาย วันนี้มันวันป่วงอะไรเนี่ย?!? ดีนะที่คีย์ไว้ที่นี่ยังพอจำได้บ้างอ่ะ)

+ หนังสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ดูไป 2 เรื่อง ซึ่งผมได้ไปเขียนไว้ที่หน้านั้นแล้วทั้งคู่ ได้แก่ Stardust (ซึ่งผมว่าดูเพลินดี แต่ผมก็ยังติดบางจุดในตัวหนัง และเซอร์ไพรซ์ที่คุณ จขบ. กลับชอบซะงั้น) กับ Body ศพ #19 (บทแข็งแรง และเมื่อดูจบ ให้ความรู้สึกเศร้า และหลอนราวกับคนดูถูกสะกดจิตออกมาจากโรงหลังดูจบ เหอๆๆ )

+ ถ้าคุณ จขบ. จะใช้เน็ต ไปใช้ตามร้านหรือบู๊ตในห้าง ไม่น่าจะเกิน ชม. ละ 60 นะครับ โรงแรมไรหว่า หน้าเลือดชะมัด หุๆ
+ หนังสัปดาห์นี้ ผมคิดว่า The Kingdom ผมคงบาย (น่าจะเป็นหนังที่ผมดูแล้วปวดหัว) กอร์ปกับเสียงวิจารณ์ก็ไม่ถึงกับดีนี่นา และตอนแรกสนใจ The last legion เหมือนกัน แต่พอดูคะแนนวิจารณ์ในเน็ตแล้วต้องร้องเจี๊ยกกก กันเลยทีเดียวอ่ะครับ
... ถ้าเป็นแบบนี้ ขอรอหนังสัปดาห์สุดท้ายของเดือนปิดเทอมเล็ก อย่าง Surf's up เลยดีฝ่า แล้วก็คงดู Jesse James อ่ะครับ

^
^
The Last Legion ผมเซย์อี๋แอนด์กู๊ดบายทันทีที่มีสาวอินเดียอยู่ในเรื่องแล้วล่ะครับ เธอไปยุ่งอะไรกับสงครามโรมันฟะ 55555

พูดถึงหนังที่เพิ่งดูมาละกันเน่อ
Shindo - หนังเปิดเรื่องและปิดเรื่องได้ขาดพลังมากๆ ทั้งที่ช่วงกลางเรื่องดำเนินเรื่องมาได้โอเคแล้ว
The Witnesses - หนังเข้าชิงหมีทองคำที่ดูสนุกมากๆ หนังย้อนยุคเล็กน้อยไปถึงช่วงที่โรคเอดส์ระบาดใหม่ๆ แล้วเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับผู้คนที่เจอกับสถานการณ์อึดอัดครั้งนี้ และเต็มไปด้วยคนแปลกๆมากมายในเรื่อง
The Iceberg - เรื่องนี้พูดได้คำเดียวว่ามันบ้า บ้าไปแล้ว!!!!
Eternal Summer - เรื่องนี้เป็นหนังเกย์ที่ไม่พยายามเกย์แตกมากมาย และมีพลังมากๆ โดยเฉพาะไคลแมกซ์ฉากจบ

Contact
pailinbkk@hotmail.com


Mobile phone number is 66 8 6380 8624

More Details at
//www.wish.in.th/itconsultant





title="Skype is great!">Skype is great!

Contact
pailinbkk@hotmail.com


More Details at
//www.wish.in.th/itconsultant





title="Skype is great!">Skype is great!

อยากอ่านรีวิว เรื่อง บอดี้ ศพ 19 ครับ

พึ่งไปดูมาเมื่อกี้

ชอบครับ

อยากจะบอกกับพี่บลูยอชท์ครับ ...ว่าผมชอบ The Kingdom มากๆ เลย ...พี่อาจจะคิดว่ามันเป็นหนังโปรอเมริกัน แต่มันก็แค่เหมือนจะโปรนะ

ซึ่งถ้าวัดเอาจากช่วงแรกๆ ผมก็เกือบจะตัดสินว่าหนังโปรประเทศตัวเองไปแล้วนะ... แต่พอเรื่องดำเนินมาสู่จุดที่กลุ่มพระเอกต้องออกโรงไปตรวจสอบสถานที่ ก็ถึงทีที่พี่มะกันแกก็โร่ออกมาป้องปัดไม่ให้คนนอกออกในซะหน้าตาเฉย (ซึ่งนั่นมันก็เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนอันเป็นเงินเป็นทองของเฮียบุชนั่นแล) ซึ่งตั้งแต่จุดนั้นหนังก็ตั้งแง่แอบด่ามะกันเองไปหลายทีอยู่ (ทีไหนบ้างต้องลองสังเกตดูละกันครับ เพราะผมก็คงเล่าได้ไม่หมดเหมือนกัน) ...ส่วนที่เนื้อหนังอาจจะดูว่าเอา ซาอุฯ มาเป็นผู้ร้ายแบบหนังโปรมะกันทั่วไปหรือเปล่า แต่ความเป็นจริงก็ไม่ใช่อย่างงั้นทั้งหมด เพราะคนดีๆที่รักชาติบ้านเกิดก็มีเหตุมีผลที่จะต้องร่วมด้วยช่วยงานสืบ ทั้งๆที่เบื้องบนแทบจะให้กระตุกกระติกออกนอกกรอบไปไม่ได้เลย...

เอาเป็นว่า นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมแนะนำในช่วงนี้เลย ถ้าใครชอบสืบสวน ก็จะสนุกกับต้นไปจนถึงเกือบปลาย (เนิบหน่อยนึงก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร) ส่วนคนที่อยากดูฉากบู๊ลุยมันส์ 20 นาทีสุดท้าย รับรองว่าคุ้มค่า สะใจแน่นอน

แต่ถ้าใครไม่อยากดูหนังเอามันส์ ก็ขอแนะเป็นหนังเอาความคิด อย่าง บอดี้ กะ หนังเอาฮา อย่าง
Stardust (ร่วมด้วยช่วยพี่จขบ.เชียร์ด้วย)

วันอังคารที่ผ่านมา ผมเพิ่งได้ไปดู "บัลลังก์เมฆ" มา ...ก็ถือว่าชอบมากเลยล่ะครับ แต่ชอบในที่นี้
ผมเน้นในส่วนการแสดงที่ทุกคนเล่นได้เต็มที่มากๆ เลย (โดยเฉพาะ คุณนก สินจัย ที่สุดยอด สมคำพูดที่ว่าเธอคือตัวแม่ของนางเอกไทยแล้ว...ส่วนสี่รุ่นใหม่ ก็ดีมากในทักษะและประสบการณ์ครั้งแรกของทุกคน) ขณะส่วนของเพลง ยังไม่ถึงตราตรึงใจเท่าไหร่ เมื่อเอาไปเทียบกับเมื่อปีก่อนไปดู ทวิภพ เรื่องหลังยังทำออกมาได้อลังทั้งในพลังเพลง และพลังเสียงของคนร้องด้วย แต่ถ้าดูเอาในแง่ของการประสานเป็นเรื่องเป็นราวก็ทำให้ผมรู้สึกอินทันตามความรวดเร็วฉับไวของเรื่องไปด้วย ...ในแง่ของโปรดักชั่น ก็นับว่า สุดยอดอย่างรุนแรง งานฉากทุกอย่างดูสวยและมีมิติ (แถมเซอร์ไพรส์นิดๆกับช่วงท้ายๆที่หลายคนล้วนดูมาแล้วมักจะคาดไม่ถึง ว่าจะทำได้อึ้งชวนอลังกันเยี่ยงนี้) ส่วนเสื้อผ้าหน้าผมอันนี้ดูไม่ออกจริงๆว่าดีหรือเปล่า เพราะตัวผมนั้นอยู่ตั้งแถว 500 เห็นนักแสดงอย่างกับเม็ดก๊วยจี่

สรุป ผมอาจจะยังประทับใจกับ ทวิภพ มากกว่าในแง่ของการเป็นมิวสิคัล ...แต่ส่วนของการเป็นละครเวทีที่เน้นการแสดงอันตรึงอารมณ์ ผมว่าเยี่ยมมากๆ สมใจกับที่ผมอยากดู อยากเห็น และเสียน้ำตาให้ซะจริงๆ

ปล. คอนเฟิร์มอีกคนให้ว่า... ควรพกกระดาษทิชชูหรือผ้าเช็ดหน้าไปด้วยจริงๆ ...อย่างผมก็ร้องซะจนต้องสั่งน้ำมูกออกมาแทนน้ำตา จนดูจบแล้วก็สุดจะเหนื่อย ลูกกะตาล้าไปหมด (ถึงบ้านปุ๊บ ขึ้นเตียงปั้บ หลับเป็นตาย Zzzzz...)

ดู The Kingdom แล้ว ประทับใจมาก ดูจบแล้ว เขาเรียกอะไรอะ คือจะร้องไห้ มันร้องไม่ออก มันจุกอยู่ในคอ มันเป็นหนังที่หักคอหรือวกกลับความสัมพันธ์แบบบอกไม่ถูก(อีกและ) สรุป ดูเองละกัน อ๋อๆ
spoil (เอามั่ง อิอิ)
1.ความสมจริง+ ความเนียนของนักแสดงระดับ united 93 (หรืออาจมากกว่า ความละเอียดของบทนักแสดงก็มากกว่า จนบางครั้งรู้สึกมึนอะ เอ..ตูดูหนังหรืสารคดีเนี้ยะ )

2. คิดถึง คนใน3 จังหวัดชายแดน อยากให้กำลังใจ เป็นห่วงพวกเขา มากกว่าเดิม..รักเธอประเทศไทย ???
3. ดนตรีเข้ากับช่วงอารมณ์หนังมากๆ
4. เจนนิเฟอร์ผิวสวยมากกกกกกก ดูธรมมชาติด้วย เจมี่ ก็แสดงดีมาก..แต่ใครออกแบบหมวกพี่แกเนี้ยะ ไม่เข้าใจเลย ย ย

อันที่จริงปิดเทอมนี้ ได้ดูหนังสนุกถูกใจวัยหวานตั้งสองเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น อันเดอร์ด๊อก ก็น่าเอ็นดูดี( แต่ไม่เห็น จขบ. พูดถึงเลย) กับเรื่อง สตาร์ดัสท์ ซึ่งใครๆก็ชอบกันทั้งนั้น โดยเฉพาะป๋าเดอนีโร น่ารักมั่กๆ นี่ถ้าไม่เกรงใจ ชาร์ลี ค๊อกซ์ นะ ฮึ่ม..จะออกนอกหน้ากว่านี้

แต่เรื่องที่ดูแล้วออกจะขัดกับสายตาชาวบ้านคือ เดอะ คิงด้อม เพราะดูแล้วเฉยมาก..ก ถ้าไม่มีกล้องส่ายไหวไปมา คงหลับไปตลอดครึ่งเรื่อง การบุกไปช่วยเพื่อนอเมริกันที่โดนจับไป ก็ดูเว่อร์มากๆ เพราะขนาดอาวุธหนักๆ ยังเอาไม่อยู่ สามารถต่อสู้กับคนตั้งโขยงได้แบบไม่น่าเชื่อ ก็เลยเป็นหนังที่ดูแล้วผ่านไปอีกหนึ่งเรื่อง แต่ก็จะรออ่านบทวิจารณ์ ของ จขบ. นะคะ

The Kingdom ดูแล้วก็คิดในใจ ต๊ายตาย เมิงจะโปรอเมริกันไปถึงไหนเจ้าคะ ตำรวจซาอุทั้งกองพันพวกสู้เอฟบีไอ 4 คนไม่ได้ ตูจะบ้า 555+ ฉากแอ็คชั่นก็เฉยๆ กล้องก็ไม่ได้ส่ายเท่าบอร์นจนน่ารำคาญ แต่มันไม่ค่อยมีอะไร เจอตัวร้ายง่ายเกินไปอีกต่างหาก แหม.. ตัวร้ายบักเอ้ทำไมอยู่ในที่ชุมนุมชนแบบนี้ฟระ

แต่ชอบฉากจบที่เฉลยสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายกระซิบกัน สรุปภาพรวมความชิบหายของโลกนี้ได้ดีพอตัว (แก้ตัวหลังจากโปรอเมริกามาแบบบ้าบอคอแตกทั้งเรื่องแล้ว 5555)

สรุป The Kingdom มันเน้นแอ๊คชั่นแล้วก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นอะไรแปลกใหม่เลยใช่มั้ยครับ เห็นตย.หนังก็กะแล้ว เดี๋ยวกลับกทม.ไปคงทันโรงงานอารมณ์

หนังมันก็พยายามพูดเรื่องการเมืองนะครับ แต่มันก็แตะผิวๆมากเลย

อยากดูหลายเรื่องมากๆ แต่ไม่ค่อยกระเตื้องร่างกายไปไกลบ้านเลย ไม่ค่อยได้ดูหนังเท่าไหร่ เอิ๊กๆ เรื่องล่าสุดก็ Stardust ส่วนก่อนหน้านั้นก็ 2 เดือนก่อนไปต่างจังหวัดกะต่างประเทศ กรี๊ดด เก็บกดอยากดูหนังจังงงงงงง

สงสัยได้รอดูแผ่นอยู่ที่บ้านอ่ะแหละ คิคิ แวะมาด้วยฟามคิดตึ๋งงงงงงนะค๊า

>> ป.ล. แล้วจะกลับมาแก้บ้อกตามที่คุณ ต่าย (nuchaba) แจ้งไว้นะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

...สวัสดีครับ หายหน้าไปหลายวัน ไปปฎิบัติหน้าที่งานหลักของตัวเองโดยเข้ากรุงไปประชุมประจำปีครับ งานนี้ไปทำหน้าที่เป็นวิทยากรรับเชิญเกี่ยวกับ ความรุนแรงจากสื่อภาพยนตร์และผลกระทบต่อคนดู (ฟังดูวิชาการเนาะ ความจริงคุยสบายๆในหัวข้อ สัญชาตญาณโหด จากใจสู่จอ) ถ้าอยากฟัง หุหุ สิ้นเดือนนี้เจ้าของบล็อกไปคุยเรื่องนี้อีกรอบนะครับในงาน’สื่อสร้างสุข’ที่กรมสุขภาพจิต เปิดให้ประชาชนทั่วไปรับฟังโลด

หลังจากนั้นกลับมาสองสามวันนี้ ก็ง่วนสุดๆกับการปั่น ‘คำนำ’ และ ‘ก่อนอ่านมาคุยกัน’ ในหนังสือเล่มใหม่ ให้กับบก. ด้วยแอบหวังว่า จะออกทันปลายๆงานหนังสือ (จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะออกทันหรือเปล่า)

ส่วนหนังที่เปิบมาครับ

The Kingdom ... เฉยๆครับ ดูจบแล้วยังทำผมเวียนหัวอีกต่างหาก ชอบแค่ฉากเปิดเรื่อง ฉากบู๊ตอนท้าย และ คำพูดปิดเรื่องของตัวละคร เดี๋ยววันสองวันนี้จะอัพบล็อกสั้นๆถึงเรื่องนี้นะครับ

Zodiac ... เป็นอีกงานดีๆของเดวิด ฟินเชอร์เกี่ยวกับ ฆาตกรต่อเนื่องตัวจริงที่ลอยนวลในสังคม แต่ความประทับใจไม่ถึงขีดสุดเพราะ อารมณ์หนังแบบนี้ผมได้ดูมาแล้วและก็ชอบมากกว่าจาก Memories of murder หนังเกาหลีของผู้กำกับ The Host ที่เล่าจากเรื่องจริงเหมือนกัน และ แสดงให้เห็นชีวิตตัวละครที่เหมือนตายทั้งเป็นจากความหมกมุ่นไล่ล่าฆาตกร(แถมก่อนหน้าจะดู zodiac ก็เพิ่งดูหนังเกาหลีอีกเหมือนกันที่ชื่อ Voice of murder ที่คล้ายๆกันซะอีก)

ป.ล. อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์แรกที่จะไม่ได้เข้าโรงหนัง(เพราะไม่รู้จะดูอะไรดี ไปงานหนังสือดีฝ่า)

วันก่อนไปร้านอาหาร เพิ่งไปเห็นบทสัมภาษณ์ แนะนำตัวคุณหมอมาครับ
ตกใจจริงๆ ว่าไปโผล่ในหนังสือแถวนั้นได้ไง
เห็นชื่อมานาน
แวะมาเยี่ยมละกันครับ

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

+ ก่อนจะเขียนอย่างอื่น ขอขายบล็อกตัวเองหน่อยแล้วกันครับ ... เพื่อต้อนรับการเข้าฉายของ Elizabeth : The golden age ที่ฮอลลีวูด เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว (กอร์ปกับ Elizabeth ภาคแรก เป็นหนังที่ผมชอบ และคิดว่าประวัติศาสตร์อังกฤษช่วงนั้น ก็มีความน่าสนใจ และมีหนังหลายเรื่องที่มีเนื้อหากล่าวถึงอยู่) ... ผมก็เลยอัพบล็อกผมเอง ไปแล้ว 2 ตอน หน้าที่แล้วพูดถึงหนังช่วงๆ นี้ที่จะเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ช่วงดังกล่าว และหน้าล่าสุดจะเป็นประวัติศาสตร์ล้วนๆ ... ก็ถ้าใครไม่เกลียดการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ แล้วอยากดูหนังให้สนุกขึ้น ว่ามันเกี่ยวพันกันยังไง เชิญลองไปอ่านที่บล็อกผมได้นะครับ

+ คิดเหมือนกันเลยครับ ว่าสัปดาห์นี้ก็ว่าจะไม่เข้าโรงหนังอีกแหละ ... Pleasuse factory ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะอยากดูมั้ย ถ้าจะดูอาจเก็บหนังเก่าคือ The witnesses มากกว่ามังครับ ... แล้วก็ไปเดินงานสัปดาห์หนังสือฯ ด้วย
... แต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้นี่จิ ที่ดันยัดหนังเข้าฉายบานเลย ทั้งเรื่องที่ผมจะดูแน่ๆ อย่าง Surf's up, การกลับมาของเฮียแบรด พิตต์ใน Jesse James รวมทั้งหนังอินดี้ฝีมือ ผกก. ไทยอย่าง Lullaby before I wake ด้วย
... อ้อ และตอนนี้ก็เกิดสะดุดตาอยากจะดูอีกเรื่องนึงครับ เป็นหนังซอมบี้เลือดสาดที่สร้างจากการ์ตูนชื่อดัง คือ 30 Days of nights นำแสดงโดยเฮียจอร์ช ฮาร์ตเน็ต ตารางฉายของเหลิมไทยคือ 29 พฤศจิกา ... หวังว่าคงไม่เลื่อน หรือหล่นหายไปอีกน้า

สวัสดีค่ะ แวะเข้ามาทักทายเป็นครั้งแรก เคยแต่ได้ยินชื่อมานานแล้วว่าวิจารณ์หนังได้ยอดเยี่ยมมากๆ และก็เคยอ่านหนังสือรัก ก็รู้สึกว่าดี อยากเข้ามาเยี่ยมนานแล้วแต่ไม่ค่อยมีเวลา พอได้เข้ามาดูวันนี้ก็อึ้งเล็กน้อยค่ะเพราะว่าblog ใหญ่มาก มีผู้อ่านก็เยอะมากด้วย ยังไงก็จะติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆนะคะ

แอบอ่านอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่เคยผิดหวังในบทวิจารณ์เลย เพื่อนๆหลายคนก็ติดอกติดใจกันยกใหญ่ ของเค้าดีจริงๆ ก็ขอให้สร้างสรรค์ผลงานดีๆสู่มวลชนเรื่อยไปนะคะ ว่าแต่เมื่อไหร่หนังสือเล่ม 2 จะออกเนี่ย รออ่านจนเหงือกแห้ง แล้วค่ะ ปล.วันนี้เป็น ngekjung post เลยลอง post บ้าง อิอิ

โอ เสียใจมากค่ะ ส.น.พ.มีงานเยอะเหรอคะ
ทำคลอดหลายเล่มจนหนังสือคนโปรดของดิฉัน
คลอดไม่ทันหรือเปล่าคะ? จะเก็บงบไว้รอค่ะ

น่าสนใจทั้งบล็อคเลย อิอิ แล้วจะแวะมาอ่านบ่อยๆนะค่ะ

อยากอ่านองศาที่ 361

เสียดายรออ่านเล่มใหม่อยู่ รอพบจขบที่งานหนังสือ ตอนนี้รู้สึกแป้วแป่วแป๊ว บอกกล่าวกันใหม่เมื่อ
ได้เวลาออกมาดูโลกนะคะ

ง่า..ดูท่าทางจะรักการอ่านมั๊กๆ น่ะค๊า ถึงมีคำคมเล็กๆ

ราตรีสวัสดิ์ครับ



ก่อนนอนคืนนี้.........ก่อนจะหลับผันดีนะครับ




...............................ฯลฯ....................................



วันนี้เป็นวันปิยมหาราชอีกแล้ว


ตันส่วงอู๋.....พระเอกในเรื่องจดหมายจากเมืองไทยของโบตั๋นถามว่า...."ในหลวงรัชกาลที่ห้าทรงงานหนักมากจึงทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง.....แต่ทำไมวันปิยมหาราช.....คนไทยจึงหยุดงาน.....ทำไมไม่ทำงานหนักให้เหมือนในหลวงรัชกาลที่ห้า"





?????????????????!!!!!!!!!!!!!!!???????????????

..ดีค่ะ

แวะมาทักทายค่ะ

เสียดายจังเลยค่ะ
งานหนังสือคราวนี้ว่าจะไปซื้อหนังสือของคุณสักหน่อย
แต่หาบูธที่ขายไม่เจอค่ะ
เพราะไม่ได้เข้ามาเช็คดูก่อนว่ามีที่บูธไหนบ้าง
ไปเซิร์ทหาที่ที่เขาจัดไว้ให้ก็ไม่เจอค่ะ

เสียดายมากๆ เลย

เข้ามาแอบดูข้างหลังนานนนนมากแล้วจ้า
แต่ไม่ชอบจ่าย
นึกว่าจะได้อ่านองศาที่361 แล้ว ยังไม่ออกอีกเหรอคะ ยังไงก็เอาแบบปกหนังสือมาให้ดูบ้าง
ลุ้นค่ะ

แล้วไหนบอกว่าไปเป็นวิทยากรเรื่องสื่อกลับมาจะนำมาเล่าสู่กันฟังงัยคะ นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้วยังไม่มีวี่แววเลย ยังไงช่วยเร่งๆ หน่อยนะคะ อยากรู้มากเลย ขอบคุณค่ะ
รอ ฉันรอเธออยู่
ปล. ฝากความคิดถึงถึงน้องสายฝนด้วยนะคะ <

+ ไม่แน่ใจว่าคุณ จขบ. ใกล้จะขึ้น 'หน้าแรก' หน้าใหม่ยัง แต่เขียนไว้ก่อนก็แล้วกัน ... ช่วงนี้ดูหนังไป 3 เรื่องครับ เป็นหนังโรงเรื่องนึง (เพิ่งดูเมื่อคืนนี้เอง) กับหนังเก่าจาก UBC 2 เรื่อง

+ [UBC] The 40 Year Old Virgin - หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่ดีนะครับ (มิน่า ถึงทำรายได้ถล่มทลายตอนออกฉาย) โดยเฉพาะสำหรับพวก 'อดีต Loser' อย่างผม , พระเอกเป็นพวกดูทึ่มๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นตัวตลก ส่วนพวกเพื่อนๆ พระเอกในร้าน ถึงแม้จะดูบ๊องๆ แต่ก็ไม่ได้เล่นกันเว่อร์ จนทำให้กลายเป็นหนังตลกติงต๊องไป, เคมีระหว่าง สตีฟ คาร์เรล กับแคธลีน คีเนอร์ (อีก 1 เจ้าแม่หนังประหลาดๆ ที่ผมชอบ) ก็รับส่งกันได้ลงตัวดี ... และถึงแม้จะจบแบบตามสูตร Happy ending แต่ลูกเล่นตามรายทางของหนัง ก็ทำได้น่ารักดีอ่ะครับ
... ตลกอีกอย่างตรงที่ว่า มีพี่ (หลายคนด้วยนะ ไม่ใช่แค่คนเดียว) ในออฟฟิศผม ที่มีคุณลักษณะราวกับพระเอกในหนังเรื่องนี้เลยทีเดียว แทบไม่เคยเปิดโลกทัศน์ของตัวเองออกไปยังโลกภายนอก แทบไม่เคยพบเจอใครใหม่ๆ ในชีวิต อยู่ไปเรื่อยๆ กับสิ่งที่ตัวเองสนใจ ... ไม่แน่ อีก 2-3 ปีข้างหน้า ผมอาจต้องเรียกพี่แกว่า "The 40-year-old Virgins" มั่งก็เป็นได้นะเนี่ย

+ [UBC] Four brothers - เป็นหนังที่เหม็นกลิ่นเทสโตสเตอโรนคละคลุ้งเลยทีเดียว (มาโช โคตรๆ ) ... สมแล้วที่เลือกเอามาร์ค วาห์ลเบิร์กมาเล่นเป็นพี่ใหญ่ของแก๊ง, ปมในเรื่องทำได้ซับซ้อนพอประมาณ แต่ไม่ถึงกับคาดไม่ถึง, ตอนคลี่คลาย ทำผมเซอร์ไพรซ์นิดๆ เหมือนกัน แต่ไม่ยากเกินจะเดาได้, เทอเรนซ์ โฮเวิร์ด ได้แสดงเป็นตำรวจอีกแล้ว ส่วนชิวเอเทล เอจิโอฟอร์ เพิ่งเห็นเล่นร้ายมาจาก Serenity แล้วก็มาเจอร้ายที่เรื่องนี้อีกที

+ Surf's up - เรื่องนี้ด้วยความอยากดูมั่กๆ เป็นส่วนตัว แถมเมื่อคืนยังเป็น Golden Wednesday (ได้ดู 80 บาท เพราะหนังเข้าวันอังคาร) เลยต้องรีบไปเซิร์ฟซะหน่อย ... แล้วก็ถือว่าไม่ผิดหวังซะด้วยอ่ะครับ สำหรับอนิเมชั่นเรื่องนี้
... สำหรับผม การ์ตูนที่ได้ดูในโรงมาตั้งแต่ต้นปี ถ้าฮาสุดยังยกให้ Flushed away, มีสาระสุดก็ต้อง Ratatouille ... แต่ถ้าน่ารักสุดก็คงเป็น Surf's up เรื่องนี้แหละครับ (ผมว่าผมชอบมากกว่า Happy feet เยอะเลยนะ) ถึงแม้เนื้อเรื่องโดยหลักๆ จะไม่หนีธีมของการ์ตูนแนวๆ นี้ไปมากนักก็ตาม
... ความเท่ห์ก็คือ การดำเนินเรื่องให้เป็น Mocumentary (หนังเลียนแบบสารคดี) ... ส่วนความน่ารักสุดๆ ผมยกให้ลูกนกเพนกวิน 3 ตัว ที่กล้องชอบไปสัมภาษณ์
... ส่วนคนพากย์ก็ไม่ใช่ระดับขี้ๆ มีทั้งพระเอกกำลังดังอย่างนายไชอา ลาบัฟ, ลุงเจฟ บริดเจส, เจมส์ วูด, โซอี้ เดสชาเนล ครูสาวผู้ใจดีจาก Bridge to Terabithia ... และที่ฮาสุดน่าจะเป็น ไก่นักเซิร์ฟ(?) เพื่อนซี้พระเอก ที่พากย์โดยหนุ่มเนิร์ดนะโปเลียน ไดนาไมต์ : จอห์น เฮเดอร์
... ขอแนะนำสำหรับคนที่อยากหลบโลกอันวุ่นวาย เข้าไปยิ้มเพลิดเพลินอย่างมีความสุขซักชั่วโมงกว่าๆ ในโรงหนัง รวมทั้งผู้ปกครองที่จะหาหนังการ์ตูนดีๆ ภาพสวยๆ ให้ลูกหลานดู ... คุ้มค่าตั๋วอ่ะครับเรื่องนี้ ช่างน่ารักซะเจงๆ เลยเชียว

แวะมาทักครับ กลับเมืองไทยกุมภานี้ จะขนหนังสือจากเมืองไทย ให้เต็มที่เลย..

ลิเวอร์พูล ผีเข้า หรือ ผีออก ล่ะเนี่ย - -*
รู้สึกว่านัดไหนถ่ายสด จะต้องเกิดอาเพศขึ้นกับหงส์แดงทุกที ฤดูกาลนี้

นักเขียนบทที่ดี ไม่ได้อยู่ที่พรสวรรค์
จะดีสักแค่ไหนถ้าละครโทรทัศน์คือผลงานคุณภาพที่คุณได้ลงมือเขียนบทและกำหนดทิศทางการกำกับ ถ้าคุณคือคอหนังคอละครชอบใช้ความคิดและจินตนาเพื่อสร้างสรรค์บทละคร
ทั้งนี้เพราะ คุณคิดว่าคุณเขียนบทได้หรืออยากที่จะเขียน และต้องการมีส่วนรับผิดชอบสังคม
ด้วยบท ละครดีๆ
เอื้องภาสุรี ภาวิไล เจ้าของบทสารคดี H.M.Blues ร้องบรรเลงเพลงของพ่อ, สารคดีสิ่ง แวดล้อมไทย เจ้าของบทละคร โทรทัศน์ เช่น ละคร ชุด ผี ของครูเหม เวชกร, ทรายสีเพลิง, อย่าลืม ฉัน, ไฟในดวงตา, มัสยา ฯลฯ รวม ทั้งเจ้าของบทละครเวทีและบทละครวิทยุอีกหลายๆเรื่อง
ร่วมศึกษาและพัฒนาสู่ถนนความเป็นมืออาชีพ กับครูเอื้อง กด มาที่เบอร์โทรเปลี่ยนชีวิต เมื่อย วงสครับ เปลี่ยนมาแล้ว โทร. 0 2203 1001 ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.GenxAcademy.com

ช่วงนี้ปิดเทอมอยู่ครับ ก็เลยมีเวลาว่างได้ดูหนัง ก็ประมาณอาทิตย์ละเรื่อง

เรื่องล่าสุดที่ไปดูก็คือเรื่อง Pressure Factory ก็ไม่คได้หวังอะไรมากมายจากหนังเรื่องนี้ เพราะอยากดูหนังที่ไม่ได้อยู่ในกระแส แต่สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้ก็มีหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าเป็นความหมายของชีวิตคนในสังคมหนึ่ง ที่เศษเสี้ยวอารมณ์หาซื้อได้ตามข้างถนน การมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ของหญิง ชายหลายคนในสังคมนี้

โดยรวมหนังไม่ได้มีพล็อตเรื่องชัดเจน ไม่ต้องเดาว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องรู้หรอกว่าตอนจบจะออกมาแบบไหน แค่ได้ใส่ใจ ใส่อารมณ์ติดตามไปในตัวละครแต่ละตัวในเรื่อง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย แล้วคุณจะรู้สึกได้ว่า

"อ้าว จบแล้วหรอ จบกันง่ายๆ อย่างงี้เนี่ยนะ ? "

ก็งงเล็กน้อยว่าสุดท้ายแล้ว ตัวหนังต้องการเล่าอะไรในตัวละครแต่ละตัว

ทางด้านเทคนิคภาพก็ดูเหมือนตากล้องจะถือกล้องเดิน ซึ่งเทคนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเค้าเรียกว่าอะไร ใครที่รู้ก็ช่วยชี้ทางผมด้วย แต่นั่นก็ทำให้หนังเรื่องนี้ดูเหมือนหนังสารคดี ที่เล่าเรื่องราวโดยไม่มีสคริปต์ยังไง ยังงั้นเลย

นี่แหล่ะครับแง่มุมนึงที่ผมมองเห็นจากหนังเรื่องนี้

สุดท้ายผมมีคำถามครับ
- อนันดา เป็นใคร มาจากไหน ในเรื่องนี้เค้าทำอะไร ?
- ผู้ชายที่พาเพื่อนรุ่นน้องไปขึ้นครู เค้าเสียใจ กระวนกระวายกับอะไร ?
- เพลงพิเศษของนักดนตรีคนนั้น มีคนบอกว่า เค้าร้องไม่ได้ จริงหรือ ?

ไม่ได้เป็นแฟนหงส์ แต่เป็นแฟนผมอยู่ข้างหลังคุณ แฟนหนังสือรักค่ะ ชอบมาก รอเล่มใหม่อยู่ค่ะ

สปอยล์ Pleasure Factory ตอบคุณ Moo



หนังต้องการให้เราเห็นอีกแง่มุมหนึ่งของย่านขายบริการครับ
ทุกคนแม้จะมีสถานะเหมือน "สินค้า" ที่ผลิตออกมาเพื่อสนองตัณหาผู้คน (จนเป็นที่มาของชื่อ "โรงงานอารมณ์" ทั้งไทยและอังกฤษ) แต่พวกเขาก็มีหัวใจ...

แม่ลูก ที่เจอกับลูกค้ากักขฬะ และอนันดาที่ถูกใจเด็กคนนี้
(ตรงนี้ผมมองว่าหนังจงใจนำเสนอเรื่องของอนันดาแบบไม่มีที่มาที่ไป... ปกติเราเองก็ไม่ค่อยสนใจตื้นลึกหนาบางของคนที่ตั้งใจเข้ามา "ระบายความใคร่" ในที่แบบนี้นัก จริงไหมครับ)

คู่หนุ่มเวอร์จิ้น กับโสเภณีจากเมืองจีน ที่กระแทกใจผมมากๆ เหมือนเป็นความรักที่ก่อตัวขึ้นช้าๆ และสองคนนี้แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมาพบเจอ หรือสานต่อความสัมพันธ์

ส่วนเพื่อนของหนุ่มที่ไปขึ้นครูนั้น จริงๆแล้วแอบชอบเพื่อนตัวเองครับ สังเกตจากฉากหน้าตู้โค้ก ที่เห็นเป็นฉากเซ็กส์ของผู้ชายสองคนนั่นคือ เพื่อนคนนี้กำลัง "จิ้น" ภาพเขามีเซ็กส์กับเพื่อนตัวเอง

เพลงพิเศษนั้น เข้าใจว่าเป็นการสื่อถึง "ราคาค่าตัว" ของนักดนตรีคนนั้นครับ

เพิ่งได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บครั้งเเรกครับ ผมชอบบทวิจารณ์ของผมอยู่ข้างหลังคุณมากครับวิจารณ์ได้เมามันมากครับ ส่วนตัวผมเองเป็นคนชอบดูหนังนะครับส่วนใหญ่ชอบหนังที่ออกเเนวฆาตกรรมอะครับเเล้วก็พวกหนังผีสยองขวัญเงี่ยอะครับไงก็ฝากตัวด้วยนะครับ
ใครได้ไปดูบอดี้ศพ19เเล้วบ้างครับ ผมว่าหนังมันทำเรื่องให้เเบบซับซ้อนดีอะครับเเล้วเพลงประกอบนี่โดนใจเลยครับ ทำตัวผีได้น่าเกลียดดีเเต่ไม่ค่อยสมจริงซะเท่าไหรอะครับส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะอยู่ประมาณระดับ ได้นะครับ3ดาว
ใครไปดูเเล้วก็ช่วยมาวิจารณ์กันหน่อยนะครับหลายๆความเห็นจะได้เข้าใจง่ายขึ้นครับ

+ Sorry that I can't type in Thai at the moment. I forgot to inform I will go to have a seminar @ Singapore for all this week. It's quite immediately. See U "Dr.I behind U" & all my friends next Monday. ^_^

แหะๆ ไม่ได้ดูหนังอะไรเลยค่ะ จะผิดกฏของบล้อคนี้มั้ยเนี่ย พอดีอาทิตย์ที่แล้วไปจิ่วจ้ายโกวมาค่ะ ไปมาซะ 8 วัน กลับมาก็ยุ่งๆกับการเคลียร์ของ เคลียร์งานที่คั่งค้าง เพื่อเตรียมเริ่มงานใหม่ที่จะต้องทำวันพรุ่งนี้แล้ว ตอนนี้ก็ยังกลัวๆ ไม่ค่อยอยากไปทำงานเท่าไหร่ ห่างหายจากการทำงานออฟฟิสมานาน เลยอดกังวลล่วงหน้าไม่ได้ซะเลยค่ะ เฮ้อ

คุยกะพี่จขบ.
ดีจังค่ะที่หนังสือยังมะออกตอนสัปดาห์หนังสือ มะงั้นกุ้งคงอดไปแจมตอนวันเปิดตัวด้วยแน่ๆ แต่ยังไงก็รออ่านเล่มใหม่ของพี่อยู่นะคะ เปิดตัวเมื่อไหร่จะไปเป็นหน้าม้าฮี้ๆให้

คุยกะพี่บลูฯ
ว้าวๆ พี่บลูฯโกอินเตอร์ ว่าแต่ฝากซื้อซีดีนักร้องสิงคโปร์ได้เป่าอะคะ

ไปล่ะค่า

ชอบดูหนังครับแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาเลย

ชอบดูหนังครับแต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมี... ตัง ว้า5555

แวะมาประชาสัมพันธ์สองงานซ้อน

1. ฉาย "แสงศตวรรษ" ในประเทศไทย 3 รอบเท่านั้น!!!

วันที่ 16 พย. 2550 รอบ 19.30 น.
วันที่ 17 พย. 2550 รอบ 15.00 น. และ 19.30 น.
(รอบ 19.30 น. ทุกรอบมี Q&A)

ณ สมาคมฝรั่งเศส (Alliance Francaise) สาทรใต้
เดินทางโดยรถไฟฟ้า สถานีช่องนนทรี แล้วต่อมอไซค์รับจ้าง


2. งานประชุมวิชาการภาพยนตร์ไทย ครั้งที่ 1

วันที่ 17 และ 18 พย. 2550
สถานที่ และ ตารางเวลา เรียนเชิญที่นี่ครับ (เพราะค่อนข้างยาว)
- ไฮไลต์คือเสวนาเรื่องเซนเซอร์ในวันที่สองนะครับ
//www.bioscopemagazine.com/smf/index.php?topic=683.0




ผมกะว่าจะไปงานประชุมฯ ก่อนวันที่ 17 แล้วงานจบตอนเย็นค่อยไปต่อ แสงศตวรรษ จอใหญ่ๆ ที่สมาคมฝรั่งเศส
เพราะมันไม่ไกลกันมาก งานประชุมฯ บีทีเอสสุรศักดิ์ แสงศตวรรษบีทีเอสช่องนนทรี

ลืมไป...

โทร.จองที่นั่ง "แสงศตวรรษ" ล่วงหน้าที่
02-6704200 และ 02-6704240 ครับ

ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวดีๆ ให้อ่านนะคะ

ขอเรียนเชิญเข้าร่วมเสวนาธรรมครั้งที่ 42
ในหัวข้อ หลวงพ่อไม้บรรทัด : ปัญญานันทภิกขุ บรรยายโดยท่าน ว.วชิรเมธี
ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา 17.00 - 18.00 น. ณ Convention Hall
บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่งจำกัด(มหาชน) ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำรองที่โทร.02-422-9999 ต่อ 4035(แจง)

+ หุๆ กลับมาแว้วอ่ะคับ ... ขนสิงห์เงือก (Merlion) มาฝาก (ในรูป) ด้วย แต่คงต้องใช้เวลาอีกซักพัก กว่าจะได้รีวิวลงบล็อกอ่ะครับผม
+ เดือนที่แล้วเหมือนผมจะห่างเหินจากโรงหนังยังไงไม่รู้ เพราะช่วงที่ดูหนักๆ ของปีนี้ เดือนนึงกดไปถึง 15 เรื่อง (รวมหนังเทศกาล) ก็มี ... แต่เดือนที่แล้วดูไป สิริรวมแล้วจุ๋มจิ๋มแค่ 4 เรื่องเองแฮะ ก่อนไปนอกเมืองก็เลยอุตส่าห์ได้ไปเก็บหนัง (ที่พอดีรอบเวลามันได้) มาอีกเรื่องนึงอ่ะครับ

+ Lullaby before I wake - รู้สึกว่าจะยังไม่เห็นมีใครเขียนถึงหนังเรื่องนี้เลย จริงๆ แล้ววันนั้นผมอยากดู The witnesses มากกว่า แต่ดันมีแต่รอบค่ำ ก็เลยได้รอบของเรื่องนี้ตอนบ่าย 2 แทน
... โดยส่วนตัวผมว่า การดำเนินเรื่องเหมือนยังไม่ค่อยกลมกล่อมลงตัวซักเท่าไหร่อ่ะครับ พระเอกก็ดูเอ๋อๆ ต๊องๆ งุ่มง่ามจนไม่ค่อยน่าเอาใจช่วย ส่วนดาราไทยที่คัดมาเล่น 2 คน (จิ๊บบี้- ตะวัน แซ่ตั้ง กับ ทิน โชคกมลกิจ) ก็พูดอังกฤษออกแอ็คเซ็นท์ชัดซะจนถ้าไม่มองหน้ากับไม่ดูฉาก ก็คงนึกว่าเป็นหนังฝรั่งไปแล้ว ส่วนนางเอกฝรั่ง มาดกับลุคเธอดูเซอร์ๆ ออกแนวปาล์มมี่อ่ะครับ ดูน่ารักดีเหมือนกัน ... ทั้งเรื่อง สิ่งที่ผมชอบที่สุดก็เลยจะกลายเป็นโปสเตอร์เวอร์ชันที่เป็นรูปนางเอกวิ่งแล้วหันหน้ากลับมา มีดวงดาวเป็นฉากหลังเต็มท้องฟ้าอ่ะครับ ดูแล้วโรแมนติคดีอ่า

+ หนังใหม่สัปดาห์นี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจเลยครับว่าจะดูเรื่องไหนดี แต่เล็งๆ Lion for lambs (ก็เพราะมีป้าเมอริล ขวัญใจคนเดิมของผมนั่นแหละ) เอาไว้, Secret นี่ เหมือนน้องนาโนจะไปดูมาแล้ว ไม่รู้ดีรึเปล่า, ส่วน วิญญาณ โลก คนตาย ก็คงต้องรอฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างอีกที ... และก็ว่าจะไปเก็บหนังแถวเฮาส์ด้วยครับ ทั้ง Pleasure Factory และ I don't want to sleep alone อ่า

Secret ช่วงชั่วโมงแรกมันจะออกแนวละครช่อง 7 นะครับ มีฉากพระนางกุ๊กกิ๊กกันไปกันมา แต่ดันทำไม่ถึง เลยดูไปขำขื่นๆ และเบื่อๆไป เพราะหนังไม่ค่อยสนใจจะบอกที่มาที่ไปอะไรเท่าไหร่ เหมือนจะบอกแค่ว่าไอ้นี่เป็นคนยังไง ฯลฯ มีฉากไร้สาระเยอะมาก

แต่พอเข้าช่วง 10-20 นาทีสุดท้าย หนังก็ดูดีขึ้นนะครับ ส่วนนึงเป็นเพราะพล็อตกว้างๆน่ะมันดี และหนักแน่น แต่ว่าพอออกมาเป็นบททั้งเรื่อง มันกลับไม่ลงตัวเท่าไหร่ (แต่ดีกรีความผิดพลาดยังไม่ร้ายแรงเท่า วิดีโอคลิป แน่นอน) พอหนังเข้าไคลแมกซ์มันเลยยังพอจะดูดี มีซึ้งบ้าง

แต่ข้อเสียใหญ่ๆ เลยคือดนตรีของหนังเรื่องนี้เพราะมาก ทั้งฉากเล่นเปียโน และดนตรีประกอบที่เป็นแบ็คกราวนด์ แต่ด้วยความที่มันเพราะ เฮียเจย์เลยยัดประเคนออเคสตร้าใส่หูคนดูแทบทุก 5 วินาที เร้าอารมณ์กันยิ่งกว่า Always เสียอีก.... ฉากหลายฉากที่ถ้า "อยู่เฉยๆ" จะซึ้งและทำให้คนดูอินมากขึ้น พี่แกก็ประเคนออเคสตร้าใส่เราจนเรารำคาญว่า "กูรู้แล้วววววว ว่ามันเศร้า"

โดยรวมแล้ว พี่เจย์ก็ต้องฝึกการกำกับอีกหน่อย เพราะเท่าที่เห็นก็ถือว่ามีพื้นที่ดีพอตัว แค่ยังล้นๆเกินๆไปไม่หน่อย ตามประสาคนกำกับเรื่องแรก แต่ที่ต้องฝึกมากกว่าคือ "การแสดง" จ้ะ

เห็นพี่พิมพิลาลัยพูดถึงบล็อกนี้บ้อยบ่อย
วรรณก็เลยมาอ่านดูบ้าง ชอบค่ะ
ตราวหลังจะหาเวลาติดตาม
และอ่านคำแนะนำก่อนจะไปดูหนัง
จะได้ไม่ผิดหวัง
ขอบคุณgจ้าค่ะ

หนังสือคุณหมดแล้วหรอ
ไม่เห็นจะมีขายเลย T_T

^
^ (โหมด ตอบแทนคุณ จขบ.)
คาดว่าเล่มเก่า (หนังสือรัก) น่าจะยังพอมีอยู่บ้าง บางร้านนะครับ แต่อาจต้องเดินหาหน่อยนึง ... ส่วนเล่มใหม่ (องศาที่ 361) ยังไม่ออกครับ สงสัยคงดีเลย์อีกซักพัก ... อ้อ แล้วก็ตอนเล่มแรกวางแผง คุณจขบ. เค้าไปแจกลายเซ็นในงานหนังสือคราวเดือนเมษา ตอนต้นปีนี้ ไปแล้วนะครับ

22 พย. คนไทยต้องตื่น ต้องตาสว่างกันซักดี

วันนี้แวะมาดูลาดเลา
เดี๋ยวถ้ามีเวลา จะสละให้ 1 ชม.เต็มสำหรับห้องนี้
แล้วเจอกันค่ะ..

ไปดู "วิญญาณ โลกคนตาย" มาแล้วครับ รอบบัตรฟรี

หนังเรื่องนี้น่าเสียดายมากที่ไปอยู่ในมือคนเขียนบท กับผู้กำกับที่ยังไม่มีชั่วโมงบินมากพอ ทำให้สิ่งที่หนังมีเป็นจุดแข็งกลับผสมออกมานอกจากไม่กลมกล่อม ยังออกมาเป็นหนังที่ค่อนไปทางไม่ดีเท่าไหร่นัก เพราะบางช่วงบางตอนเหมือนกันคนทำหนังชุ่ยๆ เพื่อให้มันเสร็จๆ

เรื่องนี้จริงๆเป็นหนังดราม่า เพียงแต่ว่ามีผีเยอะ เพราะนางเอกเป็นโรคจิตมองเห็นโลกของคนตาย หนังออกแบบคาแรคเตอร์ของพระเอกนางเอกได้น่าสนใจมาก เพราะทั้งคู่ไม่ใช่คนปกติ และหนังจะค่อยๆพาเราไปค้นหาชีวิตวัยเด็กของคนทั้งคู่ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เขาสองคนมีสภาพจิตใจแบบนี้ (และตรงนี้ก็น่าสนใจมากๆ)

รัน-ณัทธมนกาญจน์ เล่นดีถึงดีมาก เกินคาดเลยครับ ถ้าได้เข้าชิงรางวัลตอนปลายปีก็ไม่แปลกใจอะไร เพียงแต่ว่าบทไม่ส่งมาก และการแสดงยังไม่คงเส้นคงวา ก็คงได้แค่เข้าชิง

+ เมื่อเช้าผมแวะเข้าไปดูเว็บวิจารณ์เจ้าประจำของผม ก็แทบจะตัดสินใจไม่ดู Lion for lambs ไปแล้วจริงๆ ด้วย เพราะคะแนนส่วนใหญ่เทไปในทางติดลบ (ที่เต็มไปด้วยคำว่า 'boring' และบางคนก็บอกว่าเป็นประเด็นเก่าๆ ที่พวกเรารู้กันดีอยู่แล้ว) มีเพียงส่วนน้อยที่ชมว่าดี ... แต่พอเห็นคุณ จขบ. มาเขียนไว้เช่นนี้ ก็พอจะนึกออกแล้วล่ะว่าหนังนำเสนอตัวเองไปในแนวทางไหน ก็อย่างว่าแหละครับ ถ้าดำเนินเรื่องด้วย 'บทสนทนา' คนที่ชอบแอ๊คชั่นยังไงๆ ก็ต้องบอกว่าน่าเบื่ออยู่แล้วอ่า

+ วันพุธที่ผ่านมา ได้ไปเก็บหนังมาอีกเรื่องนึง ตอนแรกตั้งใจจะไปดู The witnesses รอบ 2 ทุ่มเพราะกะว่าคงเป็นรอบสุดท้าย ที่ไหนได้ มันดันหมดรอบไปซะแล้ว กลายเป็นเรื่อง Secret รอบพิเศษแทน ... ก็เลยเปลี่ยนใจไปดู โรงงานอารมณ์ แทนอ่ะครับ
* Pleasure Factory - หุๆ ไม่ถึงกับ 'โดน' ผมแฮะ ผมว่าหนังมันดูลอยๆ ไม่ค่อยมีที่มาที่ไปมากไปหน่อย (แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะคุณเอกชัย ต้องการนำเสนอในรูปแบบกึ่งสารคดี ก็เล่นมีบทสัมภาษณ์ด้วยนี่นา ทั้งๆ ที่มันดูไม่ค่อยเข้ากับหนังเท่าไหร่ ดูมันโดดไปเลย) ... อย่างช่วงของอนันดา กับ 'คนขาย' แม่ลูกคู่นั้น ดูมันไม่มีเหตุผล ว่าทำไมอนันดาถึงต้องติดใจผู้ลูก จนถึงไปตามเฝ้าหน้าห้องแบบนั้น, ช่วงทหาร 2 คน ที่คนนึงพาเพื่อนไปเปิด sing แต่ตัวเองดันแอบชอบเพื่อนซะเองนี่ ทำอารมณ์หนังใช้ได้ทีเดียว ถ้าไม่รู้มาก่อนอาจทำผมเซอร์ไพรซ์ได้เหมือนกันนะนั่น ... ส่วนช่วง หนุ่มน้อยนักดนตรีกับแม่สาวดาวสวาท อันนี้ชอบตรงแง่มุมที่น่าจะเป็นไปได้ในโลกความจริง ว่าแม้แต่ 'คนขาย' เอง ก็ยังต้องการช่วงแห่งความพึงพอใจที่ตัวเองจะเป็น 'คนซื้อ' และได้ทำตามใจปรารถนาบ้าง เพื่อปลดปล่อยความเครียดจากการต้องไปทำตามคนอื่นตอนที่ตัวเองเป็นผู้ขายอย่างเดียว

+ สัปดาห์นี้ผมเลยว่าจะไปเก็บหนังที่เฮาส์อ่ะครับ ... เพราะมีเรื่อง Mad hot ballroom ที่ได้ยินมาว่าหนังน่ารักมากมาย (ถึงแม้จะเก่าค้างปีไปนิด) เพิ่งจะเข้าฉาย แล้วก็หนังเก่าตกค้างอีกเรื่องคือ I don't want to sleep alone ของเฮียไฉ้หมิงเหลียง ... ส่วน Lion for lambs ก็อยู่ใน waiting list to see เช่นกันครับ

Lions for Lambs คงไม่พลาดครับ แม้ว่าเสียงฝรั่งจะรังเกียจเรื่องนี้กันเสียเต็มประดาก็ตาม ส่วน Pleasure Factory ผมเขียนไว้ข้างบนแล้วล่ะ กับการเดาว่าทำไมเขาต้องทำให้มันออกมาดูลอยๆ ไม่มีที่มาที่ไป

ว่าแต่คนที่เขาชอบหนังแอ็คชั่นเขาจะเข้าไปดู Lions for Lambs กันทำไมนะ.. ตัวอย่างมันก็ไม่ได้บอกว่าแอ็คชั่นเลยนา เหอๆๆๆๆ

Lions for Lambs อยู่ระดับกลางๆค่อนไปทางดีครับ งงกับฝรั่งบางพวกที่บอกว่าเรื่องนี้เป็น Anti-War Propaganda ทั้งที่หนังให้น้ำหนักทั้งฝ่ายสนับสนุนกับต้านสงครามอิรักพอๆกันทั้งคู่ (แถมยังให้โอกาสฝ่ายสนับสนุนสงครามพูดมากกว่าเสียอีก) --- คงเหมือนตอนที่ฝรั่งไม่ชอบ The Fountain ล่ะมั้ง

คิดว่าหนังคงไม่มีลุ้นบนเวทีรางวัลมากนัก เพราะสามเทพที่เอามาขายก็ไม่ได้แสดงความสามารถมากมายอะไร แล้วหนังทั้งเรื่องก็พูดๆๆๆๆ เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ส่วนหนึ่งที่ชอบคือการที่หนังทำตัวเป็นเวทีโต้วาทีของฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านสงครามอิรัก โดยไม่ดูลำเอียงจนเกินงาม (เหมือน The Kingdom)

ในขณะเดียวกัน.. แม้หนังจะโยงกลับไปถึงสงครามเวียดนามอยู่เป็นระยะๆ แต่โรเบิร์ต เรดฟอร์ดกำลังพยายามชี้ให้เราเห็นว่า สิ่งที่เราเผชิญอยู่ขณะนี้ มันไม่ใช่เพียงแค่ซ้อนทับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวียดนาม แต่หนักหนาสาหัสกว่าหลายเท่า ด้วยภาวะกระหน่ำซ้ำเติมภายในประเทศ

น่าเศร้าที่เหล่าสิงห์ผู้หาญกล้า กลับถูกบัญชาโดยแกะโง่ใส่สูท...

- ไปดู Secret มาค่ะ ดูที่โรงหนังสยาม เพราะตั้งใจเลือกโรงที่ไม่พากย์ไทย (เลยทำให้รู้ว่าภาษาจีนที่เรียนมาคืนเหล่าซือไปหมดแล้ว) และได้โปสการ์ดแถมด้วย 7 แผ่น สวยดีค่ะ รวมๆเรื่องนี้ก็ชอบนะคะ ชอบตอนพระเอกเล่นเปียโนมากมายน่าจะไปแข่งกับ Mr. 1900 จาก The legend of 1900 ดู ส่วนนางเอกรู้สึกว่าน่ารักขึ้นกว่าตอนเล่น Blue gate crossing เยอะ (แต่กุ้งว่านางรองหน้าตาน่ารักกว่านะ)

เรื่องนี้ กุ้งดูจบแล้วยังงงๆนิดหน่อย ถ้าพี่จขบ.หรือใครมีโอกาสไปดู ก็มาคุยกันหน่อยนะคะ