Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่

...มีคนบอกว่าผมเป็นคนที่ไม่ถูกกับหนังแอคชั่น เรื่องที่เขาว่าสนุกกันจะตายผมกลับว่าเฉยๆ(ล่าสุดที่ถูกว่าเช่นนี้คือเรื่องVan Helsing ที่ผมว่าก็สนุกนะแต่มันก็เฉยๆไม่ถึงขั้นโดนใจมากมาย ) อาจเป็นเช่นนั้นจริงบางส่วนคือผมไม่ค่อยถูกใจหนังแอคชั่นง่ายๆเท่าไหร่นัก ส่วนที่ไม่จริงคือผมเป็นคนที่ชอบหนังแอคชั่นมากๆคนหนึ่ง บ้างก็บอกว่าอย่าไปเอาอะไรมากดูเอามันส์ไว้ก่อนปัญหาที่มักเกิดกับผมบ่อยๆคือก็ผมดูไม่มันส์ด้วยนะสิ มันก็มีอยู่หลายเรื่องเหมือนกันในช่วงปีที่ผ่านมาที่ผมคิดว่าสามารถดูแบบไม่ต้องเอาอะไรมาก ไม่สมเหตุผลมากนัก เนื้อเรื่องไม่แปลกใหม่แต่หนังทำได้สนุกถึงกึ๋นจริงๆอย่างCellular หรือ National treasures บางคนบอกเป็นเพราะที่การดูหนังมามากๆจะทำให้เริ่มดูหนังสนุกน้อยลงผมคิดว่ากรณีนี้มันจะเป็นจริงถ้าคุณดูหนังแอคชั่นมามากๆหลายเรื่องแล้วมาดูหนังแอคชั่นที่มันไม่มีอะไรในบทหรือเนื้อเรื่องก็คงต้องเตรียมตัวผิดหวังได้เลยถ้าไม่เพียงแต่เนื้อไม่ดีแล้วฉากแอคชั่นยังไม่สามารถให้ความแปลกใหม่อะไรได้อีก

..Sahara เป็นหนังที่สร้างจากหนึ่งในชุดนิยายขายดีของ Clive Cussler เล่าเรื่องของ Dirk Pitt ที่ออกตาหาเรือรบสมัยสงครามกลางเมืองกับเพื่อนคู่หู Al Giordino ได้พบกับหมอสาว Eva Rojasที่มาสืบเรื่องโรคระบาดก่อนที่ทั้งหมดจะต้องร่วมวงกันกลางทะเลทรายเพื่อเอาตัวรอด ล่าสมบัติและปกป้องโลก

......หนังเริ่มต้นด้วยฉากสงครามกลางเมืองที่น่าตื่นตะลึง หนวกหูอึกทึกครึกโครม แต่ก็ชวนติดตามก่อนจะจบลงแล้วผ่อนคันเร่งด้วยการเปิดเรื่องด้วยOpening titleที่ทำให้ผมหลับงีบแรกมาตื่นเมื่อได้เห็นหน้านางเอกครูซในบทหมอ (หลังจากเจอเธอโทรมสุดๆมาแล้วกับDon’t moveในเรื่องนี้ดูกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วดีแต่ก็ยังไม่ใช่เรื่องที่ฉายแววหรือพลังดาราของเธอได้เต็มที่ การมาเปิดตัวเองกับhollywoodที่ผมคิดว่าใช้เสน่ห์จากเธอได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดคือ Woman on Top ) หนังก็เดินเรื่องต่อชนิดไม่มีอะไรตื่นเต้นชวนติดตามผมก็ง่วงๆแล้วมาตื่นตอนได้พบกับ Matthew McConaughey ในบทพระเอกของเรื่อง(ที่ในตอนแรกวางตัวไว้เป็น Hugh Jackman ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Tom Cruiseและมาลงตัวที่เขาในที่สุด) แล้วหลังจากนั้นผมก็เข้าสู่ภวังค์เป็นช่วงๆและตื่นมาเมื่อถึงฉากแอคชั่นที่หนวกหูครึกโครมทุกครั้งแต่มันก็สนุกทุกครั้งเช่นกัน

....สำหรับผม หนังขาดเสน่ห์ในตัวของนักแสดงนำเป็นอย่างยิ่งไม่มีพลังที่จะดึงดูดให้คนดูเฝ้าติดตามหรือเอาใจช่วย ยิ่งช่วงไม่มีฉากแอคชั่นพระ-นางแทบจะถูกกลืนไปกับทะเลทรายไปเลย คู่ของ Dirk - Eva อาจเป็นจุดอ่อนยังดีที่ได้คู่ Dirk- Alที่รับส่งเข้าคู่กันเป็นอย่างดีไม่ทำให้หนังแห้งแล้งจนเกินไปนัก หนังขาดเนื้อเรื่องที่ชวนติดตามไม่มีอะไรที่เหนือความคาดหมาย เดินเรื่องเหมือนหนังแอคชั่นสมัยเก่าอย่างตรงไปตรงมาแถมการเล่าเรื่องยังไม่มีอะไรน่าสนใจหลายครั้งที่หนังมีฉากแอคชั่นที่ทำได้ดีทีเดียวสนุกคึกคักครึกโครมเรียกความสนใจเป็นกราฟความสนุกที่พาคนดูขึ้นไปขีดสุดก่อนจะตกฮวบลงมาในฉากทั่วไป เมื่อการเล่าเรื่องไม่มีอะไรน่าสนใจไร้เสน่ห์ร่วมกับการขาดเสน่ห์และพลังดาราดังนั้นช่วงที่ไม่มีฉากแอคชั่นจึงทำให้หนังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการงีบพักผ่อนของผมในโรงภาพยนตร์ก่อนจะตื่นมาเป็นพักๆเมื่อได้ยินเสียงดังๆ

สิ่งที่ชอบ

1.การรับส่งของDirk- Al ...เป็นการจับคู่ที่ดูสนุกรับส่งกันได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งSteve Zahnที่รับบทAlเล่นได้สนุกกับบทตัวเองดี เรียกความเฮฮาและรอยยิ้มกับคนดูได้ตลอด

2. William H. Macy ... เป็นนักแสดงสุดโปรดของผมคนหนึ่ง ออกมาสั้นๆไม่กี่ฉากแต่กลับเรียกความสนใจคนดูได้ดี สีหน้าท่าทางการแสดงของเขาเรียกรอยยิ้มคนดูได้เสมอ เป็นนักแสดงที่พร้อมขโมยซีนทุกคนได้จริงๆ(ดูในCellularหรือSeabiscuitยิ้มแล้วยิ้มอีกในเรื่องนี้ก็เช่นกัน และไม่ใช่เป็นแค่นักแสดงจอมขโมยซีนกับการแสดงนำในThe Coolerที่รับบทตัวซวยก็ทำหน้าที่ได้อย่างเยี่ยมยอด)

3.ฉากแอคชั่น ....ฉากสงครามกลางเมืองตอนต้น หรือ ฉากขับเรือไล่ล่าฯลฯ แม้ว่าจะหนวกหูไปหน่อยแต่มันเป็นสนุกตื่นเต้นมิใช่น้อยที่ไม่ได้ดูฉากมันส์ๆแบบนี้มานาน หนังทำได้สนุกจริงในส่วนนี้

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.หนังทั้งเรื่องลบฉากแอคชั่นออก.....ผู้กำกับยังไม่สามารถคุมอารมณ์ของหนังได้สม่ำเสมอ เหมือนกราฟที่ขึ้นๆลงๆ ฉากแอคชั่นที่ทำได้ดีดึงคนดูขึ้นไปถึงขีดสุดถัดมาเมื่อถึงฉากทั่วๆไปหนังกลับทำได้แค่พยุงตัวเองไปเรื่อยๆเรียกรอยยิ้มได้บ้างด้วยการแสดงของนักแสดงประกอบไม่ใช่นักแสดงนำด้วยซ้ำ

2.บทหนัง....ผมยังไม่เคยอ่านต้นฉบับแต่กับฉบับภาพยนตร์ ไม่ใช่ว่าบทไม่ดีแต่ผมคิดว่าหนังเล่าเรื่องได้อย่างโบราณซ้ำซาก ตรงไปตรงมาจนค่อนไปทางน่าเบื่อ ขนาดการติดตามเรือโบราณดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจหนังยังทำได้ไม่ชวนติดตามเลย

3.Matthew McConaughey + Penelope Cruz .....รายแรกหลายเรื่องแล้วในฮอลลีวูดที่เขายังไม่สามารถดึงศักยภาพตัวเองในการรับบทนำแบกหนังไปได้อย่างเต็มที่ด้วยตัวเองแล้วประสบความสำเร็จอย่างจริงๆจังๆเสียที ผมเองสงสัยมานานแล้วทั้งที่ตัวเขาเองก็ใช่จะขี้ริ้วขี้เหร่การแสดงก็อยู่ไม่แพ้คนอื่นๆหรือจะขาดสิ่งที่คนมักเรียกกันว่า “พลังดารา” ทั้งคู่ในหนังไม่มีเคมีระหว่างกันและไม่มีเสน่ห์ในการมารับบทนำเลย หลายเรื่องที่ตัวหนังไม่สนุกมากนักแต่ด้วยตัวนักแสดงเองที่สามารถประคองหนังและดึงดูดคนดูไปได้ แต่ในเรื่องนี้ผมกลับรู้สึกว่าตัวประกอบที่เหลือไม่ว่าจะเป็นSteve Zahn William H. Macy หรือDelroy Lindo ยังน่าดูกว่าด้วยซ้ำ

สรุป ....ผมไม่อยากตัดสินหนังเพียงเพราะผมงีบไปเป็นช่วงๆ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าที่เคลิ้มไปเป็นเพราะผมง่วงเพลียจากการไปงานหนังสือและเชียร์หงส์พิการหักขาม้าลายเมื่อคืนหรือหนังสนุกเป็นช่วงๆกันแน่ คนที่ไปดูบอกว่าสนุกก็มีอยู่ เป็นหนังBlockbusterเปิดช่วงSummerของปีนี้ที่สนุกเอามันส์ใช้ได้ในฉากแอคชั่นแต่โดยรวมแล้วยังไม่สนุกถึงใจ ถ้าให้ผมตัดสินเองผมคงไม่ค่อยรู้สึกคุ้มเงินเท่าไหร่นัก(เพราะผมหลับไปด้วย) แต่ไม่เป็นไรยังมีHitchและThe Chorusที่รอคอยผมอยู่

ปล...ปิดฉากงานสัปดาห์หนังสือแล้วครับได้อะไรกันมาบ้างครับ สำหรับผมวันนี้เป็นการไปรอบที่สาม วันนี้ว่าจะไม่ซื้อแล้วเชียวแต่ก็อดใจไม่ได้ไปคว้า PS, I love you กับ สายลับวรรณกรรมมาอีก ส่วนเล่มอื่นๆและบรรยากาศงานเชิญชวนตามไปอ่านได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=5

ปล2. และสำหรับแฟนคุณบอยด์และสุกี้อัลบั้ม Love is วางแผงแล้วนะครับผมกำลังฟังอยู่เลยพร้อมกับอ่านDeathNoteเล่ม3 อุอุ

***เชิญชวนแวะไปอ่านไปคุย กับหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนในหมวดนี้ที่ไม่แสดงรายชื่ออีก50+เรื่องได้ที่ ---> ห้องเก็บหนัง

 

Create Date : 06 เมษายน 2548		7 comments
Last Update : 6 เมษายน 2548 22:26:17 น.
Counter : 3032 Pageviews.
Share Tweet