www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Blog No.14 : ชีวิตโสดดีกว่าชีวิตคู่ หรือ ชีวิตคู่ดีกว่าชีวิตโสด ?



... มนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ถูกออกแบบมาให้มีชีวิตที่ดีได้ทั้งในสภาวะ ‘โสด’ หรือ ‘มีคู่’

เพราะตั้งแต่แรกเกิด เราก็เกิดมาแบบโสดแล้วอยู่รอดมาได้เกินสิบปี จนถึงช่วงวัยหนึ่งที่ชีวิตเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย ฮอร์โมน ทั้งสภาพจิตใจ ฯลฯ มันกระตุ้นให้เราพร้อมมีคู่ ถ้าเจอคนถูกใจเราก็เลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตโสดต่อหรือจะหาทางเปลี่ยนสถานภาพ

สถานะโสดหรือมีคู่ จึงบอกคุณสมบัติสำคัญของมนุษย์อีกข้อคือ ‘เสรีภาพในการใช้ชีวิต’ เพราะมันเปิดโอกาสให้เราทุกคน‘เลือก’ ได้ (แต่จะสำเร็จหรือไม่ มันก็อีกเรื่องนึง :P)

มันไม่ใช่ความเป็นเพศ ไม่ใช่สัญชาติเกิด ที่ติดตัวมาโดยเราไม่มีสิทธิเลือก

มันคือธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์หรือ Human nature

**

(2)

... ในโรงแรมชีวิตคู่มีกฎตั้งไว้ว่าถ้าไม่สามารถหาคู่ได้ภายในวันที่กำหนด คนที่เป็นโสดจะถูกเปลี่ยนสภาพเป็นสัตว์

ในป่าชีวิตโสด มีกฎตั้งไว้ว่าถ้าเริ่มมีการคบกันหรือเริ่มมีคู่จะโดนลงทัณฑ์

ทั้งสองแห่งจึงไม่ต่างกัน และมันก็เหมือนกับประเทศโอเชียเนียในนิยาย 1984 ที่มีกฎว่าคนสองคนจะใช้ชีวิตคู่ได้ก็เพื่อรับใช้พรรคไม่ใช่เพราะรักกัน หรือมีเซ็กส์ก็ห้ามมีความพึงพอใจ เพราะจะถือว่าเป็นอาชญากรรม

โรงแรมชีวิตคู่ , ป่าชีวิตโสด และ ประเทศโอเชียเนีย คือสังคมจำลองของการฝืนธรรมชาติมนุษย์

ที่ว่าฝืน เพราะวันนี้อาจจะแฮปปี้ที่โสดแต่พรุ่งนี้อาจเจอคนถูกใจแล้วอยากมีคู่มันคือ ธรรมชาติของเราที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงสถานภาพ ธรรมชาติของเราที่เรามีสิทธิที่จะเลือกใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องถูกลงทัณฑ์

การกำหนดบทลงโทษในสังคมข้างต้น นอกจากจะแสดงถึงการฝืนธรรมชาติมนุษย์ ยังเท่ากับการจำลองของรูปแบบสังคมเผด็จการที่ลิดรอนสิทธิในการ‘เลือก’ ใช้ชีวิตของประชากร

**


(3)

... ดังนั้นหากวันหนึ่งที่คุณหลงเข้าไปเช็คอินในโรงแรมชีวิตคู่ ,หลงทางเข้าป่าชีวิตโสด หรือ นั่งเครื่องบินแวะไปเที่ยวโอเชียเนีย แล้วเจอคนที่ทำผิดกฎของสังคมนั้นๆอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าคนๆนั้นชั่วหรือเลว อย่าด่วนเห็นดีเห็นงามกับการลงทัณฑ์

เพราะเรามักเคยชินกับความเชื่อว่า คนทำผิดกฎ คือ คนมีปัญหาด้านการเคารพกติกาหรือมีปัญหาด้านศีลธรรม(morality)

แต่ไม่แน่เสมอไปหรอกครับ เพราะถ้าคุณเข้าอยู่ในสังคมที่สร้างกฎหรือกติกาขึ้นมาแบบฝืน‘ธรรมชาติมนุษย์’

การฝ่าฝืนกฎในสังคมเหล่านั้นไม่ใช่เพราะประชากรมีระดับศีลธรรมต่ำ แต่เพราะพวกเขาต้องการใช้ชีวิตแบบมนุษย์พึงมี ต้องการใช้ชีวิตตามคุณสมบัติที่มนุษย์มีเหนือกว่าสัตว์ป่า

นั่นคือการใช้ชีวิตแบบมีเสรีภาพทั้งในการเลือกสถานภาพหรือการแสดงออก

ปัญหาจึงไมได้อยู่ที่ศีลธรรม แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีคิดของผู้นำและกฎที่สังคมนั้นสร้างขึ้นมา

ด้วยเหตุนี้ หากลองทำแบบสำรวจในสังคมแบบเผด็จการที่ตั้งกฎกติกาแบบฝืนธรรมชาติมนุษย์เราอาจพบอัตราการใช้ชีวิตแบบลักลอบ , เสแสร้ง , ปากว่าตาขยิบ ฯลฯ สูงกว่าสังคมทั่วไปเหมือนกับที่เกิดขึ้นในโรงแรมชีวิตคู่ , ป่าชีวิตโสด หรือ ประเทศโอเชียเนีย

เพราะประชากรจำนวนหนึ่งต้องเอาตัวรอดจากบทลงโทษที่ลดทอนความเป็นมนุษย์อันแสนพิลึกพิลั่น 

**

(4)

... กลับมาที่เรื่องชีวิตโสดและ ชีวิตคู่

จริงอยู่ว่าคุณอาจเคยได้ยิน คนรักความโสดบอกว่า “โอ้ยโสดนี่ดีจะตาย อยากทำอะไรเราก็ทำได้ มีอิสระเสรี” ส่วนคนรักชีวิตคู่บอกว่า“โอ้ย มีคู่ซิคะคุณขา เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยมีปัญหาก็มีคนคอยช่วยเหลือดูแล”

สิ่งเหล่านั้นคือ’ข้อดี’ซึ่งแต่ละสถานะล้วนมี เป็นข้อดีในตัวของมัน เพียงแต่ไม่ใช่ว่าอะไรดีกว่ากัน

แต่มนุษย์มักจะรู้สึกว่าสถานภาพหนึ่ง(โสด/คู่)ดีกว่าอีกสถานภาพหนึ่งเพราะ==เราเริ่มรู้สึกไม่มีความสุข== ในสถานภาพที่เราเป็นอยู่

อาจจะไม่มีสุข เพราะ

-          - เราเป็น มนุษย์โสด ที่อยู่รายล้อม มนุษย์คู่ จำนวนมากจนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองผิดธรรมชาติ

-          - เราเป็น มนุษย์โสดที่ถูกค่านิยมใกล้ตัวกดดันและคาดหวังให้มีคู่

-         -  เราเป็น มนุษย์คู่ แต่รู้สึกอึดอัดกับการใช้ชีวิตร่วมกับคนรัก

-        -   เราเป็น มนุษย์คู่ ที่ทุกข์กับการถูกคนรักทำให้ช้ำใจ

ฯลฯ

มันจึงไม่ใช่เรื่องว่าโสดหรือคู่ดีกว่ากันแต่มันคือเรื่องของการปล่อยให้ ‘สังคมภายนอก’ มามีอิทธิพลจนทำให้เรารู้สึกผิดธรรมชาติ และมันคือเรื่องของปัญหาการใช้ชีวิตที่ไม่ได้รับการแก้ไข แล้วก็พยายามหาข้อดีของอีกอย่างมาชูให้ดูเหนือกว่า

แถมบางครั้งเราดันไปเจอ ‘มนุษย์ข่ม’ที่ชอบหาข้ออ้างให้ตัวเองสบายใจจึงยกสถานภาพที่เป็นอยู่ว่าดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ จนเรารู้สึกแย่ที่ไม่เหมือนเขาแต่แท้จริง อาจเป็นเพราะลึกๆแล้วเจ้าตัวพยายามข่มเพราะอยากเปลี่ยนสถานภาพแต่ทำไม่สำเร็จ

**

(5)


... หนึ่งในสิ่งเสียเวลาที่สุดของมนุษยชาติ จึงเป็นการเสียเวลาไปกับการพยายามมาหาคำตอบว่า โสดหรือ คู่ ดีกว่ากัน

การพยายามอ่านบทความประเภท ข้อดี 7 ประการของความโสด, ข้อดี 12 ประการของการแต่งงาน ฯลฯ ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตของเราดีขึ้นอย่างแท้จริงนอกจากจะช่วยปลอบใจบ้างเป็นครั้งคราว

เพราะถ้าเราเข้าใจว่า มนุษย์เกิดมาด้วยความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะ‘โสด’ ßà ‘คู่’ได้จนช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต

อาจจะถูกกดดันจากค่านิยมสังคม ถูกกดดันจากครอบครัว ถูกกดดันจากลมหนาว Smiley ฯลฯ แต่สุดท้ายแล้วมันเป็นสิทธิของเราที่จะเลือก

โสดก็เหงาได้ คู่ก็เหงาได้

โสดก็สุขได้ คู่ก็สุขได้

ฯลฯ

ดังนั้นตราบใดที่เราไม่ได้หลงไปอยู่ในสังคมที่พยายามฝืนธรรมชาติมนุษย์ แล้วเราเข้าใจธรรมชาติมนุษย์ เมื่อเรารู้ทันต้นเหตุของความสุขหรือทุกข์

เมื่อนั้นเราก็จะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับสถานภาพโสดกับคู่อีกเลย

****

หมายเหตุ : บล็อกนี้ได้แรงบันดาลใจจากหนัง The Lobster (โรงแรมชีวิตคู่/ป่าชีวิตโสด) และบทสนทนาของวัยรุ่นสามคนที่เผลอได้ยินขณะเข้าห้องน้ำหลังดูหนังจบ

คนแรก: "เหี้ย ไม่รู้จะอธิบายยังไง หนังมันเรื่อยๆนะ"

คนสอง :  "เออ กูก็ไม่รู้ว่าจะเขียนรีวิวยังไงเลย"

คนสาม :  "กูว่ามันเกี่ยวกับความรัก แต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจนะ มันเป็นหนังที่แนะนำคนอื่นๆไม่ค่อยได้หวะ"


ตอนดูหนังตั้งใจว่ารอหนังออกเป็นแผ่นแล้วดูอีกรอบแล้วค่อยเขียนถึง แต่พอได้ยินก็คันมืออยากตอบน้องๆทั้งสามคนในห้องน้ำ เลยเขียนไว้นิดนึงก่อนละกัน เผื่อบังเอิญได้แวะมาอ่าน Smiley




 

Create Date : 01 ธันวาคม 2558
2 comments
Last Update : 1 ธันวาคม 2558 23:25:10 น.
Counter : 2530 Pageviews.

 

ชอบมาเลยครับ เขียนโดนใจ

 

โดย: TazmaN IP: 118.174.167.80 1 ธันวาคม 2558 21:50:42 น.  

 

อยากดูเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนะคะ

 

โดย: lovereason 5 ธันวาคม 2558 14:33:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
1 ธันวาคม 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.