www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

สายลับจับบ้านเล็ก , จาก "เพื่อนสนิท" มาสู่ "เมียน้อย"



...มันดูจะไม่แฟร์เท่าไหร่ ถ้าจะเอา สายลับจับบ้านเล็ก มาเปรียบ เทียบกับ เพื่อนสนิท ในแง่ความซึ้งประทับใจ เพราะถึงผู้กำกับจะเป็นคนเดียวกัน แต่ โทนของหนังและธีมของหนังก็ออกจะไกลเป็นคนละเรื่อง

เพื่อนสนิท มาในแนวหนัง โรแมนติกดราม่าหยอดคอมิดี้ แต่ สายลับฯ มาใน แนวหนังตลกเป็นหลักโดยหยอดความโรแมนติก ผมคิดว่า ถ้าจะเทียบความประทับใจจากหนังเรื่องนี้โดยผกก.คนเดียวกัน น่าจะนำไปเทียบกับ หนูหิ่น หรือนำไปเทียบกับหนังแนว เดอะกิ๊ก ดูจะใกล้เคียงกว่า

เมื่อตัดสินใจมาในสายของ หนังตลก สายลับฯก็เตรียมตัวรับคำวิจารณ์ที่ออกมาสองด้านได้เลย เพราะ เท่าที่ผ่านมา หนังตลกเป็นหนังที่ยากจะกวาดคนดูให้ตกหลุมรักมากๆแบบเป็นเอกฉันท์ เพราะ เหมือนว่า เราแต่ละคนถูกเซ็ตต่อมตลกในตัวไม่เหมือนกัน คนที่ชอบ หนังตลกอย่างมิสเตอร์บีน หนังตลกอย่าง ซิมป์สัน กับ หนังตลกอย่างบอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม อาจไม่ใช่คนกลุ่มเดียวกัน และ ก็ไม่ได้หมายความว่า ใครมีรสนิยมดีกว่าใคร

ดังนั้นถ้าไม่ชอบมุกตลกแบบบอดี้การ์ด แล้วเข้าไปดู บอดี้การ์ด บอกหนังไม่ตลก หรือ ไม่ชอบมุกแบบมิสเตอร์บีนแล้วเข้าไปดูหนังโทษว่าหนังไม่ฮา ก็ดูจะไม่ยุติธรรมกับคนทำหนังเท่าไรนัก





ความเป็นหนังตลกของสายลับฯ มีจุดอ่อนที่มาพร้อมกับความแตกต่างจากหนังเรื่องก่อนๆของก๊วนแฟนฉัน นั่นคือ มุกตลกในหนังสายลับฯ ผสม มุกตลกแบบน่ารักๆสไตล์เพื่อนสนิท/ซีซั่นเช้นจ์ บวก มุกตลกเว่อร์ๆเหมือนอ่านการ์ตูนเป็นช่องๆ(ตัวอย่างตอนทวงหนี้ของสามสหาย) ที่เพิ่มเข้ามามากขึ้นกว่าเรื่องก่อนๆ คือการอัดมุกตลกแบบตลกคาเฟ่ตึ้งโป๊ะเข้ามามาก ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานอกจากจะเวิร์คบ้างไม่เวิร์คบ้างสลับกันไป แต่การผสมมุกแบบกวาดตลาดคนดูก็ทำให้ ใครไม่ชอบมุกแบบคาเฟ่คำหยาบก็อาจจะไม่ฮาแม้ว่ามุกนั้นจะขำก็ตาม หรือ คนไม่ชอบความเว่อร์ๆก็ออกจะรำคาญความเป็นการ์ตูนในหลายตอน

(จะดีกว่านี้ หากหนังลด คำหยาบของแจ๊คลงไปบ้าง หนังก็ไม่น่าจะขำน้อยลง เพราะ หนังตลกไทยๆเราชักจะเป็นโหมดอัตโนมัติสิ้นคิดเสียแล้วที่จะต้องอัดคำหยาบเกินปกติเพื่อให้เอาเสียงหัวเราะ )

อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าถ้าให้เปรียบ ความซาบซึ้ง จะนำไปเทียบกับเพื่อนสนิท ก็คงไม่แฟร์ แต่ในแง่คุณภาพของตัวหนัง ต้องยอมรับว่า สายลับฯ เป็นงานที่เดินถอยหลังจาก เพื่อนสนิท ไม่ใช่แค่ว่า เพื่อนสนิท คือผลงานที่สร้างมาตรฐานไว้สูง เพียงอย่างเดียว แต่เพราะตัว สายลับฯ เองก็ยังขาดความลงตัวอยู่ในหลายๆจุด

เพื่อนสนิท มีความสม่ำเสมอของหนังแทบตลอดทั้งเรื่อง จะไม่มีช่วงไหนที่เรารู้สึกหนัง หลุด ไปจากแกนกลาง จะมีก็แต่ จี๊ดมากจี๊ดน้อยเป็นช่วงๆไป แต่ สายลับฯ มีหลายช่วงทีเดียวที่หนัง หลุดไปจากค่าเฉลี่ยความสนุกของตัวเอง หลายตอนที่หนังฝืดๆฝืนๆพยายามดันไปกับมุกที่สามารถเกลาให้ขำกว่านี้ได้แต่ก็รีบยิงซะก่อน โดยเฉพาะช่วงต้น ที่ดูหนังใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเข้าที่เข้าทาง

และก็มีหลายตอนที่หนังรีบหาบทสรุปแบบรวบรัดตัดความง่ายๆจนเกินไป และ นั่นก็ทำให้ คาถาเสกความจี๊ดหรือความโรแมนติก ของผู้กำกับเอส คมกฤษ ไม่ขลังเหมือนที่เคย เพราะ หนังไม่ปูทางให้คนดูอินไปกับความรักที่ควบคู่มากับความฮา ขนาด สูตรใส่เพลงจี๊ดๆเข้าไปในหนัง แต่ "คนของเธอ" ในหนังเรื่องนี้ไม่สามารถดึงให้คนดูอินไปกับเพลงเท่าไหร่เลย

...สำหรับผม สิ่งที่สายลับฯเหนือกว่า เพื่อนสนิท มีเพียงอย่างเดียวคือ การแสดงของซันนี่ ที่พลิ้วและเนียนไปกับหนังเหลือเกิน



แรกเริ่มผมอยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะ ตัวผู้กำกับที่สร้างหนังโรแมนติกจี๊ดๆอย่างเพื่อนสนิท กับอีกปัจจัยคือ สองจอมขโมยซีนที่มาชนกันเป็นครั้งแรกระหว่าง แจ๊ค กับ โอปอล์ แต่ ปรากฏว่า คนที่ครองซีนตัวจริงคือ พระเอกซันนี่ ที่เล่นบทตลกได้เป็นธรรมชาติมากๆ เล่นได้ดีกว่าที่คิด เป็น ก้าวที่กระโดดดูไปได้ไกลกว่าตอนเล่นเพื่อนสนิทเยอะ

แถมในบางตอนเขากลับเป็นตัวขโมยซีนจากแจ๊คและโอปอล์เสียเองด้วยซ้ำ ในทางตรงข้ามผมออกจะผิดหวังกับแจ๊คและโอปอล์ในบางตอนเพราะผมคิดว่า ผู้กำกับปล่อยให้ทั้งคู่เล่นเยอะจนล้นจนเวอร์เกินไปในหลายๆฉาก


ที่ไม่ควรพลาดที่จะพูดถึงเด็ดขาดในสายลับฯ ย่อมต้องเป็น น้องน้ำปั่น ซึ่งวีดวิ๊วคนดูหนุ่มๆได้เป็นอย่างดี หนูพีคเล่นหนังเรื่องนี้สอบผ่านสบายๆแต่ยังพิสูจน์อะไรไม่ได้มากหากน้องหนูคิดจะเดินต่อบนถนนสายนี้ เพราะสายลับฯ ไม่ต้องการอะไรจากเธอมากไปกว่า ความน่ารักและเซ็กซี่แบบซอฟร์คอร์ ซึ่งเธอก็มอบให้อย่างน่าพึงพอใจ

... ที่ผมสนใจในตัวน้ำปั่นมากเป็นพิเศษ ไม่ใช่ ทรวดทรงองค์เอว แต่ น้ำปั่น ทำให้หนังมีมุมมองดีๆมีสาระแง่คิดดีๆสอดแทรกในความฮา กับการที่บทหนังเขียนให้เธอไม่ได้เป็นสาวใสซื่อบริสุทธิ์แต่ นางเอกในหนังเรื่องนี้เป็น บ้านเล็ก or กิ๊ก or เมียเก็บ or เมียน้อย

น้ำปั่น เป็น พริตตี้สาวเซ็กซี่ ที่วาดฝันอยากจะมี บ้านหลังโตเป็นของตัวเอง

ความฝันที่อยากจะมีบ้าน เมื่อเห็นลู่ทางก็ลืมทุกอย่างไม่เว้นแม้ผิดชอบชั่วดี



...ฉากน้ำปั่น บรรยาย เหล่าบ้านเล็กที่ต้องเอนหลังเวลาเข้าม่านรูดแล้วสะดุดกึกเหมือนนึกถึงภาพตัวเอง สะท้อนให้เห็นถึง ศีลธรรม หรือ Superego ในตัวเองที่ไม่ได้ขาดหายไป แต่มันถูกกดไว้เพราะความอยากที่เข้ามาครอบงำ

และมันก็ทำให้เราได้เห็น ชีวิตของคนเป็นบ้านน้อย เมียเก็บ คนเป็นชู้ เป็นตัวทำลายครอบครัวคนอื่น พฤติกรรมผิดๆเหล่านี้ อาจไม่มีเหตุผลที่จะมาหักล้างให้เป็นสิ่งถูกต้อง แต่ มันก็มิได้หมายความว่า พวกเขาเป็นคนเลว คนชั่วช้า หรือ คนไร้จิตสำนึกเสมอไป

ในสภาพสังคมที่ให้เชิดชูความสำคัญกับคนที่ประสบความสำเร็จ ความร่ำรวย การเลี้ยงดูที่หล่อหลอมให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ มุ่งเน้นแต่ให้มองไปที่ เป้าหมาย มุ่งเน้นให้เด็กมีความฝัน

แต่ไม่เคยให้ความสำคัญถึง วิธีการ ไม่สนใจคำที่ไม่มีตัวตนอย่าง ความถูกผิดหรือจริยธรรม

หากทัศนคติของคนในสังคม หรือ ครอบครัว ยังคงเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่า เราก็จะพบ น้ำปั่น ต่อๆไป แถมอาจจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวเรา กับ คนดีๆที่เส้นศีลธรรมพร่าเลือน เพราะ สายตามุ่งไปแต่ที่เป้าหมาย คนที่พร้อมทำทุกอย่าง ยอมแลกทุกอย่าง เพื่อไปให้ถึงความฝัน

ผมชอบตอนจบที่หนังทำให้เห็นวิธีการปรับตัวของนางเอกที่จูนตัวเองกับความฝันเข้าด้วยกัน โดยไม่สูญเสียความฝันและไม่ต้องทิ้งความเป็นคนดีๆ เหมือน พระเอกที่รักในการเป็นนักประดิษฐ์ ถึงจะรู้ว่าเอาดีทางนี้ไม่ได้ จะทำเป็นอาชีพก็เลิกหวัง แต่เขาก็ไม่ได้โยนความฝันทิ้งไป เขาแค่ปรับมันเป็นแค่ งานอดิเรกยามว่างของตัวเอง

เราทุกคนมีความฝัน แม้บางครั้งมันก็จะไกลและต้องใช้เวลา จนชวนให้อยาก มักง่าย ไปให้ถึงไวๆโดยแกล้งทำผิดไม่รู้ไม่เห็น เพื่อไปให้ถึงฝัน แต่แน่ใจแล้วหรือว่า เมื่อถึงจุดนั้นโดยแลกกับความดีงามในตัวเรา แล้ว เราจะมีความสุขจริงๆ เพราะ หากต่อมศีลธรรมของเรายังคงหลงเหลืออยู่ เมื่อถึงเวลา เราก็จะพบว่า นี่ไม่ใช่ความสุขที่ฉันต้องการ สู้ว่า ระหว่างนั้น เราหันมาปรับความฝันให้เข้ากับความเป็นจริงที่มีอยู่ดีกว่าไหม


สรุป ... ส่วนตัวแล้วชอบเพราะดูไปก็เฮฮาไปเป็นพักๆ มองในแง่ หนังตลกไทยๆ ถือว่าน่าพอใจไม่เสียดายตังค์ เดินออกจากโรงได้พร้อมรอยยิ้ม เป็น หนังตลกที่ขำบ้างแป้กบ้างแต่ส่วนที่แป้กก็ยังพอขำๆพร้อมเพื่อนร่วมโรงผ่านไปได้ไม่ถึงกับฝืดจนนั่งหาว การผสมมุกตลกแบบสไตล์หนังแฟนฉันกับมุกตลกแบบตลกคาเฟ่ตึ๊งโป๊ะ อาจทำให้คนที่ไม่ชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ขำเวลาที่มุกสไตล์นั้นออกมา

ถ้าจะเอากลับไปเทียบกับมาตรฐานของงานเก่าๆของก๊วนแฟนฉัน สายลับก็จัดได้ว่าเป็นงานมือตกในแง่คุณภาพแต่ยังสอบผ่านในด้านความบันเทิง (ผมชอบมากกว่าหนังคอมิดี้ในก๊วนเดียวกันอย่าง หมากเตะรีเทิร์นส ) หรือ ถ้าจะมองในแง่ของความเป็นหนังตลกฮาๆปาจิงโกะ สายลับฯ เป็นหนังคอมิดี้ของไทยที่น่าพอใจท่ามกลางหนังตลกมากมายที่บ้างก็ไม่เน้นโครงเรื่อง บ้างก็เน้นแต่คำหยาบคายและขายตัวละครเพศที่สาม

เพียงแต่แอบหวังว่า จากคาถาของผู้กำกับที่เคยเสกในเพื่อนสนิท ให้กลายเป็นหนังจี๊ดชั้นดี จะสร้างหนังที่มีความลึกหรือน่าสนใจมากขึ้น ไม่ใช่ เฮฮาปาจิงโกะ ต่อๆไปแบบย่ำอยู่กับที่


Link บทความเกี่ยวข้องที่เคยเขียนถึง

เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง

Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"

หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้





ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 10 กันยายน 2550
22 comments
Last Update : 16 กันยายน 2550 12:41:05 น.
Counter : 6053 Pageviews.

 

เคยดูแต่เพื่อนสนิท ผ่านเนทอ่ะ แต่ชอบมาก เรื่องอื่นๆอีกไม่นานคงได้ดู

ชอบเพื่อนสนิทมาก พี่เขียนเก่งจัง ชอบ

 

โดย: สหมิว (Be a good guy ) 10 กันยายน 2550 0:44:59 น.  

 

ผมอ่านตัวเรื่องทั้งหมดแล้วครับ ดูยังไงก็ลำบากที่จะเป็นหนังดีอ่ะครับ มุขตลกค่อนข้างฝืด ส่วนโรแมนติกก็แทบจะไม่มีครับ ยังแปลกใจทำไมหลายคนชอบ

 

โดย: joblovenuk 10 กันยายน 2550 1:02:29 น.  

 

ตอนแรกคิดจะไปดูนะครับ หนังเรื่องนี้ เพราะชอบเจ็โอปอลล์มากๆ แต่ตอนนี้ ผมขอรอแผ่นดีกว่าครับ เนื่องด้วยจาก ไม่มีเวลาเข้าโรงหนังด้วยน่ะครับ

 

โดย: เข็มขัดสั้น 10 กันยายน 2550 9:34:48 น.  

 

แวะมาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจว่าจะไปดูดีรึเปล่า

ตอนนี้ตัดสินใจได้แล้วค่ะ
คิดว่ารอดูตอนออกเป็นวีซีดีดีกว่า

 

โดย: Almondblist 10 กันยายน 2550 10:12:27 น.  

 

...คิดเหมือนกับ คห ที่4 ค่ะ...
ขอบคุณนะค่ะที่เอาข้อมลูมาแบ่งปันกันค่ะ

 

โดย: เพราะฉันห่างไกล 10 กันยายน 2550 10:49:19 น.  

 

จะไปดูวันนี้ละครับ

 

โดย: BloodyMonday 10 กันยายน 2550 11:02:37 น.  

 

ว่าจะไปดูเย็นนี้เหมือนกันค่ะ

จะไปดูเพราะชื่อ ผกก เหมือนกัน

 

โดย: หัวใจสีชมพู 10 กันยายน 2550 11:25:37 น.  

 

+ แง้วๆ อ่านจากที่คุณ จขบ. กับท่านอื่นๆ เขียนกันมา ประเมินว่าเรื่องนี้คงไม่ถึงกับใช่หนังที่เข้าทางผมซักเท่าไหร่ (คือไม่ถึงกับซึ้ง แถมมุกตลกก็ไม่รู้จะเวิร์ค (สำหรับตัวเอง) หรือแป้ก) ... ดังนั้นคงต้องรอเป็นช้อยส์หลังอ่ะครับ (ผมยังไม่ได้ดูไชยาเลยจนป่านนี้)

 

โดย: บลูยอชท์ 10 กันยายน 2550 12:09:37 น.  

 

เห็นด้วยครับว่า หนังยังมีจุดบกพร่องอยู่หลายจุด
อย่างเรื่องความรักระหว่างตัวพระนางนี่
บทสนทนาของ 2 คนนี้ บางช่วงยังเเปร่งๆอยู่
มุขที่ยิงออกมาบางครั้งก็ถี่เกินไป
ฯลฯ

เเต่ยังไงจุดเหล่านี้ ผมก็มองข้ามมันไปได้สบายครับ
เมื่อเทียบกับความสนุก และได้คลายเครียด
เเถมอาหารตา ที่ได้รับเเล้วสดชื่นสุดๆ จากน้องพีคอีก ^^
สำหรับผม สายลับฯ จึงเป็นหนังคอมดี้เลิฟใสๆ ที่สอบผ่านในเรื่องความบันเทิง
ซึ่งมันก็เป็นจุดหลักที่ทำให้ผมไปดูเรื่องนี้ครับ

 

โดย: เมื่อฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี IP: 124.120.87.236 10 กันยายน 2550 13:15:29 น.  

 

อยู่ข้างหลังจริงป่ะ
แอบบ ตรู่ อีกแย้วววว
แว๊บ ๆ

 

โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) 10 กันยายน 2550 15:08:17 น.  

 

เราเองก็คิดว่าหนังฝีมือตกจากเพื่อนสนิทลงมา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียดายเงินเลยที่ได้ไปดู
ขอชื่นชมซันนี่แบบสุดๆที่เล่นได้มึน แต่เท่แบบธรรมชาติจริงๆ
เขาเล่นให้เราเชื่อว่าเขาเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ

ส่วนน้ำปั่นน่ารักดีค่ะ แต่ในแง่เรื่องที่ว่าอยากมีบ้านแล้วไปเป็นเมียน้อย(โดยที่ยังมีสำนึกที่ดีอยู่นั้น) มันดูยังไม่ลงตัวยังไงไม่รู้ ปมมันน้อยเกินไปนิดนะ

 

โดย: ต.เต่าหลังตุง IP: 203.131.212.75 10 กันยายน 2550 18:06:48 น.  

 

ผมกลับมองว่ามันตอบโจทย์ตัวเองไม่ได้นะพี่
เพราะตัวอย่างมันก็แสดงออกมาว่า "นี่คือโรแมนติก-คอมเมดี้" แต่หนังทำออกมาไม่ได้แบบที่วางไว้

อย่าเอาไปเทียบกับ Bridge to Terabithia นะครับ เพราะแม้ตัวอย่างจะโปรโมตเป็นแฟนตาซี แล้วตัวหนังจริงออกมาเป็นดราม่า แต่เราจะเห็นความตั้งใจว่าเทราบิเตีย ต้องการวางตัวเป็นดราม่าจริงๆ

ในขณะที่ "สายลับฯ" ผมมองว่ามันตั้งใจจะเป็น "โรแมนติก-คอมเมดี้" ไม่ใช่ "คอมเมดี้-โรแมนติก" แต่มันดันออกมาอย่างหลังมากกว่าซะอย่างงั้น

แถมการเล่าเรื่องยังออกมาคล้ายๆกับละครซิทคอมของ Exact ที่จะเล่าสองเหตุการณ์ไปพร้อมๆกัน เหตุการณ์นึงซีเรียส อีกเหตุการณ์นึงเป็นคอมเมดี้แบบไม่สนใจโลก ซึ่งผมก็ไม่ได้ชอบอะไรขนาดนั้น

แล้วทีนี้คอมเมดี้ของสายลับฯ มันดันหลุดโลกออกไปซะจนไม่คิดถึงหลักเหตุผลและตรรกะอะไรอีกแล้ว เหมือนกับเขียนบทมาเพื่อให้เพื่อนมีหนังเล่น อย่างที่ผมว่าไปในกระทู้นู้น (ไม่รู้พี่ได้แวบไปอ่านมั้ย)

 

โดย: nanoguy 10 กันยายน 2550 22:42:05 น.  

 

ผมกลับชอบพอสมควรนะครับเรื่องนี้
เพราะไม่ได้ตั้งความหวังอะไรไว้มากอยู่แล้ว
หนังทำให้ผมขำอยู่ตลอด พอเห็นฉากแรกก็พอจะรู้ว่าโทนหนังจะเป็นแนวไหน ก็ไม่คิดมากแล้ว เลยได้ความตลกไปเต็มๆ
ผมคงไม่เอาเรื่องนี้ไปเทียบ "เพื่อนสนิท" เพราะมันคนละชั้นกันครับ

ปล. แต่ก็เห็นด้วยครับ เรื่องน้องแจ๊คที่พูดหยาบมากไปหน่อย(เยอะเลยแหละ) และสำหรับโอปอล์คงยากที่จะไปห้ามเค้าอ่ะครับ(เหมือนกันทุกเรื่อง จนไม่ตลกแล้วครับ)

 

โดย: DoNg IP: 124.121.172.220 11 กันยายน 2550 0:18:13 น.  

 

ไปชมมาวันนี้เอง หลังจากที่ใครๆก็พูดถึง คนชมซึ่งส่วนใหญ่หรือเกือบหมดโรง(ยกเว้นดิฉัน) คือเด็กวัยรุ่น มีเสียงฮาตรึม ก๊ากๆ ดังอยู่ตลอดเวลา ก็โอเคนะคะ ก่อนไปดู จะไม่อ่านคำวิจารณ์เพราะไม่อยากให้คำวิจารณ์มีบทบาทในการตัดสินใจของเรา แต่จะเข้ามาอ่านก็ต่อเมื่อไปดูมาแล้ว ช่วยไม่ได้จริงๆที่อาทิตย์นี้มีหนังไทยเข้าฉายแค่สองเรื่อง หนังผีขอผ่าน เลยต้องไปดูน้องซันนี่แก้ผ้าเอาหน้ารอดในฉากเต้นระบำจ้ำบ๊ะ(ดีนะ ยังไม่เปลื้องหมด) ชอบฉากนี้แหล่ะ ฮาดี!!!
ที่บอกว่าโอเค คือหนังก็ตลกอ่ะ ไม่ได้คิดว่าหนังเรื่องนี้จะต้องให้คุณค่ากับสังคมมากมายไปกว่าความบันเทิง มุขตลกก็ขำกลิ้งดี(ในบางฉาก) ชอบเพลงธีมที่มาจากหนังฝรั่งหลายๆเรื่อง คือถ้าคุณจะดูแค่ให้มันตลก มันก็โอเคนะคะ ไม่ได้เลวร้ายขนาดดูไม่ได้ โถ ไปดูหน้าใสๆปากแดงๆ(ไม่ได้เมคอัพ)ของน้องซันนี่ก็คุ้มแล้ว ส่วนที่หนุ่มๆจะปลื้มน้องน้ำปั่นนั้น ก็สมควรปลื้มอยู่หรอก ว่าแต่หน้าตาน้องเธอดูแล้วคิดถึงเมย์ อีกทั้งเสียง แบ๊วๆของเธอก็น่าเอ็นดูพอควร

เพราะได้ดูหนังตัวอย่างเรื่อง เพื่อนฯของพจน์ อานนท์แล้ว เลยขอพูดพาดพิงสักหน่อย มีใครอยากไปดูเรื่องนี้บ้างมั้ย? โอ้โฮ ทำได้ยังไง แค่ฉากอาบน้ำบนดาดฟ้า(มั๊ง) เรียกเสียงกริ๊ดลั่นโรง แถมมีกระแสเสียงลอยมาจากหมู่สาวๆ(แท้)อีกว่า รับไม่ได้ๆๆ แหะๆ คราวนี้เพลงอยากรู้แต่ไม่อยากถาม ของแครอลี่ บลาๆ คงกระหึ่มอีกครั้งมั๊ง ?

 

โดย: lสาวเหนือแต๊ๆเจ๊า IP: 58.136.69.43 11 กันยายน 2550 23:45:07 น.  

 

ถือว่าโอเคในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ดีมากมาย แต่ก็ไม่แย่เกินไป
ถ้าไม่ตั้งความหวังไว้มากก็จะรู้สึกดี
ชอบช่วงท้ายของหนัง โดยเฉพาะฉากสุดท้าย มันได้อารมณ์จริงๆ ^_^

 

โดย: บะหมี่หยกหกก้อน IP: 202.44.136.50 14 กันยายน 2550 16:38:49 น.  

 

โดยส่วนตัว

ถ้าคุณเป็นผู้ชาย.....ดู "น้องพีค" ทั้งเรื่องนี้.."คุ้ม"...
ถ้าคุณเป็นผู้หญิง...ดู "ซันนี่" ใส่บอกเซอร์ฉากเดียว.."คุ้มสุดคุ้ม"...

สำหรับดิฉันเหรอคะ....."คุ้มสุดคุ้ม"......ค่ะ

 

โดย: น้องขนม IP: 125.26.80.128 14 กันยายน 2550 17:39:22 น.  

 

ดูจบแล้วไม่อิ่มค่ะ
มันก็สนุกนะแต่เหมือนมีอะไรหายไป
พี่หมอเขียนได้ตรงใจเหมือนเคยค่ะ
รู้แล้วว่าอะไรที่หายไป

 

โดย: หูนิ่ม IP: 117.47.157.52 22 กันยายน 2550 13:19:49 น.  

 

+ หุๆ ผมเพิ่งได้ไปดูเรื่องนี้มาเมื่อวานครับ (เชยชะมัด) ... จริงๆ ก็พอจะรู้อยู่แล้วแหละว่าหนังจะออกเป็นยังไง อารมณ์ประมาณไหน เพราะอ่านจากหน้านี้และอีกบางบล็อกที่เขียนถึงหนังเรื่องนี้ไปหมดแล้ว ... และก็ 'ไม่เข้าทาง' ผม (ซักเท่าไหร่) จริงๆ ด้วยอ่ะครับ
+ เพราะส่วนคอมมิดี้มันดูการ์ตูนเว่อร์ๆ ตัวละครแทบทุกตัวก็โอเวอร์แอ๊คติ้งกันไปหมด (ยกเว้นซันนี่ ที่ดูเป็นธรรมชาติ เพราะตัวอื่นนั้นหลุดโลกกันไปหมดแล้วนั่นเอง เลยดูกลายเป็นคนปกติที่สุดไป), ในส่วนดราม่านั้น ค่อนข้างจะบางเบาไปนิด และในส่วนของโรแมนติค น่าจะถือว่าสอบผ่านไปได้
+ หลายมุกใช้ได้ หลายมุกแป้ก ... แต่ขัดหูกับพวกคำหยาบเจงๆ ด้วยครับ มันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องพูดกันเยอะขนาดนั้น เอาแต่พองามก็พอ ... ส่วนมุกคาเฟ่ตึ่งโป๊ะ ผมก็ไม่ค่อยตลกด้วยเท่าไหร่อ่า
+ น้องพีค น่ารักเหมือนพริตตี้งานมอเตอร์โชว์เจงๆ เล้ยยย ... ส่วนพวก 'ผู้ชายของบ้านใหญ่' ก็ขำๆ ที่เอาทั้ง สุเมธ & เดอะปั๋งมาเล่นกันทั้ง 2 คนเลย
+ สำหรับผมถือว่า 'เสมอตัว' อ่ะครับ ... แต่ถ้าไม่ได้รู้ก่อนว่าหนังจะหน้าตาออกมาเป็นยังไง เข้าไปดูตั้งแต่ช่วงเข้าฉายใหม่ๆ ก็คงจะรู้สึก 'ติดลบ' อ่า

 

โดย: บลูยอชท์ 27 กันยายน 2550 15:02:09 น.  

 

เห็นด้วยที่ว่า ทำไมเดี๋ยวนี้หนังไทย ชอบมีคำหยาบ นานๆ มีทีก็ไม่เป็นไร แต่เล่นสาด(คำหยาบ)กันทั้งเรื่อง ก็รับไม่ได้เหมือนกันค่ะ
สำหรับเรื่องนี้อยากดูเหมือนกันค่ะ แต่เวลาไม่เอื้อเท่าไร คงต้องรอแผ่นแล้วล่ะ

 

โดย: butbbj 9 ตุลาคม 2550 16:49:52 น.  

 

8/10 คะแนน

หนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดสำคัญข้อหนึ่งว่า ผู้หญิงสวย ต่อให้ผ่านผู้ชายมาหลายมือ ก็ยังสามารถหาผู้ชายดีดีมาเป็นคู่ชีวิตได้อยู่ดี

ถ้าเป็นคุณล่ะ จะรับน้ำปั่น แต่งงานไหมล่ะ ทั้งๆที่รู้ว่าเค้าเคยนอนเสี่ยมาหลายคน ซึ่งของแบบนี้จริงๆมันก็เริ่มต้นปรับตัวกันใหม่ได้ ซึ่งผมก็เคยมีแฟนเป็นเด็กดริ๊งนะ รู้ทั้งรู้ว่าเคยนอนกับผู้ชายมาเยอะ แต่ตอนเราคบกัน เราก็มีความสุขกันดี

แต่ยังไงก็ตาม คนที่เราอยากให้เป็นแม่ของลูกในอนาคต เราก็อยากจะหาให้ดีที่สุด แต่บางทีความถูกชะตา มันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ปล.นอกประเด็นไปเยอะขออภัย

 

โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 3 พฤศจิกายน 2550 14:19:06 น.  

 

ละครเรื่องสนุกมากเลยค่ะ ถ้ายังแล้วทุกๆคนต้องดูกันนะค่ะ รักนะจุ๊บๆๆ
i love you

 

โดย: ภูริณิชา สรรสุนทร IP: 124.120.188.128 4 มกราคม 2551 16:49:17 น.  

 



สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม
หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง
ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน

 

โดย: ป๋องแป๋ง IP: 124.120.0.136 24 มีนาคม 2551 16:42:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
10 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.