www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Horton Hears a Who! ,เสียงที่มองไม่เห็น เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ประชานิยมหมักหมมปัญหา ปิดหูปิดตาประชาชน



... ก่อนหนังจะเข้าจริง ผมรู้สึกว่า หนังตัวอย่างที่ได้ดู ไม่น่าดูเอาเสียเลย มุกก็ไม่ค่อยเด็ด เนื้อหาก็เบาๆสมกับที่ดัดแปลงมาจากนิยายภาพสำหรับเด็กๆ เห็นภาพ ช้างน้อยในป่าใหญ่ อดคิดไม่ได้ว่าแก่ๆอย่างเราจะดูสนุกตรงไหน ยิ่งบวกกับ ประสบการณ์ที่เคยผิดหวังเวลาดูหนังที่สร้างจากนิทานของ Dr. Seuss เรื่อง How the Grinch Stole Christmas ซึ่งตอนนั้นมาพร้อมเสียงชื่นชมแต่ตัวเองดูแล้วกลับไม่อินแม้แต่น้อย ไม่รู้ว่า วัฒนธรรมและการมีประสบการณ์ร่วมกับนิทานมาก่อนจะมีส่วนในการทำให้ดูหนังต่างไปหรือไม่


Horton Hears a Who! ผลงานล่าสุดจากค่าย Blue Sky สร้างจากนิทานภาพของ Dr. Seuss เหมือนๆกัน มี จิม แครรี่ย์ ในหนังเหมือนๆกัน เพียงเท่านี้ผมก็หวั่นๆแล้วว่า หนังอาจจะไม่ถูกจริตตัวเอง แต่เห็นใครๆก็ชื่นชมทั้งจากฝั่งเมืองนอกและคนดูเมืองไทย ผมเลยตัดสินใจเสี่ยงไปกับ Dr. Seuss อีกครั้ง

แล้วผมก็พบว่า ข้อด้อยร้ายแรงที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็มีเพียงแค่ หนังตัวอย่าง เท่านั้นเอง ส่วนตัวหนังเป็นแอนิเมชั่นที่ผมอยากปรบมือให้ดังๆ ข้อดีมากมายที่ทำให้ผมชื่นชมแอนิเมชั่นเรื่องนี้อย่างออกหน้าออกตา มาจาก


1.มุกตลก ฉลาด เฉียบ เวิร์ค หนึ่งในมุกเด็ดผมชอบมากๆคือ ตอนที่ ฮอร์ตั้นจินตนาการออกมาเป็นลายเส้นการ์ตูนที่ดูคล้ายจะล้ออนิเมะญี่ปุ่น มันดูน่ารักแบบบ้าๆดี


2. จากเคยหายใจรดต้นคอ Pixar และ มีคู่แข่งหลายรายวิ่งนำหน้าไปก่อน ตอนนี้ดูเหมือนว่า ค่าย Blue Sky ที่ย่องมาเงียบๆ ค่อยๆแซงคู่แข่งที่ออกตัวล่วงหน้า มายืนเคียงข้าง Pixar ได้แบบไม่น้อยหน้าแล้ว สำหรับงานด้านภาพของแอนิเมชั่น 3D ที่เห็นแล้วต้องร้องอู้หูเก็บรายละเอียดทั้งแสงเงาทั้งสีสันออกมาได้สวยเนียนตาสุดๆ




3. กระรอกน้อย จาก Ice age กลายเป็นตัวขายหลักๆของ Blue sky และ เป็นนิมิตหมายอันดีที่ทำให้เห็นว่า ค่ายนี้มีศักยภาพที่จะสร้างคาแรคเตอร์ตัวละครที่ชนะใจคนดู ไม่ใช่สักแค่วาดออกมาสวยเท่านั้น

เพราะ การเติมความมีชีวิตจิตใจให้กับตัวละครส่งมาสู่คนดู เป็น งานใหญ่ ที่หลายค่ายคู่แข่งยังทำไม่ได้ หลายค่ายรังสรรค์ภาพงามงดแต่ก็ต้องตามหลัง Pixar เพราะคาแรคเตอร์เหล่านั้นไม่แข็งแรงไม่มีเสน่ห์มากพอ

วันนี้ Dr. Seuss' Horton Hears a Who! มาพร้อมตัวละครหลักๆอย่าง ช้างน้อยที่ยึดมั่นในคำสัญญา และ ตัวขโมยซีน ลูกศิษย์ฟันแหลม สองตัวละครนี้ติดตาน่าประทับใจ เสียดายที่ตัวละครหลักอีกตัวอย่าง ท่านนายกเทศมนตรีแห่งเมืองฮูวิลล์ยังดูธรรมดาไปนิด




4. ท้องเรื่องเกิดในป่าก็ดูเหมือนว่าจะเพลนๆไม่มีอะไร แต่หนังเรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่นใน การออกแบบการเคลื่อนไหว กลไก ฉากแอคชั่น ฯลฯ ใช้ความเป็น แอนิเมชั่น สร้างภาพที่ หนังตัวนักแสดงจริง ยากจะสร้างได้ เช่น การบอมบ์ของเหล่าลิง , ฉากกลไกต่างๆที่อยู่ในเมืองฮูวิลล์ ฯลฯ


5. บทภาพยนตร์แสนคมคายแต่ดูง่าย จะดูเอาเพลินก็ขำสนุก เด็กๆดูก็เก็บข้อคิดในชั้นต้น เช่น การรักษาคำมั่นสัญญา , ความเท่าเทียมกันของคุณค่าในตัวคนไม่ว่าจะเล็กจะใหญ่แค่ไหน ฯลฯ จากเนื้อความที่ให้



...ช้างน้อยฮอร์ตั้น ค้นพบธุลีเล็กๆล่องลอยในป่านูล เขาได้ยินเสียงดังออกมาจากละอองธุลีนั้น ครั้นพยายามจ้องอย่างตั้งอกตั้งใจก็ไม่เห็นใคร ซึ่งนั่นก็เพราะ เสียงที่เขาได้ยินมาจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กจิ๋วที่อาศัยอยู่ในเมืองฮูวิลล์ เมืองที่คนภายนอกมองเห็นเป็นแค่ ผงธุลี

ดังนั้น เวลาฮอร์ตั้นเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง คนอื่นๆก็จะมองฮอว์ตั้นแปลกๆเพราะไม่มีใครมองเห็นหรือได้ยิน

ฮอว์ตั้นรับปากนายกเทศมนตรีประจำเมืองฮูวิลล์ บุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่เขาพูดคุยด้วย แม้จะมองไม่เห็นหน้าก็ตาม ว่าจะหาแหล่งพักพิงที่ปลอดภัยให้กับชาวเมืองฮูวิลล์ แต่อุปสรรคที่เกิดคือ เมื่อ จิงโจ้สาวผู้เปรียบเสมือนผู้ปกครองป่านูล รู้แผนการนี้ ก็พยายามที่จะให้ ฮอว์ตั้น หยุดการกระทำเหล่านั้นเสีย เพราะเหมือนไปวาดความเชื่อใหม่ๆให้กับคนอื่นในป่า

เธอกระโดดไปมาพร้อมลูกในกระเป๋าหน้าที่เธอไม่ยอมให้ออกมาใช้ชีวิตอิสระ เธอคอยที่จะขัดขวางฮอร์ตั้นในทุกวิถีทาง เช่นเดียวกับ นายกฯประจำเมืองฮูวิลล์ที่ถูกสภาที่ปรึกษาขัดขวางแผนการเตือนภัยให้ประชาชนรับรู้


....เนื้อความข้างต้น หากดูเอาคิดลึกๆ แบบผู้ใหญ่ก็มีอะไรให้คิด มากไปกว่า นิทานหลอกเด็ก โดยเฉพาะ การเปรียบเทียบ การปกครองของสองอาณาจักร

I ป่านูลของฮอร์ตั้น กับ นโยบาย เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ปิดหูปิดตาประชาชน



...เพียงแค่ท่านผู้นำจิงโจ้สาวประกาศกร้าวว่า เสียงเล็กๆคนเล็กๆไม่มีความหมาย ตราบใดที่เธอมองไม่เห็นหรือไม่ได้ยิน ก็แปลว่า เสียงเหล่านั้นไม่มีตัวตน

เพียงเท่านี้ก็ทำให้เราได้เห็นภาพคร่าวๆว่า ท่านผู้นำมิได้สนใจใส่ใจคนเบื้องล่าง ท่านสนใจแต่คนที่ท่านมองเห็นและเชื่อฟัง ท่านผู้นำดูแลประชาชนเสมือน ลูกน้อยในกระเป๋าหน้า ปากพร่ำบอกว่าให้อยู่แต่ในกระเป๋าเพื่อความปลอดภัย แท้จริง ไม่ต้องการให้มีใครคิดแตกต่าง คอยปิดหูปิดตาประชาชน เพราะกลัวว่า ตัวเองจะสูญเสียอำนาจในการปกครอง

ด้วยเหตุนี้ เมื่อ ฮอร์ตั้น เอ่ยถึง เสียงที่มองไม่เห็น จากธุลีที่ลอยอยู่ เธอจึงเริ่มหวั่นใจว่า ความคิดแปลกใหม่เช่นนี้จะสั่นคลอนการปกครองและทำให้ประชาชนคนอื่นๆเริ่มคิดเป็น เริ่มคิดต่อต้าน เธอจึงหาทางยับยั้งการเดินทางของฮอร์ตั้นและทำลายธุลีนั้น

จากไล่ล่าหวังเอาตาย แต่สุดท้าย เธอถึงกับยอมปล่อย ฮอร์ตั้นกับธุลี ไป เพียงแค่ขอให้ ฮอร์ตั้น เอ่ยปากต่อหน้าประชาชนคนอื่นๆว่า เสียงที่ได้ยินนั้นไม่มีอยู่จริง ซึ่งยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า เธอไม่ได้แคร์ว่า เสียงมีจริงหรือไม่มีจริง เธอแคร์แค่ว่า เธอจะยังคงอำนาจการปกครองต่อไปได้อีกหรือเปล่าเท่านั้นเอง


II เมืองฮูวิลล์ – นโยบายประชานิยมหมักหมมปัญหา ขายฝันเพื่อปกป้องตำแหน่งตัวเอง




...ฮูวิลล์ ขึ้นชื่อมานานในฐานะ ดินแดนแห่งความสุข ประชาชนใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานในแต่ละวัน โดยไม่รู้แม้แต่น้อยว่าโลกของตัวเองเป็นเพียงธุลีเล็กๆที่ไร้ความมั่นคง เพราะล่องลอยไปมาในโลกใบใหญ่พร้อมโดนทำลายง่ายเพียงแค่โดนใครก็ตามเหยียบหรือบดขยี้ด้วยปลายนิ้ว

หลังจาก ท่านนายกฯ รู้ว่าแผ่นดินของตัวเองนั้นมีโอกาสล่มสลาย แรกๆเขาไม่มั่นใจที่จะป่าวประกาศความเชื่อนี้ออกไป เพราะ เสียงที่มองไม่เห็น จากช้างฮอร์ตั้น ที่เขาได้ยินนั้นไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นด้วยตา หากพูดพล่อยๆไปคนอาจมองเขาว่า ติงต๊องหรือไม่น่าเชื่อถือ แต่เมื่อ ถึงภาวะวิกฤติคับขัน เขาจึงตัดสินใจเผยความจริง เพื่อประชาชนจะได้ไม่หลงระเริงกับความสุขทั้งที่มีภัยคุกคามหรือปัญหาซุกซ่อนอยู่ข้างใต้

ท่านนายกฯ เลือกที่จะเห็นแก่ ความปลอดภัยของประชาชน มากกว่า การรักษาภาพพจน์และความน่าเชื่อถือของตัวเอง แต่ สมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติกลับไม่เห็นด้วยที่จะทำให้ประชาชนต้องหวาดกลัว

สภาฯต้องการผลักดันงานรื่นเริงให้เดินหน้าต่อไป และ กลบความไม่มั่นคง กลบความจริงที่โหดร้าย กลบปัญหาที่สะสมซุกซ่อนนั้นไว้ไม่ให้ประชาชนรับรู้ ด้วย นโยบายสุขนิยมเน้นความนิยมของประชาชน เพราะนโยบายนี้จะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย และ ตัวเองก็ยังครองใจประชาชนต่อไปได้

ซึ่งจะว่าไป ก็ไม่ต่างอะไรจากการปิดหูปิดตาประชาชน ของท่านผู้นำจิงโจ้จากป่านูล



...ฮอร์ตั้นตัวใหญ่เกินกว่าสายตาของประชาชนเมืองฮูจะมองเห็น เช่นเดียวกับ ประชาชนเมืองฮูก็ตัวเล็กเกินกว่าที่ผองเพื่อนของฮอร์ตั้นจะมองเห็น ทั้งสองฝ่ายจึงเปรียบเป็น เสียงที่มองไม่เห็น ของกันและกัน ที่คอยพึ่งพาอาศัย คนหนึ่งยึดหลัก คำมั่นสัญญาและมิตรภาพจริงใจ อีกคนใช้ ความเชื่อมั่นในตัวเองและผองเพื่อน ควบคู่ ความเสียสละเพื่อประชาชน

แต่อนิจจา ท่านผู้นำจิงโจ้ กับ สมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติ ถือหลัก มองไม่เห็นแปลว่าไม่มี เพราะ ผู้นำของสองดินแดน ไม่ได้คิดถึงประโยชน์แท้จริงของประชาชน คอยแต่จะปิดหูปิดตาประชาชน คนหนึ่งอาศัยการควบคุมบังคับ อีกคนเลือกใช้นโยบายประชานิยมเข้าหว่าน

สุดท้ายแล้ว หากประชาชนไม่ลุกขึ้นต่อสู้ ไม่ยืนหยัดต่อความถูกต้อง เช่น ฮอร์ตั้น หรือ หากคนดีๆไม่คิดทำอะไรเพื่อสังคมยอมแลกกับความเสี่ยงต่อการสูญเสียอำนาจ เช่น นายกฯประจำเมืองฮูวิลล์ ก็เท่ากับว่า เรากำลังมอบโอกาสที่ชาติบ้านเมืองจะพินาศ ไว้ในมือเหล่าผู้นำที่มัวแต่หวงแหนอำนาจเกินกว่า จะจริงใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชน



สรุป ... Highly recommended - เชียร์ให้ไปดู แอนิเมชั่นชั้นดีที่มองผิวเผินดูว่ามัน เด๊กเด็ก แต่แท้จริง มีทั้งความเป็นเด็กและความเป็นผู้ใหญ่ผสมกลมกลืนสุดแต่ว่าจะมองหนังในชั้นไหน เพราะรอบที่ผมดู เด็กฝรั่งแถวหน้าดูสนุกปรบมือเป็นระยะๆแถมพอหนังจบก็ลุกขึ้นเต้นตามเพลงในช่วง end credit เช่นเดียวกับ ผู้ใหญ่ที่กำลังนั่งพิมพ์บทความนี้ก็ดูไปยิ้มไปหัวเราะไป แถมได้อะไรเก็บมาคิดต่อยอดอย่างเพลิดเพลิน

ปีก่อน ตอนดู Ratatouille ยังทึ่งกับบทหนังที่สุขุมนุ่มลึกแต่รู้สึกเหมือนขาดความซาบซ่าแบบเด็กๆไปหน่อย พอมาดู Surf’s Up ก็ได้ความเป็นเด็กในตัวกลับคืนมาแต่ตัวละครนั้นยังไม่น่าประทับใจแบบสุดๆ พอมาดูเรื่องนี้เหมือนเป็นความลงตัวพอดีๆระหว่าง ความเป็นผู้ใหญ่ กับ ความเป็นเด็ก และ บทที่ลึกซึ้งคมคาย กับ ความบันเทิงที่เรียบง่ายและอารมณ์ดี



Link บทความที่อ้างอิงถึงใน blog

Ratatouille < < บนทางเดินของความฝัน - ในสังคมแห่งอคติ >> Hairspray


เชิญชวนเชียร์ให้ไปดู Surf’s Up : แอนิเมชั่นแสนสนุกสุดน่ารักของปี

Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง


สามารถติดตามบทสรุป การให้คะแนน และบทวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มเติม หรือบทวิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ พร้อมความเห็นของเพื่อนร่วมบล็อคที่รักการดูหนัง ได้ที่ //vreview.yarisme.com พร้อมลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท จำนวน 8 ใบ ทุกเดือน









ขอฝาก พ็อกเก็ตบุ้คสองเล่มที่ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนังเพราะ "หนังสือรัก" เป็นการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม ส่วน องศาที่ 361 หนังสือเล่มล่าสุดที่จะช่วยให้คุณค้นหามุมเล็กๆในตัวเองที่จะมีความสุขในชีวิตได้มากขึ้น โดยไม่ต้องมองหาจากผู้อื่น


เพื่อนๆที่หาซื้อตามร้านไม่ได้ "หนังสือรัก"เข้าไปสั่งได้จากเว็บของสนพ.เลยจ้าที่ //www.bynatureonline.com/store/bookstore.php ส่วน องศาที่ 361 สั่งได้จากเว็บของซีเอ็ดครับผม




ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 21 เมษายน 2551
13 comments
Last Update : 22 เมษายน 2551 10:29:17 น.
Counter : 4432 Pageviews.

 

หุๆต้องไปดูมั่งแล้ว

 

โดย: mr robot IP: 61.90.250.13 21 เมษายน 2551 13:03:35 น.  

 

สวัสดีค่า

 

โดย: yosita_yoyo 21 เมษายน 2551 13:24:57 น.  

 

ไปดูมาแล้วค่ะ วันนี้เอง ชอบมาก
ทั้งงานภาพ เรื่อง ตัวละคร วิธีการเล่า มีเสน่ห์มากๆ
ยิ่งตอนใกล้จบเรื่อยๆนี่ ทั้งซึ้งทั้งตระการตาจริงๆ
^ ^

 

โดย: Galwithred IP: 124.121.38.230 21 เมษายน 2551 20:07:24 น.  

 

..

นี่ถ้าดูแค่หนังตัวอย่าง (ซึ่งผมเห็นแต่แบบพากย์ไทยด้วย) ... คงไม่คิดไปดูแน่ๆครับ - -"

ยังดีว่าเห็นวิจารณ์จากเมืองนอกแว่บๆว่ามีดี ก็เลยแวะไปดูซักหน่อย ... ก็สนุก ไม่ผิดหวัง ภาพสวยมาก เนื้อหาผ่าน ^^

แต่ถ้าจะหาข้อด้อย ... ผมมองว่า คาเเรคเตอร์ของตัวละครในเรื่อง มันไม่ค่อยมีตัวไหน น่ารักโดนๆมากๆ แบบของพิกซาร์ เท่านั้นแหละ

..

 

โดย: POGGHI IP: 125.24.223.184 21 เมษายน 2551 21:20:39 น.  

 

สุดยอดครับ ข้อคิดลึกซึ้ง เเถมมุขตลกฮาเเบบสร้างสรรค์มากๆ

 

โดย: เล้ง IP: 58.9.170.57 21 เมษายน 2551 23:36:57 น.  

 

หนังเด็กๆจริงๆหละครับ แต่แฝงแง่คิดที่ผู้ใหญ่เองก็ต้องสนใจ
ดูแล้วทึ่งกับงานด้านภาพครับ ไม่อยากเชื่อว่าจะเนียนขนาดนี้ ยิ่งได้มีโอกาสไปดูโรง digital ด้วย...

เห็นด้วยเรื่อง character ครับ เดี๋ยวนี้ Blue Sky ก็ผลิตตัวละครที่เป็นที่น่าจดจำได้ดีจริงๆ

 

โดย: *omega* IP: 58.64.113.47 21 เมษายน 2551 23:58:45 น.  

 

น่าดูจังเลย

วันนี้ไปดูดีกว่า

 

โดย: alizm IP: 118.172.55.162 22 เมษายน 2551 9:12:03 น.  

 

แบบว่ามองข้ามไปเลยนะครับ กับหนังเรื่องนี้ ต้องขอบคุณมากๆ ที่มาแนะนำครับ รับรอง ไม่พลาดเด็ดขาด

 

โดย: เข็มขัดสั้น IP: 202.183.190.14 22 เมษายน 2551 13:48:09 น.  

 

+ ชอบอ่ะครับ ... น่ารัก ฉลาด แต่ก็แฝงประเด็นทางสังคมหนักๆ อย่างเรื่องการเมืองและสังคม ตามที่คุณ จขบ. ว่าไว้
+ คาแรคเตอร์ แม่จิงโจ้ บ้าอำนาจ ทำให้ผมคุ้นๆ ย้อนกลับไปนึกถึง มิสซิสคาร์โมดี้ (ผู้คลั่งศาสนา) ในเรื่อง The Mist เลยอ่ะครับ เหอๆๆ

 

โดย: บลูยอชท์ 23 เมษายน 2551 20:43:51 น.  

 

อ่านแล้วยิ่งทำให้อยากดูค่ะ
ถึงแม้โดยส่วนตัวจะไม่ชอบหนังแนวการ์ตูนหรืออนิเมชั่นเลยก็ตาม

 

โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 58.9.10.67 27 เมษายน 2551 19:26:28 น.  

 

คิดเลยเถิดไปสองประเด็น

1 ในมุมของ Sci-fi // โลกเล็กๆ ในโลกใบใหญ่ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ จักรวาลกว้างใหญ่ของเรา อาจจะเป็นเพียงของเล่นเด็ก เหมือนในหนัง Child Play ภาค 1 ก็ได้

2 คำสอนของพระพุทธเจ้า ในพระสูตร ที่สอนว่า แม้เพียงเราเทน้ำซาวข้าวลงในดิน มีเศษข้าวไหลติดลงไปบ้าง เพียงหวังให้ สัตว์เล็กๆในดิน ได้กินเป็นอาหาร เพียงเท่านี้ก็เป็นกุศลมากยิ่งนักแล้ว

 

โดย: Lost Boy IP: 124.122.203.148 28 เมษายน 2551 23:46:57 น.  

 

ผมก็ดูอยู่กะลูก แต่ไม่ค่อยได้สนใจ เลยหาเจ้ากระรอกไม่เจออ่ะครับ มันอยู่ตรงไหนครับ ?

 

โดย: wichmata IP: 118.175.72.64 14 พฤษภาคม 2551 15:43:39 น.  

 

ที่ฮาคืออะไรรู้ป่ะคะ

ตอนเราไปดู

เด็กสนุกบอกมาก แต่ผู้ใหญ่ บ่นว่าห่วย..

เราดูอย่างไง ก็การเมืองชัดๆ แต่ก็ยังสนุกอยู่ดี

เรื่องความเห็น นายก เราเป็นไปในทางตรงกันข้าม

เป็นตัวละครที่โดดเด่นมากๆ ดูจบหลับตา ยังรู้สึกมองเห็นเขาเคลื่อนไหว อยู่เลยค่ะ

ชอบตอนที่เขาให้เวลาลูกๆ เท่ากันนี่ล่ะคะ น่ารักมากๆ

 

โดย: หวานโหด IP: 58.8.120.82 21 พฤษภาคม 2551 11:49:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
21 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.