วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
... ผมเปียกมะล่อกมะแล่กและอลวนพอสมควรกว่าจะฝ่าฝนไปถึง SF MBK เพื่อเข้าชมวัยอลวนภาค 4 รอบ 18.10 น. ทั้งที่ตัวเองก็ไม่เคยดูภาคก่อนหน้านี้มาก่อน (เนื่องจากตอนนั้นยังเด็กอยู่ดูไม่ทันตอนภาคแรกๆฉาย) ความหวาดหวั่นกับการที่ไม่เคยดูมาก่อน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมลังเลว่าจะดูเรื่องนี้ดีหรือไม่ และหากหนังจะไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้ คงต้องไปมองที่ฝ่ายโปรโมทที่ทำให้หลายคนเข้าใจว่า หนังเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊กทำให้พลาดกลุ่มเป้าหมายพ่อแม่หรือวัยผู้ใหญ่ และหลายคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องราวภาคต่อที่ต้องดูภาคแรกๆก่อน ทำให้พลาดกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ที่คิดว่าคงดูไม่รู้เรื่อง ทั้งที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เหมาะกับสมาชิกทุกคนทุกช่วงวัยในครอบครัว เพราะมันเป็นหนังที่สื่อสถาบันครอบครัวอย่างชัดเจน
....ช่องว่างระหว่างวัย เป็นช่องว่างของตัวเลขที่ดูคับแคบแต่เป็นช่องว่างของความสัมพันธ์ที่ห่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างพ่อแม่กับลูกที่เข้าสู่วัยรุ่น เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่ความเป็นเด็กกำลังจะผัดเปลี่ยนไปเป็นผู้ใหญ่ มันเหมือนกับรอยต่อครึ่งๆกลางๆจะเด็กก็ไม่ใช่จะผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง
ในช่วงนี้เองที่ พ่อแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมพอลูกโตๆแล้วต้องมีพฤติกรรมแบบนี้ (ทำไมถึงติดเพื่อน , พูดอะไรไม่ค่อยฟัง ฯลฯ) ลูกๆไม่เข้าใจว่าตัวเองโตแล้วแต่ทำไมพ่อแม่ต้องทำกับเขาเหมือนเด็ก (คอยจ้ำจี้จำไช , คอยตามคอยถาม ฯลฯ) เมื่อมีช่องว่างเกิดขึ้นแล้ว หากต่างฝ่ายต่างดื้อดึงที่จะเอาชนะกัน มันยิ่งถ่างช่องว่างของกันและกันมากยิ่งขึ้น
... หลายครั้งที่ความรักความห่วงใยของพ่อแม่ไม่สามารถสื่อสารผ่านไปยังลูกได้ เพราะสารที่ลูกรับมันแปรเปลี่ยนด้วยคำพูดและอารมณ์ของพ่อแม่ กลายไปเป็นความจู้จี้จุกจิกคอยจับผิดจากพ่อแม่แทน จนหลายครอบครัวจบลงที่ความแตกสลาย เช่น ลูกติดยา , หนีออกจากบ้าน , คิดว่าพ่อแม่ไม่รัก ฯลฯ
ตั้มกับโอ๋ ก็คือตัวแทนของวัยรุ่นในอดีตที่ต้องกลายมาเป็นผู้ใหญ่ในปัจจุบัน หนามเตยคือตัวแทนเด็กที่กำลังจะผลัดใบกลายเป็นวัยรุ่น และ ใบตองคือวัยรุ่นที่กำลังจะผลัดใบเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ตัวละครในเรื่องเป็นเหมือนตัวแทนของคนในแต่ละช่วงวัย
... Erik Erikson สร้างทฤษฎีพัฒนาการของจิตใจ โดยเชื่อว่าจิตใจของมนุษย์มีพัฒนาการอยู่ต่อเนื่อง ในแต่ละช่วงวัยจะมีภาวะวิกฤติที่ทุกคนต้องเจอ หากสามารถรับมือกับวิกฤติได้อย่างเหมาะสม ก็จะเป็นพื้นฐานในการเข้าสู่ช่วงวัยถัดไป
วัยที่ก้าวเข้าสู่วัยรุ่น เช่น หนามเตย เป็นระยะที่มีการเปลี่ยนแปลงของทั้งร่างกาย จิตใจและสังคม วิกฤติในช่วงนี้ก็เป็นเรื่องของการหาอัตลักษณ์ (Identity) ของตัวเอง ในเรื่องเห็นได้จากการที่ตัวละครมองหาต้นแบบจากนักร้องญี่ปุ่น , การแต่งหน้ากันคิ้ว ฯลฯ หากล้มเหลวในขั้นตอนนี้ก็จะความสับสนในบทบาทตัวเอง (Identity confusion) และอาจตามมาด้วยพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศหรือก้าวร้าวต่อต้านสังคม
วัยรุ่นตอนปลายหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น เช่น ใบตอง เป็นระยะที่เริ่มจะมองหาความสัมพันธ์ที่ผูกพันธ์(Intimacy) การแยกออกมาเป็นตัวของตัวเองและการที่จะเริ่มสร้างครอบครัวของตัวเอง หากเกิดปัญหาของการพัฒนาวัยนี้ก็จะเกิดการแยกตัวจากสังคม (Isolation) และไม่สามารถยอมรับความแตกต่างได้
วัยผู้ใหญ่ตอนปลาย เช่น ตั้มกับโอ๋ เป็นระยะที่เริ่มต้องการทำประโยชน์ให้กับคนรุ่นหลัง เป็นต้นแบบที่ถ่ายทอดชีวิตและเรื่องราวให้กับคนรุ่นถัดๆมา(Generativity) หากไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเหมาะสมก็จะเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า (Stagnation) และเป็นคนที่ทำอะไรตามแต่ใจตัวเอง
....การเดินทางของตั้มกับโอ๋เพื่อไปเยี่ยมลูกสาวซึ่งเรียนต่อที่เชียงใหม่ ก่อนจะพบกับเหตุการณ์ที่มีผลสั่นคลอนสถาบันครอบครัวอย่างใหญ่หลวง เป็นการเดินทางสำรวจปัญหาของสังคม ไปพร้อมกับสำรวจรอยแยกในครอบครัวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปค่านิยมจะเปลี่ยนไปเพียงใด แต่สิ่งที่เป็นปัญหาหรือประเด็นก็ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นแค่รูปแบบที่เปลี่ยนไป เช่น จากการหนีตามกันในยุคของตั้มและโอ๋ ก็เปลี่ยนมาเป็นการกินอยู่ก่อนแต่งในยุคปัจจุบัน ฯลฯ ถึงแม้ว่าคนเป็นพ่อแม่จะเคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน แต่การที่วัฒนธรรมหรือค่านิยมที่ผัดเปลี่ยนกันเร็วไม่เว้นแต่ละวัน คนในโลกของวันวานอย่างตั้มและโอ๋อาจพบว่า ปัญหาที่ใหญ่โตในอดีตกลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาในโลกปัจจุบัน(ความสัมพันธ์ทางเพศของเด็กหนุ่มสาว ฯลฯ) และเรื่องธรรมดาของวัยรุ่นปัจจุบัน (เช่นการกันคิ้วของเด็กผู้ชายตามแฟชั่นฯลฯ) มันเป็นเรื่องที่หนักหนามากยากเกินจะรับได้สำหรับคนในยุคก่อนอย่างพวกเขา
...หนังหยิบประเด็นทางสังคมที่แรงและสะเทือนความรู้สึกของคนเป็นพ่อแม่อย่างหนัก ผ่านตัวละครใบตองในแง่ประเด็นความสัมพันธ์ของหนุ่มสาว (หนังเปลี่ยนขนบหนังไทยวัยรุ่นหรือหนังครอบครัว ที่นางเอกมักจะเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฉากที่กล้องจับไปที่ถุงยางอนามัยจัดได้ว่าแรงแต่ก็จริงและตรงมากอย่างน่าชมเชย) และ ประเด็นเพศที่สามผ่านตัวละครหนามเตย
ทั้งสองประเด็นนี้ เป็นประเด็นอันดับต้นๆที่มักคุกคามพ่อแม่ให้หวาดหวั่นว่า ลูกของตัวเองจะถูกลดทอนคุณค่าลง (ความเป็นหญิงของลูกสาวกับการมีเพศสัมพันธ์และความเป็นชายของลูกชายกับการเปลี่ยนเพศ)
สำหรับคนเป็นพ่อแม่
ตั้มและโอ๋ เป็นภาพต้นแบบ (Role model) ของพ่อ+แม่ที่ดีในการรับมือกับลูก ในสังคมนอกจอภาพยนตร์พ่อแม่หลายคนต้องสูญเสียลูกตัวเองไปทั้งที่รักและอยากให้สิ่งดีๆกับลูกเพราะ
- พ่อแม่บางคนเจอเหตุการณ์อย่างใบตองแล้ว ด่าลูกอย่างสาดเสียเทเสีย ขับไล่ไสส่ง ตีตราบาปให้กับเธอ
- พ่อแม่หากรู้ความจริงของหนามเตย แล้วพบว่าเป็นอย่างที่คิด ยอมรับไม่ได้ รังเกียจเดียดฉันท์
เด็กอย่างใบตองมากมายที่ต้องหนีออกจากอ้อมอกของพ่อแม่ไกลออกไปอีก , เด็กอย่างหนามเตยหลายคนต้องใช้ชีวิตเลวแหลก เพราะแม้แต่ครอบครัวยังไม่ยอมรับตัวเขาอย่างที่เขาเป็น
สำหรับคนเป็นลูก
- ลูกหลายคนไม่เคยรู้ว่าการกระทำของตัวเองนั้นมีผลกับพ่อแม่มากน้อยแค่ไหน ความเสียใจที่เกิดขึ้นเมื่อพ่อแม่รู้ว่าลูกทำผิดหรือทำให้ผิดหวังมันมากมายเพียงใด ใบตองอาจไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของเธอรู้เรื่องนี้แล้วรู้สึกอย่างไร แต่ความรักของพ่อมันมากเกินกว่าจะทำร้ายลูกด้วยการแสดงออกถึงความผิดหวังของพ่อเอง
- ลูกหลายคนโกรธหงุดหงิด รำคาญที่พ่อแม่ยังปฏิบัติเหมือนกับเรายังเด็ก โดยหารู้ไม่ว่าพ่อแม่เองก็หนักใจเพราะไม่รู้ว่าจะแสดงออกความรักกับลูกอย่างไร
พ่อแม่ยังคงมองเห็นเด็กตัวเล็กๆเหมือนที่ ตั้มมองใบตองว่าเป็นเด็กที่เคยผูกกำไลให้ , ผูกเชือกรองเท้าให้ , คอยสอนขับรถ , หรือให้คำแนะนำ แต่แล้วเมื่อโตขึ้นแม้แต่แม่จะให้ผ้าพันคอแม่เองก็คงยังไม่รู้เลยว่าจะถูกใจหรือลูกต้องการอยู่หรือไม่
- ลูกหลายคนได้กินขนมหรืออาหารที่พ่อแม่ทำไว้ให้ตอนที่ทำเสร็จแล้ว โดยหารู้ไม่ว่ากว่าที่มันจะมาเป็นอาหารเป็นขนมที่ได้กินนั้นพ่อแม่ใช้ความรักปรุงมันมาด้วยความตั้งใจมากแค่ไหน
การทำอาหารของโอ๋และการเดินทางของตั้ม เป็นฉากที่ดูไม่มีอะไรแต่เมื่อได้ดูหนังจบแล้วคิดย้อนกลับมามันถ่ายทอดเรื่องราวและขยายภาพของความรักได้ชัดเจน
... หนังเป็นทั้งบทเรียนคำสอนให้พ่อแม่ได้รู้จักในการเข้าหาลูก และเป็นเหมือนคำสอนที่พ่อแม่อยากจะบอกกับลูกๆตัวเอง โดยทำออกมาได้ไม่ใช่การยัดเยียดคำพูดผ่านปากตัวละคร หนังสื่อตรงนี้ได้อย่างกลมกลืนไม่ขัดตา หลายฉากหลายตอนที่แสดงให้เห็นว่าผู้กำกับและคนเขียนบทเข้าใจในชีวิตและครอบครัวเป็นอย่างดี หนังไม่ได้ชี้ถูกผิดในประเด็นที่ร้อนแรงในสังคม ตัวอย่างที่ดีคือฉากที่พ่อแม่ออกจากห้องไปหลังจากมาเยี่ยมแล้วตัดกลับมาที่น้ำตาของใบตอง ฉากนี้เป็นฉากที่ดีเพราะมันไม่ทำให้คนดูรู้สึกเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำนั้น (คงกลับกันหากหนังจะเลือกเล่นตลกโดยให้ใบเตยทำท่าดีใจที่พ่อแม่ไม่รู้) เป็นฉากที่ยังทำให้เราเข้าใจตัวละครใบเตยมากขึ้นว่า เธอเองก็ใช่ว่าจะรู้สึกดีกับการกระทำของตัวเอง
... หนังมีร่องรอยของความไม่ต่อเนื่องอยู่หลายตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสลับ 2 เหตุการณ์ไปมาที่หนังใช่ค่อนข้างบ่อยโดยไม่จำเป็น และมันทำให้ความรู้สึกคนดูไม่ต่อเนื่อง (เช่นในตอนต้นที่ตั้มกับโอ๋กำลังจะไปเยี่ยมลูก)
หลายตอนที่หนังพลาดโอกาสในการที่จะเล่นกับอารมณ์คนดูให้ถึงที่สุด ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอยากให้หนังจงใจเร้าอารมณ์แต่หมายถึงการพาคนดูไปไม่ให้ถึงที่สุด (หากจะเทียบก็เหมือนหนังเป็นไกด์พาคนดูขึ้นดอยสุเทพ หนังพาคนดูขึ้นแล้วลงในบางช่วงแทนที่จะประคับประคองขึ้นไปทีเดียว ครั้นพอถึงจุดสำคัญนั่นควรจะเป็นยอดดอยแต่หนังกลับพาคนดูไปได้แค่เกือบถึงยอดดอยสุเทพ) ปัจจัยที่หลายฉากไม่สามารถพาอารมณ์คนดูไปให้ถึงที่สุด มาจากการเล่าเรื่องที่ว่าไว้และการขาดการปูอารมณ์คนดูก่อนที่จะถึงจุดสูงสุด ทำให้หลายฉากที่น่าจะโดนใจคนดูอย่างแรงทำได้แค่โดนใจเท่านั้นเอง (ฉากบนละครเวทีที่ใบตองเกิดเรื่อง น่าจะได้ใจคนดูมากกว่านั้น) ในส่วนของนักแสดงทุกคนดูกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา ยกเว้นบทวิชาญพระเอกรุ่นเยาว์ในเรื่องที่แบนและอ่อนยวบ ตรงข้ามกับคนอื่นๆที่สนุกกับบทตัวเองกันเต็มที่ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็ก การถ่ายภาพและแสงทำออกมาได้ละเมียดละไมในหลายๆฉาก
... แม้ว่าหนังจะมีข้อพร่องอยู่และผู้กำกับก็ดูเหมือนยังไม่แม่นยำภาษาหนังมากเพียงพอ แต่มันตรงข้ามกับเรื่องของชีวิตที่ผู้กำกับเข้าใจมันเป็นอย่างดี การจะถ่ายทอดเรื่องราวอะไรสักอย่างหากไม่มีประสบการณ์ตรงหรือทำการบ้านมาไม่ดีพอ มันก็ยากที่จะเข้าถึงจิตวิญญาณของเรื่องราว เช่น หนังเรื่องนี้หากให้ผู้กำกับที่ทำหนังเก่งมากแต่ไม่เข้าใจชีวิตผลลัพธ์คือหนังอาจจะสนุกมากขึ้น ประทับใจมากขึ้น แต่ไม่สามารถสื่อความรู้สึกของครอบครัวออกมาได้ดีเท่าเรื่องนี้
หากคะแนนของหนังวัดกันที่คุณค่าและสารที่หนังส่งมอบให้กับผู้ชม หนังเรื่องนี้ผมเองให้คะแนนความเป็นหนังครอบครัวที่ดี 10 คะแนนเต็ม หลายตอนของหนังสื่อความรู้สึกของหัวอกคนเป็นพ่อแม่ได้ชัดเจน เป็นความรู้สึกที่เป็นความห่วงใยและสื่อสารด้วยวิธีที่ไม่ต่อต้านลูก บทภาพยนตร์เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ดีจนน่าได้รับคำชมเชย การมีไดอะล็อกที่ดีมีส่วนช่วยพาหนังให้มีทิศทางที่ชัดเจน แต่ปัญหาก็ยังอยู่ตรงจุดเดิมคือจังหวะที่ตัวละครพูดบางครั้งมันดูไม่เนียนนัก จุดอ่อนมากของบทคงเป็นเรื่องเดียวกับส่วนแรกคือการที่หนังไม่แม่นยำในการพาคนดูมีส่วนร่วม หลายตอนเหมือนฉากในละครทีวี เช่น การเต้นบนเวทีตอนท้ายเข้าใจว่าเป็นฉากภาคบังคับ แต่หนังน่าจะมีวิธีการนำเสนอที่ดีกว่าเป็นอยู่ เพราะมันทำให้เหมือนแค่ตอนหนึ่งในละครทีวีที่ทำให้พลังของหนังตกลงไปอย่างน่าเสียดาย
การกระทำของใบตองจะผิดหรือไม่? หากหนามเตยจะเบี่ยงเบนทางเพศมันผิดหรือไม่?
สังคมในแต่ละยุคสมัยก็ยังคงถกเถียงหาบทสรุปถูกผิดกันต่อไป หนังเรื่องนี้ไม่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวด้วยสายตาที่เป็นกลาง ไม่ได้วิพากษ์ประเด็นที่ร้อนแรงของสังคมแต่หนังมีความตั้งใจในตัวเองที่จะถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสายตาของการเป็นพ่อแม่คนที่มองลูกๆด้วยความรักและความเข้าใจ
สายตาที่มองผ่านตัวละครของผู้กำกับก็ใช่ว่าจะเห็นด้วยกับการกระทำของตัวละครในเรื่อง เห็นได้ว่าตัวละครในเรื่องที่เป็นลูกเองก็รู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป (จากน้ำตาของใบตอง) , คนเป็นพ่อเป็นแม่เองก็ใช่ว่าจะพอใจและเห็นชอบ(จากความผิดหวังเจ็บปวดของตั้ม) , เพื่อนของใบตองก็ไม่เห็นด้วยและตำหนิในการกระทำของเธอ
...อย่าลืมว่าพ่อแม่ไม่ใช่ผู้พิพากษาหรือสังคมที่มีหน้าที่ตัดสินถูกผิดและลงโทษเพียงอย่างเดียว การยอมรับและให้อภัยต่างหากที่ลูกต้องการ การยอมรับไม่ได้หมายถึงยอมรับการกระทำ แต่หมายถึงยอมรับตัวตนของเขา คนเราผิดพลาดกันได้ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นเลวทั้งชีวิตและมันคือสิ่งที่พ่อแม่ต่างจากคนอื่นๆ ดังที่ฉากหนึ่งตั้มสอนลูกว่า ชีวิตเหมือนกับการขับรถ เราต้องมั่นใจก่อนเลือกว่าจะขับไปทางไหน เมื่อมั่นใจก็ขับไปตามเส้นทางที่เราเลือก ใบตองเองถามพ่อกลับว่าแล้วหากหลงทางเราจะทำอย่างไร พ่อเธอตอบกลับอย่างนุ่มนวลว่า หากหลงทางก็แค่ขับยูเทิร์นกลับมาเริ่มใหม่เท่านั้นเอง หากลูกหลงทางชีวิตใครเล่าจะพากลับมาตั้งต้นใหม่ได้นอกจากพ่อแม่ของเราเอง ตรงข้ามหากแทนที่จะประคับประคองกลับมาแต่กลับไปเสือกไสไล่ส่ง ก็จะยิ่งทำให้ลูกๆเข้ารกเข้าพงมากขึ้น
...... สารที่ผู้กำกับเองอยากจะใบ้เป็นกลายๆในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านหนังเรื่องนี้ คงอยู่ที่ตอนท้ายว่าต้องการถ่ายทอดมันออกมาในฐานะคนเป็นพ่อแม่(จากข้อมูลผู้กำกับเป็นแม่ของลูกๆเช่นกัน) ที่ตัวละครในเรื่องที่เป็นแม่คนบอกคนในรถพร้อมกับคนดูว่า การเป็นผู้โดยสารบนรถมีความแตกต่างกันระหว่างคนขับกับคนนั่งเบาะหลัง สิ่งที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาคือจากฐานะคนขับรถคนหนึ่งที่อยากให้ผู้ชมได้เห็นชีวิตครอบครัว มันจึงทำให้เรื่องราวของหนังจบลงในด้วยความสวยงามเป็นภาพครอบครัวอุดมคติ (Ideal Family) ที่ใครๆก็อยากจะมีพ่อแม่อย่างตั้มกับโอ๋ แม้ว่าในชีวิตจริงแล้วบางคนโชคดีมีครอบครัวที่ดีและเข้าใจเหมือนครอบครัวนี้ ในขณะที่บางคนมีครอบครัวที่ไม่เข้าใจเป็นครอบครัวที่พร่องความรักความอบอุ่น
แต่เราเองไม่จำเป็นที่จะต้องเดินตามรอยนั้น อดีตคือสิ่งที่เราแก้ไขไม่ได้แต่เราเลือกได้หากวันหนึ่งเราเป็นพ่อแม่คนเราจะเลือกเป็นพ่อแม่แบบไหน และในวันนี้ที่เราเป็นลูกเราจะเป็นลูกอย่างไร
...ลูกทุกคนไม่ว่าจะโตไปมากเท่าไหร่ก็ยังคงต้องการ ความรัก ,การยอมรับและการให้อภัยจากพ่อแม่ เสียงในใจจากลูกทุกคนสื่อผ่านตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องว่า "ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่เมื่ออากาศหนาว คอมันก็เย็นทั้งนั้น" พ่อแม่เองก็คงอยากจะบอกลูกเหมือนที่โอ๋ตอบกลับตั้มไปเช่นกันว่า "ไม่ว่าลูกจะเป็นอะไร จะอย่างไรลูกก็ยังเป็นลูกของเราเสมอ"
สิ่งที่ชอบ
1.ฉากเปิดเรื่อง...น่ารักมากมาย เพลงก็ขำๆดี และสำคัญคือฉลาด เพราะได้ทั้งการเล่าเรื่องให้คนดูที่ไม่เคยดูวัยอลวนรุ่นพ่อแม่มาก่อนได้รับรู้คร่าวๆด้วยวิธีของคนยุคใหม่อย่างแยบยล
2.ใบตอง...ที่รับบทโดยคะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ แสดงได้โดดเด่นมาก จริงๆแค่ความสดใสของเธอซื้อใจคนดูได้มากแล้ว ยิ่งมาได้การแสดงที่เป็นธรรมชาติยิ่งทำให้บทใบตองเป็นบทที่ได้ใจคนดูไปเต็มๆ
3.ไดอะล็อค.... เห็นได้ชัดว่าไดอะล็อคในเรื่องผ่านการเกลามาเป็นอย่างดี จะเป็นในส่วนมุขตลกก็เน่าหรือที่เรียกกันว่ามุขควายก็ยังเป็นมุขที่ทำได้เข้าขั้น (ชอบมุขชาติหน้ามาก มีโอกาสจะขอไปใช้บ้าง) และในส่วนของคำสอน คำพูดที่พ่อแม่มีให้กับลูกก็ล้วนเป็นประโยคที่ฟังแล้วไม่รู้สึกว่าตะขิดตะขวงหรือขัดเขิน แต่เป็นคำพูดที่กลั่นออกมาจากใจรักของพ่อแม่จริงๆและรู้สึกดีๆไปกับคำพูดเหล่านั้น
4.คุณค่าของภาพยนตร์....หากไม่หยุมหยิมมากนักในแง่ความเป็นภาพยนตร์ที่กล่าวไว้ในตอนต้น หนังเรื่องนี้ให้ความรู้สึกเดียวกับตอนที่ผมได้ดูเรื่อง Hotel Rwandaคือหนังดีที่ให้มากกว่าความเป็นหนังดี เรื่องนั้นมันทำให้ดูแล้วรู้สึกเหมือนถูกปลุกต่อมมนุษยธรรมในใจทำให้คนดูอยากจะทำดี สำหรับวัยอลวน 4 มันทำให้ผมรู้สึกดีๆกับการมีครอบครัวมีพ่อแม่ที่รักและเข้าใจเราอยู่ตลอดเวลา
เชื่อว่าคนดูที่เป็นพ่อแม่ดูแล้วก็อยากที่จะเข้าใจลูกและมีวิธีเข้าหาลูกมากขึ้น ในขณะที่คนเป็นลูกดูแล้วก็จะเข้าใจพ่อแม่และไม่อยากทำให้ท่านต้องเสียใจ เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่สามารถบรรจุไว้ในหลักสูตรไม่ต่างจากหนังสือเรียนนอกเวลาสำหรับนักเรียนนักศึกษาให้ได้รับชม พร้อมกับมีคนแนะแนวทาง
5.ผู้กำกับ(ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์) คนเขียนบท และผู้มีส่วนร่วมในหนัง .... สำหรับการเป็นผู้กำกับหนังใหญ่ครั้งแรกเชื่อได้ว่าหลายคนคงต้องให้คะแนนความเป็นหนังแค่สอบผ่านถึงดียังไม่ถึงดีเยี่ยม แต่สำหรับการถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์และคุณค่าของสถาบันครอบครัวได้อย่างนุ่มนวลเข้าอกเข้าใจ คือ สิ่งที่ผู้มีส่วนร่วมไม่เฉพาะผู้กำกับทำออกมาได้ดีเยี่ยม และมันทำให้เป็นหนังที่เหมาะสำหรับครอบครัวคนไทยที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ได้ดูมาในรอบหลายๆปี
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.วิชาญ...คงไม่สามารถโทษตัวนักแสดงได้แต่หนังทอดทิ้งบทนี้เหลือเกิน เป็นบทที่ขาดสีสันขาดมิตินอกจากหน้าตาหล่อเหลาและมุขตลกที่ปล่อยออกมา มันทำให้วิชาญกลายเป็นบทที่เนือย ไม่น่าติดตามมากที่สุดท่ามกลางความกระฉับกระเฉงของหนังและตัวละครอื่นๆในเรื่อง
2.จังหวะของหนังและการเล่าเรื่อง...เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆดังที่กล่าวข้างต้น มันไม่ได้ทำให้หนังแย่หรือไม่ดี แต่ก็น่าเสียดายหากหนังจะแม่นยำในจังหวะการเล่าเรื่องมากขึ้น คุมอารมณ์ในแต่ละช่วงให้ไปอย่างสม่ำเสมอและพามันไปให้ถึงที่สุด หนังน่าจะสนุกและประทับใจมากกว่านี้
3.ฉากบัมพ์....การที่ตั้งใจจะเป็นฉากบังคับอยู่แล้วมันน่าจะเป็นไคลแมกซ์สำคัญและเป็นฉากที่สนุกได้มากกว่านี้ แต่ในหนังทำออกมาได้คล้ายกับรีวิวประกอบเพลงเเท่านั้นเอง
สรุป...ในแง่การเล่าเรื่องหรือความสนุก แฟนฉัน อาจเป็นหนังไทยที่สนุกเหมาะสมสำหรับคนดูทุกเพศทุกวัย เรื่องนี้ในแง่ความสนุกอาจไม่เทียบเท่าแต่มันเป็นหนังสำหรับครอบครัวคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผมได้ดูหนังมา เป็นหนังที่อยากให้คนเป็นพ่อแม่ได้ดู อยากให้คนเป็นลูกได้ดู ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในด้านรายได้หรือไม่แต่นี่เป็นหนังไทยที่ผู้กำกับและผู้ที่มีส่วนร่วมควรจะภาคภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้
ปล...ดูจบแล้วอยากไปเชียงใหม่อีกจัง
ปล2...สัปดาห์หน้า ผีดิบ,เจโชวและโจอัลเลน เลือกยากว่าจะตัดใครทิ้งดี
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 29 กรกฎาคม 2548 |
|
30 comments |
Last Update : 2 เมษายน 2549 0:45:13 น. |
Counter : 3223 Pageviews. |
|
|
|
|
|
| |
โดย: buaying846 IP: 129.215.16.39 29 กรกฎาคม 2548 15:46:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dirty Harry IP: 219.167.26.153 29 กรกฎาคม 2548 21:39:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: pungpin 29 กรกฎาคม 2548 21:55:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: 1993 IP: 61.91.134.65 29 กรกฎาคม 2548 23:11:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: tong IP: 202.28.181.9 30 กรกฎาคม 2548 13:57:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: Kamin IP: 58.10.134.193 31 กรกฎาคม 2548 14:12:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: 31 กรกฎาคม 2548 IP: 16:24:42 202.183.197.15 น. |
|
|
|
| |
โดย: rebel 31 กรกฎาคม 2548 20:38:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: tong IP: 202.28.181.9 1 สิงหาคม 2548 16:29:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: aodz IP: 58.136.70.4 2 สิงหาคม 2548 13:40:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต่อ IP: 61.7.146.212 7 สิงหาคม 2548 8:16:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: joblovenuk IP: 61.91.203.62 7 สิงหาคม 2548 22:45:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: Neomaster IP: 58.10.184.222 12 สิงหาคม 2548 17:43:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: pale memory IP: 61.90.14.67 15 สิงหาคม 2548 23:07:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: cottonmouth IP: 58.11.110.42 26 ธันวาคม 2548 18:41:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: the sovo IP: 124.86.161.187 2 มกราคม 2550 23:23:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: :->m'26 IP: 61.19.199.143 2 กุมภาพันธ์ 2550 16:44:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: เเกพะพัพั้พ IP: 58.9.199.205 2 พฤษภาคม 2550 11:23:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: whoohm IP: 58.8.87.207 15 ธันวาคม 2550 23:36:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: gibbon IP: 161.200.255.162 4 กรกฎาคม 2551 15:31:18 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
อาจไม่ถึงกับเป็นหนังดีสุดๆ แต่ผมชอบมากๆ ครับ