The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
ถึงมิตรรักผู้อ่านทุกท่าน ก่อนอ่านบทความนี้ ขอเชิญชวนมาร่วมกันที่นี่จ้า
ท่านเห็นด้วยหรือไม่ กับ 'การเซ็นเซอร์' ในหนังหรือในทีวี ปัจจุบัน (ทั้งกรณี 'เบลอ' และ 'แบน') //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5310223/A5310223.html
และก็มาช่วยระดมพลไปที่นี่ด้วยจ้า
//www.petitiononline.com/nocut/petition.html
...หนังตัวอย่างก็น่าดู พล็อตก็น่าสนใจ แถม ผู้กำกับโจเอล ชูมักเกอร์ เวลาทำหนังเล็กๆที่เน้นอารมณ์ดราม่าหรือระทึกขวัญกดดันคนดู เช่น Phone Booth และ Tigerland ส่วนใหญ่ผลลัพธ์ออกมาดี แต่ พอ ผมทำการบ้านก่อนไปดู 23 ด้วยการไปสำรวจคะแนนจากเว็บมะเขือเทศ (www.rottentomatoes.com) พบว่า หนังเน่าสนิท(rotten)ได้คะแนนจากกลุ่มนักวิจารณ์ไปแค่ 8 % คะแนนจากกลุ่มคนดูมีแค่ 46% และในเว็บ IMDBก็รับไปแค่ 6.2/10
ผมลังเลใจว่าสงกรานต์นี้ ผมจะเลือกดูเรื่องไหน และ ตัดเรื่องไหนทิ้งระหว่าง 23 และ The reaping หนังแนวโปรดของผมทั้งคู่ และ กวาดรายรับพร้อมเสียงวิจารณ์มาแบบเน่าสนิททั้งคู่
สุดท้ายผมเลือก 23 เพราะ ตอนที่เลือกซื้อตั๋วไม่มีรอบฉาย The reaping แล้ว
ผมเข้าไปแบบปล่อยวาง ลดความคาดหวัง และ ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่อ่านเรื่องย่อหรือคำวิจารณ์ใดๆมาก่อน นอกจากคะแนนที่ว่าไว้ข้างต้น
แล้ว ผมก็พบว่า
ในความเน่าสนิทของมะเขือเทศจากเว็บrottentomatoes นั้น ยังมีแสงสว่างเรืองรอง
ผมเป็นคนส่วนน้อยที่ไม่ได้ชอบเรื่องนี้มาก แต่ก็ค่อนข้างพอใจไม่ถึงกับเสียดายตังค์ค่าตั๋ว
วอลเทอร์ สแปร์โรว์ (รับบทโดย จิม แครี่ย์) พระเอกของเรื่อง เป็น เจ้าหน้าที่กองควบคุมสัตว์ วันหนึ่งเขารับมอบหมายไปจับสุนัขหลุด เกิดความผิดพลาด เขาโดนกัด และ ทำให้เขาไปพบ ภรรยาตามที่นัดไว้สายกว่าที่ตั้งใจ ภรรยาเขาจึงฆ่าเวลาด้วยการยืนอ่านหนังสือรอ และ มอบหนังสือให้เป็นของขวัญ หนังสือเล่มนั้นชื่อ The Number 23
นิยายเล่มนี้ เล่าเรื่องของ ฟิงเกอร์ลิง (จิม แครี่ย์ ก็เล่นอีก) นักสืบเอกชนที่มีพ่อเป็นนักบัญชี ชีวิตในวัยเด็กถูกกำหนดให้ต้องมาสนใจตัวเลขและพบกับศพแม่ม่ายข้างบ้าน จนคิดฝังใจอยากเป็นนักสืบ เขาเดินทางไปช่วยสาวผมบลอนด์ที่กำลังจะฆ่าตัวตาย และ ทำให้เขาไปพบความจริงที่น่าสะพรึงกลังของ อาถรรพณ์เลข 23
1.ในมนุษย์ โครโมโซมตัวที่ 23 เป็นตัวบ่งชี้เพศ พ่อและแม่ถ่ายทอดโครโมโซม คนละ 23 เส้นสู่ DNA ของลูก
2.มีตัวอักษรทั้งหมด 23 ตัวในภาษาละติน
3.จูเลียส ซีซาร์ ถูกแทง 23 ครั้งจนเสียชีวิต
4.โลกหมุนรอบตัวเองใช้เวลา 23.56 ชั่วโมง ไม่ครบ 24 ชั่วโมงพอดี
5.กลุ่มอัศวินเทมเพลอร์ (อัศวินผู้พิทักษ์ศาสนาคริสต์) มีผู้นำทั้งหมด 23 คน
6.ชาวมายันเชื่อว่าโลกจะถึงกาลอวสาน วันที่ 23 ธันวาคม 2012 (20+1+2=23)
7.เรือไททานิคจมลงสู้ก้นมหาสมุทร ในเช้าวันที่ 15 เมษายน 1912 (4+1+5+1+9+1+2=23)
ฯลฯ
ชีวิตส่วนตัวของฟิงเกอร์ลิง ถูกนำไปโยงเข้ากับเลข 23 แล้วทุกอย่างในชีวิตก็เริ่มเลวร้ายลง เขาเริ่มหมกมุ่นมากขึ้น จนไปบำบัด และ คนรักเริ่มตีตัวออกห่าง จิตแพทย์ส่วนตัวไปเป็นชู้กับคนรัก จนทำให้ เขาตัดสินใจ ฆ่าคนรักอย่างโหดเหี้ยมและป้ายสีให้ชู้รัก นิยายจบลงแต่บทที่ 22 เว้นกระดาษเปล่าไว้ที่บท 23
...วอลเทอร์ ยิ่งอ่านนิยาย ยิ่งรู้สึกว่า เหมือนกับชีวิตตัวเอง และ เริ่มเอาตัวเองไปขลุกผสมกับเลข 23 เช่น ตัวเลขของสีที่ทาบ้าน , ตัวเลขของเลขที่บ้าน ฯลฯ
มาถึงตรงนี้ ผมดูไปก็นึกถึงสมัยเรียน เขาศึกษากันมานานว่า โครงสร้างของจิตใจในระดับส่วนที่เรียกว่า Ego มีขอบเขตของมันเรียกว่า Ego boundary
เช่น ถ้า นาย ก. ดูละครแล้วเศร้าเนื่องจากนางเอกตายเราก็ร้องไห้ , นาย ข. ดูเจมส์บอนด์ ก็นึกคึกอยากเป็นพระเอกแต่ซักพักก็จบไป , นายค. เจอเพื่อนที่ถูกโกงเงินก็หงุดหงิดแทน
ถ้าแค่นี้ ถือว่าปกติ
แต่คนที่เสีย Ego boundary คือ คนที่ก้าวข้ามเส้นแบ่งของ แฟนตาซี(fantasy) และ ความเป็นจริง(reality) หรือ ก้าวข้ามเส้นแบ่งของ ตัวเรา(self) และ ตัวเขา(others) ชนิดข้ามไปแล้วอาจลืมข้ามกลับมา
ก็จะกลายเป็น นายก. ร้องไห้เจ็ดวันเจ็ดคืน กินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะนางเอกละครตาย จนวางแผนจะไปงานศพ , นายข. แต่งตัวชุดทักซิโด้ ไปซื้อปืนมาพก เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น เจมส์ แล้วกระโดดเข้าปล้ำหญิงกลางห้าง , นายค. หงุดหงิดคิดว่าเงินตัวเองก็คงโดนโกงเหมือนกัน นั่งหมกมุ่นพร้อมบอกใครต่อใครว่าตัวเองโดนโกงเงิน เดินไปต่อยคนโกง
...วอลเทอร์ พระเอกของเรา กำลังเสีย Ego boundary
วอลเทอร์ สงสัยว่าใครกันที่เป็นคนเขียนหนังสือเล่มนี้ เพราะรายละเอียดในวัยเด็กจนมาถึงปัจจุบัน มันช่างตรงกับชีวิตของเขาอย่างเหลือเชื่อ จะต่างไปก็ตรงที่ตอนนี้ เขายังไม่ได้คิดจะฆ่าใคร
แต่ เขาก็หมกมุ่นกับ 23 ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อพบว่า ทุกอย่างรอบตัวล้วนรวมกันได้ 23
และ ภรรยาของเขาก็เริ่มไปสนิทกับเพื่อนจิตแพทย์คล้ายในนิยายเข้าไปทุกที
เขาเริ่มฝันร้าย และ เห็นภาพตัวเองฆ่าภรรยา
เรื่องราวถัดจากนี้ คือ สิ่งที่ท้าทายคนดูว่า เรื่องราวแท้จริงเป็นเช่นไร
ใครเป็นคนเขียนนิยายเล่มนี้ คนเขียนมีวัตถุประสงค์อย่างไร
และ ทำไมถึงต้อง 23
...หนังเล่าเรื่องแบบคู่ขนาน ระหว่าง ชีวิตอันเรียบง่ายของวอลเทอร์ และ ชีวิตอันหวือหวาของฟิงเกอร์ลิง ก่อนจะถูกเลข 23 ขมวดสองชีวิตให้มาพบบั้นปลายร่วมกัน
ในตอนต้นของหนัง เริ่มต้นชนิดเดาได้ยากว่า จะเป็นหนังผี หนังอาถรรพณ์ หรือ หนังเขย่าขวัญจิตวิทยา แต่เมื่อถึงท้ายเรื่อง ทุกอย่างก็เริ่มชัดเจนขึ้น
หนังทำได้ดีในช่วงแรก การกำหนดเลข 23 เป็นความคิดที่น่าสนใจ ชวนให้เห็นถึงสภาพที่ไม่มั่นใจในจิตมนุษย์ ที่โอนอ่อนเชื่ออะไรง่ายๆอย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ บางครั้งผลรวม 23 ในหนังก็เป็นความพยายามชนิดดันทุรัง แต่ก็ยังรวมกันให้ได้เป็นเลขนี้ จนไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคนงมงายในไสยศาสตร์อยู่อีกจำนวนมาก
...ดูหนังแนวนี้บ่อยๆก็คงอดเดาไม่ได้ ผมเองก็เช่นกัน มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ เพราะเผลอเดาไปตั้งแต่ก่อนเข้าโรงแล้ว เนื่องจากอ่านในเน็ต เขาว่าไว้ว่า เรื่องนี้สูตรสำเร็จ เดาได้ง่ายเกินไป
ถึงผมจะเดาถูกเมื่อรู้เฉลยในตอนจบ แต่ในตอนดูนั้น ไม่ทำให้น่าเบื่อเลย เพราะ ถึงคุณจะเดาได้ แต่ หนังเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการเปรียบเทียบกับหนังไทยเรื่อง แฝด ของการเขียนบทหนังหักมุม
การเล่าเรื่องหนังหักมุมหรือหนังเฉลยปริศนาที่ดี มีอยู่สองแบบในความเห็นของผม
คือ
1.หนังเดาไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าจะหักมุม เช่น Sixth sense
2.เดาได้ แต่ เดาได้หลายทาง เพราะผู้กำกับทำให้เราไขว้เขว ไม่แน่ใจว่า จริงๆแล้วคำตอบของเรื่องคืออะไร เพราะแต่ละทางก็ล้วนเป็นไปได้แทบทั้งสิ้น
เรื่องนี้ก็เช่นกัน ในตอนต้นคุณอาจเดาว่าเป็นผี อาจเดาว่าภรรยาวางแผนแกล้ง อาจเดาว่ามีฝาแฝด อาจเดาว่าพระเอกบ้า อาจเดาว่าเป็นเรื่องราวของอาถรรพณ์ ทุกเส้นทางที่คิดไว้นั้น ล้วนมีความเป็นไปได้จนกระทั่งช่วงท้าย
แต่ แฝด มีทางเลือกอยู่เส้นทางเดียว พอเริ่มเดาได้ ทุกอย่างก็จบลง ไม่มีทางเลือกอื่นพอจะเป็นไปได้ให้ต้องคิดต้องลุ้นอีก นี่คือ จุดอ่อนที่น่าเสียดาย
Spoiler alert : ข้อความตัวสีเขียวถัดจากนี้ เฉลยตอนจบ และ วิเคราะห์แง่มุมทางจิตวิทยา
หนังเฉลยไว้ว่า
เรื่องในหนังสือนั้น เป็น ตา วอลเทอร์ หรือ จิม แครี่ย์ นี่แล เขียนไว้
เพราะเมื่อ 13 ปีก่อน เขาเองเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนรักตัวเอง เพราะคนรักคิดเอาใจออกห่าง เขาเองก็มีความผิดปกติทางจิตเป็นพื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว
ความรู้สึกผิดในใจ (guilt)ค่อยๆกัดกิน
จนเขาหาทางระบายออกผ่านการเขียนนิยายเล่มนี้ ในห้องพักของโรงแรม ก่อนจะตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่ดันรอด
จิตแพทย์ผู้รักษา แอบเห็น นิยายเรื่องนี้ก็เลยเก็บเอาไว้ และ รักษา จิมจนหาย
จิม ความจำเสื่อม จึงออกไปใช้ชีวิตใหม่
แต่ จิตแพทย์เกิดจิตเสื่อมแทน หันไปหมกมุ่นกับเลข 23 และ รวมเล่มนิยายออกมา
สุดท้ายแล้ว 23 ก็ไม่ต่างอะไรจาก บาป(sin) ที่ตามหาตัวเจ้าของจนเจอ และ มนุษย์ก็ต้องชดใช้กรรมที่เคยทำมา
ความบังเอิญส่วนหนึ่งในหนัง แสดงให้เห็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือ หลักการทางจิตวิทยา นั่นคือ ปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ ที่อาจเป็นกรรมที่ไล่ทัน หรือ เป็นวิญญาณที่ยังคงอยู่ ส่งผลให้ หมากัดที่แขนบริเวณเดียวกับรอยแผลตอนที่พระเอกฆ่าคนรัก และ หมาก็พาเขาไปพบหลุมฝังศพนั้น
วิเคราะห์เนื้อหาในนิยาย The number 23 ในเชิงจิตวิเคราะห์ แม้จะไม่ได้ลึกซึ้งแต่ก็ ถือว่า น่าสนใจ เพราะจัดได้ว่าเป็นการทำการบ้านของคนเขียนบทที่ดีอยู่พอตัว ไม่ได้เขียนขึ้นมามั่วๆซั่วๆ
นิยายเล่มนี้ เป็นเหมือน ตัวแทนของการไถ่บาป เช่นเดียวกับ การอดอาหารของคริสเตียน เบลล์ ใน The machinist และ ยังเป็นสัญลักษณ์ของ ความรู้สึกผิดในใจตัวละคร (guilt)
เพราะไม่จำเป็นเลยที่ ตัวนิยาย ซึ่งพระเอกในตอนนั้น จะซุกซ่อนโค้ดลับทุกคำที่ 23 ทุกๆหน้าที่ 23 เพื่อให้คนอ่านแกะรอยไปจนเจอ หลุมฝังโครงกระดูกที่แท้จริง เหตุผลที่อธิบายได้มีอยู่ข้อเดียว
นั่นคือ ในระดับจิตสำนึกรู้ตัวที่แม้ต้องการจะเอาตัวรอดและป้ายความผิด แต่มันก็เกิดความรู้สึกต่อสู้กับ ส่วนของความรู้สึกผิด(guilt)ที่ทรมานจิตใจ เขาจึงเขียนจนหวังว่าอยากจะให้มีใครไปค้นพบโครงกระดูกของคนรัก อยากจะให้มีคนไปขุดพ้นจนเจอ แต่ ความรู้สึกผิดนี้อยู่ในระดับจิตใต้สำนึก(unconscious)จึงกดไว้และแปรมันมาสู่นิยาย เป็นความรู้สึกของ มโนธรรม(superego)ที่มีอยู่ลึกๆในใจจนเกิดความขัดแย้งขึ้นมา
และ หากลองดูเนื้อหาในนิยาย เทียบกับ ชีวิตจริงของ จิม คือ คนไม่ค่อยเอาไหน ไม่มีใครเอา รู้สึกโดดเดี่ยวตั้งแต่เด็ก
นิยายของเขาก็เหมือน การล่องลอยในระดับจิตใต้สำนึก มีทั้งการชดเชย(compensation)และการขยำรวม(condensation)สิ่งที่ตกตะกอนในจิตใจตั้งแต่เด็ก อาทิเช่น ความอ่อนด้อยอ่อนแอทั้งในการงานและชีวิตคู่ ถูกชดเชยเป็น นักสืบสุดเท่ เชี่ยวชาญทั้งเชิงรักและเชิงรบ , ตัวเลขทั้งหลายก็มาจาก การถูกจับยัดตัวเลขใส่สมองโดยคนเป็นพ่อตั้งแต่เด็ก , ภาพความตายอันน่าสยดสยอง รวมไปถึง การฆ่าตัวตายของพ่อ ก็ถูกจับมาแทนด้วย สัญลักษณ์ การตายของแม่ม่าย และ เรื่องราวการฆ่าตัวตายในนิยายของตัวเอง (สังเกตให้ดี แม่ม่ายที่ถูกฆ่า , แม่แท้ๆของฟิงเกอร์ลิง และ suiide blonde คือ คนๆเดียวกัน ทั้งสามล้วนเป็น ตัวแทนของแม่ ที่ตายจากไป)
...การปิดท้ายด้วยการเลือกตัดสินใจของตัวละคร เป็น ทางออกที่ผมชอบมากที่หนังเลือกคลี่คลายให้พระเอกตัดสินใจ รอดจากการฆ่าตัวตายเพราะถูกลูกเรียก ลูก ยังเป็นเหมือน สิ่งกระตุ้นเตือนให้เขาบอกประโยคสำคัญกับคนดูว่า
There's no such thing as destiny. There are only different choices. Some choices are easy, some aren't. Those are the really important ones, the ones that define us as people
ชีวิตคนเราก็เป็นเช่นนี้เอง หลายคนยอมปล่อยให้ความผิด ความชั่วร้ายเกิดขึ้นต่อไป เพราะเราไม่อยากรับผิดชอบ และ เราก็ด่วนสรุปว่า มันเป็นชะตาลิขิตแล้วหละ
ทั้งที่จริง เส้นทางที่เราเดินอยู่นั้น เราสามารถเลือกได้ว่าเราจะไปทางไหน และ การเลือกที่แตกต่างของแต่ละคน ก็เป็นตัวบอก ความเป็นคนๆนั้นที่ชัดเจน เช่น พระเอกเลือกที่จะเดินหน้าไปรับความผิดเพื่อปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์กลับออกมา มันก็บ่งชี้ถึง ตัวตนที่ดีงามภายในจิตใจของเขานั่นเอง
...จิม แครี่ย์ เติบโตมากับการเป็นนักแสดงตลกเว่อร์ๆ ตลกในแนว slapstick จนเหมือนภาพติดตัวที่ยากเกินจะสลัดหลุด ทั้งที่ฝีไม้ลายมือของเขานั้น เล่นหนังดราม่าจริงจังได้อยู่ในเกณฑ์ยอดเยี่ยม ดูได้จาก Eternal sunshine of the spotless mind , The majestic หรือ บางช่วงบางตอนใน Trueman show น่าเสียดายตรงที่ หนังดราม่าที่เขาเลือกนั้นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยจะดังเปรี้ยงปร้าง เหมือนกับว่า เขาจะ เลือกหนังตลกได้โดน แต่เลือกหนังแนวอื่นทีไร ส่วนใหญ่จะคว่ำ
...หนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน จะว่ากันตามจริง หนังไม่ได้ย่ำแย่เลวร้ายขนาดเสียงวิจารณ์หรือคะแนนที่ออกมา ยังออกจะดูสนุกชวนคิดชวนติดตามเสียด้วยซ้ำสำหรับคนชอบหนังแนวนี้ ถึงจะมีคนว่าไว้ว่าพล็อตหนังคล้ายกับ Secret window ที่พูดถึง ตัวเอกกับตัวละครในนิยายคล้ายๆกัน แต่ เรื่องนี้ยังดูมีพล็อกหักเหล่อหลอกให้เดาให้ลุ้นได้ยากกว่า เรื่องที่ว่าหลายเท่า
เนื้อหาในหนัง น่าสนใจกับความพยายามโยงใยเลข 23 กับ ความวิบัติทั้งหลายในโลก มีความบังเอิญอยู่หลายจุดและดูจะผสมความเหลือเชื่อไปก็อีกหลายจุด ถึงแม้ตอนเฉลยแล้วจะพออธิบายได้แล้วก็ตาม แต่ปัจจัยที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไปไม่ถึงระดับสุดยอดทั้งที่ ดูเหมือนจะใส่แง่มุมปมทางจิตวิทยามาผสมความลึกลับได้ดี ก็คือ ชั้นเชิงและกึ๋นของบทหนัง
เพราะนี่คือหนังดูครั้งเดียวจบ คุณก็ไม่คิดจะดูอีก เพราะไม่มีอะไรเหลือให้อยากย้อนกลับไปดูอีกครั้ง ไม่มีอะไรหลงเหลือติดหัวออกมาหลังม่านปิด เรียกได้ว่า ถ้าจะเสีย ก็มาเสียตรงช่วงเฉลยตอนท้าย ที่หนังเสียรูปขบวนไปกับการใช้เวลา เฉลย นานมาก นานจนทำให้ พลังของหนังที่ขับเคลื่อนมาอย่างลุ้นระทึกตั้งแต่ต้นต้องแผ่วปลายไปอย่างน่าผิดหวัง ช่วงท้ายๆของหนังจึงเป็นความน่าเบื่อกับการเล่าแฟลชแบ็ค แถมยังเล่นเฉลยรายละเอียดแบบหมดเปลือกทุกแง่ทุกมุมจนไม่เหลืออะไรให้คนดูต้องขบคิดเลย
23 จึงเป็นแค่หนังระทึกขวัญที่ดูสนุกคุ้มค่าตังค์ แต่ก็ไม่ถึงกับ ห้ามพลาดแต่อย่างใด
สิ่งที่ชอบ
1.จิม แครี่ย์
2.ช่วงเวลาในหนังก่อนเฉลย
สิ่งที่ไม่ชอบ
- ความแผ่วปลายช่วงท้าย
สรุป ... ใครชอบหนังแนวนี้ หนังในแนวอาถรรพณ์ , ปมทางจิตวิทยา ฯลฯ ไปดูได้ ไม่ผิดหวัง หนังอาจไม่ดียอดเยี่ยม แต่ก็ไม่ย่ำแย่เลวร้ายเหมือนคะแนนวิจารณ์ที่ฝั่งเมืองนอกเมืองนาให้มา ใครเป็นแฟน จิม แครี่ย์ ไปดูบทบาทใหม่ของเขาที่เล่นได้เยี่ยมยอดดีทีเดียว
ป.ล. ผมคิดว่า ทำไมตัวละครในเรื่องขนาดจิตแพทย์ ถึงช่างงมงายไปหมกมุ่นกับ 23 อะไรง่ายๆกันปานนั้น เฮ้อ คนเรา แต่พอหนังกำลังจะจบผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่นั่งคำนวณอยู่เหมือนกันว่า วันเดือนปีเกิดของผม (06/08/2520 = 6+8+2+5+2) รวมกัน ก็ได้ 23 เหมือนกันนี่หว่า โอ้ 23 ช่างเป็นตัวเลขที่ชวนหลงใหล ไม่แพ้ ก้นหอยมรณะ เลยทีเดียว
ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที ไม่ใช่ หนังสือวิจารณ์หนัง แต่คือการหยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม
(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไป หาไม่เจอถามจากพนักงานขายได้เลยจ้า)
ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ
ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
|
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 14 เมษายน 2550 |
Last Update : 15 เมษายน 2550 11:59:56 น. |
|
40 comments
|
Counter : 8694 Pageviews. |
|
|
|
โดย: noname IP: 203.113.33.6 วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:1:52:47 น. |
|
|
|
โดย: the red IP: 203.155.247.19 วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:3:05:01 น. |
|
|
|
โดย: Makok (Castertroy ) วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:9:49:54 น. |
|
|
|
โดย: Trick IP: 202.28.181.10 วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:11:34:17 น. |
|
|
|
โดย: สายลมอิสระ วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:12:26:19 น. |
|
|
|
โดย: หมีบางกอก (Bkkbear ) วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:12:30:00 น. |
|
|
|
โดย: icebridy วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:21:14:27 น. |
|
|
|
โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 14 เมษายน 2550 เวลา:23:32:39 น. |
|
|
|
โดย: rachel IP: 124.121.193.150 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:2:46:37 น. |
|
|
|
โดย: ThirskUK IP: 203.120.162.66 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:17:57:48 น. |
|
|
|
โดย: katt IP: 58.8.163.163 วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:21:28:31 น. |
|
|
|
โดย: GodFather IP: 58.8.23.165 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:10:07:19 น. |
|
|
|
โดย: หมวยแก้มป่อง IP: 61.19.222.33 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:11:03:32 น. |
|
|
|
โดย: thefoolcrazyman IP: 58.10.71.74 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:12:54:55 น. |
|
|
|
โดย: K-modjung IP: 61.90.140.186 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:13:43:42 น. |
|
|
|
โดย: น้ำใส IP: 58.64.121.30 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:15:02:35 น. |
|
|
|
โดย: zadako IP: 58.8.36.181 วันที่: 17 เมษายน 2550 เวลา:22:34:51 น. |
|
|
|
โดย: คิดถึงเมื่อครั้งฉันยังเป็นเด็ก IP: 58.64.123.165 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:3:41:57 น. |
|
|
|
โดย: FuRiEs IP: 125.24.193.151 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:12:45:33 น. |
|
|
|
โดย: No#23 !!!!!!!!!! (บลูยอชท์ ) วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:13:00:57 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:13:04:22 น. |
|
|
|
โดย: แก้มน้อยคอยรัก IP: 61.90.144.101 วันที่: 18 เมษายน 2550 เวลา:14:30:55 น. |
|
|
|
โดย: FuRiEs IP: 125.24.194.88 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:14:09:27 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:16:40:19 น. |
|
|
|
โดย: FuRiEs IP: 125.24.194.88 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:20:19:02 น. |
|
|
|
โดย: บลูยอชท์ วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:9:42:45 น. |
|
|
|
โดย: FuRiEs IP: 125.24.193.117 วันที่: 20 เมษายน 2550 เวลา:13:36:21 น. |
|
|
|
โดย: คุณชายอ่านะ IP: 203.113.81.167 วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:22:07:49 น. |
|
|
|
โดย: อิอิ IP: 203.151.15.242 วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:11:29:29 น. |
|
|
|
โดย: ผมอยากแอบเข้าข้างหลังคุณ (I love หมอหญิงซินปี) IP: 203.209.95.203 วันที่: 29 พฤษภาคม 2550 เวลา:3:29:39 น. |
|
|
|
โดย: AronSun IP: 124.120.241.113 วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:14:53:52 น. |
|
|
|
โดย: The SoVo (http://kangalala.spaces.live.com/) IP: 122.16.126.6 วันที่: 12 สิงหาคม 2550 เวลา:0:18:10 น. |
|
|
|
โดย: วา IP: 58.136.93.7 วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:11:41:05 น. |
|
|
|
โดย: olivine วันที่: 6 กันยายน 2550 เวลา:4:33:23 น. |
|
|
|
โดย: wan IP: 61.90.69.225 วันที่: 18 เมษายน 2551 เวลา:23:15:34 น. |
|
|
|
โดย: sher IP: 183.89.48.91 วันที่: 21 มิถุนายน 2553 เวลา:21:36:53 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
ขอบคุณที่เขียนให้อ่านครับ