www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน



...Perhaps love เปิดเรื่อง ด้วยคำบอกเล่าที่เปรียบเปรยชีวิตกับละครได้อย่างน่าสนใจ เมื่อหนังบอกเราว่า ชีวิตก็เหมือนบทละคร ตรงที่เราเป็นตัวเอกในบทละครชีวิตของตัวเอง บางครั้งเราแอบหวังอยากเป็นตัวเอกในละครชีวิตของคนอื่น แต่ความจริงเราอาจเป็นแค่ตัวประกอบคนหนึ่งในละครชีวิตของใครคนนั้น และ เราก็อาจถูกตัดบทออกไปโดยที่เราไม่ทันไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ


อดีต ... ซุนนา(ซุนโจว)คือเจ้าจ๋อ หญิงสาวที่ปรากฎตัวอย่างร่าเริงบริสุทธิ์สดใส ผู้สร้างรอยยิ้มให้กับชีวิตเรียบง่ายของหลิน(ทาเคชิ คาเนชิโร่) เธอมาแล้วก็ไปจากชีวิตเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไปเพื่อตามหาความฝัน แล้ววันหนึ่งเธอก็จากเขาไปอย่างถาวร หลินสงสัยว่าทุกครั้งที่เธอกลับมาอยู่กับเขา นั่นคือ ความรัก หรือไม่

สำหรับหลิน ซุนนา เป็นตัวเอกในละครชีวิตของเขา แต่ หลินสงสัยว่า แล้วเขามีความสำคัญเป็นตัวหลักหรือเป็นแค่ตัวประกอบในละครชีวิตของเธอ เธอตัดบทของเขาออกไปจากบทชีวิตของเธอแล้วหรือยัง?

ปัจจุบัน ... ซุนนา คือนักแสดงชื่อดัง เช่นเดียวกับ หลิน ทั้งสองคนต้องมารับบทนำในหนังเรื่องเดียวกัน เป็น เรื่องราวความรักสามเส้าของ หญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกคนรักในอดีตของตัวเองมาตามหาจนเจอ ในขณะที่เธอใช้ชีวิตปัจจุบันอยู่กับเจ้าของโรงละคร และ เจ้าของโรงละครแห่งนั้นก็คือผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ เขาคือ หนี่เหวิน(จางเซียะโหย่ว)

...ละครชีวิตของหนี่เหวิน ซุนนา และ หลิน ต่างก็ซ้อนทับอยู่กับบทหนังที่ตัวเองต้องแสดง พวกเขาต้องแสดงบทบาทในหนังของตัวเองและในชีวิตจริง

...หนี่เหวิน คือ ปัจจุบันของซุนนา

เขาคือความมั่นคงหนึ่งเดียวที่ซุนนามี นับตั้งแต่เธอเดินจากหลินมา ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของเธอเต็มไปด้วยผู้ชายที่ไม่ได้มีความจริงใจกับเธอ เธอคิดใช้ผู้ชายเหล่านั้นเป็นทางผ่านวิชาชีพและพวกนั้นก็หลอกใช้เธอเป็นทางผ่านอารมณ์เช่นกัน แต่เมื่อหลินกลับมาทำให้ไม่แน่ใจว่า ปัจจุบันของซุนนาจะเดินไปพร้อมๆกับหนี่เหวินหรือไม่ เพราะ ปัจจุบันของเธอและหลิน มีบางสิ่งที่เดินร่วมกัน นั่นคือ ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ทั้งสองคนยังคงติดอยู่กับอดีตเพียงแต่มีรูปแบบของชีวิตที่แตกต่าง


ซุนนา


...เธอพยายามสลัดอดีตให้หลุดพ้นไป สำหรับเธอแล้ว อดีตไม่มีสิ่งใดให้น่าจดจำ

...คำถามเกิดขึ้นในใจ ว่าเพราะอะไรจึงเป็นเหตุให้ ซุนนาอยากสลัดอดีต

ในตอนแรกเธอทำให้เราสงสัยว่า ความจนในอดีตหรอกหรือ ที่เธอไม่อยากจดจำ ต่อมาเมื่อหนังเผยความจริงของความสัมพันธ์ทำให้เราคิดว่า หรือเป็นเพราะ เธอไม่อยากจำความรักที่เคยมีกับหลิน

ท้ายสุดแล้ว หากลองเข้าไปในส่วนลึกของหัวใจเธอ จะพบว่า เหตุที่เธออยากสลัดอดีตไม่ใช่ ความจน หรือ ความรัก แต่ เหตุที่ทำให้เธออยากลืมอดีตมากที่สุดเป็นเพราะ ความเจ็บปวด จาก ภาพที่ตัวเองเดินออกจากชีวิตของหลิน การเดินหนีชายคนที่เธอรักและเป็นคนเดียวในชีวิตของเธอที่หนักแน่นมั่นคงไม่เคยหวังประโยชน์ใดๆจากเธอ เธออยากจะลืม ความรู้สึกผิด ของตัวเองที่ทำร้ายใจคนที่เธอรักที่สุด

เธอคงไม่รู้ว่า ไม่ใช่อดีตหรอกที่เธออยากลืม ไม่ใช่อดีตที่ไม่สามารถสลัดมันหลุดไป แต่ ความรู้สึก ต่างหากที่อยู่ในใจเธอตลอดมาและอยากลบเลือนมันไป

บางครั้งเราก็เป็นเหมือนซุนนา เรารู้สึกว่าอดีตมันทรมานใจ จนอยากลืมมันไป เราลืมไปว่า อดีตมันผ่านไปแล้ว อดีตไม่สามารถทำร้ายใจเรา สิ่งที่ทำร้ายใจเราไม่ใช่อดีต แต่เป็น ความรู้สึกที่มันตามติดมาปัจจุบัน

หลิน


เขาหมกมุ่นอยู่กับอดีตอย่างไม่มีวันตัดใจ สำหรับเขาแล้ว อดีตคือความสุข คือความเจ็บปวด คือคำถามที่ยังค้างคาใจ

คำถามที่ตามมาด้วยความสงสัย ว่าเพราะอะไร หลินจึงไม่สามารถลืมอดีต

เป็นเพราะ ความรักในอดีตที่หายไปอย่างไม่ทันตั้งตัว หรือ เป็นเพราะคำตอบที่ค้างคาใจไม่เคยได้คำตอบว่า เป็นความรักหรือไม่ที่ซุนนามีให้กับเขา หรือ มันเป็นความสุขที่หอมหวานจนไม่อาจลืมเลือน หรือ เป็นเพราะความแค้นที่เขารอการทวงคืนจากการถูกกระทำ

หลินดูเหมือนจะสับสนว่าความต้องการของตัวเองนั้นคืออะไร การให้ซุนนากลับมารัก กลับมามีชีวิตอยู่ด้วยกัน คือสิ่งที่เขาต้องการหรือไม่ แล้วเมื่อเขาเจอเธอ สิ่งที่เขาเลือกทำตลอดการรอคอยมา 10 ปีคือ การเอาคืน ก่อนที่จะรู้ใจตัวเองว่า การเอาคืน นั้นไม่สามารถตอบโจทย์ในใจตัวเอง แล้วเขาต้องการอะไร เขาเพียรหาคำตอบว่าเธอรักเขาหรือไม่ แต่เขากลับไม่สามารถตอบใจตัวเองว่า เขายังรักเธอ หรือ เขาแค่เจ็บจากการถูกทำร้ายและต้องการทำร้ายใจคืน หรือ เขาเพียงต้องการคำตอบ หรือ เขาเพียงต้องการให้เธอรักเขาแต่เขาไม่ได้รักเธออีกแล้วในปัจจุบัน


...สิ่งที่ทั้งสองคนต้องประสบพบเจอตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ซุนนาเลือกจะเก็บกดความรู้สึกไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอะไรที่น่าจดจำ เพราะอดีตของเธอนั้นทั้งเจ็บปวด ขื่นขม มีความสวยงามเพียงช่วงสั้นๆที่ใช้ชีวิตกับหลิน และ เธอเองก็เป็นคนทำลายช่วงเวลานั้นเองกับมือ

ส่วนหลินเองก็เลือกเฝ้าฝันรอคอย หมกมุ่นกับความรักที่สวยงามที่ซุนนานำมันจากไปเหลือไว้ด้วยความสงสัย เหลือไว้แต่คำถาม และ ความไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรเธอจึงทำเช่นนี้กับเขา จึงอาจจะกล่าวได้ว่า การจากไปของซุนนาทำให้เธอต้องมีชีวิตอยู่แต่กับความเจ็บปวด ทรมานใจและรู้สึกผิด และ การถูกตีจากของหลินทำให้เขาต้องมีชีวิตอยู่กับความเจ็บปวด สงสัย และ ค้างคาใจ

...หากทั้งหมดนี้ คือ บทละคร ที่พาคนดูไปพบกับ ความรัก แล้ว ในปัจจุบัน ใครกันที่มีความรัก

หลินรักซุนนา หรือว่า เป็นเพียงบางสิ่งที่ติดค้างใจ เป็นเพียงหมกมุ่นลุ่มหลงจากวันวาน

ซุนนารักหลิน หรือว่า เป็นเพียงความรู้สึกผิดที่รบกวนใจจากอดีต เป็นเพียงความรู้สึกที่เหมือนแค่บางสิ่งที่ยังไม่จบดี

ซุนนารักหนี่เหวิน หรือว่า เป็นเพียงความผูกพัน ความมั่นคงปลอดภัยจากเขา

หนี่เหวินรักซุนนา หรือว่า เป็นเพียงการเพิ่มพูนคุณค่าในตัวเองเมื่อมีเธอข้างกาย รู้สึกเหมือนมีเพื่อนที่ไม่ทอดทิ้งยามตกต่ำ

... ไม่ว่านี่จะเป็นรักหรือไม่ แต่บางสิ่งที่อาจจะเป็นรัก(perhaps love)ก็ทำร้ายใจของคนทั้งสามคน

เมื่อหนังปิดฉากลง เมื่อบทละครสิ้นสุดลง ชีวิตของทั้งสามคนก็ได้เปลี่ยนแปลงไป


ซุนนา ใช้ชีวิต10 ปีที่ผ่านมาราวกับว่า มันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เธอปฏิเสธความจริง เธอหนีความจริงจากอดีตที่วิ่งไล่ และ รู้ในใจว่าเจ็บแต่ไม่ยอมรับมันตลอดมา แถมเมื่อมาถึงวันปัจจุบันชีวิตเธอก็ยิ่งซับซ้อนยุ่งยากเมื่อการเข้ามาของหลิน ทำให้เธอไม่สามารถเลือกได้ และ ไม่สามารถตอบใจตัวเองได้ว่า เธอรักใคร จนในฉากสุดท้ายเมื่อเธอต้องสูญเสียหนี่เหวินไป ในเวลานั้น มันไม่ได้สำคัญอีกแล้วว่าเธอเลือกใคร เพราะ มันดูเหมือนว่าเวลานั้นเธอสามารถที่จะรู้ความรู้สึกตัวเองและยอมรับมัน เธอตอบได้แล้วว่า เธอ มีความรัก เธอไม่ได้เลือกใครแต่เธอเลือกปัจจุบันโดยไม่หลีกหนีความจริงใดๆอีกต่อไป

หนี่เหวิน ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ผู้มีความรักให้หญิงคนรักในปัจจุบัน กลับต้องกลายเป็นคนคั่นกลาง เมื่อละครปิดฉากลง เขา อาจจะเป็นคนที่หลุดพ้นได้มากที่สุดจากกับดักแห่งความเจ็บปวดนี้ เมื่อเขารู้ความรู้สึกตัวเองและซื่อสัตย์กับมัน เขารู้ว่าเขาเคยรักซุนนาและเขายังคงรักเธอ แต่ เขาขอเลือกที่จะเดินจากมา เขาเลือกที่จะเป็นผู้ถูกเกลียดเพียงเพื่อที่เขาจะยังรักเธอได้ต่อไป เขาเลือกที่จะขอให้เธอเก็บเขาไว้ในความทรงจำของเธอ

ในขณะที่เส้นทางของ หลิน จมจ่อมกับอดีตมาชั่วชีวิต มีชีวิตอยู่กับคำถามและความทรมานใจ ความสุขเดียวมีเพียงในช่วงเวลาฝันและช่วงนั้นมันก็คืออดีตที่ไม่มีวันย้อนคืนมา วันสุดท้ายของเขาเดินจากไปด้วยความหวังให้ ซุนนา จดจำอดีตไว้ให้ดี แต่ตัวเขาเองกลับเหมือนยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ เขายังคงติดกับความสับสนของตัวเอง เขายังคงฝันอยู่กับอดีตที่มิอาจหวนคืน และดูเหมือนว่า เขาเองเป็นคนเดียวที่ยังคงติดกับดักอดีตที่เจ็บปวดนี้ต่อไป

...คำถามที่ว่า ซุนนา รัก หลิน หรือไม่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และ ในวันนี้ซุนนารักใคร คำตอบคงอยู่ที่บทสรุปตอนท้ายที่หนังบอกเราว่า วันใดที่คนรักเดินจากไป แล้วใจยังรู้สึกได้ต่อเนื่องมา นั่นคือบางสิ่งที่น่าจะเป็น ความรัก การที่เราต้องสูญเสียใครบางคนแม้ต้องแลกกับความเจ็บปวดแต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้หัวใจว่า บางสิ่งที่เรียกว่ารักนั้นมันเป็นเช่นไร

...สำหรับผมเองแล้วผมคิดว่า ใช่ 10 ปีก่อน ซุนนารักหลิน แต่วันนี้ ซุนนารักหนี่เหวิน

หากมีอดีตความเจ็บปวดที่ฝังคาใจ วันนี้เธอได้เปิดปากแผลยอมรับและเยียวยามันแล้ว

หากมีอดีตความรู้สึกผิดรบกวนใจ วันนี้การที่เธอได้เจอหลิน มันก็คงเป็นหนึ่งในการไถ่บาปความรู้สึกผิดกับเขาไปแล้ว

...ดังนั้นเหตุที่ทำให้เธอไม่ตามหลินไปในวันที่เขาโทรมาลา เพราะเธอเลือกได้ว่า นับจากนี้ไป อดีตจะไม่ตามมาถ่วงหัวใจในปัจจุบันได้อีกต่อไป

...Perhaps love เป็นผลงานที่ตอกย้ำความสามารถที่การเชี่ยวชาญในการเข้าถึงหนังรัก(หมายรวมไปถึงความรักด้วย) ของผู้กำกับปีเตอร์ชานได้เป็นอย่างดี เถียนมีมี่ ของเขายังคงเป็นหนังรักและหนังอันดับหนึ่งในใจของผมเสมอมา “Going Home”หนึ่งใน“Three” หนึ่งในสามหนังสยองขวัญสามสัญชาติก็เป็นหนังผีเจือหนังรักที่ให้ความรู้สึกเศร้าสร้อยกินใจ

การหวนกลับมาจับงานที่เป็นความถนัดของตัวเองของปีเตอร์ ชานครั้งนี้ มีความทะเยอทะยานมากขึ้นไปกว่าเดิม เมื่อเขาสร้างงานใหม่ที่มีสเกลใหญ่กว่ากับการสร้างมันขึ้นมาเป็นหนังเพลง

การเลือกทำหนังรักเป็นหนังเพลง ครั้งนี้ หากจะมีคนมองว่าคล้ายคลึงกับ Moulin rouge ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหลายอย่างที่สองเรื่องนี้มีความสอดคล้องกัน เช่น การเป็นหนังที่เล่าเรื่องซ้อนหนัง(ละครเวที) , เรื่องรักสามเส้า หรือ การถ่ายทำบางฉากเช่นฉากตอนต้นที่กล้องพาคนดูเข้าโรงละครก็ให้อารมณ์คล้ายๆกัน แต่ ในความคล้ายแค่นั้นมันไม่ได้มีกลิ่นอายของการลอกหรือเลียนแบบแต่อย่างใด เพราะในรายละเอียดและธีมของหนังแล้วสองเรื่องนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

จริงอยู่ Moulin rouge เหนือชั้นกว่าในหลายๆด้านและมีความลงตัวของภาพรวมมากกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชอบจาก Perhaps love มากกว่า นั่นคือ ปรัชญาความรักที่ถูกถ่ายทอดออกมาและบทในส่วนที่ลงสำรวจลึกเข้าไปในใจของตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไดอะล็อคทั้งหลายที่มาจากตัวละครในเรื่อง ล้วนเต็มไปด้วยข้อคิด ปรัชญา ที่ลึกซึ้งคมคาย มีความหมายกินใจ และ เฉียบคม ไม่ว่าจะเป็นประโยคที่เปรียบละครกับชีวิต หรือ ประโยคที่พูดถึงความรู้สึกหลงเหลือหลังคนรักจากไป ฯลฯ ล้วนแสดงให้เห็นถึง การทำการบ้านมาอย่างดีของคนเขียนบท การทำการบ้านที่หมายความถึงการพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เรียกว่า ความรัก

... การเลือกสรรนักแสดงมารับบท เป็นการเลือกที่เหมาะสม คนที่ผมชอบมากที่สุดคือ ซุน โจว ในบท ซุนนา ใบหน้าของเธอในตอนแรก ดูเป็นนักแสดงประเภทที่ว่า หน้าสวยแต่ไม่น่าสร้างความหลากหลายได้ แต่ยิ่งหนังดำเนินเรื่องเดินผ่านไป เธอสามารถที่จะแสดงให้เห็นความแตกต่างและความสับสนในใจตัวเอง เป็นการแสดงที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์โดยไม่ต้องปลดปล่อยออกมาให้มากมาย ภาษากายของเธอในการโยกย้ายส่ายเอวเต้นตามเพลง ยิ่งทำให้เธอเด่นยิ่งขึ้นเมื่อต้องมาอยู่ท่ามกลางสองหนุ่มหล่อในเรื่อง อีกทั้งบทของเธอทำให้ผมอดใจอ่อนสงสารไม่ได้ แม้สิ่งที่เธอทำกับชายหนุ่มจะดูใจร้าย แต่ชีวิตของเธอก็ได้พบเจอแต่ความโหดร้ายมาตลอดทั้งชีวิต การถูกหลอกใช้ ถูกหักหลัง จนมาพบชายคนที่จริงใจหนักแน่นในปัจจุบัน ก็ดันมี คนจากอดีตมาทำให้ไขว้เขวเสียอีก

จางเซี่ยะโหย่ว ไม่ทำให้แฟนรุ่นเก่าๆต้องผิดหวัง ความเก๋าของเขาเอาหนังได้อยู่หมัด หลายฉากที่เขานิ่งแต่ทำให้คนดูรู้ถึงความรู้สึกข้างในที่ไม่ได้นิ่งตามไปด้วย ทาเคชิ คาเนชิโร่ เล่นได้ดีทีเดียว ผมได้มีโอกาสดูหนังที่เขาเล่นได้เห็นเขารีดน้ำตามาหลายเรื่องก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกคล้อยตามเท่าในหนังเรื่องนี้ คงต้องชมปีเตอร์ชานที่สามารถรีดความสามารถนักแสดงในเรื่องออกมาได้เต็มฝีมือของพวกเขาและเธอ จะมีก็เพียงคนเดียวที่บทของเขาดูน่าสนใจที่สุดแต่กลับออกมาแล้วดูเป็นส่วนเกินอย่างบอกไม่ถูกนั่นคือ บทของ จีจินฮี ผมชอบการออกแบบตัวละครนี้ออกมาให้เป็นเหมือนคนตัดต่อละครชีวิตจริง อาจเป็นกามเทพ อาจเป็นเทวดา หรืออาจเป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ เป็นตัวละครที่เหมือนมาจากความฝันพาคนดูเข้าสู่โลกความจริง น่าเสียดายที่พอมาอยู่ในหนังแล้วไม่มีความน่าสนใจได้มากพอ

...งานสร้างในหนังเรื่องนี้ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับหนังที่มีทุนหนาและมีต้นทุนที่สูงกว่าอย่าง Moulin rouge หรือ Chiacago ได้ เพราะงานสร้างย่อมถูกจำกัดด้วยปัจจัยสำคัญอย่างเงินทุนและคนเบื้องหลัง งานสร้างของ Perhaps love ถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เรียกได้ว่าภายใต้ข้อจำกัดขนาดนี้ ทำได้ในระดับนี้ก็ต้องยกนิ้วให้แล้ว แต่ในส่วนที่ผิดหวังกลับเป็นเรื่องของสิ่งที่ไม่ต้องใช้เงินทุนใดๆนั่นคือเรื่องของเพลง ช่วงที่ผมนั่งดูหนังในโรงผมรู้สึกผิดหวังกับเพลงประกอบ เพราะ คาดหวังว่ามันจะซาบซึ้งติดหูมากกว่านี้ ต้องหลังจากกลับมาฟังวนไปมาหลายรอบจึงจะค่อยเริ่มรู้สึกว่า มันก็เพราะดีเหมือนกันแฮะ แต่นี่เป็นหนังเพลง มันน่าที่จะทำให้ติดหูและอินได้มากกว่านี้เมื่อฟังตอนดูในโรงหนัง เพราะถ้าเทียบง่ายๆกับหนังเพลงดังๆช่วงปีหลังๆอย่าง Moulin rouge หรือ Chiacago เพลงที่เราได้ยินแค่ครั้งเดียวในโรง มันก็เพราะติดหูได้ทันทีโดยอัตโนมัติ

หลายๆอย่างที่บรรยายมาข้างต้น น่าจะทำให้ผมตกหลุมรักหนังเรื่องนี้ แต่เมื่อดูจบผมกลัวไม่สามารถตกหลุมรักมันได้เต็มตัว อาจะบอกได้แค่ว่าความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้เป็นได้แค่ perhaps love เท่านั้น ปีเตอร์ ชาน พาผมเดินทางไปพร้อมกับ Perhaps love ได้ไม่ไกลเท่าที่คาดหวัง หนังไม่ลงตัวกลมกล่อมเหมือนสองเรื่องก่อนหน้านี้ของเขา ซึ่งผมเองคิดว่า มาจาก หลายองค์ประกอบของหนังที่มีส่วนสกัดกั้นมันไว้ อย่างหนึ่งก็คือ ความซับซ้อนของหนัง ที่ทำให้คนดูไม่สามารถรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ในเรื่อง เพราะคนดูเสียเวลาไปกับการรวบรวมความคิดว่า ช่วงเวลานี้เป็นอดีตหรือปัจจุบัน ช่วงเวลานี้เป็นหนังหรือชีวิตจริง เป็นความฝันหรือความจริง ฯลฯ อีกประการหนึ่งก็คือ การเป็นหนังเพลงที่เปี่ยมด้วยสีสันตระการตา จังหวะที่หนังกำลังทอดอารมณ์ก็ถูกกระชากไปด้วยลีลาการถ่ายทำที่โชว์ความอลังการ จนผมคิดว่า ถ้ายกพล็อตหนังเรื่องนี้เอามาทำใหม่เป็น หนังรักธรรมดาที่ไม่ใช่หนังเพลง อาจจะซึ้งกินใจได้มากกว่านี้

และอีกประการหนึ่ง คือดูเหมือนว่า ปีเตอร์ ชานไม่สามารถปรุงคลุกเคล้าความรักจานนี้ให้ออกมากลมกล่อมลงตัว และ ติดลิ้นติดในความรู้สึกได้นานเท่ากับ เถียนมีมี่ หรือ Going home แต่ด้วยความสามารถที่ต้องยอมรับว่าเขาคือมือหนึ่งของการปรุงหนังรัก มันจึงทำให้ Perhaps love ออกมาไม่ใช่หนังรักที่ดูจบแล้วก็จบไป เพราะแม้มันจะไม่ลึกซึ้งชนิดบาดลึกหัวใจนัก แต่หนังจบไปก็ยังมีความรู้สึกให้หลงเหลือติดอยู่ มีบางสิ่งให้จินตนาการได้ขบคิดต่อเป็นการบ้าน และ การที่มันทำให้คนดูมีอะไรติดกลับไปหลังดูจบ ก็คงเข้าได้กับคำบรรยายที่หนังบอกไว้กับเราแล้วว่า หากคนรัก(หนัง)เดินจาก(จบ)ไป แต่ใจยังรู้สึก นั่นแหละคือความรัก

สิ่งที่ชอบ

1.ประโยคทั้งหลายที่ตัวละครพูดในหนัง ... แฝงปรัชญาความรักที่ลึกซึ้ง การเปรียบเทียบที่เฉียบคม มีความหมายให้ได้ขบคิด และ สอดรับกับเนื้อหาเรื่องราวในหนัง โดยเฉพาะประโยคเปิดเรื่องกับปิดเรื่องคือส่วนที่วิเศษมากของหนังเรื่องนี้

2. ความรักของตัวละคร ... มีความซับซ้อน มีมิติ และ เข้าใกล้กับชีวิตคนจริงที่ย่อมมีทั้งความสุขเศร้าสมหวังเจ็บปวดคละเคล้ากันไป และ มันก็เหมือนกับเถียนมิมี่ ที่ทำให้คนดูได้พบกับความรักที่ไม่ได้มีแค่ระนาบเดียว ไม่ใช่แค่นั้น ตัวละครในเรื่องก็ถ่ายทอดการบ้านชิ้นนี้ออกมาได้ดีเช่นกัน

3.ปีเตอร์ ชาน ... แม้จะไม่กลมกล่อมเท่าหนังเก่าๆ แต่งานชิ้นนี้ก็ไม่ใช่งานที่ขี้เหร่ หลายๆองค์ประกอบของหนังอยู่ในเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐาน และ เขาก็เป็นคนที่นำเสนอมันออกมาได้อย่างลงตัว ที่ต้องชมอีกหนึ่งอย่างคือการกำกับนักแสดงที่ให้ผลลัพธ์ออกมาน่าจดจำ

4.ซุน โจว ในบท ซุนนา ... ตาโตแสนหวานของเธอ ทำให้ผมประทับใจและได้ค้นพบว่าเธอมีดีกว่าตาสวย นี่เป็นหนังเรื่องแรกที่ผมรู้จักเธอและจะเป็นเรื่องที่ทำให้ผมสนใจติดตามของเธอต่อๆไปนับจากนี้

5.OST. ... ฟังในโรงไม่ชอบแต่พอกลับมาฟังวนซ้ำไปมาหลายๆรอบ กลายเป็นชอบมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเพราะและประทับใจ กลายเป็นว่าเพลงเพราะแต่ไม่ได้รู้สึกอินเมื่อยู่ในหนังเท่าไหร่

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ความไม่กลมกล่อมลงตัว ... ตัวหนังบ่งบอกออกมาได้ชัดเจนว่า ผู้กำกับมีฝีมือ นักแสดงมีฝีมือ ทีมงานมีฝีมือ แต่ผลรวมออกมาแล้วกลับไม่ลงตัว หนึ่งคงเป็นจากความไม่ไปด้วยกันของความซับซ้อนของเนื้อหาและความลึกซึ้งทางอารมณ์ และ การไม่สามารถเรียงร้อยเรื่องราวให้กระชับรัดกุม

สรุป ... หากเทียบกับหนังรักของปีเตอร์ ชานด้วยกันเอง มันอาจจะด้อยกว่าเรื่องเก่าๆเช่น เถียนมีมี่ (เรื่องนี้ใครมาเทียบก็มีสิทธิถอยหลังทั้งสิ้น) หรือ going home แต่มันก็เป็นหนังรักที่มีอะไรดีๆในตัวอยู่เยอะ หากเทียบกับหนังเพลงด้วยกัน มันก็มีสีสัน ความตระการตา ไม่พาให้น่าเบื่อ ตัวผมเองไม่เสียดายตังค์แต่ก็ไม่ได้ถึงขึ้นประทับใจมาก หากชอบหนังรัก รักหนังเพลง ไม่ควรพลาด หนังมีความซับซ้อนอยู่บ้างกับการย้อนเวลาไปมาสลับอดีตปัจจุบัน สลับเรื่องราวของหนังกับชีวิตจริง หากลำดับเรื่องราวได้ดีขณะดูก็น่าจะสนุกไปกับมันได้ แต่ถ้าจับความแล้วสับสนหรือไม่ชอบหนังที่เล่าเรื่องแบบนี้ เชื่อแน่ว่ามีโอกาสบ่นเสียดายตังค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้ชอบความหล่อหรือความงามใดๆของนักแสดงในเรื่อง


ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป




 

Create Date : 29 เมษายน 2549
27 comments
Last Update : 3 พฤษภาคม 2549 1:01:57 น.
Counter : 4284 Pageviews.

 

รอมานาน ชอบเรื่องนี้มาก เพลงเพราะ
หลายคนคงไม่เข้าใจซุนนา ผมเข้าใจเธอ

 

โดย: Zantha 29 เมษายน 2549 9:03:39 น.  

 

เรื่องนี้เพลงเพราะดี

 

โดย: YuBing 29 เมษายน 2549 12:06:13 น.  

 

ชอบเพลงนะ เพราะดี
ตอนจบยังงงงง(งงๆ)อยู่
กะลังคิดอยู่ว่าจะซื้อแผ่นมาเก็บไว้ดีไม๊ อยากดูไดอาล็อกที่โดนใจ
แต่กัวไม่ได้ฟิลเหมือนในโรง

 

โดย: knin IP: 210.167.165.67 29 เมษายน 2549 12:15:34 น.  

 

เราชอบ OST ของหนังเรื่องนี้มากกว่าตัวหนังค่ะ ความหมายร้าวรานใจมากๆ

 

โดย: แพนด้ามหาภัย 29 เมษายน 2549 21:35:46 น.  

 

ว่าจะหาทางไปดูในเร็วๆนี้ครับ
พึ่งไปดูเรื่อง always มาอะ ดีมากๆเลย เป็นหนังที่ดูแล้วสนุกตลอดทั้งเรื่องเลย

 

โดย: SSM IP: 58.8.171.115 29 เมษายน 2549 23:48:13 น.  

 

กำลังคุยกับเพื่อนอยู่เลยค่ะ ว่าดูหรือไม่ดูดี แต่มาอ่านอย่างนี้แล้ว คงจะหาเวลาไปดูล่ะ เพราะว่าเราชอบหนังที่พูดถึงปรัชญาความรักมากกว่าหนังรักที่ซาบซึ้งกินใจ ชอบหนังที่มีไดอะล็อคลึกซึ้งคมคาย ชอบหนังที่ซับซ้อน และที่สำคัญที่สุด...ชอบทาเคชิ คาเนชิโร่มากๆค่ะ

ได้ดู Always แล้วค่ะ หนังน่ารักดี ให้อารมณ์เหมือนดูแฟนฉัน (แต่เป็นเวอร์ชั่นน้ำตาท่วมจอ ) เราชอบมากกว่า Be with you ล่ะ รอพี่เขียนถึงอยู่ค่ะ

ปล. Esquire ที่ว่านี่ฉบับเดือนไหนคะ (ว่าแต่มันเป็นนิตยสารอะไรน่ะ สารภาพว่าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย )

 

โดย: azzurrini 30 เมษายน 2549 0:36:36 น.  

 

ไปดูมาแล้วค่ะ ..
ก่อนอื่นขอชมก่อนนะคะ ว่าเขียนบทวิจารณ์ได้ดีเหมือนเคยเลยค่ะ ^ ^ ทำให้เข้าใจกระจ่างมากขึ้นในหลายๆจุด
ชอบนางเอกมากเลย (ส่วนพระเอกนี่ชอบอยู่แล้ว อิอิ)
รู้สึกว่าเธอแสดงได้ดีมากเลยค่ะ เข้าถึงจริงๆ เล่นแล้วทำให้บทดูลึกขึ้นมาเลย
และนอกจากนั้น ทาเคชิ กับจากเซี่ยะโหย่วก็เล่นได้ดีเหมือนกันค่ะ
ส่วนจีจินฮีที่ได้รับบทมอนตี้ ส่วนตัวแล้ว ตอนก่อนดูคิดว่าเขาน่าจะติดตา ติดความรู้สึกออกมาจากโรงมากกว่านี้ แต่เอาเข้าจริงแล้ว ก็แทบจะไม่ติดมาเลยค่ะ..
ในเรื่องเพลง คิดว่าก็มีบางเพลงที่เพราะติดหูตั้งแต่ฟังในโรงบ้างเหมือนกันค่ะ แอบฮัมๆแต่ร้องตามไม่ได้เพราะเป็นภาษาจีน .. เพลงที่ชอบสุดก็คือเพลงที่ร้องในตรอกที่มีสาวๆเยอะๆน่ะค่ะ ^ ^

 

โดย: NanaH2O IP: 58.9.27.224 30 เมษายน 2549 13:41:06 น.  

 

ตอนแรกผมกะว่าจะไปดูเรื่องนี้ครับ แต่ดันไปไม่ทันหนังเข้าไปแล้วครึ่งชัวโมง ออกแนวเซ็ง เลยเบนไปดูเรื่อง Matchpoint แทนครับ

อยากจะบอกว่า น้องหนูสการ์เล็ต ใน Matchpoint นั้น เอ็กซ์มากเลยครับ สุดยอดแห่งความ..... หนังดีเลยล่ะครับ ใช่ได้เลยล่ะ

ปล. ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ นะครับ

 

โดย: เข็มขัดสั้น 30 เมษายน 2549 21:33:44 น.  

 

เห็นด้วยอยู่หลายประเด็นกับคุณ จขบ โดยเฉพาะความไม่กลมกลืน ด้วยเหตุที่จงใจเขียนเรื่องซับซ้อนเกินเหตุ แต่ก็น่าทึ่งที่สามารถเล่าเรื่องด้วยการตัดต่อได้ไม่เลวเลยทีเดียว เพราะบทเล่ายากกว่า MOULIN ROUGE หลายเท่า จะประดักประเดิดก็ต้องการออกแบบท่าเต้น ที่ยังไม่ลื่นไหลลงตัวเท่ากับหนังฝรั่ง และดูยุ่งๆ เป็นยุงตีกันโดยเฉพาะฉากแรกๆ

ดาราทุกคนเล่นได้ดี ต้องชมผู้กำกับที่ดึงศักยภาพออกมาได้ลึกอีกขั้น โดยเฉพาะนางเอก ตอนแรกนึกรำคาญในใจว่า..สวยสู้ทาเคชิยังไม่ได้..อิอิ..แล้วยังทำหยิ่งโง่ๆ อีก ปรากฏว่าหลังๆ พัฒนาการของบทเปิดโอกาสให้เธอแสดงได้หลากหลายอารมณ์และตีบทได้ดีเสียด้วย

รู้สึกพยายามเก็บรายละเอียดจนกระทั่งหนังไม่กระชับเท่าที่ควร ถ้าสั้นกว่านี้หน่อยก็คงดี เอาบางเพลงออกซะบ้าง ก็น่าจะดึงความประทับใจไว้ได้มากกว่า อารมณ์คนดูถูกดึงยืดออกไปจนล้า.. ยังดีที่การถ่ายทำ จัดแสง และโปรดักชั่นดีไซน์ทำได้ดีและน่าทึ่งทีเดียว นึกถึงหนังไทย ยังจะมีผู้กำกับระดับนี้หลงเหลืออยู่ไหมหนอ

เพลงก็เพราะใช้ได้เลยนะ แต่เห็นด้วยอีกเช่นกันว่าขาด THEME SONG ที่ติดหู แค่เอาเมโลดี้เด็ดๆมา REPEAT ก็ได้ผลแล้ว เพลงเยอะกลับทำให้จำไม่ได้เลยสักช่วง ที่น่าชมเชยคือทุกคนดูทำหน้าที่นักร้องได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะเสียงร้องอันทรงพลังของผู้กำกับ

ส่วนบทสัญลักษณ์ของจีจีนฮี ดูคล้ายๆ กับอันโตนิโอ บันเดอรัสใน EVITA คือเป็นผู้เล่าเรื่องกลายๆ แต่ที่ชอบกว่าคือเขาเขียนให้ประหนึ่งเป็นตัวแทนจิตใต้สำนึกของตัวแสดงแต่ละคนไปในตัว โดยใช้ตัวแสดงเพียงคนเดียว ซึ่งก็ทำได้ไม่สับสน และคนดูยังเข้าใจ

อ่านสัมภาษณ์ปีเตอร์ ชาน เหมือนกับว่าเขาไม่ชอบทำหนังเพลงเท่าไร ตั้งใจจะทำให้เป็นหนังรัก แต่สเกลหนังจีนยุคนี้ ทำเล็กๆ ไม่ได้แล้ว ก็เลยต้องสร้างให้มันอลังการไว้ด้วยเหตุผลทางการตลาด นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งกระมัง ที่ทำให้หนังดูขาดจิตวิญญาณของ MUSICAL อยู่ ถ้าผู้กำกับรักหนังเพลงอย่างจริงจัง ก็น่าจะทำให้รู้สึกถึงความกลมกลืนและชีวิตชีวาได้มากกว่านี้

 

โดย: Bkkbear (Bkkbear ) 2 พฤษภาคม 2549 10:50:06 น.  

 

ชอบเรื่องนี้ครับเป็นหนังรักเรื่องนึงที่สนุกมากเลย ต้องขอชมคนเขียนบทครับเขียนเก่งมาก นางเอกก็น่ารัก หุหุ รวมๆแล้ว ผมให้10เต็ม0เลยครับ

 

โดย: Pistone IP: 124.120.63.213 2 พฤษภาคม 2549 21:02:17 น.  

 

ผมชอบประโยคในหนังเรื่องนี้เหมือนกันครับ.. โดยเฉพาะประโยคที่เปรียบชีวิตคนกับภาพยนตร์..

นางเอกน่ารักมากมาย.. กิกิ

ชอบเสียงจางเซียะโหย่วมากครับ ทรงพลัง...

เพลงเพราะด้วย

 

โดย: nanoguy IP: 203.172.108.150 2 พฤษภาคม 2549 23:49:25 น.  

 

เนี้ยว~

เป็นหนังที่สื่ออารมณ์ของมันจริงๆ = =
ดูแรกๆก็ไม่ค่อยจะเข้าใจซะทีเดียวว่าพระเอกแดจังกึม(ชื่อไรนะจำไม่ได้อ่ะ อีฮุนจี???)มาเค้ามาทำไมเพราะให้หนังก็แค่แวปๆความจริงดูเหมือนจะไม่มีบทบาทซะเลยด้วยซ้ำ ตกลงเค้าเหมือนคนตัดต่อบทบาทของคนที่ขาดหาย (ซึ่งถ้าดูในหนัง ก็เหมือนคนนำร้องเพลงมากกว่า) ตอนฉากตอนที่นอนกลางหิมะมากคือเหมือนมันหมดแล้วชีวิตนี้ชั้นคงหมดแล้ว ซึ้งกินใจคะ สรุปแล้วหนังเรื่องนี้ตอนแรกที่ตั้งใจไปดูกะดูพี่ทาเคชือย่างเดียวเลยนะเนี่ย แต่หลังดูจบ เรากลับได้อะไรที่เราไม่คาดคิดว่าจะได้จากหนังเรื่องนี้

ปล.เพลงเพราะมากเลยนะคะ ชอบจังเลย
พี่ทาเคชิน่ารักกกกกก ยิ่งตอนใส่แว่นน่ะใจจะละลาย

 

โดย: Conch 3 พฤษภาคม 2549 8:20:29 น.  

 

azzurrini ... always ว่าจะเขียนแต่ท่าทางเวลาไม่มีซะแล้ว งานยุ่งจังช่วงนี้

Bkkbear ... เพิ่งรู้เลยนะครับเนี่ยว่าปีเตอร์ ชานไม่ชอบทำหนังเพลง

ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็นที่มาคุยกัน และ ขอบคุณล่วงหน้ากับทุกความเห็นที่กำลังจะตามมาครับ

 

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 3 พฤษภาคม 2549 13:10:23 น.  

 

มาอ่านรีวิวค่ะ

เป็นหนึ่งในไม่กี่รีวิวที่อ่านได้ทันทีที่คลิกมาเจอครั้งแรก (เพราะคุณมักดูหนังก่อนเราอยู่เรื่อยอะค่ะ )


ยังไม่ได้ดู Always เลย หวังว่าปลายเดือนจะยังอยู่

เจ้าของบล็อกดู แมทช์พอยท์หรือยังคะ?

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 3 พฤษภาคม 2549 20:28:11 น.  

 

อิๆ ... มาน้อมรับคำขอบคุณจากคุณ จขบ. ผมก็ดูมาตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว เพิ่งจะมีเวลาว่างมาอ่านและมาจ่ายค่าอ่านเนี่ยแหละฮับ ...
+ เห็นด้วยกับหลายๆ ความเห็นบนๆ ... ทั้งเรื่องความเจ๋งที่ทำเป็นหนังเพลงซ้อนละครเพลง (แต่พอเรียบเรียงแล้ว ดูงงๆ เบลอๆ หน่อยๆ) ... เพลงเพราะดี แต่เพลงที่หลอนติดหู(ผม) คงเป็นเพลงในตรอกที่คุณ nonoH2O (#7) ว่าไว้แหละครับ
+ Casting เด่นมาก ... เฮียจางเซียะโหย่ว ไม่เสียลายจตุรเทพ เสียงร้องพี่แกทรงพลังสุดๆ ... ส่วนทาเคชิและซุนโจวก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้เยี่ยมทีเดียว ... สำหรับพระเอกแดจังกึมที่คุณ conch (#12) ว่าไว้ ถ้าจำไม่ผิดเค้าชื่อ จีจินฮี นะครับ (ที่คุณเขียนมาตอนแรกผมอ่านเป็น อีอุนจิ!?! 555)
+ ชอบตรงความแปลกใหม่ในการนำเสนอ ก่อนเข้าไปดูยังไม่คิดว่าหนังจีนจะทำออกมาเป็นหนังเพลงได้ ... แล้วก็ทำได้ดีเข้าขั้นเสียด้วย ... ถึงแม้จะไม่ถึงกับ 'เลิศ' แต่ก็ถือว่าเจ๋งแหละครับ

 

โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 3 พฤษภาคม 2549 21:53:57 น.  

 

มีหลายข้อเลยค่ะที่คิดตรงกัน วิจารณ์ได้ละเอียดดีค่ะ ไว้จะเข้ามาอ่านบ่อยๆ นะ
ปล. ถือว่าได้ชำระค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าด้วย 1 คอมเมนต์แล้วนะคะ

 

โดย: บังเอิญผ่านมา IP: 124.120.114.197 3 พฤษภาคม 2549 22:02:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ
คุณผมอยู่ข้างหลังคุณเขียนได้ลึกซึ้งกินใจมากๆๆเลยค่ะ อ่านแล้วใจสั่น!!!!
หมายถึงมันโดนใจ มากๆเลย
"บางครั้งเราก็เป็นเหมือนซุนนา เรารู้สึกว่าอดีตมันทรมานใจ จนอยากลืมมันไป เราลืมไปว่า อดีตมันผ่านไปแล้ว อดีตไม่สามารถทำร้ายใจเรา สิ่งที่ทำร้ายใจเราไม่ใช่อดีต แต่เป็น ความรู้สึกที่มันตามติดมาปัจจุบัน" และอื่นๆๆๆอีกมากมาย ที่คุณผมอยู่ข้างหลังคุณเขียนได้ซึ้งขาดบาดใจ

จากเรื่อง
-ชอบไดอะล๊อกของเพลง เนื้อหาดีแฝงมุมของความรักได้แยบยลคมคายยิ่งนัก
-ชอบบทความรู้สึกรักของตัวละครทุกตัวช่างมีมิติ เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย สมจริงเพราะชีวิตจริงหลายๆคน ที่มีรักก็มีความรู้สึกได้หลากหลายเช่นนี้ในตัวเองได้
-นักแสดงที่เล่นได้ดีสำหรับตัวเองคือ นางเอก และจางเซี่ยะโหย่ว
โดยรวมๆก็ถือว่าดีนะคะ ดูแล้วได้อะไร(เช่น แนวคิดปรัชญารัก เห็นความรักที่ประสบมา เห็นความรักแบบตัวเองเป็นชัดขึ้น) ออกมามากกว่าแค่ความบันเทิงค่ะ

 

โดย: Perhaps like IP: 58.9.160.135 4 พฤษภาคม 2549 22:54:33 น.  

 

เพิ่งเข้ามาครั้งแรกค่ะ แต่ท่าจะต้องขอเป็นขาประจำอีกสักคนแล้ว
ส่วนหนังเพิ่งไปดูมาวันนี้ค่ะ ที่ลิโด้ ชอบมากๆ บีบคั้นจิตใจดีจริงๆ...
เอ แต่ยังไงก็อยากให้เขียนถึงAlwaysจังเลยค่ะ อยากอ่านความคิดของคุณอีกจัง...
ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวดีดีให้อ่านกันนะคะ

 

โดย: redstar IP: 58.64.120.104 4 พฤษภาคม 2549 23:26:42 น.  

 

ลป.ลืมไปค่ะ ขอถามนิด เพลงที่เปิดอยู่นี่ชื่ออะไรคะ...แหะแหะ

 

โดย: redstar IP: 58.64.120.104 5 พฤษภาคม 2549 0:02:44 น.  

 

กำลังวางแผนจะไปดูหนังเรื่องนี้ พออ่านดูแล้วยิ่งต้องไปดูให้ได้ค่ะ อิอิ

 

โดย: หมูหวาน IP: 124.121.106.124 5 พฤษภาคม 2549 8:57:02 น.  

 

สาวไกด์ใจซื่อ ... ดูไปเรียบร้อยแล้วครับ ชอบบทภาพยนตร์และนักแสดงในเรื่อง แสบสันต์ดีแท้ ว่าจะเขียนถึงเหมือนกันครับถ้ายังมีเวลาพอ (ติดค้าง Always ไว้อีกเรื่องนึงแล้วด้วยนะนี่)

redstar ... ต้องขอโทษด้วยครับที่ผมไม่รู้ชื่อเพลง เพราะมันเป็นภาษาจีนหงะ แต่เป็นหนึ่งใน OST. ของหนังเรื่องนี้ครับ

ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็นที่เข้ามาพูดคุย+แสดงความเห็นกัน / ยินดีต้อนรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านครั้งแรกนะครับ แล้วแวะเวียนกันมาเยี่ยมได้เรื่อยๆนะครับ + ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับความเห็นที่จะตามมาครับ

 

โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" 6 พฤษภาคม 2549 11:39:27 น.  

 

ชอบคำพูดของตัวละครในเรื่อง~ ~


ดูลึกซึ้ง แฝงปม แล้วก็มีความหมายมากมายยย

สรุป ก้อ ชอบคับ เรื่องนี้

 

โดย: จั่น* IP: 58.8.72.4 23 พฤษภาคม 2549 0:43:26 น.  

 

คอมเมนต์ได้ดีครับ

 

โดย: Pach IP: 124.121.95.167 24 กรกฎาคม 2549 1:10:27 น.  

 

เป็นหนังที่ลึกซึ้งมาก

 

โดย: หนูนา IP: 125.24.158.179 7 กันยายน 2549 12:05:21 น.  

 

เพลงเพราะมากเลย เนื้อเรื่องก็สนุกค่ะ ชอบมากๆๆเลยอ่ะ

 

โดย: กล้วย........ IP: 61.19.231.4 2 พฤศจิกายน 2549 9:29:10 น.  

 

เพิ่งดูหนังจบแล้วมาอ่านวิจารณ์หุ....หุ....ค่อยเข้าใจมากขึ้นหน่อย ขอบคุณนะคะ

 

โดย: ตะวันรอนตอนเช้า IP: 124.157.218.121 10 ธันวาคม 2549 16:08:11 น.  

 

ได้ดูเวอร์ชั่นภาษาจีนค่ะ เบื่อช่วงที่ร้องเพลง เพราะเนื้อเพลงท่อนเดียว ร้องหลายฉากมากกกก
หนังตัดไปตัดมา ช่วงแรกเหมือนจะงง แต่เดาเรื่องได้ตลอด รวมๆแล้ว ชอบเพลงค่ะ ถ้าจะร้องกันน้อยครั้งกว่านี้

 

โดย: เยาวณีย์ 20 เมษายน 2552 16:51:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
เมษายน 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
29 เมษายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.