อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนประเทศไทยเรา...ขอโทษด้วยนะคะที่เจ้าบ้านไม่ค่อยได้อัพเดทเลย อย่าเพิ่งโกรธกันนะคะ ไม่มีเน็ตเล่นหง่า... :( “Just being alive is such a lovely and wonderful thing”. - Aya (1 litre of tears)

Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
25 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
กดจุดฝ่าเท้ารักษาโรค 2




การกระตุ้นฝ่าเท้าบรรเทาโรค


การกระตุ้นฝ่าเท้าเป็นวิธีการรักษาโรคอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่

หลายทั่วโลก ทำได้โดยการใช้นิ้วมือ หรือเครื่องมืออื่นๆกด นวด กระตุ้นฝ่า

เท้า รวมทั้งหลังเท้าและข้อเท้า ตามตำแหน่งพื้นที่สะท้อนของอวัยวะนั้นๆ

เพื่อปรับการทำงานของอวัยวะนั้น ให้กลับสู่สภาพสมดุลตามปกติ การรักษา

โรควิธีนี้เกิดขึ้นจากการอาศัยหลักทฤษฎีวิชา Reflexology ที่ว่าอวัยวะต่างๆ

ในร่างกายมีการติดต่อมายังเท้าแสดงออกที่พื้นที่สะท้อน เมื่อกระตุ้นพื้นที่

สะท้อนนั้นจะสามารถกระตุ้นการทำงานของอวัยวะนั้นๆได้



Smiley โรคต่างๆกับการกระตุ้นฝ่าเท้าเพื่อสุขภาพ Smiley




โรคภัยไข้เจ็บและความผิดปกติที่เกิดขึ้นมีมากมาย อาการเจ็บป่วยนั้นๆ

สามารถบรรเทาหรือป้องกันได้ด้วยวิธีการกดกระตุ้นฝ่าเท้าควบคู่ไปกับวิธี

การรักษาทางการแพทย์ ต่อไปนี้เป็นส่วนหนึ่งของโรคต่างๆและความผิด

ปกติของร่างกายที่พบเห็นได้บ่อย และการรักษาอาการโดยสังเขป




Smiley ปวดศีรษะ Smiley







อาการปวดศีรษะที่พบบ่อยที่สุดมีสาเหตุมาจากความเครียดกังวล การรักษา

ทำได้โดยการกดกกระตุ้นพื้นที่สะท้อนบริเวณส่วนศีรษะซึ่งกระจายอยู่ตาม

นิ้วเท้า ก่อนอื่นให้กดกระตุ้นบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าให้ทั่ว แล้วเน้นนวดบริเวณ

เนื้อนูนด้านในของโคนนิ้วหัวแม่เท้าให้มากๆ จากนั้นจึงกดกระตุ้นพื้นที่

สะท้อนของส่วนคอ กระดูกสันหลังคอ และต่อมน้ำเหลืองส่วนบน





Smiley ปวดเมื่อยไหล่และคอ Smiley







อาการปวดเมื่อยบริเวณไหล่และต้นคอส่วนใหญ่เกิดจาก

การหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นมากเกินไป การบีบนวดเพียงอย่างเดียว

อาจไม่หายง่ายๆ ควรลองรักษาด้วยการกระตุ้นฝ่าเท้าบริเวณพื้นที่สะท้อน

ของส่วนศีรษะ คอ กระดูกสันหลังคอ ข้อต่อไหล่ ต่อมน้ำเหลืองส่วนบนและ

มือทั้งสองข้าง เช่น ปวดเมื่อยส่วนไหล่ให้กระตุ้นพื้นที่สะท้อนของกระดูกข้อ

ต่อไหล่ ปวดเมื่อยส่วนคอให้กระตุ้นพื้นที่สะท้อนของส่วนคอและกระดูก

สันหลังคอ เป็นต้น





Smiley ปวดเส้นประสาทกระเบนเหน็บ Smiley




อาการปวดร้าวจากบริเวณบั้นเอวกระเบนเหน็บ หรือก้นกบ

ลงไปตามด้านหลังของต้นขา ด้านนอกของขา ไปถึงปลายเท้า รักษาได้โดย

การกระตุ้นพื้นที่สะท้อนของกระดูกสันหลังเอว กระดูกก้นกบ กระดูก

เชิงกราน และเส้นประสาทช่องท้อง นอกจากนี้หากบริเวณใดของฝ่าเท้าที่กด

แล้วรู้สึกเจ็บมาก ให้กดกระตุ้นบริเวณนั้นมากเป็นพิเศษ





Smiley เมื่อยบริเวณดวงตา Smiley







คนที่ต้องใช้สายตามาก เช่น งานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ผู้นั้นมักมีอาการเมื่อยที่ดวงตา การรักษานอกจากจะเริ่มกระตุ้นที่พื้นที่

สะท้อนของตาแล้ว ยังต้องกระตุ้นพื้นที่สะท้อนของตับ เนื่องจากตามีความ

สัมพันธ์กับตับอย่างใกล้ชิด และเพื่อแก้ไขอาการข้างเคียงอันเนื่องมาจาก

การเมื่อยที่ดวงตา คือ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยไหล่ จึงต้องกระตุ้นพื้นที่สะท้อน

ของศีรษะ คอ และกระดูกสันหลังคอด้วย เพื่อให้ได้ผลดียิ่งขึ้น ขณะรักษา

ต้องบีบนวดดวงตาและขมับด้วยการใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางกดลงระหว่างกลาง

ของตาและคิ้วเบาๆ หลังจากนั้นให้บีบนวดขมับทั้ง 2 ข้าง จะสามารถขจัด

ความเมื่อยเพลียของตา และส่วนคอได้





Smiley เวียนศีรษะ Smiley







อาการเวียนศีรษะมีสาเหตุมากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง

ความดันโลหิตต่ำ โลหิต จาง สายตาสั้น เมื่อยตา การรักษาทำได้โดยการ

บีบนวดนิ้วหัวแม่เท้าหัวแม่เท้าให้ทั่ว หลังจากนั้นก็กระตุ้นพื้นที่สะท้อน

ของกระดูกสันหลังคอ ไต ตา หลอดลมระหว่างคอกับหู กระตุ้นโดยการบีบ

นวดแต่พอเหมาะ ไม่แรงไม่เบาจนเกินไป แต่ต้องปฏิบัติทุกวันจึงจะเกิดผล





Smiley นอนไม่หลับ Smiley







การนอนไม่หลับมักเกิดจากความเครียดทางจิตใจ

การรักษาให้กดกระตุ้นพื้นที่สะท้อนของเส้นประสาทช่องท้อง ซึ่งช่วยให้ร่าง

กายผ่อนคลาย จิตใจไม่ตึงเครียด ช่วยให้นอนหลับได้ง่าย หากมีอาการข้าง

เคียงของการนอนไม่หลับ เช่น ปวดเมื่อยส่วนไหล่ ให้กระตุ้นพื้นที่สะท้อน

ส่วนคอ กระดูกสันหลังคอ และกระดูกข้อไหล่ ก่อนรักษาโดยการกระตุ้น

พื้นที่สะท้อนดังกล่าว ควรแช่เท้าในน้ำอุ่น อุณหภูมิประมาณ 39-40 องศา

เซลเซียส ก่อนสัก 10 นาที แต่อย่ามากเกินกว่านั้นเพราะกลับจะทำให้นอน

หลับไม่ได้





Smiley โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน Smiley




การกดกระตุ้นฝ่าเท้า ช่วยทำให้การทำงานของหัวใจมี

สมรรถภาพเพิ่มขึ้น เพราะช่วยทำให้หลอดเลือดหัวใจคลายจากการหดเกร็ง

ช่วยทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเป็นปกติ โดยการกดกระตุ้นพื้นที่สะท้อน

ของหัวใจ เนื้อเยื่อรอบหัวใจ ไหล่ และกระดูกอก การกระตุ้นนั้นต้องปฏิบัติ

ทุกวัน แต่ข้อควรระวังคือ ห้ามกดกระตุ้นพื้นที่สะท้อนของหัวใจและกระดูกอก

แรงมากเกินไป เพราะจะเป็นอันตรายต่อหัวใจได้





Smiley โรคเบาหวาน Smiley







ผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถใช้การกดกระตุ้นฝ่าเท้าร่วมรักษาได้

โดยการกกดกระตุ้นพื้นที่สะท้อนของตับอ่อน ต่อมหมวกไต และเส้น

ประสาทช่องท้องที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้างเป็นประจำ การกระตุ้นนี้จะช่วยให้ตับ

อ่อนหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้นช่วยปรับระดับน้ำตาลให้เข้าสู่สภาพปกติด้วย

เช่นกัน





Smiley โรคความดันโลหิตสูง Smiley







การกดกระตุ้นฝ่าเท้าสมารถใช้เป็นวิธีการรักษาโรคร่วมกับ

วิธีทางการแพทย์ได้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อลดการใช้ยาให้น้อยลง ผู้ที่เป็นโรค

ความดันโลหิตสูงให้กระตุ้นพื้นที่สะท้อนของศีรษะ คอ หัวใจ ไต และเส้น

ประสาทช่องท้องเป็นสำคัญครั้งละ 20 นาที เป็นประจำทุกวัน ขณะปฏิบัติให้

นวดปลายนิ้วมือและนิ้วเท้าทั้งหมดด้วย





Smiley โรคความดันโลหิตต่ำ Smiley




ในเบื้องต้นให้ตรวจสอบดูพื้นที่สะท้อนของศีรษะ คอ หัวใจ

อวัยวะสืบพันธุ์ด้วยการกดดูว่าบริเวณใด เมื่อกดแล้วรู้สึกปวดก็ให้ยึดเอา

พื้นที่สะท้อนนั้นเป็นศูนย์กลางของการกระตุ้น หลังจากนั้นให้กระตุ้นประสาท

ส่วนช่องท้อง ต่อมน้ำเหลืองส่วนบน ต่อมไข่ดัน ที่สำคัญคือต้องปฏิบัติทุกวัน





Smiley โรคกระเพาะอาหารและลำไส้ Smiley







การรักษาจะได้ผลดีเป็นพิเศษหากรักษาโดยการกระตุ้น

ฝ่าเท้าส่วนที่เป็นพื้นที่สะท้อนไปยังกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กท่อนบน

ส่วนพื้นที่สะท้อนที่เกี่ยวโยงถึงกันคือหลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่ตามขวาง

ส่วนล่าง ส่วนบนของลำไส้ใหญ่ ส่วนล่างของลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ถุงน้ำดี

ฯลฯ ให้ลองกดดู หากกดแล้วรู้สึกปวดหรือมีก้อนแข็งให้การกระตุ้นโดยใช้

เวลา 20 นาทีเป็นมาตรฐาน หากกระตุ้นแล้วอาการปวดของพื้นที่สะท้อนไม่

ลดลง ก็ควรต้องยืดเวลาออกไปอีก





Smiley ร่างกายอ่อนแอ Smiley







ให้กระตุ้นพื้นที่สะท้อนของกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก

โดยบีบนวดทุกวันวันละกี่ครั้งก็ได้ แต่ยิ่งหลายครั้งยิ่งดี เพราะเมื่อ

สมรรถภาพของกระเพาะอาหารและลำไส้เป็นปกติ ร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้น





Smiley เพิ่มความจำ Smiley







คนเราเมื่อเลยวัยกลางคนไปแล้ว สมรรถภาพด้านความจำ

มักเสื่อมถอย การรักษาควรกระตุ้นพื้นที่สะท้อนส่วนสมองใหญ่ของศีรษะ

กระดูกสันหลังคอ และคอ เพี่อป้องกันการแข็งตัวของเส้นโลหิตแดงของ

สมอง ขณะเดียวกันก็ช่วยเร่งการไหลเวียนของโลหิตทำให้เซลล์สมองทำ

งานได้ดีขึ้น





Smiley คืนความเป็นหนุ่ม Smiley




ให้กระตุ้นพื้นที่สะท้อนของอวัยวะสืบพันธุ์ ไต ต่อมหมวกไต

ต่อมที่อยู่ใต้สมอง ประส่วนท้อง จากนั้นก็ให้สังเกตทั่วทั้งฝ่าเท้า หากพบว่า

จุดใดมีก้อนแข็งเมื่อบีบนวดแล้วรู้สึกปวดให้บีบนวดจุดนั้นเต็มที่ สุดท้ายให้

ค่อยๆหมุนตาตุ่มด้วยเหตุว่าการกระตุ้นชีพจรบนตาตุ่มจะมีผลในการคืนสภาพ

ความเป็นหนุ่ม การกระตุ้นนั้นอาจจะไม่ได้ผลในทันที จำต้องปฏิบัติทุกๆวัน

ด้วยความอดทน







Smiley จะวินิจฉัยโรคจากการกดจุดได้อย่างไร ? Smiley



เราสามารถวินิจฉัยได้ว่าเรามีความเสี่ยงต่อโรคใดได้จากอาการที่เกิดขึ้นหลังจากกดจุดสะท้อนบริเวณต่างๆ ดังนี้

1. เมื่อกดแล้วมีก้อน เม็ดหรือคลื่น ณ ตำแหน่งของอวัยวะนั้น แสดงว่าตรงจุด

นั้นมีปัญหาไม่แข็งแรงยกตัวอย่างเช่น กดที่ลำไส้ใหญ่ มีก้อน อาจเป็นคน

ท้องผูกบ่อยๆ


2. ดูตำแหน่งของจุดสะท้อนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน หรือให้สังเกตจากสรีระ

ของร่างกาย ประกอบการวินิจฉัยโรคได้ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน สีผิวของ

เขามักเป็นผื่นแดงคล้ำๆ


3. จุดใดที่กดแล้วรู้สึกเจ็บมากผิดปกติแสดงว่าอวัยวะส่วนนั้นไม่แข็งแรง

หรือมีความผิดปกติ



Smiley ข้อควรระวังในการกดจุด Smiley



1. สตรีมีครรภ์ ห้ามกดจุดเด็ดขาด และสตรีที่มีประจำเดือนก็ควรหลีกเลี่ยง

การกดจุด เพราะจะทำให้มีประจำเดือนมากขึ้น


2. หลังจากกดจุดฝ่าเท้าแล้ว ควรดื่มน้ำอุ่นปริมาณ 250-500 ซีซี เพราะร่าง
กาย

เมื่อมีการกดจุดสะท้อน จะทำให้กรดแลคติค (ตัวที่ทำให้ปวดกล้ามเนื้อ) ถูกขับ

ออกมาทางผิวหนัง น้ำจะเป็นตัวช่ยในการขับกรดแลคติคนั้นออกไป


3. การกดจุดฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง ควรจะใช้เวลาไม่เกิน 45 นาที เพราะถ้ากด

มากเกินไป กล้ามเนื้อเท้าจะฟกช้ำและสามารถทำได้ทุกวัน โดยเฉพาะอย่าง

ยิ่งผู้ที่มีอาการป่วยมาก เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต


4. หลังจากรับประทานอาหารอิ่มแล้วภายใน 1 ชม. เราไม่ควรกดจุดฝ่าเท้า

เป็นอันขาด


5. หลังการกดจุด ผู้ถูกกดจุด ห้ามล้างมือ ล้างเท้า อาบน้ำภายใน 1 ชม.

เพราะจะทำให้ลมปราณภายในร่างกายเดินช้าลงอันมีผลมาจากความเย็น

ภายนอกมากระทบ


6. ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกส้มเขียวหวาน หน่อไม้เพราะ

จะทำให้ปวดมากเวลากดจุด




Smiley อาการโรคที่ไม่ควรกดจุด
Smiley



1. โรคติดเชื้อทุกชนิด เช่น เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เพราะไม่

สามารถทำให้หายได้ต้องรักษาทางยาแผนปัจจุบันหรือยาสมุนไพร

2. โรคเกี่ยวกับยาเสพติด และผู้ที่ดื่มยาพิษ ยานอนหลับเกินขนาด

3. ผู้ที่ถูกสัตว์มีพิษกัด เช่น งูพิษ แมงกะพรุนไฟ

4. ผู้ได้รับอุบัติเหตุ เช่น กระดูกหัก เอ็นขาด

5. แผลที่เกิดจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

6. ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดอวัยวะภายในมาใหม่ๆ ต้องรอให้แผลภายในหายสนิท

เสียก่อน

7. ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลียมากๆ และยังไม่ได้ทานอาหารเลย

8. คนที่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หรืออักเสบตามอวัยวะต่างๆ ที่มีเลือด

ออกและผู้ที่มีไข้สูงมากๆ







...นอกจากการกดจุดฝ่าเท้าเพื่อบรรเทาและรักษาอาการโรคต่างๆ แล้ว

อาจารย์สมบูรณ์ยังแนะนำอีกด้วยว่า


*ถ้ามีโอกาสเราควรเดินเท้าเปล่าบนพื้นดินบ้าง วันละ 2 - 5 นาที จะทำให้

เรามีสุขภาพดีกว่าการใส่รองเท้าตลอดเวลา แล้วก็ไม่ควรเดินบนพื้นเย็นๆ


*เวลาอาบน้ำให้ล้างเท้าก่อน ป้องกันอาการภูมิแพ้ซึ่งเป็นโรคที่คนเมืองหลวง

เป็นกันจำนวนมาก ถ้าล้างหน้าก่อนความเย็นจะวิ่งกระทบ เลือดจะวิ่งไปข้าง

บน อีกอย่างไม่ควรปล่อยให้เท้าเย็น ต้องอุ่นอยู่เสมอ ถ้าเท้าเย็นบ่งบอกว่า

ร่างกายบกพร่อง เพราะประสาททุกเส้นต้องวิ่งผ่านสถานีเท้า ถ้าเท้าเย็น

เลือดจะวิ่งผ่านไม่ได้


*ถ้าเท้ามีรอยด้านหรือตาปลา สะท้อนว่าร่างกายคุณบกพร่อง ควรดูแลไม่ให้

เกิดรอยพวกนี้ อีกอย่างไม่ควรใส่รองเท้าแน่นเกินไป จะทำให้ระบบหายใจ

ไม่ดี ไหล่ห่อ และรองเท้าสั้นสูงไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะรองเท้าไปกดทับส่วน

ประสาทของสมอง คอ กล้ามเนื้อไหล่ รังไข่ และมดลูก คนที่ใส่ส้นสูงประจำ

จะเกิดอาการกล้ามเนื้อตึง ปวดขาตรงเอ็นร้อยหวายจนถึงตะโพก และอาจมี

ปัญหารอบเดือน ปวดท้องประจำเดือน


คำพูดของอาจารย์ที่บอกว่า "พนักงานบางคนใส่ถุงน่อง ถุงเท้า แต่ทำไมส้น

เท้าแตก เพราะเขานั่งนานเกินไป ทำให้ระบบประสาทของเอวและก้นกบมี

ปัญหา สะท้อนมาที่ส้นเท้า หรือคุณเมื่อยคอ ตำแหน่งที่กดจะเจ็บ บางครั้ง

การหิ้วกระเป๋าก็มีส่วนทำให้ปวดเมื่อย" ช่างโดนใจจริงๆ ค่ะ เพราะว่าเป็น

ปัญหาที่พบบ่อยครั้งมาก ซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยง

การใส่ส้นสูง การนั่งนานๆ แบบไม่เปลี่ยนอิริยาบท แล้วก็การสะพายกระเป๋า

หนักๆ ด้วยค่ะ








อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงจะเริ่มอยากดูแลเอาใจใส่สุขภาพเท้ากันให้มากขึ้น

แล้วใช่มั้ยล่ะคะ วิธีการดูแลเท้าแบบง่ายๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตนเองที่บ้าน

มีดังนี้ค่ะ





Smiley 12 เคล็ดลับการดูแลเท้า Smiley




1. หลังจากสวมรองเท้าเดินไปเดินมาทั้งวัน ควรแช่เท้าในน้ำสบู่อุ่นๆ สูง

ประมาณครึ่งน่อง ประมาณ 10 นาที ใช้มือถูและนวดเท้าเบาๆ เพื่อกระตุ้น

โลหิตให้หมุนเวียนได้ทั่วถึงทุกนิ้วเท้า เท้าจะได้ผ่อนคลาย รวมทั้งอาจใช้

แปรงขัดเท้าและ foot scrub ร่วมด้วยได้ เพื่อขัดคราบไคลและทำให้ผิวหนัง

ที่แข็งกร้านนุ่มขึ้น แต่อย่าขัดถูหรือแช่น้ำเป็นเวลานานจนเกินไป เพราะจะทำ

ให้ผิวหนังแห้ง


2. ควรเช็ดเท้าให้แห้งหลังจากอาบน้ำหรือล้างเท้า โดยเฉพาะบริเวณ

ซอกนิ้วต้องให้แห้งจริงๆ จากนั้น ทาครีมบำรุงบริเวณเท้าเพื่อเพิ่มความชุ่ม

ชื้นแก่ผิวหนังและรอยต่อของเล็บ แต่ ห้ามทาครีมบริเวณซอกนิ้ว (จำไว้ว่า

ซอกนิ้วต้องให้แห้งเสมอ)


3. ดูแลเท้าไม่ให้มีรอยฟกช้ำหรือบาดแผล ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการ

เลือกรองเท้าที่ไม่เหมาะกับเท้า


4. วิธีป้องกันเล็บขบ ต้องตัดเล็บโดยตัดตรงไม่ตัดตามความโค้ง

ของนิ้วและไม่ควรตัดเล็บให้สั้นเกินไป และตะไบเล็บทุกครั้งหลังตัดเล็บ


5. ถ้านิ้วเท้ามีอาการบวมขึ้น แข็งขึ้นหรือรู้สึกคันบริเวณนิ้วเท้า นั่นอาจ

เป็นอาการของการติดเชื้อราบนผิวหนัง ควรไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆ


6. สำหรับผู้ที่ทาเล็บ ก่อนทาเล็บให้ล้างเล็บด้วยน้ำยาล้างเล็บก่อน


7. อย่าละเลยหากมาอาการปวดที่เท้าเนื่องจากโรคบางอย่างสามารถ

ป้องกันและรักษาได้หากปล่อยทิ้งไว้อาจจะทำให้เกิดความผิดปกติตามมา

ภายหลัง


8. ให้ตรวจเท้าเป็นประจำโดยสังเกตุสีผิว อุณหภูมิของเท้า


9. เลือกรองเท้าให้เหมาะกับชนิดกีฬาที่จะเล่น และเลือกขนาดที่พอดี

กับเท้า (ควรเลือกซื้อรองเท้าตอนกลางวัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่เท้าขยายตัว

เต็มที่) และควรหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าส้นสูงๆ หากไม่จำเป็น


10. หากไปเที่ยวชายทะเลต้องทาครีมกันแดดที่หลังเท้าด้วย


11. เดินเท้าเปล่าบนดิน พื้นหญ้า หรือแม้แต่หาดทรายบ้าง ซึ่งจะช่วย

กระตุ้นให้ร่างกายเกิดความกระปรี้ประเปร่าและสดชื่น


12. ออกกำลังกาย ด้วยการพยายามพยุงอุ้งเท้า ยืนเท้าสะเอว วางเท้า

ห่างกันประมาณ 4 นิ้ว งอนิ้วเท้าเข้าด้านใน ทิ้งน้ำหนักของร่างกายลงด้าน

หน้าของเท้า งอเข้าเล็กน้อย แล้วกลับเดินเข้าท่าปกติ



...เห็นมั้ยคะว่า "เท้า" มีความสำคัญกับเรามากเพียงใด นอกจากจะรับบท

หนัก พยุงร่างกายเราไปยังสถานที่ต่างๆ และแบกรับน้ำหนักเวลาทำกิจกรรม

ต่างๆ แล้ว เท้าก็ยังเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทต่างๆ ซึ่งส่งผลให้อวัยวะ

ต่างๆ ในร่างกายนั้นทำงานได้อย่างดีและเป็นปกติอีกด้วย หากเท้าของคุณ

เริ่มส่งสัญญาณบ่งบอกอาการไม่สะดวกสบายล่ะก็ อย่านิ่งนอนเฉยนะคะ

อย่าปล่อยให้เท้าทำงานหนักมากเกินไป แต่ควรให้การดูแลเอาใจใส่ และ

ทะนุถนอมเท้าอย่างเร่งด่วน ตามวิธีการที่แอ้บอกข้างต้นนะ อ้อ..ที่สำคัญ

อาจจะทดลองกดจุดสะท้อนเท้า โดยค่อยๆ เริ่มนวดเท้าทีละนิดๆ วันเว้นวัน

จนกระทั่ง สามารถกดรักษาทุกจุดได้ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้

เราก็จะมีสุขภาพเท้าที่ดี และเมื่อเท้าได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว สุขภาพร่าง

กายและจิตใจของเราก็จะดีตามไปด้วย โดยไม่ต้องไปพึ่งยารักษาโรคที่ไหน

เลยล่ะค่ะ...




ขอบคุณที่มา :

*//www.biomed-healthcare.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=415176

*สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา
Create Date : 25 เมษายน 2551
Last Update : 29 เมษายน 2551 20:07:37 น. 22 comments
Counter : 10792 Pageviews.

 
ดี..มั่ก..มาก..!


โดย: bamboo. IP: 202.28.78.20 วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:12:50:56 น.  

 
อยากได้ความรู้เกี่ยวกับการกดจุดด้วยไม้และรูปเท้ารูปใหญ่ๆที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ


โดย: อิสราภรณ์ IP: 117.47.27.110 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:14:12:44 น.  

 
อยากได้ความรู้เกี่ยวกับการกดจุดด้วยไม้และรูปเท้ารูปใหญ่ๆที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ


โดย: อิสราภรณ์ IP: 117.47.27.110 วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:14:12:59 น.  

 
ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ


โดย: แอน IP: 58.64.17.2 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:10:07:43 น.  

 
ผมได้ศึกษาและฝึกฝนการกดจุดฝ่าเท้ามาร่วม10ปีได้ช่วยตรวจบำบัดรักษาพี่น้องและดูแลตัวเองได้ผลอย่างเหลือเชื่อครับ(บริการฟรีครับ)


โดย: จ สิทธิ์ IP: 118.174.161.152 วันที่: 24 ตุลาคม 2551 เวลา:19:41:14 น.  

 
ขอบคุณ มากๆ นะคะ น่าสนใจมากเลยค่ะ


โดย: คนอยากกดจุด IP: 58.8.37.78 วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:23:48:19 น.  

 
ขอบคุณมากๆครับ


โดย: เก่ง IP: 112.143.13.153 วันที่: 23 มิถุนายน 2552 เวลา:15:52:46 น.  

 
ดีม๊ากเลย แต่อยากได้วิธีปฏิบัติละเอียดกว่านี้ค่ะhttps://www.bloggang.com/emo/emo29.gif


โดย: ศีรก้นเลี่ยม IP: 125.24.174.40 วันที่: 24 มิถุนายน 2552 เวลา:16:41:02 น.  

 
ดีม๊ากเลย แต่อยากได้วิธีปฏิบัติละเอียดกว่านี้ค่ะ แบบว่ารักษาโรคภมิแพ้น่ะhttps://www.bloggang.com/emo/emo29.gif


โดย: ศีรก้นเลี่ยม IP: 125.24.174.40 วันที่: 24 มิถุนายน 2552 เวลา:16:43:25 น.  

 
ขอบคุณมากมากค่ะ


โดย: สาค์ค่ะ IP: 117.47.11.41 วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:00:42 น.  

 
ขอบคุณๆๆๆๆๆ


โดย: hippo_cm IP: 118.172.61.120 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:20:59:10 น.  

 
แวะมาหาข้อมูลค่ะ ได้ประโยชน์มาก ๆ ขอบคุณค่ะ


โดย: แม่เตย IP: 124.122.97.223 วันที่: 30 มกราคม 2553 เวลา:22:49:17 น.  

 
_/l\\_ ขอบคุณหลายๆครับ


โดย: d^_^b dekslum IP: 113.53.158.189 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:40:11 น.  

 
วันนี้ไปนวดเท้า พนง เจอะก้อนที่บริเวณ( น่าจะลำไส้ใหญ่) จากภาพนะค่ะ ตกใจมาก เพราะว่า สะดุ้งเลย
เจ็บสุดๆ พนง ก็จำไม่ได้ว่าจุดอะไร เลยมาหาอ่านในเนต
ขอบคุณค่ะ


โดย: ผ่านมา IP: 125.24.88.61 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:07:56 น.  

 
ดีมาก ๆ ค่ะ ปัจจุบันใช้อุปกรณ์ที่เป็นรูปเท้าและมีปุ่มตามรูปเท้า ยืนอยู่บนนั้นประมาณสัก 2-5 นาทีขยับยุกยิ๊กไปมา ดีมากค่ะ


โดย: สุ IP: 210.246.192.18 วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:14:41:36 น.  

 
ขอบคุณมากเลยครับ....อิอิ


โดย: น้ำหมึกตุ๊ยนุ๊ย IP: 182.52.26.30 วันที่: 24 ธันวาคม 2553 เวลา:11:57:57 น.  

 
ขอบพระคุณมากครับ


โดย: คำแก้ว IP: 118.175.14.102 วันที่: 12 มีนาคม 2554 เวลา:16:07:57 น.  

 
ขอบพระคุณมากครับสำหรับเนื้อหาดีๆ
ผมขออนุญาติฝากเวปไซต์ที่เกี่ยวกับการใช้กดจุดรักษาโรคนะครับ

//www.healthyplus.in.th/


โดย: bape IP: 124.122.4.43 วันที่: 22 กรกฎาคม 2554 เวลา:5:42:00 น.  

 
ขอบคุณมากรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนแต่อยากรู้และศึกษาเพื่อดูแลตนเองและคนอื่นที่เรารักและอยากช่วยเหลือขอขอบคุณอีกครั้งด้วยใจจริง


โดย: แว่นฟ้า IP: 182.93.198.98 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:10:51:35 น.  

 
ขอบคุณท่ให้ความรู้ในเรื่องท่กำลังสงสัย อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้น ชัดเจนในคำอธิบายดีมาก หายสงสัยแล้วค่ะ


โดย: นางพรพรรณกมล IP: 202.143.181.3 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:17:40:06 น.  

 
ดีมากเลยครับ


โดย: พลภัทร IP: 182.52.105.92 วันที่: 28 สิงหาคม 2555 เวลา:16:29:15 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะสำหรับวิทยาทาน


โดย: K.k. IP: 188.165.240.145 วันที่: 14 มกราคม 2560 เวลา:6:26:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cadeau
Location :
Tasmania Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add cadeau's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.