อยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเหมือนประเทศไทยเรา...ขอโทษด้วยนะคะที่เจ้าบ้านไม่ค่อยได้อัพเดทเลย อย่าเพิ่งโกรธกันนะคะ ไม่มีเน็ตเล่นหง่า... :( “Just being alive is such a lovely and wonderful thing”. - Aya (1 litre of tears)

Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
7 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Accommodation: ที่พัก

  • พักที่ไหนดี

    > สำหรับผู้ที่ยังไม่มี idea เกี่ยวกับ accommodation

    อยากแนะนำว่าให้ลองเสาะหาข้อมูลดีๆ ก่อนนะคะ แอ้มีข้อมูลคร่าวๆ ให้ดังนี้ค่ะ



    1. Homestay:


    สำหรับคนที่ต้องการฝึกภาษา อยู่ในช่วงเรียนภาษาอังกฤษที่นี่

    (เค้าไม่ให้เด็ก Uni อยู่ homestay น้าเพราะจะไปแย่งที่เด็กที่เรียน Eng. course

    ทั่วๆ ไป คือ บ้าน homestay มีน้อยน่ะค่ะ ต้องแบ่งสรรปันส่วนกันไป) และ

    สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาด้านงบประมาณเท่าไหร่..


    ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราวๆ 180/week (จ่าย 2 สัปดาห์ล่วงหน้า) แต่ว่า

    ต้องจ่าย Administration fee สำหรับการจัดหาที่พักให้ $175 ค่ะ..



    ...ภาพบรรยากาศ Homestay เก่าที่เคยอยู่ค่ะ...


    (@ Geilston Bay)





    (ห้องรับแขก)





    (ห้องนอนสีหวานแหวว...อบอุ๊น อบอุ่น)






    ข้อดี

    -ได้ฝึกภาษาอังกฤษและเรียนรู้การใช้ชีวิตในแบบฉบับออสเตรเลีย

    เพราะอยู่ใกล้ชิด host

    - host ทำอาหารให้ทานทุกมื้อค่ะ (ยกเว้นบางบ้านที่ host อาจจะไม่มี

    เวลาทำให้ อาจจะมีแค่ข้าวกลางวันและเย็น) แต่ต้องทำใจนะคะว่า บางบ้าน

    อาจจะเตรียมอาหารกลางวันเป็น sandwiches ให้

    - ปลอดภัยค่ะ host จะคอยดูแลอย่างดี (ขึ้นอยู่กับว่าเจอ host แบบ

    ไหนอีกล่ะ)

    - ไม่ต้องเสียค่าไฟค่ะ (อิอิ) เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมอยู่กับค่า

    homestay แล้วน้า...




    ข้อเสีย

    - ที่พักมักจะอยู่ไกลจาก Uni และศูนย์เรียนภาษา อาจจะต้องนั่งรถ

    หลายต่อหน่อย แต่ยังไงเสีย การนั่งรถเมล์ที่นี่ หรือแม้กระทั่งการเดินก็ไม่

    เป็นปัญหาค่ะ เพราะที่นี่อากาศดีมากๆ ไม่มีมลพิษเหมือนบ้านเรา

    - ไม่เป็นส่วนตัว เวลาไปไหนมาไหนในช่วงแรกๆ อาจจะต้องไปกับ

    host เช่น ซื้อของตาม supermarket และในกรณีที่ต้องทำงานอยู่ที่มหาลัย

    ดึกๆ ดื่นๆ ก็ต้องคอยรายงานตัวนะจ๊ะ ไม่งั้น host mom & hot dad เป็นห่วง

    แย่...อีกเรื่องนึงคือ เวลาที่อยู่ที่บ้าน host "อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัว

    ปั้นควายให้ลูกท่านเล่น" เอ้ย...ไม่ใช่จ้า ไม่ขนาดน้านหรอก..เหอ เหอ ก็

    แค่ หมั่นออกมาคุยและทำกิจกรรมกับ host และคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในบ้าน

    ล่ะจ้า อย่าทำตัวหมกมุ่น เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวน้า จะดูไม่ดี เพราะ host

    บางคนเค้าก็หวังดีกับเรา อยากฝึกภาษาให้เราเต็มที่อยู่แล้ว

    - ไม่สามารถเลือกได้ว่า ต้องการ host แบบไหน ลักษณะนิสัยอย่างไร

    นะจ๊ะ บางคนโชคดีหน่อย ก็ได้ host ดี ดูแลเอาใจใส่ ทำกับข้าวดีๆ ให้กิน

    ทุกมื้อ ไปรับไปส่งตามสถานที่ต่างๆ (บ้าง) แต่บางคนโชคร้าย ไปเจอ host

    ที่ไม่ถึงขั้นกับใจร้ายหรอก แต่ว่าไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่เด็กในสังกัดเท่าไหร่

    ก็จะไม่ค่อยสนใจทำกับข้าวให้ ให้เด็กดูแลตัวเอง แถมยังไม่ค่อยพูดคุยกับ

    เด็กเสียอีก เด็กบางคนก็เลยไม่ได้ฝึกภาษากันพอดี แล้วอย่างนี้จะจ่ายเงิน

    $180/week ไปทำไมกันล่ะจ๊ะ..



    ถึงแม้เราจะไม่สามารถคาดหวังเรื่อง host ได้ แต่

    มีสิ่งหนึ่งที่เราทำได้ก็คือ การระบุรายละเอียดให้ทาง agency ทราบว่าต้อง

    การ host ประมาณไหน เช่น อยากได้ host วัยเกษียณแล้ว, แพ้สัตว์เลี้ยง,

    ไม่ทานมังสวิรัติ หรือ ไม่ทานเนื้อวัว ฯลฯ เรื่องอาหารนี่สำคัญนะจ๊ะ ต้องระบุ

    เป็นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นทางเจ้าหน้าที่ที่สถาบันจะจัดหาที่พักให้โดยไม่รู้ความจำ

    เป็นส่วนตัวนะ


    กรณีที่อยู่ที่บ้าน host สักพักแล้วนึกอยากย้ายออกจากบ้านไปหาที่อยู่ใหม่

    เนื่องจากอึดอัดหรือคิดว่าสามารถหาที่อยู่อื่นๆ ที่ประหยัดกว่านี้ได้ ก็ต้องแจ้ง

    ทางสถาบัน (ศูนย์ภาษาที่นี่ หรือ Uni) ล่วงหน้าก่อนซักประมาณ 2 สัปดาห์

    ทั้งนี้ จะได้เงินส่วนที่เหลืออีก 2 สัปดาห์คืนค่ะ ยกเว้น administration fee

    $175 ที่เสียไปตั้งแต่ตอนต้นแล้ว อันนั้นไม่ได้คืนนะจ๊ะ





    2. หอพักของมหาลัยค่ะ :


    ถ้าหากมีงบประมาณที่พร้อมจะจ่าย homestay แต่ว่าต้องการความเป็นเอกเทศ

    ออกมานิดนึงและอยากใช้ชีวิตแบบเด็ก Uni ล่ะก็ แนะนำตัวเลือกนี้เลยค่ะ ..

    มีให้เลือก 4 ที่ด้วยกันนะคะ คือ


    (1) University apartment :

    ->> $180/week, ทำอาหารและทำความสะอาดเอง, share ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น

    และห้องครัว)


    (2) John Fisher College :

    ->> $270/week, มีทั้งหมด 90 ห้องเดี่ยว)


    (3) Christ College :

    ->> $270/week, มีทั้งหมด 154 ห้องเดี่ยว


    (4) Mount Nelson Villas :

    ->> $150/week ลักษณะเป็นแบบ share house ค่ะ คือ แชร์ห้องน้ำ ห้องครัว

    ห้องนั่งเล่น และแชร์ค่าไฟด้วยค่ะ)


    **หมายเหตุ: ค่าเช่าที่เขียนข้างต้นเป็นแค่ค่าเช่าโดยประมาณ

    อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง ทั้งนี้ต้องลองเช็คดูนะคะ..ดูได้ที่ลิงค์ข้างล่าง

    นี้ค่ะ


    >Hobart Accommodation



    ข้อดี

    - ได้ใช้ชีวิตคนเดียว ฝึกความรับผิดชอบและการช่วยเหลือตัวเองได้

    มากขึ้น (ทำอาหารเองได้ด้วย) และอาจจะได้ฝึกภาษาอังกฤษกับนักเรียน

    ต่างชาติที่พักอยู่ด้วย *แต่ถ้าเป็น John Fisher college และ Christ

    college (หอพักอีกหอนึงที่อยู่ติดกับ uni apartment) ก็ไม่ต้องทำอาหาร

    ทานเองน้า เค้ามี canteen ซึ่งเราจะได้คูปองไปรับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อ

    อาจจะทานที่ canteen หรือใส่กล่องมาทานบนหอก็ได้ค่ะ

    - ค่าเช่า uni apartment $180/week รวมค่าไฟแล้วนะคะ เพราะ

    ฉะนั้น ถ้าหนาวล่ะก็ เปิด heater ได้ทั้งวันทั้งคืนเรย (ส่งเสริมให้ใช้

    ทรัพยากรธรรมชาติเกินไปป่าวเนี่ย อิอิ) แล้วก็มี Internet ให้ใช้ฟรีด้วยค่ะ

    ใครอยากจะทำกับข้าว อบขนม หรือทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ต้องกลัวเรื่องค่าไฟ

    เพราะเราไม่ต้องจ่ายส่วนต่างเพิ่มนะจ๊ะ..อ้อ! ลืมบอกไปอีกอย่างนึง ที่

    Australia นี่ น้ำฟรีค่ะ ไม่ต้องเสียค่าน้ำประปาเหมือนที่ไทยน้า

    - ปลอดภัยอีกแล้วค่ะ อยู่ในแวดวงเด็กหอ แถมยังมีเจ้าหน้าที่คอย

    ดูแลอยู่ใกล้ๆ ไม่น่าเป็นห่วงเลย ห้องแต่ละห้องก็กั้นเป็นสัดเป็นส่วน ถึงจะ

    ต้อง share ห้องน้ำ ห้องครัว แต่ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เท่าที่เห็นก็ดู private ดี ทั้งนี้

    ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเป็นมิตรของเรากับเพื่อนร่วมหอนะจ๊ะ ส่วนใหญ่แต่ละ

    คนก็จะอยู่แบบส่วนตัวมากกว่า ห้องใครห้องมัน ถึงเวลาทานข้าวก็อาจจะมา

    ร่วมโต๊ะอาหารด้วยกัน แล้วก็กลับเข้าห้องของตัวเอง อาจจะอึดอัดนิดหน่อย

    แต่ก็มีความเป็นส่วนตัวดีนะ

    - อยู่ใกล๊ใกล้มหาลัยค่ะ เดินลงเขา เอ้ย! ลงจากหอ นิดเดียวก็ถึงนะ

    โดยเฉพาะถ้าเรียนคณะ Commerce หรือเรียนภาษาที่ English Language

    Center (ELC) ล่ะก็ โอย..เดินได้สบายมั่กๆๆๆ ไม่ถึง 10 นาทีล่ะจ้า


    ข้อเสีย

    - อย่างที่บอกล่ะค่ะ อาจจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่ต้อง share ห้อง

    น้ำ ห้องนั่งเล่น และห้องครัวกับเพื่อนร่วมหอ เพราะ unit นึงก็จะมีประมาณ

    6 คนนะ (แล้วแต่หอค่ะ) แต่ถ้ามองในแง่บอก ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้รู้จักกับ

    เพื่อนใหม่ๆ จะได้ไม่เหงาไงล่ะ เพราะ hobart น่ะ..บอกได้คำเดียวว่า..เหงาค่ะ

    ถ้ามาคนเดียว แรกๆ อาจจะยังปรับตัวไม่ได้เลย homesick แหงๆ เพราะ

    บรรยากาศมันพาไป

    - เปลืองค่ะ.. คำว่าเปลืองในที่นี้ ถ้าเทียบกับการอยู่ homestay แล้ว

    ก็ไม่เปลืองเท่าไหร่ เพราะอย่างที่แอ้บอกไปว่า $180/week มันรวมค่าไฟ

    แล้วน้า แต่ถ้ามาคิดๆ อีกที การที่ทางหอพักขึ้นราคาทุกปีเนี่ย (ถ้า

    อยู่มากกว่า 1 ปี) มันก็ไม่ไหวนา อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถทางการเงิน

    ของแต่ละคนอีกล่ะค่า ถ้าใครไม่มีปัญหาเรื่องนี้ล่ะก็ ตัดข้อเสียข้อนี้ไปได้

    หายห่วง..

    - อยู่ไกลจากสถานที่ช้อปปิ้งค่ะ โดยเฉพาะ supermarket ที่เราต้อง

    ไปซื้อเสบียงมาตุนอยู่บ่อยๆ ระยะทางจากจากหอพักมายัง supermarket

    เช่น Coles, Woolsworth, หรือแม้แต่ Chicken Feed (ขายของถูกๆ ส่วน

    ใหญ่เป็นของ made in China ค่ะ) ประมาณเกือบ 1 กิโลเห็นจะได้ ไอ้ขา

    เดินลงจากหอพัก (มันเป็นเขาน่ะ) ก็โอเคอยู่หรอก เดินๆ ไถๆ ลื่นๆ ปื๊ดเดียว

    ก็ถึง แต่ทว่า ขาขึ้นเนี่ยสิ เป็นใครก็เบื่อค่ะ ต้องปีนขึ้นไป เอ้า..ฮึบ

    เฮ้อ..เหงื่อหยด.. แต่ก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ..ทาง

    หอพักมีรถรับ-ส่งบริการถึง supermarket ค่ะ แต่ว่าเค้าบริการเป็นเวลานะ

    รถออกช่วงบ่ายๆ ค่ะ แล้วก็จะให้เวลาเรา shopping สักชั่วโมงสองชั่วโมง

    แล้วก็จะเทียบท่ารอรับเรากลับขึ้นดอย (หอค่ะหอ)






    3. Share house:


    บ้านลักษณะนี้เป็นบ้านหลังที่มีประมาณ 3 - 5 ห้อง โดยที่เราจะต้องแชร์ห้องน้ำ

    ห้องครัว (มีไมโครเวฟและตู้เย็นให้) ห้องนั่งเล่น และช่วยกันทำความสะอาด

    บ้านร่วมกับ housemate นะคะ บ้านแบบแชร์นี้ มีทั้งแบบที่เป็น private คือ

    เจ้าของบ้านเป็นคนออสเตรเลีย และบ้านที่ดูแลรับผิดชอบโดย TUU Share

    House (The Tasmania University Union (TUU)) ค่ะ เจ้าของบ้านหรือเจ้า

    หน้าที่ของทาง TUU จะมาตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในบ้านเป็นระยะๆ




    ข้อดี

    - คล้ายๆ กับการอยู่หอพักค่ะ คือได้ฝึกการใช้ชีวิต รับผิดชอบ และ

    ช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น เพื่อนร่วมบ้านก็อาจจะมาจากหลายๆ ประเทศแตก

    ต่างกันไป เราก็จะได้โอกาสในการฝึกภาษาอังกฤษแน่นอน แต่ว่า..ก็ต้องทำ

    ความรู้จัก พูดคุย และเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นในสังคมด้วยนะ มิฉะนั้น

    ก็จะเหมือนกับว่า ต่างคนต่างอยู่ จะรู้สึกอึดอัดและเหงาเปล่าๆ น้า

    - อยู่ใกล้ Uni ค่ะ โดยเฉพาะบ้านเช่าของ TUU ส่วนใหญ่เดินแป๊บ

    เดียวก็ถึง Uni แล้ว บรรยากาศก็ไม่น่ากลัวนะ เพราะบ้าน TUU จัดว่าอยู่ใน

    location ที่ปลอดภัยค่ะ

    - ถูกค่ะ!! Share house เป็นอะไรที่ถูกที่สุดแล้วนะ เพราะถ้าคิดถัว

    เฉลี่ยเป็นรายคนแล้วล่ะก็ จ่ายคนละประมาณ $80 (ขั้นต่ำ) เอง



    ข้อเสีย


    - ถ้าไม่คุ้นกับการอยู่รวมกับคนเยอะๆ และต้องใช้ห้องน้ำ ห้องครัว

    ห้องนั่งเล่นกับคนอื่นล่ะก็ อาจจะรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยนะ เพราะว่า

    housemate ที่มาอยู่แต่ละคน ก็ต่างจิตต่างใจ มีสไตล์ชีวิตความเป็นอยู่ที่

    แตกต่างกัน อาจจะมีเสียงดังรบกวนจากข้างห้องสักหน่อย ยังไงก็ต้อง

    พยายามเรียนรู้และปรับตัวให้ได้นะคะ เรื่องน้ำใจและการบริหารเวลาเป็นสิ่ง

    สำคัญค่ะ เวลาทำความสะอาดพื้นห้องครัว ห้องน้ำ เราก็ควรจะหยิบยื่นความ

    ช่วยเหลือบ้าง ส่วนเรื่องการบริหารเวลาในการเข้าห้องน้ำและทำอาหารนี่ยิ่ง

    ต้องจำกัดไปใหญ่ เพราะแต่ละคนก็จะมีหม้อหุงข้าว กะทะ และวัตถุดิบใน

    การปรุงอาหารของตัวเองใช่มั้ยคะ เวลาหิวก็หิวใกล้ๆ กันอีก เพราะฉะนั้นต่าง
    คน

    ก็อยากทำกับข้าวกำจัดความหิวกันไป ก็คงต้องเข้าคิวกันล่ะค่ะทีนี้ว่าใคร

    จะทำก่อนทำหลัง อาหารที่เร็วที่สุดเห็นจะเป็นผัดๆ ทอดๆ ล่ะ (ไม่รวม มาม่า

    และอาหารอุ่นไมโครเวฟทั้งหลายนะจ๊ะ)

    - ต้องแชร์ค่าไฟกับ housemate ค่ะ.. อยู่ hobart อาจจะมีปัญหา

    เรื่องค่าไฟ heater ที่ต้องแชร์รวมกับค่าไฟบ้านทั้งหลัง เพราะที่นี่พูดได้เลยว่า

    หนาวค่ะ (ก็อยู่ใต้สุดของออสเตรเลียเลยนี่เนาะ) เวลาหน้าหนาว อาจจะต้อง

    เปิด heater กันแทบทั้งวันก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น ก็อาจจะเป็นปัญหาเรื่องค่า

    ไฟฟ้าภายในบ้านนะ อันนี้ต้องตกลงคุยกันกับ housemate ค่ะว่า ตกลงกันที่

    ราคาเท่าไหร่ ที่เคยเห็นจากเพื่อนๆ บางบ้านเค้าก็มี limit นะคะว่าให้เปิด

    heater ได้เวลาไหนบ้าง กี่ชั่วโมง (อันนั้นก็โหดไปนิดส์นึง..อาจจะเป็นแค่

    บ้านเดียวก็ได้ อิอิ) รวมๆ แล้วก็คือ เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามค่ะ การ

    อยู่รวมกับผู้อื่นในสังคม เราก็จำเป็นต้องปรับตัวใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้น ต้อง

    ตกลงปลงใจกันให้ดีๆ และทำตามกฎสังคมเพื่อไม่ให้เกิดข้อเบาะแว้ง ยึดคติ

    "ใจเขาใจเรา" เข้าว่าค่ะ





    4. Private unit/flat:


    จริงๆ ถ้าพูดถึง private accommodation ล่ะก็ อาจจะมองหาจำพวก

    apartment หรือโรงแรมทั่วๆ ไปก็ได้นะคะ แต่ว่า..แพงค่ะ.. อีกอย่างก็ไม่มี

    ความเป็นส่วนตัวเท่าบ้านแบบ unit/studio/flat ตามแต่จะเรียก โดยทั่วไป

    พักอยู่ได้ 1 - 2 คน ขึ้นอยู่กับข้อตกลงกับเจ้าของบ้านนะคะ..



    ข้อดี

    - เป็นส่วนตัวสูงมากๆ เพราะไม่ต้องแชร์ห้องใดๆ กับใครเลย มีห้องน้ำ

    ห้องครัวในตัว ไม่ต้องไปแย่งใครน้า.. เป็นข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยค่ะ สำหรับคน

    ที่ไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ และเบื่อความวุ่นวาย อยากใช้ชีวิตตามลำพัง

    บริหารเวลายังไงก็ได้ตามใจฉัน ที่สำคัญ..พาเพื่อนมาปาร์ตี้ที่บ้านได้โดยไม่

    ต้องเกรงใจข้างห้อง เพราะไม่มีห้องข้างๆ (แต่ก็ต้องเกรงใจบ้านระแวกนั้นนิด

    นึงนะคะ)



    ข้อเสีย

    - ค่าเช่าอาจจะแพงกว่าบ้านแชร์ทั่วๆ ไปนิดนึง และแน่นอนว่าต้องรับ

    ผิดชอบค่าไฟเองนะคะ

    - น่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยอยู่นะคะ เพราะเนื่องจากว่า บ้าน

    หรือห้องเดี่ยวแบบนี้ เราอยู่คนเดียว ไม่มีใครมาเช่าด้วย เวลาเดินทางไป

    เที่ยวที่ไหน ก็อดเป็นห่วงบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านไม่ได้ (เคยมี case

    นึง บ้านเค้าอยู่ในบริเวณที่เงียบมากๆ เวลากลางคืนหัวค่ำหน่อยๆ เพื่อนบ้านก็

    เข้านอนหมดแล้ว เลยมีคนแอบย่องเบามางัดบ้านค่ะ) ถึงแม้ hobart จะไม่

    น่ากลัวเท่าที่ไทย (คนส่วนใหญ่ใจดีนะ) แต่ก็ต้องระวังไว้บ้างนะคะ




    ...หมายเหตุ: ไม่ว่าจะพักที่ไหน ก็ต้องทำสัญญา

    เช่าบ้านกับเจ้าของบ้านหรือเจ้าหน้าที่ของทางมหาลัยนะคะ ทั้งนี้ ระยะเวลา

    ในการเช่า (บางที่อนุญาตให้เช่าขั้นต่ำ 6 เดือนหรือไม่ก็ 1 ปี) และค่าเช่า

    หรือแม้แต่เรื่อง bond (เงินมัดจำที่จ่ายให้กับเจ้าของบ้าน ซึ่งจะได้คืนหลัง

    จากหมดสัญญาหรือย้ายออกจากบ้านไปแล้ว กรณีที่ไม่ได้ทำข้าวของเค้า

    เสียหายนะ) ก็ต้องเจรจาต่อรองกับเจ้าของบ้านให้ดีๆ ค่า


    ...หวังว่าข้อมูลที่ให้ไว้นี้คงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับผู้ที่สนใจ

    จะมาเป็นส่วนหนึ่งของนักเรียนไทยใน Hobart นะคะ หรือจะมาเที่ยว

    พักผ่อนหย่อนใจแป๊บๆ ก็ได้นะ แล้วจะรู้ว่า Hobart มีอะไรดีค่ะ

    ถ้าใครยังอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องไหนล่ะก็ เขียนเข้ามาถามได้เลยจ้า

    ...



    Create Date : 07 เมษายน 2551
    Last Update : 16 เมษายน 2551 9:58:37 น. 10 comments
    Counter : 2047 Pageviews.

 
เข้ามาบอกว่าน้องเจ้าของบล๊อคสวย น่ารักมากค่ะ

อากาศที่โน่นคงดีกว่าที่นี่มาก คิดว่าคนที่โน่นจะเป็นกันเอง ไม่เรื่องมากเหมือนคนอังกฤษ

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: ลูกแมง วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:21:24:34 น.  

 
มีประโยชน์สำหรับหลายๆคนเลยนะคะเนี่ย คุณเจ้าของบล็อกใจดีจังเลยค่ะ


โดย: Picike วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:2:25:31 น.  

 
กำลังจะไปเรียนต่อที่นี่พอดีเลยค่ะ ก็
เลยลองหาข้อมูลมาอ่าน ได้ความรู้ดีค่ะ ตอนนี้กำลังเตรียมสอบ Ielts อยู่
ค่ะ ถ้าผ่านก็คงไปเทอมกุมภาหน้านี้
ละค่ะ อิอิ


โดย: เทเลทับขี้ IP: 124.120.165.180 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:1:27:32 น.  

 
กำลังจะไปเรียนต่อที่นี่พอดีเลยค่ะ ก็
เลยลองหาข้อมูลมาอ่าน ได้ความรู้ดีค่ะ ตอนนี้กำลังเตรียมสอบ Ielts อยู่
ค่ะ ถ้าผ่านก็คงไปเทอมกุมภาหน้านี้
ละค่ะ อิอิ


โดย: เทเลทับขี้ (เทเลทับขี้ ) วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:2:08:09 น.  

 
ขออำนวยอวยชัยให้สอบผ่านและได้ไปเรียนตาม plan ที่ตั้งไว้นะคะคุณเทเลทับบี้ :)


โดย: cadeau IP: 124.121.8.217 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:19:20 น.  

 
กำลังจะไปเรียน MM at UTASค่ะ อยากถามปัญหาต่างๆ ยังไงคุณอ้อแอ้รบกวน ส่งเมลมาหาได้มั้ยค่ะ mibibi33@gmail.com
ขอบคุณมากมากๆค้า


โดย: บีบี IP: 124.120.13.102 วันที่: 16 ธันวาคม 2551 เวลา:11:32:29 น.  

 
จะไปเรียนภาษาที่UTAS แต่ยังไม่ได้ที่พักเลย ไม่อยากอยู่Home stayเพราะแพง มีใครพอจะมีที่พักสำหรับผู้หญิงบ้าง Shareอยู่ก็ได้ค่ะ ช่วยโพสรายละเอียดให้หน่อย


โดย: Poj IP: 60.229.43.194 วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:19:09:24 น.  

 
อยากไปยู่utasเหมือนกานค่า
addเมลล์มาด้วยะนะค่ะ
เผื่อจะได้แชร์ห้องพักกันค่ะ
รอieltsเหมือนกาน วันพรุ่งนี้แระค่ะ
ขอบคุณเจ้าของกระทูสุดๆๆค่ะ

aomybig@hotmail.comจ้า


โดย: ออม IP: 113.53.14.3 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:15:44:08 น.  

 
ช่วยเเนะนำหน่อยครับ

ถ้าหางานพิเศษทำช่วงเรียน

ควรจะพักเเบบไหนดีครับ

bom_heavenknight@hotmail.com
ครับ


โดย: Bombayeah IP: 125.24.52.237 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:46:23 น.  

 
ถ้าต้องการทำงานพิเศษหลังเลิกเรียน ซึ่งมักจะเป็นช่วงเย็นถึงดึก (ประมาณ 3 - 4 ทุ่ม) อยากแนะนำให้พักแบบ shared house หรือ private house/apartment ไปเลยดีกว่าค่ะ ไม่ควรอยู่ homestay แน่นอน เพราะว่า homestay ที่ได้ส่วนใหญ่จะอยู่ไกล city หรือ มหาลัย เป็นห่วงเรื่องการเดินทางค่ะ


โดย: cadeau วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:12:08:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

cadeau
Location :
Tasmania Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




Friends' blogs
[Add cadeau's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.