RUSKA BERGMAN : The last dinner with Michael Jackson

แปล โดย บานาน่าจัง

สตรีผู้สร้างความเฉิดฉายให้คนดังอย่าง สตีเว่น สปิลเบิร์ก , นิโคล คิดแมน และฮิลลารี คลินตัน 'รัสก้า บลาสก้า' (ไม่แน่ใจการออกเสียงนะคะ - ผู้แปล) สไตลิสต์ชื่อดังแห่งกรุงนิวยอร์คผู้มีถิ่นกำนิด ณ Takov ( น่าจะอยู่ในประเทศเซอร์เบียนะคะ เพราะเห็นในเวบบอกว่าแปลมาจากภาษาเซอร์เบีย - ผู้แปล) เธอผู้นี้ไม่เคยห่างกายจากราชาเพลงป๊อบ ผู้ที่กล่าวกับเธอก่อนการจากไปเพียงหนึ่งเดือนว่า


'เขาอยากอยู่กับเธอตลอดไป'


'ไมเคิลไม่เคยเห็นแก่ตัวเลยค่ะ เค้ามักจะแบ่งปันความรักให้กับคนทั้งโลก แต่ใครๆก็มักจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าทำ ฉันว่าก็เหมือนกับที่คนไม่เข้าใจบีโทเฟน โมซาร์ท แต่กาลเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาน่ะเป็นอัจฉริยะทางการดนตรีของแท้ เขาวิเศษมากค่ะ เค้ามีชีวิตอยู่เพื่อบทเพลง ฉันมีความสุขมาก แล้วก็รู้สึกช่างโชคดีจริงๆที่เค้าเลือกฉันจากผู้คนมากมายให้มาทำงานเป็นสไตลิสต์ แล้วฉันก็โชคดีมากๆที่ได้เป็นเพื่อนกับเค้า
' รัสก้า เบิร์กแมน สไตลิสต์ประจำตัวของราชาเพลงป๊อบผู้ล่วงลับกล่าว


แม้ว่ารัสก้าจะทำงานให้กับไมเคิลเพียงสองสามปีในนิวยอร์ค แต่ก่อนหน้านั้นเธอเคยทำงานให้กับคนดังๆอย่าง ฮิลลารี คลินตัน , บียอร์ค , ซินดี้ ครอฟอร์ด, นิโคล คิดแมน , กวินเน็ต พัลโทรว์ มาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเธอยืนยันว่าไมเคิลช่างเป็นคนที่สง่าสงามและลุ่มลึกมากที่สุดเท่าที่เธอเคยทำงานด้วย


' ตอนนั้นฉันทำงานให้กับนิตยสาร VOGUE ของอิตาลีค่ะ ฉันดูแลเสื้อผ้าให้กับผู้กำกับ นักกรีฑา แล้วก็เหล่าดารามากมาย แต่เมื่อทางนิตยสารกำลังหาผู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของวงการดนตรีมาขึ้นปก ฉันก็เลยแนะนำชื่อของไมเคิลไปเลยค่ะ จากนั้นฉันก็ส่งจดหมายไปหาเค้า สักสามอาทิตย์มั้งคะฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากทนายความของเค้า เค้าบอกว่าฉันกำลังคุยอยู่กับตัวแทนของไมเคิล แจ๊กสันนะ! ฉันตกใจมากๆเลยล่ะ แล้วฉันกลัวมากๆเลยด้วยว่าฉันไปทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ฉันก็เลยขอโทษขอโพยเค้าเสียยกใหญ่ แต่ทนายเค้าก็ได้ตอบกลับมาว่าไมเคิลโอเคที่จะถ่ายรูปให้ฉันนะ...แถมฉันยังได้ขอให้เค้าช่วยทวนคำตอบนั้นอีกครั้งก่อนที่ฉันจะเป็นลมไปซะก่อนด้วยค่ะ จากนั้นฉันก็รีบโทรไปหาบ.ก.แล้วบอกว่าว่าไมเคิลตกลงจะถ่ายภาพให้กับพวกเราแล้ว! '


แต่รัสก้าก็ยังกล่าวอีกว่า ขั้นตอนการเตรียมงานถ่ายปกเล่มนั้นมันช่างโหดหินแบบอย่างที่สุด


' มีสาวๆมาช่วยฉันเป็นพันๆคนเลยล่ะค่ะ แต่ว่าเราก็ลงเอยที่ 9 ชุดนั่น พอไมเคิลเห็นเค้าก็ประทับใจกับชุดพวกนั้นมากๆ เขาถึงกับเอ่ยชมฉันว่า ' เธอนี่มันเทพจริงๆสาวน้อย ' '


แต่กว่ารัสก้าจะได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากไมเคิล เธอก็ต้องแลกกับการทำงานหนักมากตลอดระยะเวลาห้าเดือน


ถึงแม้ไมเคิลจะเป็นบุคคลทิ่สุดแสนยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่เคยวางมาดเลย เขาเป็นมืออาชีพมาก เนื่อจากเพราะเค้ารู้ว่าเค้าทำกำลังทำงานกับสไตลิสต์ ช่างแต่งหน้า และช่างภาพฝีมือที่มือเยี่ยมยอดที่สุดอยู่ แล้วเค้าก็ไม่เคยวางอำนาจกับการทำงานเหล่านั้นเลย


' ตอนนั้นในกองถ่ายมีคนเป็นร้อยๆคนเลยล่ะค่ะ แล้วเราก็เริ่มเปิดเพลงจากอัลบั้มทริลเลอร์ พอเค้าอยู่หน้ากล้องแล้วก็เริ่มเต้นรำ พริบตาเดียวเท่านั้นเองล่ะค่ะผู้คนต่างก็พากันร้องไห้ เขาช่างมีพลังอย่างเหลือล้น จนหลายครั้งเชียวค่ะ ที่ฉันคิดว่านี่เค้ามาจากดาวดวงอื่นหรือเปล่า '


แต่ไมเคิลก็คิดแบบเดียวกับรัสก้าเหมือนกัน ไมเคิลที่งมากๆที่เห็นเธอทุ่มเทกับการทำงาน ด้วยความรู้สึกแบบนี้เองละมั้งที่ทำให้สัมพันธภาพของมืออาชีพทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพ ไมเคิลชื่นชอบนิสัยที่จริงใจของเธอมากๆ โดยเฉพาะเวลาที่เธอบอกว่าอะไรจะทำได้หรือทำไม่ได้เพื่อให้การทำงานไหลลื่น


สไตล์การแต่งตัวของไมเคิลเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเมื่อสักประมาณ 2 ปีที่แล้ว การปรากฏกายของเขาทั้งโดดเด่นและดึงดูดสื่อมวลชนทั้งโลก ในโลกอินเตอร์เน็ตใครๆก็พากันถามถึงว่าใครกันนะที่อยู่เบื้องหลังของภาพลักษณ์อันแปลกตาของชายผู้เป็นสัญลักษณ์ทางดนตรีแห่งศตวรรษที่ 20 ใช่แล้ว...ความลับก็คือรัสก้าไงล่ะ !


' ไมเคิลเชื่อมั่นในรสนิยมของฉันเอามากๆ เขาพูดกับฉันเสมอๆว่าห้ามหยุดนะ เพราะว่าฉันเป็นคนที่น่าสนใจที่สุดเท่าที่เค้าเคยรู้จักมาเลย เขาเคยสารภาพกับฉันตอนที่เราเป็นเพื่อนกันแล้วด้วยว่า ตอนที่เขาเจอฉันครั้งแรกที่ตรงประตูที่ลาสเวกัสน่ะ เขาอย่างกับจะได้กลิ่นทะเลเมดิเตอเรเนียนจากตัวฉันเลยล่ะ '


รัสก้ากับไมเคิลทำงานด้วยกันเสมอๆในช่วง 2 ปีหลังๆ เขาและเธอจะติดต่อกันประจำ


' มีครั้งหนึ่งเสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นในวันปีใหม่ค่ะ พอฉันรับแล้วฉันก็ได้ยินเสียงใครก็ไม่ทราบร้องเพลงโอเปร่า ฉันล่ะงงมากๆเลย พอฉันถามว่าใครกันน่ะ เขาก็ถามกลับมาว่าแล้วคิดว่าเป็นใครล่ะ ไมเคิลเค้าขี้อายมากๆเลยค่ะ แล้วฉันก็บอกได้เลยว่าเขาสุภาพอ่อนโยนมากๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็เต็มไปด้วยพรสวรรค์ แล้วก็มีพลังเปล่งประกายที่เหนือกว่าใครๆเลยค่ะ'


ตอนที่เจอกันครั้งแรกรัสก้าก็เชื่อทันทีเลยว่าไมเคิลช่างเป็นอัจริยะ หลังจากวันนั้นโลกของเธอก็เปลี่ยนไปหมด เวลาที่เธอเดินไปตามท้องถนนแล้วเปรียบเทียบผู้คนกับไมเคิล ไม่ว่าใครก็ดูกลายเป็นคนธรรมดาไปเสียหมด


' ยิ่งฉันมองเค้า ฉันก็ยิ่งรักเค้า เค้าเป็นคนที่วิเศษมากๆเลยค่ะ เค้าช่างสง่างาม ฉันล่ะไม่เห็นใครบนโลกนี้เลยที่จะมีความงามทั้งภายในและภายนอกที่เทียบเท่ากับเค้าได้ ถึงฉันจะทำงานกับคนดังๆมาหลายคน แต่ก็ไม่มีใครเลยที่เทียบเคียงกับพลังแบบนั้นของไมเคิลได้ เขาโดดเด่นกว่าทุกๆคนเลยล่ะค่ะ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนรักของฉันได้จากไปแล้ว ก็ใครก็จะไปเชื่อลงล่ะค่ะในเมื่อฉันเพิ่งทำงานกับเค้าอย่างมีชีวิตชีวาเมื่อไม่นานมานี้นี่เอง แล้วฉันก็กำลังเตรียมพร้อมไอเดียกับทัวร์คอนเสิร์ตที่เค้าไม่มีโอกาสได้ทำมันจริงๆ '


' เมื่อประตูรถเปิดออก ไมเคิลก็ปรากฏกายพร้อมบอดี้การ์ดอีก 6 คน เขาโบกมือให้ฉัน แล้วก็เรียกฉัน เราสองคนต่างก็รักและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เขารักทุกๆอย่างที่ฉันสวมใส่ แล้วเขาก็อยากใส่มันด้วย เขาถามฉันเสมอๆเลยค่ะว่าคุณน่ะไปอยู่ที่ไหนมาเสียตั้งนานนะ ฉันว่าคนอย่างไมเคิลไม่มีอีกแล้วล่ะค่ะ แต่ฉันก็เชื่อมั่นนะว่าบทเพลงของเค้าจะยืนยงไปอีกกว่าร้อยปี ..ทั้งๆที่ใครๆต่างก็เลียนแบบเค้า แต่พอไมเคิลออกมาคนเดียวเท่านั้นแหละ คนพวกนั้นก็เป็นลมกันไปหมดเลย'


ผู้หญิงที่เคยทำงานกับให้กับวงการแฟชั่นยักษ์ใหญ่ อีกทั้งเคยให้คำแนะนำกับ ทอมฟอร์ด , จิวองชี่ และอีกหลายๆที่มาแล้ว กลับทำให้ราชาเพลงป๊อบทึ่งกับความอ่อมน้อมถ่อมตน แล้วก็เรื่องที่เธอไม่เคยสนใจอะไรกับเรื่องเงินของเค้าเลย


' เราเพิ่งไปทานอาหารด้วยกันเมื่อเดือนก่อนนี้เองค่ะ ไมเคิลถามฉันว่า คุณรู้ไหมว่าทำไมผมถึงชอบทำงานกับคุณ เพราะคุณไม่เคยพูดเรื่องเงินกับผมไงล่ะ เราไม่เคยคุยกันเรื่องข้อตกลงอะไรพวกนั้นเลย คุณเชื่อใจผม ผมเชื่อใจคุณ ผมน่ะเปลี่ยนผู้จัดการมา 6 คนแล้วภายใน 2 ปีนะ แต่คุณเนี่ยเป็นคนเดียวที่ยังติดแหง่กยู่กับผม ถึงคนอื่นๆเค้าจะไปกันหมดแล้ว แต่สำหรับคุณ...มายเดียร์ คุณจะอยู่กับผมตลอดไป '


ครั้งสุดท้ายที่รัสก้าเจอกับไมเคิลคือเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนที่เขาจะจากไป เธออยู่ที่บ้านของเค้าถึง 5 วันเลยทีเดียว


' เขางดงามมากจริงๆค่ะ เขาไม่ได้มีอาการหดหู่หรือว่าซึมเศร้าอะไรเลย เขาเต้นด้วยนะ แล้วเค้าก็ยังคงเป็นคนที่อ่อนโยนที่สุดบนโลกเหมือนเคย มันเหมือนกับเค้าเป็น OURS ! (คำว่า OURS เป็นคำอุทานของชาวยูโกสลาเวียเมื่อพูดถึงบุคคลที่เคยอยู่สหพันรัฐยูโกสลาเวียมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น ดูสิ ผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นพวกยูโกสลาเวียแน่ๆ - สหพันธรัฐยูโกสลาเวียต่อมาแตกออกมาเป็นประเทศต่างๆ และประเทศที่รัสก้าเกิดน่าจะอยู่ในกลุ่มประเทศที่แตกออกมานั้น น่าจะแปลว่าเธอสนิทกับไมเคิลมากๆเหมือนญาติมิตรกัน - ผู้แปล ) ฉันไม่เคยรู้สึกอะไรทำนองนี้กับใครเลยนอกเสียจากสตีเว่น สปีลบิร์ก แต่ไมเคิลก็ไม่เหมือนใคร เพราะความอบอุ่น เปี่ยมด้วยความรักของเค้านั่นเองที่เอาชนะใจฉัน...ทุกอย่างมันกำลังไปได้สวยจนฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปุบปับเขาจะมาจากฉันไป'


เธอรู้ข่าวการเสียชีวิตของไมเคิลตอนที่เธอกำลังทำงานที่สตูดิโอ วินาทีที่เธอได้ยินมันเหมือนกับร่างเธอจะทรุดลงที่เก้าอี้ สิ่งเดียวที่เธอจะสามารถเอ่ยออกมาได้ตอนนั้นคือ มันไม่มีทางเป็นไปได้ มันไม่จริง เธอไม่อาจจะหยุดร้องไห้ได้เป็นวันๆ ของทุกๆของเค้า ทั้งภาพถ่าย ข้อมูลทุกอย่างที่เธอมี เธออุทิศให้กับหนังเรื่อง This it it ที่กำลังจะออกฉายนี้


' ฉันรู้ว่ามันช่างเป็นสิทธิพิเศษมากๆค่ะที่ฉันได้ใกล้ชิดกับเขา ได้มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเค้า แล้วเราก็เข้าใจซึ่งกันและกันอย่างวิเศษ ฉันเศร้ามากๆเลยที่พวกสื่อไม่ให้ความยุติธรรมแล้วก็ทำร้ายเขา เขาไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็งนะคะ จมูกเค้าก็ไม่ได้เป็นอะไรเลยด้วย มันก็แค่เรื่องที่โกหกโง่ๆที่ถูกกุขึ้นมา .....ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะได้จากเราไปอยู่ท่ามกลางฑูตสวรรค์ แต่บทเพลงของเค้าจะยังคงอยู่ไปต่อไปชั่วนิรันดร์ค่ะ '



Credit to MJ Club@pantip.com


Create Date : 11 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 17:20:49 น. 0 comments
Counter : 581 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Ritsu31
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ritsu31's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.