space
space
space
 
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
space
space
28 กุมภาพันธ์ 2560
space
space
space

รีวิว เจาะธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุขานรับสังคมปัจจุบัน


สัดส่วนคนชราที่มากขึ้นและสภาพทางด้านสังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปส่งผลให้ความต้องการของธุรกิจบ้านพักคนชราขยายตัว อย่างไรก็ดีประเทศไทยจะเป็นสังคมที่มีการสอนให้ลูกๆหลานๆมีภาระกิจที่ต้องดูแลคนชราในครอบครัว แต่ด้วยจำนวนคนชราที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับคนหนุ่มสาวที่มีจำนวนลดลงจึงทำให้ลูกๆหลานๆต้องทำงานเยอะขึ้นและมีเวลาดูแลคนชราน้อยลง ในตอนนี้การขยายตัวของขนาดประชากรคนชราที่ต้องอยู่คนเดียวในอนาคตเพราะการมีลูกแค่ 1 ถึง 2 คนในปัจจุบันธุรกิจบ้านพักคนชราจะเป็นธุรกิจลำดับแรกๆ ที่ได้รับอานิสงส์ของการเปลี่ยนไปสู่สังคมคนชรา มีการประมาณการว่าในช่วงแรกจะเป็นโอกาสของธุรกิจบ้านพักคนชราเป็นแบบสั้นๆ เช่น การพักฟื้น หรือการดูแลระหว่างวัน แต่ด้วยขนากของคนชราที่ยังอยู่ในจำนวนที่ไม่มากทำให้การเพิ่มขึ้นของบ้านพักคนชราสำหรับประชาชนชาวไทยแบบดูแลระยะสั้นจะยังพัฒนาได้ไม่มากนัก แต่แบบดูแลระยะยาวนั้นมีความประสงค์ที่จะหาที่อยู่ดูแลแบบค้างคืน จะมีโอกาสพัฒนาเพิ่มมากขึ้นซึ่งจะได้รับแรงกระตุ้นจากทั้งประชากรคนชราทั้งชาวไทยและคนต่างประเทศ ผลคือเจ้าของบ้านพักคนชราจะต้องเริ่มทำตัวให้เหมาะหรือมุ่งไปยังการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่ไม่เหมือนเดิม และจะต้องค้นคว้าเสาะหารูปแบบธุรกิจที่เข้าได้กับสังคมคนไทยนอกจากปริมาณคนชราที่ขยายตัวแล้วผลทางด้านสังคมและเศรษฐกิจสังคมที่ไม่เหมือนเดิมมีผลทำให้กิจการบ้านพักคนชราขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ขนาดของคนชราทั่วโลกที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วทำให้กิจการบ้านพักคนชราของประเทศต่างๆมีการเติบโตอย่างต่อไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจดังเช่น ญี่ปุ่น อเมริกา และอังกฤษ เพราะว่าประเทศเหล่านี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการรักษาโรคที่มีผลทำให้ลดเปอร์เซ็นการเสียชีวิตและทำให้อายุของประชาชนในประเทศสูงมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกที่เจริญแล้วจะมีความประสงค์กิจการบ้านพักคนชรามากกว่าประเทศที่อยู่ด้านฝั่งตะวันออก เพราะทางญาตหรือลูกๆหลานๆจะให้ความเอาใจใส่ในการบริบาลคนชราที่ค่อนข้างน้อย อย่างนั้นก็ดีประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชียเริ่มโน้มเอียงหรือเปลี่ยนไปเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจและรูปแบบการเป็นเมืองที่ขยายตัวขึ้นทำให้คนหนุ่มสาวโดยส่วนมากมีเวลาในการเอาใจใส่พ่อแม่ที่ชราภาพน้อยลง จากข้อมูลของ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ pantip ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ดำเนินไปสู่สังคมคนชราอย่างบริบูรณ์ โดยมีเปอร์เซ็นขนาดของประชากรคนชรามากกว่า 20% ของพลเมืองทั้งหมด  เพราะว่าแต่ก่อนสุภาพสตรีญี่ปุ่นส่วนมากจะไม่ทำงานนอกบ้านแต่จะอยู่บริบาลคนชราที่อยู่กับครอบครัว แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปคือต้องไปที่บริษัทหรืออยู่นอกบ้านเพิ่มขึ้น แสดงได้จากจำนวนสุภาพสตรีที่ทำงานบริษัทมากขึ้นถึง 3% ใน 10 ปีที่ผ่านมา แต่จำนวนสุภาพสตรียังคงอยู่บ้านหล่นไปถึง 12% ทำให้มีอิธิพลต่อกิจการบ้านพักคนชรามีความประสงค์เพิ่มขึ้นมากตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา

กิจการดูแลคนชราแบ่งเป็น 2 รูปเบบ ตามแบบของการบริการและสินค้า ได้แก่ 1. การให้บริบาลเป็นเวลาไม่นาน  2. การจัดการดูแลแบบระยะยาว โดยรูปแบบแรกนั้นจะเน้นให้การบริบาลบรรเทาคนชราในการใช้ชีวิตประจำวันทั้งแบบนอกและในสถานที่ การจัดรูปแบบการพักผ่อนและการจัดรูปแบบสังคมระหว่างเพื่อนๆ ไปจนถึงการให้การบริบาลด้านการแพทย์สำหรับคนชราที่มีไม่สบายและมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการบริบาลอย่างเป็นนิตย์ แต่ในรูปแบบที่ 2 เป็นการให้ที่พักอาศัยระยะยาวโดยให้ความสำคัญในรูปแบบการให้การบริการทางด้านห้องพักระยะยาวหรือบ้านพักแก่คนชรา ที่อยากจะย้ายตัวเองเข้ามาในบ้านพักคนชราเพื่อความสะดวกสบายสำหรับการใช้ชีวิตหลังจากไม่ได้ทำงานแล้ว โดยเฉพาะคนชราที่ไม่มีครอบครัว ยิ่งกว่านั้นลักษณะการบริบาลคนชรายังไม่เหมือนกันได้อีกตามรูปแบบความประสงค์ทางด้านต่างๆ ของคนชราเอง เช่น กิจการบ้านพักคนชราสำหรับอาศัยอยู่แบบระยะยาวสามารถแบ่งกลุ่มคนชราเป็นแบบที่ให้ความสำคัญคนชราที่สามารถบริบาลตนเองได้แต่ไม่ได้แต่งงานหรือไม่มีญาติพี่น้องและอยากจะอยู่ร่วมกับคนชราคนอื่นๆ ที่มีอายุใกล้ๆกัน หรือลักษณะที่ให้ความสำคัญกับคนชราที่ไม่สบายและประสงค์การบริบาลอย่างใกล้ชิดสม่ำเสมอ ทั้งนี้กิจการที่ให้ความสำคัญกับการให้การบริบาลคนชราในระยะสั้นหรือรูปแบบแรกก็สามารถจำแนกเจาะกลุ่มคนชราได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นการแบ่งเป็นการบริบาลคนชราที่ต้องการการพักฟื้นจากการดูแลของโรงพยาบาล หรือคนที่ประสงค์เพียงการบริบาลแบบต่อวัน โดยเฉพาะคนชราที่อยู่บ้าน ไม่มีใครช่วยบริบาลระหว่างวัน และประสงค์ที่จะมีกิจกรรมทำระหว่างวัน เป็นต้น ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นสังคมที่ให้ความหมายกับคนชราอยู่มาก แต่ด้วยรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของขนาดพลเมืองของคนชราในประเทศไทยที่ตรงข้ามกับขนาดของพลเมืองวัยหนุ่มสาวที่ลดลง ทำให้คนในครอบครัวจะต้องทำงานหนักขึ้นและมีเวลาในการบริบาลคนชราลดลง ทำให้กระทบไปถึงความต้องการบริบาลคนชราเพิ่มขึ้น พ.ศ. 2559 ประเทศไทยมีคนที่อายุมากกว่า 65 ปีเพียง 840,000 คน หรือประมาณ 9% ของคนทั้งประเทศ แต่จากจำนวนการอยู่คนเดียวของคนชราในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นตรงกันข้ามกับปริมาณการเกิดที่น้อยลงทำให้เกิดการคาดคะเนว่าคนชราในประเทศไทยจะมากขึ้นเป็น 18 ล้านคนใน พ.ศ. 2593 หรือ 27% ของคนทั้งประเทศ โดยเรานับว่าจะย่างก้าวสู่สังคมคนชราแบบสมบูรณ์ อย่างไรก็ดีสังคมไทยจะให้ความสำคัญกับคนชรา แต่จากการที่ขนาดของคนในครอบครัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด และลูกๆหลานๆรวมทั้งญาติพี่น้องจำเป็นต้องทำงานข้างนอกเพิ่มขึ้นจนทำให้ไม่มีเวลาเอาใจใส่คนชรา ทั้งนี้จีนเป็นมหาอำนาจที่ให้ความสำคัญกับคนชราอย่างยิ่งยวดเหมือนกับเรา แต่เพราะการเติบโตของเศรษฐกิจจีนทำให้ลูกๆหลานๆและญาติพี่น้องหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องไปทำงานนอกบ้านและละเลยให้พ่อแม่ที่อายุมากต้องบริบาลตัวเองมากขึ้น ซึ่งทำให้รัฐบาลกลางต้องออกกฎหมายเอาใจใส่คนชรามาใช้ เพื่อบังคับให้ลูกๆหลานๆกลับมาบริบาลและเยี่ยมเยียนพ่อแม่ที่บ้านเพิ่มขึ้น มากไปกว่านั้นจากบันทึกของรัฐบาลไทย เจอว่ามีสัดส่วนคนชราประมาณ 38% ที่ไม่สามารถเข้าถึงการบริบาลที่มีประสิทธิภาพหรือการรักษาพยาบาล เพราะว่าไม่มีคนพาไป อุปสรรคในการเดินทาง และไม่มีเวลา สิ่งเหล่านี้ย้อนกลับมาให้รู้ได้ว่าความประสงค์ในการบริบาลคนชราในประเทศของเราจะมีโอกาสมากขึ้นในอนาคต ถึงแม้ว่าจะมีการบอกให้ลูๆกหลานๆจำเป็นต้องเอาใจใส่คนชราในครอบครัวก็ตาม โดยใน พ.ศ. 2559 กิจการดูแลคนชราในประเทศไทยพัฒนามากขึ้นแต่ตอนนี้ยังไม่ใหญ่มากนัก เพราะว่าจำนวนคนชราในตอนนี้ยังมีไม่เยอะมาก โดยส่วนมากจะเป็นกิจการในรูปแบบการให้บริบาลในแบบสั้นๆ ถึงแม้ว่าตามการคาดคะเนธุรกิจนี้จะโตมากขึ้นจากสัดส่วนคนชราที่จะเติบโตประมาณ 50% ในอีก 10 ปีต่อจากนี้ ปัจจุบันอุปสงค์ในธุรกิจนี้ของคนไทยบางทีก็ยังมีจำนวนไม่เยอะมากนักเพราะสัดส่วนคนชราต่อคนทั้งประเทศยังมีจำนวนไม่เยอะ กระนั้นก็ดี 5-10 ปี ต่อจากนี้ มีแน้วโน้มว่ากลุ่มคนชราในไทยอายุระหว่าง 65-74 ปีจะมีมากขึ้นเยอะที่สุด และสัดส่วนคนชราที่มีอายุสูงกว่า 75 ปีก็จะมีมากขึ้นตามมาด้วย เนื่องจาก เทคโนโลยีทางการรักษาพยาบาลที่จะมีคุณภาพมากขึ้นและทำให้อายุของคนชราเพิ่มขึ้น ด้วยประการนี้คาดว่ากิจการดูแลคนชราแบบให้บริบาลในแบบสั้นๆ จะมีโอกาสขยายตัวได้มากกว่าในช่วง 5-10 ปีต่อจากนี้ เพราะคนชราส่วนมากยังคงอาศัยอยู่กับลูกเป็นหลัก พร้อมๆกันนี้บ้านพักคนชราที่เน้นการให้คนชรามาอยู่อาศัยระยะยาวจะเริ่มขยายตัวมากขึ้น เพราะว่าคนชรามีแน้วโน้มที่จะต้องอยู่คนเดียวเพิ่มขึ้น โดยจากบันทึกของสหรัฐฯ ชี้ชัดว่าสัดส่วนการขยายตัวของราคาห้องพักสำหรับคนชราเพิ่มสูงขึ้นหลังจาก พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ซึ่งไปในทิศทางเดียวกับการที่สหรัฐฯ มีสัดส่วนคนชราต่อคนทั้งประเทศมากขึ้นแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน พอเปรียบเทียบกับข้อมูลนี้แล้วทำให้คาดคะเนได้ว่าอุปสงค์ของบ้านพักคนชราในประเทศไทยน่าจะเติบโตมากขึ้นเมื่อสัดส่วนของคนชราที่มีอายุเกิน 55 ปีต่อคนทั้งประเทศนั้นจะมากกว่า 20% หรืออีกราว 10 ปีข้างหน้านี้ ถึงแม้จะมีการคะเนว่าเร็วๆนี้ กิจการการหาที่อยู่คนชราแบบระยะยาวจะขยายตัวเนื่องมาจากตลาดคนชราจากต่างประเทศที่ไม่ได้ทำงานแล้ว จากบันทึกทัวร์จากต่างประเทศโดยเฉพาะคนชรามีความต้องการมาเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะทัวร์ต่างประเทศที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป มีการสัญจรมาท่องเที่ยวมากขึ้นประมาณปีละ 8% อนึ่งจากบันทึกของนิตยสารการอาศัยในต่างประเทศ ระบุว่า ประเทศไทยถูกบรรจุอยู่ในอันดับ 1 - 10 ประเทศที่มีความน่าสนใจในการอยู่อาศัยหลังจากไม่ได้ทำงานแล้ว เพราะว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละวันที่ถูก พร้อมทั้งการบริการด้านการสาธารณะสุขที่มีคุณภาพในราคาที่ไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น นอกจากนี้บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังๆ ก็ได้มีการริเริ่มสถานประกอบการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุไว้ให้บริการคนจากประเทศต่างๆ โดยตำแหน่งที่เป็นที่นิยมสำหรับคนชราจากประเทศต่างๆคือ อำเภอหัวหิน จังหวัดเชียงใหม่ และเกาะสมุย เพราะว่าอากาศที่เป็นธรรมชาติและคนไม่วุ่นวายเหมือนกับบริเวณท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา หรือกรุงเทพฯ เฉพาะจังหวัดเชียงใหม่จังหวัดเดียวมีคนญี่ปุ่นที่สมัครเข้ามาอยู่ที่บ้านพักคนชราแบบถาวรประมาณ 4,000คน เพิ่มขึ้นจาก พ.ศ. 2556 เกินกว่า 500คน และเข้ามารับบริการแบบชั่วคราวอีกประมาณ 2,000คน โดย ราคา ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ จะตกอยู่ประมาณ 300,000บาท ต่อคนต่อปี ทำให้ประเทศไทยมีรายรับจากคนกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 1,000ล้านบาทต่อปี


ในช่วงแรกจะเป็นลู่ทางของกิจการ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ที่บ้าน แต่สำหรับกิจการที่เน้นการอาศัยแบบระยะยาวนั้นจะได้รับการกระตุ้นจากอุปสงค์ของคนต่างประเทศและคนไทยที่มีจำนวนมากขึ้นในระยะยาวมากกว่า เพราะว่าสัดส่วนของคนชราที่ยังมีไม่เยอะและรูปแบบครอบครัวของคนไทยนั้นยังมีขนาดใหญ่พร้อมทั้งสภาพสังคมของประเทศไทยที่มุ่งให้ความสำคัญกับคนชราโดยลูกๆหลานๆและญาติพี่น้องจำเป็นที่จะต้องบริบาลคนชราในครอบครัว ทำให้ในตอนแรกนั้นมีการคะเนว่าการให้ดูแลแบบชั่วคราวนั้น เช่น การดูแลแบบรายวัน การดูแลที่บ้านพักคนชรา และการดูแลคนชราตามบ้าน จะมีอุปสงค์และเป็นลู่ทางสำหรับกิจการมากกว่า ในเรื่องของลู่ทางของกิจการบ้านพักคนชราแบบอาศัยถาวรจะขยายตัวมากขึ้นในปีถัดๆไป ด้วยการมีประสิทธิภาพในการตอบสนองได้ทั้งคนชราชาวต่างประเทศและคนชราคนไทยที่มีความจำนงในการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ประเทศที่มีค่าบริการที่ถูกกว่า ในความสามารถของการขยายตัวในระยะยาว เราเสนอว่าเจ้าของกิจการคนไทยจะต้องเริ่มมุ่งไปยังการแปรสภาพของรูปแบบและพฤติกรรมของสังคมคนชราพร้อมทั้งค้นคว้าลักษณะของกิจการที่จะพอดีกับคนชราในประเทศไทย เจ้าของกิจการคนไทยจะต้องค้นคว้าและตีความหมายชีวิตในแต่ละวันของคนชรา พร้อมทั้งต้องมีการเตรียมความพร้อมของพนักงานที่มีความรู้ด้านการดูแลคนชรา การหากิจกรรมที่น่าสนใจ และการออกแบบโครงการณ์และการก่อสร้างที่เหมาะสมกับการอยู่พักพิงของคนชรา อนึ่งบริเวณที่ตั้งของบ้านพักคนชราน่าจะต้องอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเพื่อความสะดวกฉับไวในกาสัญจรของคนชราในเคสฉุกเฉิน และ เจ้าของกิจการชาวไทยก็ต้องหาลู่ทางการลงทุนก่อนที่นายทุนจากประเทศต่างๆจะเข้ามาชิงส่วนแบ่งในธุรกิจนี้เพราะเป็นหนึ่งในกิจการที่ BOI ให้การช่วยเหลือโดยเฉพาะกิจการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่เริ่มเห็นสถานประกอบการต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นสถานประกอบการจากเยอรมัน เดนมาร์ก สวีเดน และญี่ปุ่น ที่มีความตั้งใจเข้ามาลงทุน อนึ่งเจ้าของกิจการคนไทยควรหาความร่วมมือทางกิจการดูแลคนชราโดยเฉพาะคนที่มีความรู้ความสามารถอยู่แล้วจากนานาประเทศ เพื่อที่จะเข้ามาอนุเคราะห์ส่งเสริมการให้การดูแลด้านสุขภาพที่ดีซึ่งเป็นข้อเด่นของประเทศไทย และเพื่อขยายความสามารถในการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้น




Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2560
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2560 23:11:54 น. 0 comments
Counter : 1371 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 3699684
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 3699684's blog to your web]
space
space
space
space
space