ขำไม่ออกแถมร้องไห้ในอิตาลี




 ในช่วงเดือนแรกของการทำงานเสริฟร้านพิซซ่า ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เนื่องจากยังเป็นช่วงต้นฤดูท่องเที่ยว ทำให้แขกยังไม่มากนัก การทำงานจึงง่ายทั้งเราและเพื่อนร่วมงาน 

โชคดีที่เคยเรียนการโรงแรม และเคยไปฝึกงานที่โรงแรมบ้าง การถือสามจานสำหรับเราเลยไม่มีปัญหา ทำให้ที่ทำงานยอมรับในการทำงาน แต่.....มีอยู่หนึ่งคน ซึ่งก็คือคนทำพิซซ่า (เป็นหลานของเจ้าของร้าน อายุ 40กว่าได้) แรกๆก็ดีกับเรา แซวเราบ้าง ทักทายกันปรกติ แต่เริ่มงานได้เดือนหนึ่งแกเริ่มโมโห ชอบด่า แต่ก็ลอยๆ ไม่ได้เจาะจง เราก็คิดว่าอาจเพราะเหนื่อยหรือเครียด เพราะคนทำพิซซ่าจะเลิกงานตี 1 และต้องตื่นมาเตรียมขนมปังสำหรับร้านอาหาร และสำหรับทำพิซซ่าตั้งแต่ 9 โมง

พอพิซซ่าออกจากเตา
เราไปถึงยังไม่ทันหยิบพิซซ่าเราต้องอ่านบิลก่อนว่า เป็นพิซซ่าอะไรของโต๊ะไหน แกก็รีบพูดขึ้นทันทีว่า ไปๆ ไม่ต้อง เดี๋ยวเราทำให้แกโกรธ (แกต้องการหมายถึงว่า เราไม่รู้จักหน้าพิซซ่าเดี๋ยวส่งผิด ประมาณนี้) เราจำหน้าพิซซ่าได้ แต่ถ้าแขกสั่งอะไรเพิ่มบนหน้าพิซซ่า เราก็ต้องถามเพราะกลัวส่งผิด แต่แกไม่อยากบอกไม่อยากสอน เราก็ไม่เป็นไร ที่จริงเราขอเมนูที่ร้านกลับบ้านตั้งแต่ตอนฝึกงานแล้ว พอแกพูดแบบนี้ครั้งสองครั้ง เราก็โอเคไม่ให้เราไปถือก็ดี ไม่ต้องเหนื่อย เราคอยเสริฟอาหารจากครัวและเครื่องดื่มจากบาร์ก็ได้

พอพิซซ่าออกจากเตา มีประมาณเกือบ 10 ถาด คนทำพิซซ่าก็ตะโกนเรียกเหมือนเช่นเดิม แต่คร่าวนี้ไม่ใช่แค่เรา แม้แต่เพื่อนร่วมงานเราก็ไม่มีใครไปหยิบ เราเพิ่งมารู้ว่า คนอื่นๆก็ไม่ชอบแก แกถือว่าเป็นหลานเจ้าของ พูดจาแย่ๆกับคนอื่น จนลูกเจ้าของซึ่งเป็นคนคุมร้าน เรียกพนักงานเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอลูกเจ้าร้านรู้เรื่องก็บอกให้พวกเราทำงานเหมือนเดิมและไปคุยกับคนทำพิซซ่า ที่ร้านนี่ดีอย่างหนึ่งว่าจะไม่เข้าข้างคนผิดต่อให้เป็นหลานหรือลูก

รอบแรกผ่านไป ทุกอย่างดีขึ้น แกพูดกับเราดีขึ้น และสอนเราว่าพิซซ่าไหนเพิ่มอะไร เพราะบางอย่างดูไม่ออก อย่างเพิ่มชีส พอชีสละลายบางทีดูไม่ออก หรือบางทีเป็นแป้งพิซซ่าคนละชนิดแกก็จะบอก แกดีขึ้นจนน่าใจหายเพราะเริ่มดี พูดคุย และใช้เรามากขึ้นด้วย ถ้าเรื่องงานก็ไม่มีปัญหา แต่นี้ใช้เราให้ไปซื้อบุหรี่ ใช้เราให้เอากาแฟให้แกซึ่งนั่งสูบบุหรี่อยู่ เด็กเสริฟที่เป็นเพื่อนเราก็บอกว่า เห้ย...ไม่ต้องไปซื้อให้ ไม่ต้องเอากาแฟไปให้ ไม่ใช่งานของพวกเรา เราก็ว่าไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อย ถ้าเราทำแล้วแกไม่หาเรื่องเรา ก็โอเคเราว่าไม่ได้หนักหนาอะไร

แล้ววันที่ทำให้เราถึงกับร้องให้เพราะคนทำพิซซ่าก็มาถึง แกจะทำพิซซ่าผิดบ่อยมาก แอบทิ้งก็เยอะ แล้วค่ำวันนั้นแกก็ทำพิซซ่าผิด พอเราไปหยิบพิซซ่าเสริฟลูกค้า แกบอกว่า

คนทำพิซซ่า : วันนี้ไม่ต้องสั่งพิซซ่านะมีให้แล้ว

เรา : ไม่เอา จะสั่งใหม่ หน้านั้นไม่ชอบ และจะกินร้อนๆ (ทุกคนมีสิทธิ์สั่งพิซซ่าหน้าไหนก็ได้กินก่อนกลับบ้าน)

คนทำพิซซ่า : เดี๋ยวอุ่นให้ ไม่ต้องสั่งไม่ทำให้

พอเลิกร้าน ทุกคนก็เขียนในกระดาษว่าจะกินพิซซ่าอะไร เราก็เขียนไปด้วย พอแกทำเสร็จ แกเอาพิซซ่าที่ทำผิดให้เรา เราแค้นมาก เราไม่ต้องการ หน้านั้นเค็มด้วยใครจะกิน เย็นก็เย็น เราถือพิซซ่ามาที่โต๊ะที่เราและเพื่อนร่วมงานนั่งประจำ ตาเราเริ่มแดง น้ำตาเต็มเบ๋าตา คิดอยู่ในใจ ทำไมทำกับเราแบบนี้ แต่เราก็ไม่ได้กินนะ เพื่อนเราเป็นแฟนกับพ่อครัวในร้าน ก็บอกเราให้ไปบอกลูกเจ้าของร้านกับสิ่งที่คนทำพิซซ่าทำกับเรา เราก็บอกไม่เป็นไร ช่างมัน

จนหัวหน้าร้านอาหาร คือคนแอฟฟริกัน ซึ่งดีกับเรามาก เพราะแกยอมรับการทำงานของเรา แกจะบอกเสมอว่า เราคือที่หนึ่งของร้าน พอแกเห็นว่าเราไม่กินพิซซ่า ก็เดินมาถามเราว่าทำไมไม่กิน เราไม่พูดอะไร เดินออกจากร้าน เพราะถ้าพูดร้องไห้แน่นอน เดินไปนั่งหน้าร้าน แล้วสักพัก
ไอคนทำพิซซ่ามันมาโอบเราและบอกเราว่า

คนทำพิซซ่า : ไม่กินหน้านี้ทำไมไม่บอก
(พูดเสียงนิ่มๆ)

เรา : บอกแล้ว (สึด....ทำเป็นมาพูด มรึงนั่นแหละที่บังคับกรู)

คนทำพิซซ่า : เอาใหม่เปล่า เดี๋ยวทำให้

เรา : ไม่ต้อง
(เราร้องไห้ออกมานิดหนึ่งแต่มันมืด มันเลยไม่เห็นแต่เราแค้นและอึดอัดมาก ที่เราไม่สู้คน เรายอมให้มันรังแก เรานึกถึงลูกๆ เราจะสอนพวกเขาให้เข้มแข็ง ไม่อ่อนแออย่างเรา)

พอแฟนเรามา เราขึ้นรถเท่านั้นแหละ ร้องไห้หนักมาก แฟนเราตกใจ ถามเกิดอะไรขึ้น เราบอกขับรถไปก่อน เดี๋ยวเล่าให้ฟัง เพราะเรารู้ว่าถ้าแฟนเรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแฟนเราลงไปหาเรื่องแน่ๆ เราร้องจนแฟนเราบอกถ้าไม่บอกจะกลับไปถามที่ร้าน เพราะแฟนเราไม่เคยเห็นเราร้องให้ขนาดนี้(เพราะคนอื่น แต่ถ้าทะเลาะกับแฟนเป็นเรื่องปรกติ 555)
เราเลยเล่าให้ฟัง แฟนเราบอกจะกลับไปต่อยมัน เราห้าม และบอกช่างมันเราขอร้อง ถ้ามันทำกับเราอีก เราจะให้แฟนเราไปหาเรื่องมัน แต่มันก็ไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก เพราะเพื่อนร่วมงานบอกลูกเจ้าของร้าน แกจึงไปพูดกับมัน ทุกอย่างก็ผ่านไปจนฤดูท่องเที่ยวจบ พอเปิดฤดูใหม่เราก็ไม่เจอมันอีกเลย เพื่อนเราบอกว่า มันทำผิดพลาดหลายเรื่อง และชอบแก้ตัว เจ้าของร้านเลยไม่เอาไว้

นี้คือพิซซ่าหน้าประจำของเราของร้านที่เราทำงาน คือ อเล็กซาดร้า เราเอากลับมากินกับแฟนที่บ้าน 
ในหน้าจะประกอบไปด้วย ชีสมอสซาเรลล่า มะเขือเทศสด ใบBasilico (บาซิลิโค) ชีสฟิลาเดเฟีย ร้าดน้ำมันมะกอกและโรยออริกาโน่


หน้าเดิมแต่เราลืมราดน้ำมันมะกอกกับโรยออริกาโน่ แต่ใส่ซุกีเน่เพิ่มด้วย
ที่จริงกินหลายหน้าแต่รูปอยู่ในคอมแฟน แฟนล้างเครื่องเราแล้วเอารูปไปหมด





Create Date : 30 ธันวาคม 2559
Last Update : 31 ธันวาคม 2559 23:41:49 น.
Counter : 1405 Pageviews.

4 comments
  
เก่งมาก ชื่นชมในความอดทนอดกลั้น เข้มแข็งนะคะ
คนเรา ใจดีได้ เมตตากรุณาได้ แต่อยู่ต่างเมือง เราต้องรู้จัก say no นะคะ เราไม่เบียดเบียนใคร แต่ก็รักษาสิทธิตนด้วย เป็นกำลังใจให้ค่ะ
โดย: OHO IP: 188.165.201.164 วันที่: 2 มกราคม 2560 เวลา:15:22:30 น.
  
ขอบคุณค่ะคุณ OHO
ใช่ค่ะ เราโดนแฟนสอนประจำและประโยคที่โดนบอกบ่อยที่สุดก็คือ คนดีกับคนโง่มันมีเส้นบ้างๆกันอยู่ เราอยากเปลี่ยนตัวเองมากไม่ใช่แค่สำหรับเรา แต่เราอยากเป็นตัวอย่างให้ลูกๆ ให้พวกเขาเข้มแข็ง ให้รักษาสิทธิ์ของตน
ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับกำลังใจ 😃
โดย: anywayfun IP: 188.165.201.164 วันที่: 2 มกราคม 2560 เวลา:23:29:54 น.
  
การเรียนรู้สิทธิ์ของตัวเราเอง และ รักษาสิทธิ์ของตัวเราเองนั้น สำคัญอย่างที่สุดกับการทำงานในต่างแดนนะคะ การรักษาสิทธิ์คือ "ต้องทำทันทีทันเหตุการณ์" อีกด้วยค่ะ ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องผ่านไปหลายวันแล้วค่อยลุกขึ้นมารักษาสิทธิ์... ถ้าคิดว่าเราถูก อย่ายอมค่ะ ไม่ว่าจะหน้าไหน เพราะถ้ายอม ต้องยอมตลอด คนชั่วๆพวกนี้อย่าไปเสียน้ำตาให้อีกนะคะ น้ำตามีค่าค่ะ เก็บเอาไว้เสียให้คนที่สมควรเสียน้ำตาให้ดีกว่านะคะ

พยายามเรียนรู้สิทธิ์ของตัวเราในฐานะพนักงานให้เยอะๆนะคะ และฝึกที่จะรักษาสิทธิ์ของตัวเอง เพราะถ้าเราไม่ทำ จะไม่มีใครมาช่วยรักษาสิทธิ์นี้แทนเราค่ะ ใครทำไม่ดีกับเรา ขอคุยกับคนๆนั้น ถ้าคุยไม่รู้เรื่องก็ไต่ขึ้นไปคุยกับหัวหน้า ถ้าคุยกับหัวหน้าไม่รู้เรื่อง ขอคุยกับเจ้าของร้านไปเลยค่ะ ต้องทำแบบนี้ ต้องสู้นะคะ ถ้าถอย ต้องถอยตลอด... เป็นกำลังใจให้ค่ะ
โดย: Max Bulliboo วันที่: 8 มกราคม 2560 เวลา:4:45:41 น.
  
ขอบคุณค่ะ คุณ Max Bulliboo หลังจากได้รับบทเรียน ก็ปรับตัวเองมากขึ้นค่ะ แต่ก็ไม่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที เพราะมันติดเป็นนิสัยมานาน หากไม่มีเหตุการณ์ครั้งนี้ อาจจะไม่ได้รับบทเรียนและคงยังไม่ได้ปรับปรุงตัวเอง

ตอนนี้เราก็ไม่ยอมให้ใครมากินแรงเรา ทำงานชุ้ยๆแล้วทิ้งให้เราเก็บ เราพูดกับหัวหน้าเลย หรือแม้แต่หัวหน้าไม่ให้เราหยุดในวันหยุดของเรา และเลื่อนออกไปเป็นอีกอาทิตย์ เราก็เล่นถึงเจ้าของ สุดท้ายเราก็ได้หยุด

เราอาจจะถอยบ้างแต่จะไม่ถอยตลอด การถอยของเราอาจจะกลับไปตั้งหลักและเมื่อหลักมันแข็งแรงใครจะมาทำพังง่ายๆคงไม่ได้
โดย: anywayfun วันที่: 11 มกราคม 2560 เวลา:16:04:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

anywayfun
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Flag Counter
ธันวาคม 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31