|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พี่ปิ๊งไปรับรางวัลจากผลสอบ o level 6 distrinctions
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พี่ปิ๊งได้กลับไปที่ damai secondary school ในฐานะนักเรียนที่ได้รับรางวัลผลสอบ o level ที่พี่ปิ๊งทำได้ 6 A ( distrinction)
กว่าจะมาถึงวันนี้ ทำให้แม่นึกย้อนหลังไปเมื่อหกปีที่แล้ว เมื่อเราตกลงใจที่จะตามคุณพ่อที่มาทำงานที่สิงคโปร์ก่อนที่เราจะมาตามมาหนึ่งปี ตอนจะมา ต้องยอมรับว่า แม่คิดมากพอสมควร เพราะห่วงเรื่องที่พี่ปิ๊ง น้องป่านจะเรียนอย่างไร แต่เพราะแม่และพ่อ อยากให้เราอยู่ด้วยกัน ไม่อยากแยกกันอยู่ และทั้งพี่ปิ๊ง และน้องป่านยีนยันว่าหนูสู้ แม่ก้เลยตกลงใจมาอยู่สิงคโปร์
เรามากันวันที่ 2 กันยา 2002 แม่ยังจำได้ พี่ปิ๊ง น้องป่าน มีเวลามาเรียนมาติวเพียงประมาณสองเดือนก้ต้องสอบเข้าเรียน แม่จำได้ ตอนที่พ่อ และแม่บอกกับโรงเรียนติวว่า อยากให้พี่ปิ๊งสอบเข้า ป5 น้องป่านเข้าป 4 (ตอนนั้นพี่ปิ๊ง จบ ป4 และน้องป่านจบ ป3 มาจากกรุงเทพ) ทางโรงเรียนบอกว่าคงยาก เพราะครั้งแรกที่ลูกลองทำข้อสอบ วัดระดับ ภาษาอังกฤษ ลูกได้เพียง 18 คะแนน จาก100 วิชาเลข วิชาวิทย์ ลูกก้อ่านโจทย์แทบไม่เข้าใจ
แต่พอผ่านไปสักสองอาทิตย์ แม่เองก็พยายามสอนลูกเพิ่มเติมหลังจากกลับจากโรงเรียนติว (ลูกเรียนตั้งแต่ 10 โมง ถึง 4 โมงเย็น) พยายามสอนเลข สอนให้ลูกอ่านโจทย์ให้เข้าใจ แม่เองก้แทบเหมือนมาเรียนใหม่ เพราะหลายวิธีทำ ที่ไม่เหมือนกับที่ลูก (รวมถึงแม่) เรียนมาจากเมืองไทย ครูเริ่มบอก วิชาเลขของลูกทั้งพี่ปิ๊ง และน้องป่าน ดีขึ้นมาก แม่ก้เริ่มมีความหวังมากขึ้น
ภาษาอังกฤษ แม่เองก้พยายามที่จะช่วยลูก ให้หัดแปลนิทานง่ายๆ มีรางวัลเพื่อให้ลุกได้อ่านภาษาอีงกฤษมากขึ้น เพราะจะมำให้ลูกได้ทั้งคำศัพท์และgrammar กลางเดือนตุลา เป็นเวลาที่ต้องไปสมัครสอบ ยอมรับว่าทั้งแม่และพ่อเราเครียดพอสมควร เท่าที่รู้มา ส่วนใหญ่เด็กไทย รวมถึงเด็กจีน และเด้กต่างชาติ ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการเรียนมักจะถูกลดชั้น 2 - 3 ปี
ต้นพฤศจิกายน ลูกไปสอบ ลูกสอบทั้งหมดสี่โรงเรียน วันที่ไปสอบ แม่จะไปกับลูกตลอด ส่วนคุณพ่อทำงานเลยไม่ได้ไปด้วย หลังสอบเสร็จทั้งพ่อและแม่ยังคงนอนไม่ค่อยหลับ ได้แต่หวังว่า ผลสอบของลูกคงพอทำได้ เพราะทั้งสองสาวมาติวน้อยมาก ส่วนใหญ่เค้าจะมาเรียนกันก่อนเกือบหนึ่งปี
ต้นเดือนธันวา ผลสอบโรงเรียนแรกออก โดยที่ผลออกมา โรงเรียน ยอมรับทั้งสองคน แต่พี่ปิ๊งได้ป 4 น้องป่านได้ ป3 แม่กับพ่อคุยกันว่าจะเอายังไง เพราะเราต้องบอกว่าจะเอาไม่เอาในสามวัน สรุป เราคิกว่าในเมื่อโรงเรียนแรก ผลออกมาลูกได้ แม้จะถูกลดชั้น ก้แสดงว่าลูกน่าจพทำข้อสอบได้ เราน่าจะลองลุ้นโรงเรียนที่เหลือ ก้เลยปฎิเสธ
อีกสองวัน วันนั้นแม่กำลังสอน (ตอนนั้นแม่รับสอนภาษาไทยให้คนต่างชาติในสิงคโปร์) เสียงโทรศัพท์ก็ดัง ต้องขอโทษนักเรียน ดูเบอรืแล้วเป็นเบอร์ของพ่อ ซึ่งปกติถ้าแม่บอกแม่มีสอนพ่อจะไม่โทรมา แสดงว่าพ่อต้องมีเรื่องด่วน เลยขอนักเรียนรับสาย
ผลคือ ผลสอบของลูกจาก stamfard primary school ออก พี่ปิ๊ง ได้ ป5 น้องป่านได้ ป4 อย่างที่พ้อแม่หวัง ครั้งนี้แม่บอกพ่อ เอาเลย ไม่ต้องรอผลโรงเรียนอื่นแล้ว เพราะที่นี่ ถ้าเรารับแล้ว คือรับเลย ไม่มีโอกาสเปลี่ยน วันนั้นพอรู้ผลต้องบอกเลย แม่ดีใจสุดๆ จริงๆแล้ววิชสภาษาอังกฤษทั้งพี่ปิ๊งและน้องป่านไม่ผ่านได้เพียง 33 คะแนน แต่วิชาเลข ถือว่าทำได้ดี โรงเรียนเลยรับลูกไว้ แต่ก็มีข้อแม้ ถ้าเรียนไม่ไหว ถูกลดชั้น พ่อแม่ต้องยอม
เมื่อโรงเรียนเปิดเรียน ได้คุยกับครู ทั้งสองพี่น้อง ต้องเรียนเพิ่มทุกวิชาที่โรงเรียนเปิดสอนให้หลังเลิกเรียน โดยนักเรียนที่คะแนนไม่ดี จะต้องเรียนเพิ่มตามที่ครูบอก โดยเป็นการเรียนฟรี ที่โรงเรียนจัดให้ ตอนแรกทั้งสองคนต้องเข้าทั้ง เลข วิทย์ อังกฤษ แล้วก็ค่อยๆ ผ่านมาจนเหลือแค่อังกฤษ โชคดีที่ทั้งสองคนปรับตัวได้ดี ไม่มีปัญหาทั้งกับเพื่อนและกับคุณครู และโชคดีที่สมัยที่เรียนอยู่โมาภานุสสรณ์ พี่ปิ๊งเป็นเด็กที่เรียนได้ค่อนข้างดี มีผลการเรียนติดบอรืดของโรงเรียนอยู่เสมอ ทำให้ลูกเรียนได้ และได้รับรางวัลนักเรียนที่มีผลการเรียนพัฒนาได้อย่างรวดเร็วจากโรงเรียน
เมื่อจบ ป6 มีเรื่องที่พ่อ แม่ และนักเรียนทุกคนหนักใจ เพราะการสอบจบ จะเป็นการสอบข้อสอบเดียวกันทั้งประเทศ เรียกการสอบว่า psle ผลสอบที่ได้ จะเป็นตัวกำหนดโรงเรียนและหลักสูตรการเรียนต่อในระดับมัธยม ซึ่งจะแบ่งเป็น normal ซึ่งต้องเรียน 5 ปี และ express เรียน 4 ปี แม่ก้ได้แต่ลุ้นหวังให้พี่ปิ๊งทำให้ได้ดี ได้เรียนในแบบ express และเมื่อผลสอบออกมา พี่ปิ๊งก็ทำได้ดีระดับหนึ่ง แต่ไม่ดีเท่าที่พี่ปิ๊งหวังไว้ แต่เป็นคะแนนที่ดีที่สามารถเรียนในแบบ express เมื่อผลออก พี่ปิ๊งก็ต้องเอาผลสอบมาเลือกโรงเรียน โดยเลือกได้หกแห่ง แล้วกระทรวงจะเป็นคนตัดสินว่าเราจะได้เรียนที่ไหน
และเมื่อผลออกมา พี่ปิ๊งก้ได้เป็นนักเรียน secondary ของ damai secondary school
ในระหว่างเรียนมัธยม พี่ปิ๊งเรียนหนักมาก แต่ยังโชคดีที่ลูกยังมีกิจกรรมอื่นเช่นว่ายน้ำ เปียโน ไว้ให้ทำเมื่อเวลาเหนื่อยมากกับการเรียน ตอนแรกครูที่โรงเรียน กลัวพี่ปิ๊งจะไม่ไหวเพราะมีกิจกรรมที่ต้องซ้อมทั้งว่ายน้ำ(พี่ปิ๊งเป็นนักว่ายน้ำของสโมสร และตัวแทนโรงเรียน) และเปียโน อยากให้หยุเกิจกรรม แต่แม่บอกว่าตรงนี้ เป็นการทำให้พี่ปิ๊งได้มีเวลาหยุดคิดเรื่องเรียน ได้ไปทำกิจกรรมอื่น อาจทำให้ลุกเครียดตากการเรียนได้บ้าง
ตลอดการเรียนสี่ปี พี่ปิ๊งไม่เคยมีติวชั่น ซึ่งปกติเด้กที่นี่มีเกือบทุกคน แต่ลูกก็พยายาม บางคนั้งก้เห็นลูกร้องไห้เมื่อคะแนนสอบออก โดยเฉพาะวิชาอังกฤษ วรรณคดี สังคม คงเพราะภาษา ที่ไม่ดีเท่ากับเด้กที่เรียนมาตั้งแต่อนุบาล แม่และพ่อก้ได้แต่ให้กำลังใจ ให้ลุกอ่านหนังสือพิมพ์ อ่านนิตยสารอังกฤษให้มากขึ้น ลูกเรียนได้ดีมากในวิชาเลข ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งตอนอยู่ ม 3 พี่ปิ๊งก้ได้รับรางวัลนักเรียนที่ทำคะแนนชีววิทยาสูงสุดในโรงเรียน
ช่วง ม 4 ลูกดูเครียดมาก เพราะสิ้นปี จะต้องสอบ o level ซึ่งจะเป็นข้อสอบวัดผล นักเรียนม 4 ทั้งประเทศ ที่ข้อสอบจะออกมาจากเคมบริจด์อังกฤษ ที่ลูกเครียดมากเพราะในการสอบ ถ้าตกอังกฤษ ถือว่าสอบตกหมด แม้คะแนนวิชาอื่นจะผ่าน ทั้งแม่และพ่อก็ต้องพยายามให้กำลังใจ จนกระทั่งเมื่อสอบเสร็จลูกก็ยังกังวลตลอดเวลา เพราะผลสอบ o level ก็จะต้องเป็นตัวกำหนดในการเลือกเรียน junior collage หรือ poly technics ซึ่งในแต่ละจุเนีบร์ และโพลีคะแนนก้ต่างกัน
และเมื่อถึงวันที่ผลออก แม่ถามว่าจะให้ไปด้วยมั้ย ลูกบอกไม่เป็นไร แต่พอใกล้เวลาจริงๆ ครูบอกห้องพี่ปิ๊งมีคนตกภาษาอังกฤษ ด้วยความที่ลูกไม่มั่นใจเลยกังวลมาก โทรกลับมาหาแม่ โทรหาพ่อ พ่อก้เลยิิกจากที่ทำงานแล้วไปโรงเรียนลูก
ผลสอบออก ผู้อำนวยการจะประกาศผลนักเรียนที่ได้คะแนน o level สูง คือได้ a ตั้งแต่ 5 ตัวขึ้นไป ผลคือมีชื่อของพี่ปิ๊งด้วย ตอนที่พ่อบอก แม่รู้สึกดีใจสุดๆ ยินดีกับลุกมาก เพราะลุกสามารถสอบได้ a ถึง หกตัว
และตอนนี้ลุกก้เป็นนักเรียนของ temasek junior collage สมกับที่ลูกหวัง ยินดีด้วยค่ะ
Create Date : 06 กรกฎาคม 2552 |
Last Update : 6 กรกฎาคม 2552 9:53:06 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1005 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kizz_j วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:16:51:56 น. |
|
|
|
โดย: kizz_j วันที่: 6 กรกฎาคม 2552 เวลา:21:59:16 น. |
|
|
|
โดย: veerar วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:0:16:57 น. |
|
|
|
โดย: kanyong1 วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:7:07:24 น. |
|
|
|
โดย: I_sabai วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:9:00:42 น. |
|
|
|
โดย: no filling วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:13:15:22 น. |
|
|
|
โดย: หน่อยอิง วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:15:13:06 น. |
|
|
|
โดย: brackleyvee วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:16:02:05 น. |
|
|
|
โดย: ggg* (clyt ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:16:15:26 น. |
|
|
|
โดย: ยัยลีลี วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:17:44:32 น. |
|
|
|
โดย: อัสติสะ วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:17:58:46 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:18:51:54 น. |
|
|
|
โดย: chabori วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:20:56:11 น. |
|
|
|
โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:21:08:43 น. |
|
|
|
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:22:38:19 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ลูกชายท่าทางจะเรียนเมืองไทยสักพัก ให้อะไรเรียบร้อยค่อยไปอยู่ถาวรค่ะ ตอนนี้ก็ไปๆมาๆค่ะ