|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
คำถามที่ไม่มีใครตอบ
สืบเนื่องมาจาก บทความเรื่อง เมื่อเรากำลังจะตื่น ได้ตั้งคำถามตอนท้ายไว้ แต่มิได้มีผู้ใดตอบจึงถือ โอกาสลองใช้ความรู้อันน้อยนิดตอบดูนะครับ ถ้ามีถ้อยคำใดไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะครับ
เริ่มต้นรื่องของความสุข ซึ่งเป็นข้อที่ 1 ก่อนแล้วกันเนอะ และจะไล่ตอบให้ครบนะครับ
ความสุขที่แท้จริง คือการมีเงินทองมากๆ รึเปล่าน้อ หรือการมีชื่อเสียงโด่งดัง มีคนมารายล้อมมากมาย เอ...แต่ถ้ามีอำนาจด้วยคงจะสุขน่าดูเนอะ
หรือว่าการมีใครสักคนที่รักเรา หรือเรารัก หรือ ต่างคนต่างรัก แต่ส่วนมากเรามักคิดว่าตัวเรารักคนอื่นมากกว่าที่ คนอื่นจะรักเราใช่ใหมน้อ
ถ้าเราลองคิดนะครับว่าภายนอกกายเราไม่มีใครเลย มีแค่เราคนเดียว จะมีใครมาทำให้เราไม่มีความสุขได้รึเปล่า แล้วเรายังจะทุกข์อยู่หรือเปล่า
ความเป็นจริงความสุข กับความทุกข์ มันก็ยังเกิดอยู่ดีนะ เพราะสิ่งภายนอกกายเราเป็นแค่สิ่งเร้าเท่านั้น แต่ตัวเราเองนั่นแหละคือ ตัวหลักที่ทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ลองให้เวลากับตัวเองแล้วถามตัวเองบ่อยๆ จะได้คำตอบทุกอย่างนะครับ
เพราะฉนั้นความสุข เรารู้จักกับมันเป็นอย่างดีใช่ใหมครับ มันคือตัวเราเอง ก็แค่อยู่กับตัวเอง และถามตัวเองบ้างนะครับ อย่าเอาแต่ถามแต่เรื่องคนอื่นมากเกินไป จนลืมไปว่านั่นตัวคนอื่นนะไม่ใช่ตัวเรา
และในทางกลับกัน ความทุกข์ก็คือเพื่อนที่คุณมักไปสนิทกับมันเป็นประจำ เพราะอะไรก็สุดแล้วแต่ละบุคคล บางคนสนิทซะจนไม่อาจแยกจากกันได้เลยทีเดียว เพราะเมื่อแยกมันออกไปแล้วจะทำให้ชีวิตมันขาดๆหายๆไป ไม่เชื่อลองคิดดูนะครับ
ยกตัวอย่างเช่น เราเข้าไปยุ่งกับคนอื่นมากเกินไปรึเปล่า, เราเป็นผู้มักมากเกินไปรึเปล่า, เราประกอบแต่ กรรมที่ไม่ดีรึเปล่า เราทราบรึเปล่าครับว่า ทุกสิ่งในระบบจักรวาลมันมีสิ่งเชื่อมโยงกันอยู่ มันอาศัยซึ่งกันและกัน และมันก็กระทบต่อกันตลอดเวลา
เพื่อนไม่ว่าจะสนิทกันแค่ใหนก็ ควรจะหาเวลาให้ตัวเองบ้างนะครับ อย่าไปคบกับมันมากนะความทุข์
ส่วนเรื่องของหน้าตาคนดีหรือ ไม่ดีเป็นอย่าไร ลองเดินไปในห้องน้ำนะครับ แล้วก้มลงที่อ่างล้างหน้า หลังจากนั้นล้างหน้าสัก 1 ครั้ง หรือถ้าเพลินๆก็ล้างตามสบาย แล้วเงยหน้าขึ้นมามองที่กระจก นั่นหละครับหน้าตาของคนที่เป็นคนดี และคนไม่ดี
ผมก็ยังไม่เคยเห็นใครนะครับที่ ดีตลอดเวลา และไม่ดีตลอดเวลา เพราะฉนั้น เราเองนี่แหละ เป็นทั้งพระเอก และผู้ร้ายในคนเดียวกัน มันต่างกันตรงที่ น้ำหนักของด้านใหนมันมากกว่ากัน
และการกระทำใดๆที่ไม่ดี มีผลต่อผู้อื่นในทางไม่ดี ก็ควรจะต้องทราบไว้ด้วยนะครับว่า สิ่งที่เราทำมันเป็นแค่การเริ่มต้น ของเหตุการณ์บางอย่างที่จะ กลับมาตอบแทนเราในไม่ช้า มันเป็นกฎของธรรมชาติครับ อีกหนึ่งเรื่องคือความรักที่...ใครหนอจะรักเราจริงๆ มันจะมีอยู่จริงใหมหนอในชีวิตเรา
หรือ ความผิดหวังมันทำไมต้องมาเกิดกับเราบ่อยๆ ซ้ำๆ ด้วยนะ
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนนะ ว่าความรักคืออะไรกันแน่
ความรักหน้าตามันเป็นเช่นไร มันมีลมหายใจรึเปล่า หรือว่ามันแค่ เจ้าตัวราคะ
ถ้าลองถามตัวเองว่า เมื่อเราต้องการมีใครสักคนเราปรารถนาสิ่งใดในตัวคนๆนั้น
ร่างกาย หรือ จิตใจ (ปัจจุบันต้องเพิ่มมาอีกอย่าง คือวัตถุ ที่มนุษย์ อุปโลกน์ ขึ้นมาว่ามันมีคุณค่า แทบจะเรียกได้ว่าคุณค่าของมัน เหนือคำว่าชีวิตของคนบางคนก็ว่าได้)
ถ้าเกิดเราแค่รู้สึกรักที่รูป (หน้าตา,ร่างกาย ฯลฯ) นั่นก็เตรียมพบกับความผิดหวังได้เลย เพราะมันเป็นกฎธรรมชาติของมันอย่างนั้น หรือที่เรียกว่า กฎไตรลักษ์
เอ...แล้วถ้ารักที่จิตใจหละ แล้วจจิตใจมันคืออะไรหละ มันมีรูปร่างหน้าตาคล้ายแมว รึเปล่า
ยกตัวอย่างง่ายๆ สักเรื่องนะ วันหนึ่งเราเกิดพบเจอหญิงสาวคนหนึ่ง หน้าตาไม่ได้เข้า สเปคเราเลย(จริงๆ ก็ยังสับสนกับคำว่า สเปค เกี่ยวข้องกับคนในช่องทาง โมเลกุลใหน หรือผมอาจจะไม่ฉลาดในภาษา)
ต่อครับ แล้วรูปร่าง ทรวดทรงไม่ได้มีความอยากเข้าใกล้หรือ สัมผัสเลยให้ตายสิ(ใส่อารมณ์นิดหน่อย)
แต่เราดันเจอ สาวคนนี้บ่อยๆ ทั้งที่ไม่ได้อยากเจอเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่ ชายหนุ่มคนนี้ได้พบเห็นในตัวสาวเจ้าก็คือ ทำไมเธอช่างเป็นคนมีน้ำใจต่อผู้อื่น ชอบช่วยเหลือคนอื่นโดย มิได้หวังสิ่งใดตอบแทนเลย
เมื่อเพื่อนร่วมงานได้เลื่อนตำแหน่งทั้งๆ น่าจะเป็นเธอมากกว่า เธอก็ยังรู้สึกเป็นสุขกับเขาไปด้วย การวางตัวก็ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวมาเป็นใหญ่จนดูน่าเกลียด (ลองศึกษา พรหมวิหาร 4 เพิ่มเติมนะครับ)
ความรู้สึกของชายผู้นั้น ที่มีต่อสาวน้อยผู้นั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไปที่ละเล็กละน้อย จนเขาเริ่มมองเห็นความสวยงามบางอย่างในจิตใจ ที่งดงามของสาวน้อยผู้นั้น
ความรู้สึกอย่างนี้ผมเชื่อว่าเพื่อนๆบางคนคงได้มีโอกาสได้เจอะเจอด้วยตัวเองมาบ้างแล้วใช่ใหมครับ
เราลองมาเปรียบเทียบดูนะครับว่า รูป กับ จิต อย่างใดมันมีการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่ากัน (เปลี่ยนแปลงในที่นี้หมายถึง การเปลี่ยนในเชิงลักษณะ ที่รับรู้ได้นะครับ แล้วมีความคงอยู่ได้ในชั่วขณะ)
ส่วนที่ว่าทำไมหนอเราไม่เคยพอใจกับคู่ของเราสักที เราหวังอะไร แล้ว ความพึงพอใจของเรามันมาจากใหนหรือ.....? ไว้มาเฉลยในแบบฉบับของผมคราวหน้านะครับ...
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552 |
|
31 comments |
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2552 13:40:09 น. |
Counter : 744 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 14 พฤศจิกายน 2552 17:25:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: อัสติสะ 15 พฤศจิกายน 2552 11:38:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 15 พฤศจิกายน 2552 16:56:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 16 พฤศจิกายน 2552 15:45:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 24 พฤศจิกายน 2552 15:35:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 26 พฤศจิกายน 2552 6:56:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 26 พฤศจิกายน 2552 13:37:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 17 ธันวาคม 2552 22:46:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 31 ธันวาคม 2552 12:00:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 31 ธันวาคม 2552 19:17:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 3 มกราคม 2553 0:53:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: OxyMan 3 มกราคม 2553 22:28:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 5 มกราคม 2553 20:34:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผัสสะ 6 มกราคม 2553 0:51:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: 7 IP: 192.168.50.250, 58.8.131.191 8 มกราคม 2553 1:50:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|