สวัสดีชาวโลก สวัสดีชาวโลก...! เมื่อ วันที่ 11 มีนาคม 2554 เราๆ คงรู้กันแล้วนะครับว่า มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แต่จริงๆแล้ว ไม่ต้องคาด และ ไม่ต้องฝัน ยังไง เราๆ ก็ต้องประสบแน่นอนอยู่แล้ว ก็เราๆ มันแค่ชาวโลก ผมได้ติดตามข่าวเหตุการณ์นี้มาพอสมควร ตั้งแต่เกิด แผ่นดินใหว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ไกล้เกาะญี่ปุ่น หลังจากนั้น 2 วันให้หลัง ก็เกิด อาฟเตอร์ ช๊อค ตามมา ซึ่งแรงกว่า ครั้งแรก ทำให้นักวิชาการต่างก็ งง เป็นไก่ตาแตก (ทำไมมันต้องไปเกี่ยวกับไก่ด้วยหว่า) จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ทำให้มานั่งคิด นอนคิด และ เดินคิด ว่า เอ...ทำไมถึงต้องเกิดที่ ญี่ปุ่น หรือว่า ญี่ปุ่น ไม่ได้ไปแก้บนรึเปล่า หรือ อาจเป็นไปได้ว่า ไม่ได้ปรับ ฮวงจุ้ย เหมือนรัฐบาลบ้านเรา คิดไปคิดว่าก็คิดไปเองว่า มันเป็นการเตือนบางอย่างของธรรมชาติรึเปล่า ! ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความเตรียมพร้อม และ เชี่ยวชาญ ด้านภัยธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก แต่ ก็ไม่อาจคาดการณ์ และ ต้านทานพลังของธรรมชาติได้ คงไม่ต้องนึกต่อไปว่า ถ้าเป็นบ้านเรา เหอ เหอ... ถ้าลองมองมุมกว้างๆดูนะครับ เราๆชาวโลก ที่ ยืนอยู่บนเปลือกโลก ผืนเดียวกันทั้งโลก เคยคิดหรือไม่ว่า มันไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว นอกซะจากเราจะไม่ต้องยืนบนเปลือกใบนี้แล้ว เมื่อเปลือกของโลกมันขยับตัว ก็ทำให้เราๆได้พบเห็นความน่ากลัวอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ภายใต้เปลือก มันมีอะไรที่เราไม่เคยรู้มาก่อนรึเปล่า ก็ไม่เชิงแค่เราๆ ชอบมองทุกอย่างที่เปลือก มากกว่ามองที่ความเป็นจริง เราๆชาวโลก คิดว่าถึงเวลาแล้วรึยังที่เราจะ ช่วยโลกใบนี้ นั่นก็เท่ากับเราช่วยเหลือเพื่อนๆ ชาวโลกด้วยกัน และตัวเราเอง ในการดูแล รักษา ง่ายๆเลยนะครับ รู้จักประหยัดพลังงาน, ใช้วัตถุดิบต่างๆที่ขโมยมาจากธรรมชาติให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนรายละเอียดมากกว่านี้ก็ลองหาอ่านตามเว็บที่มีมากมาย โดย เริ่มต้นที่ตัวเราก่อน ผมจะขอเล่าประสบการณ์ของผมให้ฟังพอเป็นแนว เมื่อประมาณ เกือบ 20 ปีที่แล้วผมทำงานที่ ธนาคารแห่งหนึ่งใน กรุงเทพ ผมเป็นพนักงานหน้าเคาร์เตอร์ รับ-ฝาก ก็จะมีลูกค้าทั้งทั่วไป และ ร้านค้านำเงินมาเข้าบัญชี ลูกค้าเหล่านี้ก็จะนำเงินใส่ถุงพลาสติกบ้าง, ถุงก๊อบแก๊บ (ไม่รู้เรียกถูกรึเปล่านะ ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยว่า ทำไมมันต้อง ก๊อบแก๊บ หว่า ทำไมมันไม่ กุ๊บกิ๊บ ก็ได้นี่หว่า), ถุงกระดาษ ,ซอง สิ่งเหล่านี้ผมจะเก็บหมด ไม่ได้เก็บไปชั่งกิโลขายนะครับ แต่จะนำมันมาใช้ใหม่ เช่น ใส่เงินให้ลูกค้าที่มาถอนเงิน, ถุงพลาสติกก็เอาไปล้างแล้วใช้ใหม่ได้ ถุงก๊อบแก๊บก็เอาไปใส่สิ่งของ หรือ ขยะก็ได้ ประมาณนั้น แต่ในสมัยนั้น ผมมักโดนเพื่อนๆล้ออยู่เสมอว่า เป็นพวกชอบเก็บขยะ แต่ผมก็ได้อธิบายให้เขาเหล่านั้นฟังว่า เราน่าจะช่วยกันลดปริมาณขยะนะ มันช่วยให้โลกไม่สกปรก ไม่เกิดมลพิษตามมา และอีกมากมาย อีกเรื่องผมจะเป็นพนักงานคนแรก และ คนเดียวในสมัยนั้นที่ นำกล่องข้าวไปกินที่ทำงาน โดน ล้อ ทุกวัน หาว่าบ้านจนบ้าง หาว่าขี้งกบ้าง และอีกมากมาย แต่ผมก็ไม่หวั่นใหวใดๆ ผมก็ยังคงปฎิบัติเช่นเดิมมาประมาณ เกือบ 1 ปี ก็มีพนักงานคนอื่นๆ เริ่มทำตาม แรกๆเขาเหล่านั้นก็กลัวจะโดนเหมือนผม ก็พยายามมานั่งใกล้ผม เวลาจะทานข้าว จนวันหนึ่ง ผมก็บอกไปว่า “เฮ้อ...จะกินข้าวทีนี่มันลำบากเนอะ “ เขาก็ไม่เข้าใจว่าผมหมายความว่าอย่างไร ผมก็เลยพูดให้ฟังว่า “ถ้าเราจะทำอะไรแล้วเราพิจารณา ตรึกตรองดูแล้วว่า มันไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน และ เราก็ไม่เดือดร้อน แล้วเราจะไปคิดมากกับการกระทำนั้นๆทำไม มันจะเป็นการลำบากเอาเปล่าๆนะ” เขาถามผมกลับมาว่า แล้วนายไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ผมก็ตอบกลับไปว่า “รู้สึกก็รู้สึกสิ แต่ก็คือ รู้สึกนะ “ คราวนี้ งง เป็นเป็ดตาแตกเลย คง งง ว่ามันพูดอะไรของมันหว่า ผมก็เลยบอกไปอีกทีว่า “กินข้าวเถอะ พยายามกินข้าวนะ เวลานี้ คือเวลากินข้าว เข้าใจเนอะ” เหอ เหอ...งง มากกว่าเดิม หลังจากวันนั้น เขาไม่มากินข้าวกับผมไป 3 วัน พอวันที่ 4 มานั่งกินด้วยอีกแล้ว คราวนี้เขาบอกผมว่า “เราเข้าใจที่นายพูด เมื่อวันนั้นแล้วหละ ขอบใจมากนะ เราจะมากินข้าวกับนายทุกวันเลย นายคงไม่รังเกียจนะ” ผมก็คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจนะครับ ก็เลยตอบกลับไปว่า “เราไม่รังเกียจนายหรอก ถ้านายไม่มาแย่ง ข้าวเรากิน ก็ พอแล้วหละ ....” ที่เล่ามาผมก็ไม่รู้ว่าเข้าใจกันรึเปล่านะ เพราะ ชอบมีคนพูดว่าผม พูดไม่รู้เรื่อง จริงๆไม่มีอะซับซ้อนมากมาย ลองคิดดูดีๆนะครับ....! ว่าแต่มันเกี่ยวอะไรกับ เหตุการณ์ วันที่ 11 มีนาคม 2554 หว่า...! จะว่าเกี่ยวก็เกี่ยวนะ จะว่าไม่เกี่ยวก็น่าจะไม่เกี่ยวนะ...แต่ที่แน่ๆ คือ ความหมายของธรรมชาติ นั้นไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากเกินไป แค่ เราๆ ยอมรับตามความเป็นจริงของทุกสิ่ง มันเป็นของมันอยู่แล้ว เราเองต่างหากไปทำให้ทุกอย่างมันซับซ้อน และวุ่นวาย ไม่ใช่เพราะเราชอบสร้างเปลือกกันหรอกเหรอ เคยมองเขาไปด้านในเปลือกของตัวเราเองรึเปล่าว่า มันน่ากลัวขนาดไหน ยิ่งเปลือกหนา และ ซับซ้อนมากเท่าไร ความน่ากลัว และ รุงแรง ก็มากขึ้น และ ซับซ้อนตามไปด้วย ลองมองเหตุการณ์นี้ แล้ว ย้อนมองตัวเราว่า สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ มันคืออะไร และ สิ่งที่เราเสียเวลาไปรู้มันมีมากมายขนาดใหน ขอให้ช่วยเพื่อนชาวโลก ในยามสงบ ดีกว่า ไปรอช่วย ในยามที่ ยากเข็ญ ...นะครับ   Create Date : 15 มีนาคม 2554 12 comments Last Update : 15 มีนาคม 2554 21:21:09 น. Counter : 674 Pageviews. Share Tweet

สวัสดีค่ะ ..เวลานี้สบายดีค่ะ ....สบายหรือไม่สบายมันอยู่ที่ใจ เรื่องที่เขียนอ่านจบแล้วมานึก ๆ ว่า จะมีสักกี่คนที่กล้าทำในสิ่งที่แตกต่างโดยยึดถือความถูกต้อง เหมาะสมเป็นหลักโดยไม่อายกับสายตาคนรอบข้าง จะว่าไปคนส่วนใหญ่มักจะปล่อยให้สังคมกำหนดตัวตน มากกว่าที่จะเป็นตนในสังคม นะคะ ตัวเองก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้างค่ะ เรื่องเก็บขยะ ขวด ถุงพลาสติคนี่ทำประจำ จนตอนนี้บ้านรกมากค่ะ เพราะการจัดระเบียบไม่มี แหะแหะ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ยืนหยัดต่อสู้กับทั้งภัยธรรมชาติ และภัยรอบโลกมาตลอด หรือแม้แต่คุกคามชาวบ้านเองในอดีต แต่ญี่ปุ่นก็ผ่านเรื่องร้าย ๆ มาได้โดยวินัยและสติ นับถือข้อนี้ของเค้าจริง ๆค่ะ ญี่ปุ่นในปัจจุบันเป็นประเทศที่เอือเฟื้อมนุษย์โลกเสมอ ๆ ตามที่เคยเห็นเค้าช่วยเหลือประเทศที่ประสบภัยธรรมชาติอยู่เรื่อย ๆ นั่นเอง วันนี้มนุษย์ควรช่วยกันเองดูแลกันเอง ดูแลโลกเพราะอีกไม่นานก็ตาย เม้นยาวไปมั๊ยคะ   โดย: GreenWitch 16 มีนาคม 2554 15:08:18 น.

อ้าว...เพิ่งรู้นะนี้ ว่าญี่ปุ่น ไม่ได้แก้บน ไปบนอะไรไว้น๊า...ถึงโดนเยอะขนาดนั้น แล้ว...มีแอบไปบนอะไรไว้มั่งป่าว นุ่มไม่มีบน มีแต่บ่น ต้องแก้ป่ะ   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 16 มีนาคม 2554 17:00:40 น.

มาแล้วค่ะ มาช้าไปตั้งสองวัน ว่าด้วยเรื่องภัยธรรมชาตินั้น เราคิดว่า..ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์เราไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้เลย มนุษย์ควรจะเคารพและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติอย่างเสมอต้นเสมอปลาย มาคิดได้ตอนนี้มันสายไปแล้วล่ะ เรื่องการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า นำกลับมาใช้ใหม่ เราก็เป็นคนหนึ่งที่สนับสนุนและลงมือทำอยู่ เราไปซื้อกับข้าวจะมีถุงผ้าติดตัวไปด้วยทุกครั้ง ที่บ้านมีอยู่หลายใบเลยล่ะ ใช้จนก้นทะลุ ส่วนเพื่อนๆคนไทย+พม่าหลายคนที่ไม่ใช้ถุงผ้า ไปจ่ายกับข้าวทุกวัน ก็จะมีถุงพลาสติกติดมือกลับมาทุกครั้ง จนกองล้นหลามเต็มบ้านเต็มช่อง เราก็บอกให้พวกเขาเอามาให้เราที่ร้าน เพราะเราเอาไว้ใส่ของให้ลูกค้าที่มาซื้อของในร้านเอเชียของเราได้ โดยเวลาจะใส่ของ/ใส่ผักผลไม้ให้ เราก็จะถามลูกค้าก่อนทุกครั้งว่ารังเกียจถุงหิ้วที่ใช้แล้วแบบนี้ไหม? คนไหนรังเกียจเราก็เอาถุงใหม่ใส่ให้ แต่ส่วนมากไม่มีใครรังเกียจเลย ซึ่งนับว่าดีมาก นั่นก็ถือว่าเราช่วยเซฟสิ่งแวดล้อมได้อีกแรงหนึ่งเนาะ แม้จะน้อยนิดกระจิ๋วหลิวก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย บางทีสังคมไทยก็ดูเหมือนว่ากำลังสับสนและวิกลจริตไปแล้วนะคุณผัสสะ เพราะการที่เราทำอะไรที่ถูกต้องและดีงาม แต่คนอื่นเขาไม่ทำกัน มันเลยกลายเป็นว่าเราเป็นตัวประหลาดไปซะได้ เราก็อัพบล็อกใหม่เหมือนกันค่ะ ว่างๆเมื่อไหร่แวะไปเน้อ   โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย 17 มีนาคม 2554 17:14:01 น.

นั้นแหละ...ปลูกต้นไม้ ไว้ระบายอารมฌ์ เวลาอารมฌ์ดี ก็พูดเพราะๆ เวลาอารมฌ์ไม่ดี ก็บ่นๆๆๆๆๆ ต้นไม้ เขาไม่ว่าหรอก....เพราะเขาพูดไม่ได้ หายหนาวแล้ว.... แหม...อยากได้อีกสักสองสามวันจัง   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 18 มีนาคม 2554 22:02:37 น.

นอนยังค่ะ มาชวนดูพระจันทร์ เต็มดวง งามมักมาก....   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 19 มีนาคม 2554 23:02:37 น.

หายไปหนายยยยย....น๊า   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 25 มีนาคม 2554 14:13:38 น.

หากมีเวลาไปเยี่ยมบ้านนา เอ้ย..ไปเยี่ยมบล็อกคุณตุ๊กตาบ้างเน้อพี่เน้อ   โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย 26 มีนาคม 2554 0:48:47 น.

ใช่ๆๆๆ...เพลงนี้นะ ดูตอนแรก ขำมากเลยต้น ขำท่าทางของยาย เข้าใจทำนะ.... มีปัญหาเรื่องตาเหมือนกันเหรอ ตาแห้ง...ใส่คอนแทคเหรอป่าว ถ้าใส่ก็เปลี่ยนมาใส่แว่นเหมือนเดิม จะได้ถนอมดวงตา.....เข้าจั๋ย เมื่อวันอาทิตย์มีนัดกับพี่ๆที่บล๊อกไปกินข้าวแถวบางขุนเทียน กับข้าวอร่อยมากเลย มีพี่เขาส่งรูปมาให้ เลยเอามาฝาก เดี๋ยวจะลืม...ว่าหน้าตานุ่มเป็นยังไง   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 27 มีนาคม 2554 16:01:26 น.

เค้าไปอีกบล็อกแล้วนะตัวเอ้ง.. สัมนาเสร็จแล้วแวะไปอีกเน้อ   โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย 29 มีนาคม 2554 1:42:10 น.

น้ำแข็งที่ไหนจะมาเกาะ หนาวๆแบบนี้ มีแต่อย่างอื่นเกาะ...เพราะขี้เกียจอาบน้ำ แล้วตาค่อยยังชั่วหรือยัง ถ้าแห้งอีกก็บอกนะ รดน้ำต้นไม้ทุกวัน จะรดเผื่อให้   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 31 มีนาคม 2554 11:04:08 น.

วันนี้ไปถวายสังฆทานมาค่ะ นำบุญมาฝาก   โดย: นุ่มณอ่อนนุช 6 เมษายน 2554 22:23:00 น.

เจ้าของบล๊อกนี้หายแส๊บหายสอย   โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย 9 เมษายน 2554 13:41:39 น.