สวัสดีค่ะ  วันหยุดแบบนี้  พักกันบ้างหรือยังคะ  พี่ปลาพักอยู่กับบ้านค่ะ  เมื่อวานไปจ่ายตลาดมาได้มะเขือเทศราชินีมาด้วยค่ะ แพงมาก ๆ  กก.ละ  70  บาท เลยเอามาแค่  ครึ่งโล  กะว่าจะเอามากินเล่น แต่พอชิมรสแล้วไม่อร่อยค่ะ แถมลูกใหญ่ด้วย นอนคิดทั้งคืน  ทำไรกินดีหว่า  เอาประโยชน์จากผักให้เต็มที่ 
     มาถึงบางอ้อว่า คุณแอนเพื่อนรัก  ให้สูตรซอสเห็ดมานานแล้วยังไม่ได้มีโอกาสจะทำเลย  ได้การล่ะ  วัตถุดิบอาจไม่ครบตามสูตรแต่ขอประยุกต์เอาตามใจชอบของพี่ปลาละกัน คิดไว้ว่าจะใช้  เห็ดออริงกิ (เมื่อวานไปได้ที่แม็คโครมา กก.ละ 159 บาท ถุงใหญ่ หมดไป  177 บาท คิดไปคิดมา เอาเปรี่ยบเรานะเนี่ย ถุงหรือกระดาษที่รองน่ะก็หลายขีดแล้ว บางทีจะแพงกว่าเวลา  เพิ่งคิดได้ตอนกลับมาแล้ว  หอมหัวใหญ่  และมะเขือเทศราชินีเนี่ยล่ะเป็นตัวหลัก  สูตรนี้ไม่ใส่เนื้อสัตว์ค่ะ เพราะช่วงนี้ไม่ทานเนื้อสัตว์  ไม่ได้ทานเจนะคะ เป็นมังสวิรัติมากกว่า
    แล้วได้เผือกมาค่ะ  อยากกินเผือกมาก  จะทำอะไรจากเผือกนอกจากต้ม หรือนึ่งดี  ก็นึกไปถึงตระกร้าเผือกน้องอาร์  ก็เลยจะทำตะกร้าเผือกด้วย  เอามากินกับซอสเห็ดค่ะ
    นอกนั้นวันนี้กินคาร์บเชิงซ้อนทั้งวันเพราะว่าได้ข้าวโพดมาเยอะมาก  ของชอบค่ะ จะกินให้เต็มที่ใน 9  วันนี้แล้วมาดูผลกันว่าร่างกายจะเป็นไงค่ะ  อย่าได้หวังผลกับการลดน้ำหนักนะคะช่วงนี้ เป็นช่วงให้ร่างวัลร่างกาย  และกินผักให้หลากหลาย  พี่ปลาก็เลยลองกินผักคาร์บสูงดุว่าเป็นไง  ก็เป็นการทดลองนี่คะ  ลองแล้วถ้าร่างกายไม่ชอบก็ปรับเปลี่ยนไป 
    ลงตารางไว้ก่อนนะ  เดี่ยวค่อยมาอัพเพิ่ม

โฉมหน้า  อาหารคาร์บเชิงซ้อนวันนี้  มันหวานญี่ปุ่นต้ม และข้าวโพดหวานต้มค่ะ  พี่ปลากับพ่อบ้านกินแบบนี้เลย  แต่เจ้าตัวดี  เอาข้าวโพดมาหั่นคลุกเนยกับน้ำตาล (ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยังเด็กอยากกินแบบนั้นก็กินไปค่ะ แต่ถ้าอายุมาก ไม่ควร อย่างน้อยก็ยังได้กินข้าวโพดนะคะ ไม่งั้นก็ไม่ยอมทาน)

      มาต่อกันเลยที่อาหารเมนูแปลก ๆ  ของพี่ปลาที่ชื่อว่า กระต่ายเผือกเลือกซอสเห็ด  ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณน้องอาร์  ที่เป็นแรงบันดาลใจพี่ปลาโดยเอาเมนูเผือกที่เรียกว่าตะกร้าเผือกมาลงไว้ พี่ปลาก็หมายตามานานแล้วว่าอยากลองทำดู อุปกรณ์ไม่มีแบบน้องหรอกค่ะ ทำตามมีตามเกิดไป  ขำ ๆ  แล้วเมื่อวานได้เผือกมาค่ะ อยากกินเผือกทอดใจจะขาดแล้ว พยายามคิดวิธีที่ไม่เอาไปทอดน่ะ ก็เลยสรุปว่าลองทำเป็นตะกร้าเผือกดีกว่า 
      อีกคนที่ขาดไม่ได้เลยคือ  คุณแอนเพือนรัก  ให้สูตรซอสเห็ดมาตั้งนานแล้ว  ยังไม่มีเวลาทำ  วันนี้ก็เลยทำซะเลย วัตถุดิบก็ไม่ครบอะไรหรอกค่ะ  ทำไปตามที่มีแต่ขอบอกว่า ออกมาแล้ว แซ่บว้าววววววววววว  สมคำร่ำลือเลยค่ะ เป็นเมนูที่ชอบ ขอเก็บไว้ในดวงใจเลยทีเดียว
      มาดูกันค่ะว่าทำไงบ้าง  เจ้า  กระต่ายเผือกเลือกซอสเห็ด  เนี่ย

เตรียมวัตถุดิบในการทำกระต่ายเผือกกันก่อนค่ะ

เผือก  1  หัวขนาดกลางขูดฝอย ใส่เกลือไปเล็กน้อย อย่ามากนะจะเค็ม

อิอิ อันนี้ที่มาของชื่อกระต่ายเผือกอ่ะ  ก็ใช้พิมพ์ทำวุ้นค่ะ คงจำกันได้ สารพัดประโยชน์แหละก็ไม่มีพิมพ์เหมือนอย่างน้องอาร์เค้า แต่ขอบอกว่าพิมพ์น้องอาร์ดีกว่า แกะง่าย อันนี้มีปัญหาเวลาแกะ แตกหมดง่ะ  ทำไป ขำไป

น้ำมันมะกอก  ใช้ชุบสำลีทาพิมพ์กระต่ายค่า เพื่อให้ไม่ติดพิมพ์  (แต่ก็ยังติดง่ะ ไม่เป็นไร  ของลองกันได้)

ชุบได้ก็ทาไปเลย ทำแบบบ้าน ๆ เนี่ยล่ะ

จากนั้นก็เอาเผือกที่ขูดไว้มาใส่ในพิมพ์ค่ะ  พี่ปลาใส่บางไปหน่อย แกะลำบากมาก แนะนำให้ใส่ให้หนาหน่อย  อบไปสัก  5  นาทีแล้วแกะออกมาอบต่อดีกว่าค่ะ  ไม่งั้นพอแห้ง แกะแล้วไม่เป็นรูปเลย 55555555555  เอานิ้วหรือช้อนกดให้เรียบ ๆ  แน่น ๆ  หน่อย

เข้าหม้ออบแบบมีฝาค่ะ ก็มีอย่างเดียวแหละ ใช้มันทุกอย่างที่จะอบ ใช้ไฟแรง  200 องศา และใช้เวลาครั้งแรก  20  นาที เคยสังเกตุและดูเอาค่ะ ว่าแห้งกรอบใช้ได้หรือยัง

สภาพที่ได้เป็นอย่างที่เห็นอ่ะค่ะ แบบว่าแกะยากมาก  แต่ก็พอใจผลงานนะ แบบมั่ว ๆ ไปตามอารมณ์ หอมกรอบอร่อยที่สำคัญ ไม่มีน้ำมันเลยอ่ะ  รสชาดเผือกล้วน ได้ใจอารมณ์เผือกทอดมาก อาจไม่อร่อยเท่าของทอดน้ำมันแต่ขอบอกว่าสุขภาพได้แน่ ๆ ค่ะและรสชาดต้องกินได้ด้วย

มาถึงนางเอกของเราก็คือ  ซอสเห็ดคุณแอนค่ะ

อันดับแรก  น้องมะเขือเทศราชินี หนึ่งในของชอบของพี่ปลา หั่นหรือสับตามใจชอบค่ะ ของคุณแอนบอกว่าให้ใช้มะเขือเทศลูกใหญ่งอม ๆ จะได้เละ ๆ  แต่พี่ปลาเอาอันนี้แหละ ได้ผิวสัมผัสเวลาเคี้ยวค่ะ

หอมใหญ่สับหยาบ ๆ  นี่ก็ของชอบอีกค่ะ ชอบกินหอมใหญ่  มันหวานอร่อยนะ  บางคนอาจไม่ชอบเลย  แต่ลองดูประโยชน์นะ  ดีมาก ๆ  อันนี้ใช้  1  หัวกลางค่ะ

เห็ดออริงงิ  หรือนางรมหลวง  เห็ดชนิดนี้ เนื้อแน่นค่ะ รสชาดดี  พี่ปลาว่าใช้แทนเนื้อสัตว์ได้สบายค่ะ  หน้านี้มีเยอะ  เมื่อวานไปสอยมาจากแม็คโครค่ะ  หัวใหญ่ ๆ  อวบ ๆ  รอบนี้มีเมนูเห็ดบ่อยแน่  เอามาหั่นแบบลูกเต๋า ใช้ไป  3  หัวกลาง

มาทำกันเลยดีกว่า  อย่าช้าไป

ตั้งกะทะใส่น้ำมันมะกอกไปประมาณ  1  ช้อน

ใส่หอมลงไปผัด  คุณแอนบอกว่าเอาให้สลดน่ะ คือ หอมจะสีใส ๆ  นะ อันนี้แห้งไปก็เลยเติมน้ำมันไปอีกนิด

จากนั้นใส่เห็ด  ใส่มะเขือเทศลงไปผัด  ตอนแรกให้ไฟแรง ๆ  จากนั้นก็ลดไฟลง ผัดต่อโดยเอาฝาหม้อมาปิด  แล้วเปิดคนไปเรื่อย ๆ

พอสุกนิ่ม เข้าที่เข้าทางแล้วก็ ปรุงรสด้วย  ซอสพริก  ซอสมะเขือเทศ  น้ำตาลทรายแดง  ใครชอบรสจัดอีกก็อาจเพิ่มเกลือเล็กน้อยค่ะ  ชิมรสตามใจชอบ  ของคุณแอนใช้มะเขือเทศเข้มข้นกระป๋องค่ะ ยิ่งอร่อยไปใหญ่  แต่พี่ปลาใช้ซอสมะเขือเทศธรรมดาค่ะ  ไม่ปรุงรสจัดมากนัก เอาแค่อร่อยตามแบบที่เราต้องการ และมีสุขภาพด้วย
 

ได้ออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ  (คุณแอนเจ้าขา  อย่าว่ากันน๊า  เครื่องครัวก็ไม่ครบกับเค้า ทำอาหารก็ไม่เป็น  ทำได้แค่นี้แหละค่ะ แต่ว่าอร่อยน๊า )  ขอสารภาพว่า ระหว่างทำไปก็คิดว่า จะกินได้ไหมฟ่ะเนี่ย  เนื้ออะไรก็ไม่ได้ใส่ มีแค่มะเขือเทศ  เห็ด  หอมใหญ่เอง  ตอนผัดในกะทะ ลูกชายแซวว่า แม่จะกินหมดไหมเนี่ย  กินคนเดียวนะ  นึกในใจว่า มันต้องอร่อยซีน่า

มาแล้ว  มาวางเคียงกัน  พร้อมประกอบร่างค่า  ลุ้น ๆ  ว่ารสชาดเป็นไง

บรรจงเลือกกระต่ายเผือกตัวที่เป็นรูปเป็นทรงที่สุดค่า  ใส่ซอสเห็ดลงไป  เป็นไงคะ ไม่เลวน๊า ใส่ไปแล้วก็ยืนชื่นชม  ใช้ได้วุ้ย  น่าตาไม่เก๊ง 

ดูกันชัด ๆ  อีกรอบ  ภูมิใจสุด ๆ ค่า อิอิ

ทนไม่ไหวแล้วค่า  แบบว่า น้ำลายจะไหล ก็เลยจัดไปเลยเป็นมื้อที่ 2  แทนข้าวโพดต้มอ่ะ  เข้าปากไปแล้ว  แซ่บว้าววววววววววววววววววววว  จริง ๆ ค่าคู๊น  อร่อยง่ะ  มหัศจรรย์มาก ๆ มันอร่อยจริง รู้สึกว่า สารอาหารดี ๆ เต็มปากเลย กินด้วยกันน๊า  หายอยากเผือกทอดเจไปเลยค่า กินซะ เกือบหมด แน่นมาก ๆ

การันตีความอร่อยจากเจ้าตัวดี อีกรอบค่า พ่อคนนี้เค้าไม่กินมะเขือเทศ  ไม่กินหอมใหญ่  ไม่ชอบกินเห็ดนะ  แต่อันนี้กินได้ค่า  สรุปว่า ชอบ ๆ ไว้จะไปหาผงออริกาโน่มาใสนะคะคุณแอน คาดว่าจะเป็นเมนูประจำไปเลยล่ะ ซอสคุณเนี่ย เด็ดจริง ๆ  ขนาดว่าไม่ครบเครื่องนะเนี่ย