ในขั้นตอนที่ 2 นี้ เราจะเลือกอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะเป็นช่วงทำความสะอาดอวัยวะภายในทั้งหมดของร่างกาย ต่อไปนี้คือ ประเด็นสำคัญในการกินที่ช่วยให้ภายในร่างกายสะอาดอย่างเห็นผล
ข้อที่ 1 กินผลไม้อะไรก็ได้
มื้อเช้าสามารถใส่ผลไม้ตามชอบลงไปในโยเกิร์ตรสธรรมชาติ แต่ให้กินปริมาณ 1 ถ้วยกาแฟ และห้ามเติมเพิ่ม
ผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่สำคัญคือ น้ำตาลจากผลไม้สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย และไม่แน่นท้องอีกด้วย จึงเหมาะที่สุดสำหรับการเติมสารอาหารให้ร่างกายในตอนเช้า
ข้อที่ 2 เติมท็อปปิ้งที่เป็นโปรตีนลงในสลัด
เติมท็อปปิ้งที่เป็นโปรตีนลงในสลัดผัก โดยเลือกโปรตีนชนิดย่อยง่าย เช่น แฮม เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า เต้าหู้ เป็นต้น
ผักสลัดอาจใช้ผักสด หรือผักที่ผ่านความร้อนมาแล้วก็ได้ และสามารถใส่เห็ดเพื่อเพิ่มใยอาหาร
ข้อที่ 3 อย่าใส่พืชหัวที่มีแป้งลงในซุปผัก
มื้อเย็นให้เปลี่ยนจากน้ำซุปที่ไม่ใส่เนื้อหอยเป็นซุปผัก แบบใส่เนื้อหอย แต่อย่าใส่พืชหัวที่มีแป้ง เช่น หัวมัน ลงไปเด็ดขาด นอกนั้นสามารถใส่ผักอะไรก็ได้ตามชอบ
เช่น กระหล่ำปลี ผักกาดแก้ว บรอกโคลี มะเขือม่วง มะเขือเทศ ถั่วลันเตา หน่อไม้ฝรั่ง ดอกกะหล่ำ ขึ้นฉ่าย หอมใหญ่ และต้นหอม เป็นต้น สนุกับความหลากหลายที่เปลี่ยนไปในแต่ละวัน
ปริมาณที่จำกัดคือ 1 ชาม แต่หากเป็นซุปที่ไม่ใส่เนื้อหอยสามารถเติมได้อีก อย่างไรก็ตาม ซุปจะต้องมีรสอ่อน อย่าใส่เกลือมากเกินไป
ข้อที่ 4 ยังคงต้องงดอาหารจำพวกแป้ง
ควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกแป้งซึ่งย่อยยาก เช่น ข้าว และขนมปัง
ข้อที่ 5 ทำต่อเนื่อง 2 เดือน ลดได้แม้แต่ไขมันในร่างกาย
ในช่วง 2 เดือนนี้ถือเป็น วงจรการปรับสภาพร่างกายครั้งใหญ่
อันที่จริงหากกินอาหารตามเมนูทำความสะอาดภายในร่างกายใน 2 เดือน ควบคู่กับการใช้ชีวิตให้เป็นไปตามจังหวะเวลาที่ถูกต้องแล้ว ไม่เพียงน้ำหนักตัวเท่านั้น แม้แต่ไขมันสะสมในร่างกายก็จะลดลงด้วย
เมื่อทำขั้นที่ 2 อย่างต่อเนื่องตลอด 2 เดือนได้แล้ว ลองตรวจปริมาณไขมันในร่างกายดูนะครับ
หลังจากผ่านไป 2 เดือน อวัยวะภายในจะสะอาดขึ้น คนที่มีค่าการทำงานของตับไม่ดีจะพบว่าอยู่ในระดับที่ดีขึ้น
เซลล์ในร่างกายเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นหากปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรที่ถูกสุขนิสัยตลอด 2 เดือน เซลล์ร่างกายก็จะฟื้นฟูกลับมาสดชื่นอีกครั้ง
ข้อที่ 6 ออกกำลังกายแบบแอโรบิก เพิ่มประสิทธิภาพในการปรับสภาพร่างกาย
ตั้งแต่ขั้นที่ 2 เป็นต้นไป ให้เริ่มออกกำลังกายแอโรบิกวันละ 20-2 ชั่วโมง การออกกำลังกายที่ได้เหงื่อและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เช่น เดิน หรือวิ่งจ็อกกิ้ง จะช่วยให้ร่างกายเผผลาญไขมันส่วนเกินได้เร็วขึ้น ทั้งยังทำให้การปรับสภาพร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
ปรับสภาพร่างกายตั้งแต่พื้นฐาน
เมื่อผ่านขั้นที่ 2 มาแล้ว ตอนนี้ร่างกายของทุกคนคงจะสะอาดขึ้นมาก และกลับคืนสู่สภาพปกติอย่างที่เคยเป็นตามธรรมชาติกันแล้ว