Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
เสพแสงแดด....สัมผัสแดนศักดิ์สิทธิ์ 'อิสราเอล'

คนไทยเดินทางไปอิสราเอลมีเป้าหมายใหญ่เพื่อไปดูงานศึกษาเทคโนโลยีการทำเกษตร ในทะเลทราย
รวมถึงการเดินทางไปทำงานลักษณะใช้แรงงานเหมือนกับประเทศในตะวันออกกลางทั่วไป
(มีแรงงานไทยไปค้าแรงงานราว 2 หมื่นคน) มากกว่าจะมีจุดประสงค์ตรงเพื่อการท่องเที่ยว นั่นเพราะกฎระเบียบ
อันเข้มงวดของการเดินทางเข้าประเทศนี้ อาจทำให้การเที่ยวเพื่อพักผ่อนอาจจะเสียบรรยากาศ อย่างที่รู้กัน
ในฐานะประเทศที่มีข่าวความไม่สงบจากสงครามบ่อยครั้งในพื้นที่ฉนวนกาซาระหว่างปาเลสไตน์ที่มีมานาน
ดังนั้นเรื่องของการตรวจตราความปลอดภัย จึงต้องมีมาตรฐานสูงกว่าประเทศอื่น ๆ

ขั้นตอนการเตรียมตัวเดินทางสู่ประเทศนี้ต้องยื่นเอกสารทำวีซ่า ณ สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย
หลังจากวีซ่าผ่านเริ่มตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารที่จะเดินทางสู่อิสราเอล ต้องไปถึงก่อนเวลาทั่วไปอีก
หนึ่งชั่วโมง ตรงเคาน์เตอร์เช็กตั๋วจะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตไปสัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เดินทางไปอิสราเอล
ตรวจตราดูกระเป๋าอย่างละเอียดด้วยเครื่องตรวจชนิดพิเศษ ป้องกันการวางระเบิด
รวมทั้งขากลับจะมีการสัมภาษณ์แบบเดียวกัน แต่ถ้ามีเอกสารรับรองการเดินทางอย่างชัดเจนก็ไม่น่าวิตกนัก
โดยใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง แท้จริงแล้วการเดินทางสู่ประเทศนี้ไม่ได้ยาวนานเท่าใดนัก
แต่ด้วยความที่มีสงครามบ่อย ๆ การที่จะพาเครื่องบินลัดเลาะไปในพื้นที่ทางอากาศของแต่ละประเทศ
เชื่อว่าจะไม่ปลอดภัยจึงลงทุนบินอ้อมข้ามน้ำข้ามทะเลออกไป

อิสราเอล
ผู้คนในเยรูซาเล็ม

มิติของการท่องเที่ยวในอิสราเอลน่าสนใจไม่น้อยกว่าการได้ตามดูภูมิปัญญาอัน ฉลาดเฉลียวของชาวยิว
มีโอกาสที่ได้ร่วมโปรแกรมเพรสทัวร์ งานวอเทค 2009 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย. นี้ ณ กรุงเทลอาวีฟ
เวลาว่างที่เหลือน้อยนิดได้เตร็ดเตร่เดินดูชีวิตผู้คนในกรุงเทลอาวีฟ และเยรูซาเลมอันเป็นดินแดนประวัติศาสตร์
มาเป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง

เทลอาวีฟได้ชื่อว่าเป็นศูนย์ทางการค้า พาณิชย์ และอุตสาหกรรม ย่านการค้ามีชื่อของเทลอาวีฟ คือ
ทาเมลมาร์เกต เป็นตลาดสด มีของกินของใช้ที่มีทั้ง เสื้อผ้า ผักผลไม้สด ๆ หน้าตาน่าทาน
เมื่อเห็นผักเหล่านี้วางขายกันในร้านรวง ทำให้คิดย้อนไปถึงความชาญฉลาดของชาวยิว ที่สามารถปลูกพืชผักใน
ทะเลทรายได้ เพราะระบบชลประทานน้ำหยด จนสามารถส่งออกได้เป็นอันดับหนึ่งในยุโรป
รวมถึงแรงงานไทยอยู่เบื้องหลังพืชผักที่เห็น ๆ ในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะไปทำงานฟาร์มเกษตรต่าง ๆ

ทาเมลมาร์เกตมีทั้งของกินของใช้อันสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนในอิสราเอล มีทั้งร้านขายข้าวแกงกะหรี่
ติดกันเป็นร้านขายขนมปัง อินทผลัม ประชากรในประเทศนี้มีประมาณ 6.5 ล้านคน
กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนนี้เป็นชาวยิว ส่วนที่เหลือมีทั้งชาวมุสลิม คริสต์ ดรูซ และอื่น ๆ

อิสราเอล
บรรยากาศทาเมลมาร์เกต


เพลิดเพลินกับทาเมลมาร์เกตออกจากตลาดมาจะมีร้านขายของที่ระลึก
ทั้งเครื่องสำอางที่มีวัตถุดิบมาจากทะเลเดดซี ทั้งโคลนพอกผิว ครีมทาผิว สบู่บำรุงผิว เป็นต้น
เป็นของฝากขึ้นหน้าขึ้นตาของอิสราเอล ย่านนี้มีตึกเก่าสถาปัตยกรรมเก๋
บางมุมเป็นร้านจิบกาแฟ เหมือนกับในยุโรป ในย่านนี้มีร้านขายน้ำผลไม้คั้นสด ๆ ปลูกในทะเลทราย
หน้าตาน่าลิ้มลองดี ราคาขายแก้วเล็กตกเป็นเงินไทยแล้วเกือบ 120 บาท (ค่าเงิน 1 เซ็กเกิลเท่ากับ 10 บาท)
รวมถึงร้านเสื้อผ้ากีฬาลดราคา ดูเหมือนจะเป็นสินค้ายอดนิยมของคนที่นี่เพราะแต่ละร้านเต็มไปด้วยผู้คน

อิสราเอล
ชาวอิสราเอลเลือกซื้อชุดกีฬา

จากทาเมลมาร์เกต เดินเรื่อยเปื่อยไปริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลมแรงพอ ๆ กับแสงแดดเจิดจ้า
ทำให้ชายหาดในบ่ายวันอาทิตย์แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ที่พร้อมใจกันมาอาบแดดเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
ภาพชีวิตของผู้คนที่นี่ดูสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ การแต่งกายของผู้หญิงส่วนใหญ่จะสวมเสื้อผ้าบางเบา
เพื่อให้ผิวปะทะกับแสงแดดมากที่สุด สีผิวที่เข้มขึ้นทำให้ผู้หญิงเมืองนี้สวยขึ้น

ภูมิอากาศทั้งปีของประเทศมีฤดูร้อนที่ยาวนาน (ตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม) อบอุ่นและแทบจะไม่มีฝนเลย
จะมีฝนให้เห็นอยู่บ้างในเดือน พ.ย. ถือว่าเป็นช่วงอากาศดีที่สุดของชาวอิสราเอล
ส่วนฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่ตุลาคม-มีนาคม แต่โดยทั่วไปอากาศจะเย็นสบาย

ริมหาดเมดิเตอร์เรเนียน
ริมหาดเมดิเตอร์เรเนียน

เกือบหนึ่งวันเต็มที่ใช้เวลาเดินเล่นไปมาในเทลอาวีฟ ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ
แม้ก่อนมาจะมีเสียงเล่าลือถึงสงคราม หรือความเค็มเขี้ยวของชาวยิว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ในทางตรงกันข้ามคนที่นี่มีน้ำใจไม่ต่างกัน เดินไปตามแผนที่ในมือตรงไหนไม่แน่ใจ เดินไปไกล ขนาดไหน
คนยิวช่วยเหลือเป็นอย่างดี ภาษาอังกฤษใช้ได้สบายที่นี่

อิสราเอลมีเอกลักษณ์ในตัวเองด้วยเป็นประเทศของ 3 ศาสนาอยู่รวมกันคือ คริสต์ อิสลาม และยูดาห์
ถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานมา กรุงเยรูซาเลมซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวงของประเทศ คือ
ศูนย์รวมศรัทธาของชาวยิวทั่วโลกมาหลายพันปี
โดยชาวคริสต์ให้ความเคารพว่ากรุงเยรูซาเลมคือ สถานที่ที่พระเยซูทรงเทศนาและสิ้นพระชนม์
ขณะที่ชาวมุสลิมมีความเชื่อว่าที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งศาสดามุฮัมทรงเสด็จสู่สวรรค์

จากเทลอาวีฟเดินทางด้วยรถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สิ่งก่อสร้างของเมืองนี้หลากหลาย
สิ่งก่อสร้างบางแห่งถูกรื้อฟื้นขึ้นจากซากปรักหักพัง จากสงครามเมื่ออดีต ตั้งอยู่ลดหลั่นตามเนินเขา
มีตึกรามบ้านช่องเป็นตึกแบบยุโรปอยู่ท่ามกลางอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบ มุสลิม
รวมถึงการแต่งกายของผู้ชายที่นับถือศาสนายูดาห์ ใส่ชุดคลุม สีดำใส่หมวกปีก คล้าย ๆ กับชุดพ่อมดในหนังเรื่อง
แฮร์รี่พอตเตอร์ ขณะ ที่บางมุมจะมีผู้หญิงชาวมุสลิมแต่งกายมิดชิดเดินปะปนไปมากับสาวชาวยิวรุ่น ใหม่

กำแพงศักดิ์สิทธิ์
หลังกำแพงศักดิ์สิทธิ์

กำแพงศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่สำคัญของศาสนายูดาห์ เปิดให้ทุกคนมาขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยการเขียนข้อความ
ใส่กระดาษเสียบไว้ ตามรูเล็กบนกำแพง โดยแบ่งโซนหญิง-ชาย บางคนร่ำไห้อ้อนวอนขอ ซึ่งส่วนใหญ่
เป็นเด็กนร.ผู้หญิงที่เข้ามาดินแดนแห่งนี้ต้องแต่งกายเรียบร้อย ผู้ชายจะมีหมวกกระดาษคลุมศีรษะแจกให้

เสียงร้องไห้คร่ำครวญของชาวยิวหลังกำแพงบวกกับสภาพแวดล้อม ทั้งการสำรวม การแต่งกายของผู้คน
ทำให้ประจักษ์ได้ว่าอิสราเอล เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์....ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนก็จงอย่าละทิ้งไป.

พรประไพ เสือเขียว รายงาน
ที่มา : เดลินิวส์


Create Date : 03 สิงหาคม 2552
Last Update : 3 สิงหาคม 2552 13:17:03 น. 0 comments
Counter : 1316 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.