|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เสพแสงแดด....สัมผัสแดนศักดิ์สิทธิ์ 'อิสราเอล'
คนไทยเดินทางไปอิสราเอลมีเป้าหมายใหญ่เพื่อไปดูงานศึกษาเทคโนโลยีการทำเกษตร ในทะเลทราย รวมถึงการเดินทางไปทำงานลักษณะใช้แรงงานเหมือนกับประเทศในตะวันออกกลางทั่วไป (มีแรงงานไทยไปค้าแรงงานราว 2 หมื่นคน) มากกว่าจะมีจุดประสงค์ตรงเพื่อการท่องเที่ยว นั่นเพราะกฎระเบียบ อันเข้มงวดของการเดินทางเข้าประเทศนี้ อาจทำให้การเที่ยวเพื่อพักผ่อนอาจจะเสียบรรยากาศ อย่างที่รู้กัน ในฐานะประเทศที่มีข่าวความไม่สงบจากสงครามบ่อยครั้งในพื้นที่ฉนวนกาซาระหว่างปาเลสไตน์ที่มีมานาน ดังนั้นเรื่องของการตรวจตราความปลอดภัย จึงต้องมีมาตรฐานสูงกว่าประเทศอื่น ๆ ขั้นตอนการเตรียมตัวเดินทางสู่ประเทศนี้ต้องยื่นเอกสารทำวีซ่า ณ สถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย หลังจากวีซ่าผ่านเริ่มตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารที่จะเดินทางสู่อิสราเอล ต้องไปถึงก่อนเวลาทั่วไปอีก หนึ่งชั่วโมง ตรงเคาน์เตอร์เช็กตั๋วจะมีเจ้าหน้าที่สถานทูตไปสัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่เดินทางไปอิสราเอล ตรวจตราดูกระเป๋าอย่างละเอียดด้วยเครื่องตรวจชนิดพิเศษ ป้องกันการวางระเบิด รวมทั้งขากลับจะมีการสัมภาษณ์แบบเดียวกัน แต่ถ้ามีเอกสารรับรองการเดินทางอย่างชัดเจนก็ไม่น่าวิตกนัก โดยใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง แท้จริงแล้วการเดินทางสู่ประเทศนี้ไม่ได้ยาวนานเท่าใดนัก แต่ด้วยความที่มีสงครามบ่อย ๆ การที่จะพาเครื่องบินลัดเลาะไปในพื้นที่ทางอากาศของแต่ละประเทศ เชื่อว่าจะไม่ปลอดภัยจึงลงทุนบินอ้อมข้ามน้ำข้ามทะเลออกไป
ผู้คนในเยรูซาเล็ม
มิติของการท่องเที่ยวในอิสราเอลน่าสนใจไม่น้อยกว่าการได้ตามดูภูมิปัญญาอัน ฉลาดเฉลียวของชาวยิว มีโอกาสที่ได้ร่วมโปรแกรมเพรสทัวร์ งานวอเทค 2009 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-19 พ.ย. นี้ ณ กรุงเทลอาวีฟ เวลาว่างที่เหลือน้อยนิดได้เตร็ดเตร่เดินดูชีวิตผู้คนในกรุงเทลอาวีฟ และเยรูซาเลมอันเป็นดินแดนประวัติศาสตร์ มาเป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง เทลอาวีฟได้ชื่อว่าเป็นศูนย์ทางการค้า พาณิชย์ และอุตสาหกรรม ย่านการค้ามีชื่อของเทลอาวีฟ คือ ทาเมลมาร์เกต เป็นตลาดสด มีของกินของใช้ที่มีทั้ง เสื้อผ้า ผักผลไม้สด ๆ หน้าตาน่าทาน เมื่อเห็นผักเหล่านี้วางขายกันในร้านรวง ทำให้คิดย้อนไปถึงความชาญฉลาดของชาวยิว ที่สามารถปลูกพืชผักใน ทะเลทรายได้ เพราะระบบชลประทานน้ำหยด จนสามารถส่งออกได้เป็นอันดับหนึ่งในยุโรป รวมถึงแรงงานไทยอยู่เบื้องหลังพืชผักที่เห็น ๆ ในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะไปทำงานฟาร์มเกษตรต่าง ๆ ทาเมลมาร์เกตมีทั้งของกินของใช้อันสะท้อนวิถีชีวิตของผู้คนในอิสราเอล มีทั้งร้านขายข้าวแกงกะหรี่ ติดกันเป็นร้านขายขนมปัง อินทผลัม ประชากรในประเทศนี้มีประมาณ 6.5 ล้านคน กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนนี้เป็นชาวยิว ส่วนที่เหลือมีทั้งชาวมุสลิม คริสต์ ดรูซ และอื่น ๆ
บรรยากาศทาเมลมาร์เกต
เพลิดเพลินกับทาเมลมาร์เกตออกจากตลาดมาจะมีร้านขายของที่ระลึก ทั้งเครื่องสำอางที่มีวัตถุดิบมาจากทะเลเดดซี ทั้งโคลนพอกผิว ครีมทาผิว สบู่บำรุงผิว เป็นต้น เป็นของฝากขึ้นหน้าขึ้นตาของอิสราเอล ย่านนี้มีตึกเก่าสถาปัตยกรรมเก๋ บางมุมเป็นร้านจิบกาแฟ เหมือนกับในยุโรป ในย่านนี้มีร้านขายน้ำผลไม้คั้นสด ๆ ปลูกในทะเลทราย หน้าตาน่าลิ้มลองดี ราคาขายแก้วเล็กตกเป็นเงินไทยแล้วเกือบ 120 บาท (ค่าเงิน 1 เซ็กเกิลเท่ากับ 10 บาท) รวมถึงร้านเสื้อผ้ากีฬาลดราคา ดูเหมือนจะเป็นสินค้ายอดนิยมของคนที่นี่เพราะแต่ละร้านเต็มไปด้วยผู้คน
ชาวอิสราเอลเลือกซื้อชุดกีฬา
จากทาเมลมาร์เกต เดินเรื่อยเปื่อยไปริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลมแรงพอ ๆ กับแสงแดดเจิดจ้า ทำให้ชายหาดในบ่ายวันอาทิตย์แน่นขนัดไปด้วยผู้คน ที่พร้อมใจกันมาอาบแดดเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ภาพชีวิตของผู้คนที่นี่ดูสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ การแต่งกายของผู้หญิงส่วนใหญ่จะสวมเสื้อผ้าบางเบา เพื่อให้ผิวปะทะกับแสงแดดมากที่สุด สีผิวที่เข้มขึ้นทำให้ผู้หญิงเมืองนี้สวยขึ้น ภูมิอากาศทั้งปีของประเทศมีฤดูร้อนที่ยาวนาน (ตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม) อบอุ่นและแทบจะไม่มีฝนเลย จะมีฝนให้เห็นอยู่บ้างในเดือน พ.ย. ถือว่าเป็นช่วงอากาศดีที่สุดของชาวอิสราเอล ส่วนฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่ตุลาคม-มีนาคม แต่โดยทั่วไปอากาศจะเย็นสบาย
ริมหาดเมดิเตอร์เรเนียน
เกือบหนึ่งวันเต็มที่ใช้เวลาเดินเล่นไปมาในเทลอาวีฟ ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ แม้ก่อนมาจะมีเสียงเล่าลือถึงสงคราม หรือความเค็มเขี้ยวของชาวยิว แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ในทางตรงกันข้ามคนที่นี่มีน้ำใจไม่ต่างกัน เดินไปตามแผนที่ในมือตรงไหนไม่แน่ใจ เดินไปไกล ขนาดไหน คนยิวช่วยเหลือเป็นอย่างดี ภาษาอังกฤษใช้ได้สบายที่นี่ อิสราเอลมีเอกลักษณ์ในตัวเองด้วยเป็นประเทศของ 3 ศาสนาอยู่รวมกันคือ คริสต์ อิสลาม และยูดาห์ ถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้าประทานมา กรุงเยรูซาเลมซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวงของประเทศ คือ ศูนย์รวมศรัทธาของชาวยิวทั่วโลกมาหลายพันปี โดยชาวคริสต์ให้ความเคารพว่ากรุงเยรูซาเลมคือ สถานที่ที่พระเยซูทรงเทศนาและสิ้นพระชนม์ ขณะที่ชาวมุสลิมมีความเชื่อว่าที่นี่เป็นสถานที่ซึ่งศาสดามุฮัมทรงเสด็จสู่สวรรค์ จากเทลอาวีฟเดินทางด้วยรถบัสใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สิ่งก่อสร้างของเมืองนี้หลากหลาย สิ่งก่อสร้างบางแห่งถูกรื้อฟื้นขึ้นจากซากปรักหักพัง จากสงครามเมื่ออดีต ตั้งอยู่ลดหลั่นตามเนินเขา มีตึกรามบ้านช่องเป็นตึกแบบยุโรปอยู่ท่ามกลางอิทธิพลของสถาปัตยกรรมแบบ มุสลิม รวมถึงการแต่งกายของผู้ชายที่นับถือศาสนายูดาห์ ใส่ชุดคลุม สีดำใส่หมวกปีก คล้าย ๆ กับชุดพ่อมดในหนังเรื่อง แฮร์รี่พอตเตอร์ ขณะ ที่บางมุมจะมีผู้หญิงชาวมุสลิมแต่งกายมิดชิดเดินปะปนไปมากับสาวชาวยิวรุ่น ใหม่
หลังกำแพงศักดิ์สิทธิ์ กำแพงศักดิ์สิทธิ์เป็นสถานที่สำคัญของศาสนายูดาห์ เปิดให้ทุกคนมาขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยการเขียนข้อความ ใส่กระดาษเสียบไว้ ตามรูเล็กบนกำแพง โดยแบ่งโซนหญิง-ชาย บางคนร่ำไห้อ้อนวอนขอ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นเด็กนร.ผู้หญิงที่เข้ามาดินแดนแห่งนี้ต้องแต่งกายเรียบร้อย ผู้ชายจะมีหมวกกระดาษคลุมศีรษะแจกให้ เสียงร้องไห้คร่ำครวญของชาวยิวหลังกำแพงบวกกับสภาพแวดล้อม ทั้งการสำรวม การแต่งกายของผู้คน ทำให้ประจักษ์ได้ว่าอิสราเอล เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์....ถ้ามีโอกาสได้ไปเยือนก็จงอย่าละทิ้งไป.
พรประไพ เสือเขียว รายงาน ที่มา : เดลินิวส์
Create Date : 03 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 3 สิงหาคม 2552 13:17:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1316 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|