มองให้เหมือนผึ้ง : แมลงกับการรับภาพอัลตราไวโอเลต
ผึ้งไม่สามารถแยกแยะแสงสีแดงของสเปกตรัม มันมองเห็นสีแดงเป็นสีดำหรือภาวะที่ไม่มีแสง ผึ้งสามารถมองเห็นสีเขียว เหลือง ม่วง น้ำเงิน และแสงที่มีความถี่สูงขึ้นไป อันได้แก่ อัลตราไวโอเลต (เหนือม่วง) ซึ่งอยู่พ้นไปจากขอบเขตการมองเห็นของมนุษย์ มีดอกไม้เป็นจำนวนมากที่มีจุดสะท้อน หรือดูดซับแสงอัลตราไวโอเลตอย่างเป็นแบบแผนที่เด่นชัด ความงามในสีสันของดอกไม้ ไม่มีความหมายอะไรสำหรับผึ้ง
ทำไมแสงอัลตราไวโอเลตจึงมีความสำคัญต่อผึ้งและดอกไม้ คำตอบส่วนหนึ่งอยู่ที่ระบบการนำร่องของผึ้ง ซึ่งพึ่งพาแสงพิเศษจากดวงอาทิตย์ แม้ว่าดวงอาทิตย์จะถูกเมฆบดบัง แต่แสงอัลตราไวโอเลตยังสามารถส่องทะลุผ่านก้อนเมฆ เพราะความยาวคลื่นมีพลังงานสูง ดังนั้นผึ้งจึงสามารถเดินทางได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ท้องฟ้าปลอดโปร่งและมีแสงอาทิตย์ส่องสว่าง
ทางด้านดอกไม้ จำต้องโฆษณาตัวเอง ประกาศถึงแหล่งน้ำทิพย์อันหวานหอม ต่อหมู่แมลงผ่านไปมาที่รับรู้ถึงแสงอัลตราไวโอเลตได้ ดังนั้น มันจึงต้องมีจุดดูดซับและสะท้อนแสงอัลตราไวโอเลต ซึ่งผึ้งจะมองเห็นเป็นภาพอัลตราไวโอเลต ที่มีตำแหน่งเป้าหมายเป็นสีดำ ซึ่งบ่งชี้ถึงตำแหน่งบริเวณของน้ำหวานและเรณูเกสร เช่น ในดอกดาวเรือง และดอกทานตะวัน ซึ่งเรามองเห็นเป็นสีเหลืองสม่ำเสมอกันทั้งดอก
แล้วทำไมมนุษย์ จึงไม่สามารถมองเห็นโลกภายใต้แสงอัลตราไวโอเลตได้เหมือนผึ้ง แสงอัลตราไวโอเลตเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต ดังนั้นเราจึงต้องปกป้องผิวและดวงตา ไม่ให้รับเอาแสงอัลตราไวโอเลตจากแดดกล้าในเวลากลางวัน
แต่สำหรับผึ้งซึ่งมีอายุขัยสั้นมากเมื่อเทียบกับมนุษย์ ผลกระทบจากแสงอัลตราไวโอเลตจึงไม่ปรากฏภายในช่วงของการดำรงชีวิต ดวงตาของมนุษย์นอกจากจะไม่สามารถมองเห็นแสงอัลตราไวโอเลตแล้ว ยังถือเป็นการปกป้องอันตรายไปด้วยในตัว
แต่สำหรับผู้ป่วยโรคต้อกระจกที่ได้รับการผ่าตัดดวงตาบางราย กลับมีความสามารถพิเศษ พวกเขาสามารถมองเห็นแสงอัลตราไวโอเลตในรูปของสีน้ำเงิน หน่วยข่าวกรองทางการทหารได้ใช้ประโยชน์คนเหล่านี้ ตั้งแต่ยุคทศวรรษตั้งแต่ ต้นปี 2483 โดยบรรจุให้ทำหน้าที่สังเกตการณ์ การส่งสัญญาณแสงอัลตราไวโอเลตของเรือดำน้ำ U-boat ของเยอรมนี นอกจากนี้ จิตรกรแนวหน้าในยุคอิมเพรสชั่นนิสม์ โคล้ด โมเน่ต์ หลังจากผ่าตัดต้อกระจกในปี 2466 การใช้สีในภาพวาดของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป เขาลงสีภาพวาดพันธุ์ไม้ตระกูลบัว เป็นสีน้ำเงินเข้มกว่าผลงานที่เคยวาดในอดีต
คงเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่า ผึ้งซึ่งในดวงตามีเลนส์ขนาดจิ๋วกว่า 6,900 ชิ้น มองเห็นดอกไม้เป็นภาพแบบใด แต่อย่างน้อยก็มีเทคนิคบางอย่าง ที่ทำให้สามารถมองเห็นจุดรับแสงอัลตราไวโอเลต ซึ่งเป็นเครื่องส่งสัญญาณแสดงตำแหน่งของน้ำหวานในดอกไม้
เทคนิคการถ่ายภาพที่สกัดกั้นแสงที่มองเห็นได้ โดยปล่อยให้ความถี่ของแสงอัลตราไวโอเลตเท่านั้น ที่สะท้อนกลับมายังระบบสร้างภาพของกล้อง ช่วยให้เรามองเห็นได้เหมือนผึ้งในบางแง่มุม
ดอกเดซี่ (Daisy Flower ) ภาพจริงและภาพที่ถ่ายด้วยแสงอัลตราไวโอเลต
ภาพดอกเดซี่ (ภาพขวามือ) ถ่ายด้วยแสงอัลตราไวโอเลต ที่กลีบดอกจะดูดซับแสงอัลตราไวโอเลตบางส่วน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแหล่งน้ำหวานที่ใจกลางดอก ในเวลากลางวันภายใต้แสงแดดปกติดวงตามนุษย์จะมองไม่เห็นสัญญาณนี้ กลีบดอกเดซี่จะเป็นสีขาวสม่ำเสมอกันทั้งดอก ดวงตาอันซับซ้อนของผึ้ง (ภาพล่าง) และแมลงอีกหลายชนิด มีความไวสูงในการรับแสงอัลตราไวโอเลต
ภาพจาก Dr. Jermey Burgess/SPL Leonard Lessin/SPL ข้อมูลโดย : //www.matichon.com ที่มา : //www.artsmen.net
Create Date : 02 มิถุนายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 15:00:16 น. |
Counter : 3252 Pageviews. |
|
|
|