เทคนิคการใช้รถและการดูแลรถอย่างง่ายๆ
เทคนิคการใช้และดูแลรถอย่างง่าย ๆ เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน จากภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นในปัจจุบัน เทคนิคการใช้รถและดูแลรถอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เราประหยัดน้ำมัน และค่าใช้จ่ายได้มาก บางจาก ฯ จึงได้นำเทคนิควิธีการง่าย ๆ ที่เราคนไทยทุกคนสามารถทำได้ทันทีในชีวิตประจำวันมาฝาก เพื่อช่วยประหยัด ทั้งค่าใช้จ่ายของคุณ และค่าใช้จ่ายของชาติ
ยิ่งอ้วนยิ่งเปลือง รถไม่ใช่โกดังเก็บของ อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรเก็บไว้กับรถ เพราะน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้น เพียง 10 กิโลกรัม จะทำให้เปลือง ค่าน้ำมันมากขึ้นกว่า 60 บาท ต่อเดือน
เร็วคุณภาพ เร็วอย่างมีคุณภาพ คือ ความเร็ว 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะประหยัดน้ำมันได้มากที่สุด หากขับรถทางไกล แล้วชอบซิ่งด้วยความเร็ว 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ลองเปลี่ยนมาขับนิ่ม ๆ ที่ 90 ดู นอกจากจะช่วยให้ไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกปรับแล้วยังช่วยประหยัด ได้ตั้ง 125 บาท ต่อเดือน
ติดเครื่อง เปลืองแน่ หากชอบเปิดแอร์ นอนเล่นหรือชอบติดเครื่องตอนจอดคอย เพียงครั้งละ 10 นาที เดือนละ 10 ครั้ง นอกจากจะเปลืองน้ำมัน 45 บาท ต่อเดือนแล้ว น้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมด ซึ่งอาจหลงเหลืออยู่ในกระบอกสูบจะเป็นตัวการทำให้เครื่องยนต์สึกหรออีกด้วย
ออกเร่ง เบรกดัง พังเร็ว การออกรถกระโชกกระชาก เลี้ยวอย่างเร็ว เบรกอย่างแรง เป็นฉนวนของอุบัติเหตุได้ง่ายและเป็นวิธีทำลายรถอย่าง ได้ผลชะงัด เพราะทั้งเครื่องยนต์ เครื่องส่งกำลัง ผ้าเบรก และยางรถ จะชำรุดสึกหรอได้เร็วขึ้นทันตาเห็นเลย นอกจากนี้หากติดนิสัยชอบเร่งเครื่องแรง ๆ ตอนออกรถสักวันละ 10 ครั้ง จะเสียน้ำมันเปล่า ๆ เดือนละ 60 บาทอีก ด้วย
ปิด แอร์ บ้างนะ รถที่ใช้แอร์ จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็ร้อยละ 10 ขึ้นไป ถ้าเลือกเปิดได้ เฉพาะเวลาที่จำเป็น เช่น เช้า ๆ เปิดกระจกรับอากาศยามเช้าก็ไม่เลว จะลดการใช้แอร์ลงแค่ 10% ของการใช้แอร์ตามปกติ ก็ประหยัดเงินได้อีก 40 บาท ต่อเดือนสบาย ๆ
สูง-สูง ต่ำ-ต่ำ การใช้เกียร์ ควรสัมพันธ์กับความเร็วรอบของเครื่องยนต์ (ก็เขาสร้างของเขามาอย่างนั้น) ความเร็วสูงยังฝืนลากเกยร์ต่ำ (เกียร์ 1,2) ความเร็วยังต่ำรีบไปใช้เกียร์สูง (เกียร์ 3,4,5) กำลังเครื่องก็ตก เครื่องก็รีบพังก่อนเวลาอันควร และจะสิ้นเปลืองกว่าปกติอีก 85 บาทต่อเดือน
รักคลัตซ์อย่าเลี้ยงคลัตซ์ อย่าแช่คลัตซ์โดยไม่จำเป็น สิ้นเปลืองคลัตซ์และน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้เบรกหรือเบรกมือช่วยแทนดีกว่า เวลาหยุดควรเหยียบคลัต์ การเร่งเครื่องแรงขณะออกรถโดยยังไม่ปล่อยคลัตซ์ไม่สุด หรือเข้าเกียร์แล้วยังวางเท้า บนแป้นเหยียบคลัตซ์ก็เป็นการหาเรื่องอุปกรณ์ในระบบคลัตซ์ให้สึกหรอและเปลืองน้ำมันเปล่า ๆ ด้วย
ไม่ติด ไม่คอย เข้าซอยลัด วางแผนในการขับรถล่วงหน้า เลือกเส้นทางลัดเพื่อประหยัดเวลาและอารมณ์ที่เสียเปล่าๆ จากรถติดหรือหลงทาง ท่านอาจจะประหยัด ได้มากกว่าเดือนละ 420 บาท
ไม่ “เบิ้ล “ เอาเท่าไร ถ้าไม่อยากให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วก็อย่าเร่งเครื่องหรือ “เบิ้ล”น้ำมันโดยไม่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นในขณะจอดอยู่ เฉย ๆ เปลี่ยนเกียร์ หรือก่อนดับเครื่องยนต์ จะช่วยให้ไม่สิ้นเปลืองน้ำมันอย่างสูญเปล่าอีก 20 บาท ต่อเดือน
มองล่วงหน้า รักษาเบรก เตรียมตัวล่วงหน้าเมื่อจะถึงสี่แยกสัญญาณไฟ หรือป้ายสัญญาณ ช่วยให้ไม่ต้องเบรกอย่างพร่ำเพรื่อ และรุนแรง หรือเสี่ยงการเปลี่ยนช่องทางวิ่งบ่อย ๆ ซึ่งอาจทำให้ต้องเร่งเครื่องอย่างเร็ว และหยุดอย่างกระทันหัน จะเป็นการประหยัดน้ำมัน และรักษาผ้าเบรก จานเบรกไว้ใช้กันต่อไปได้นาน ๆ
ยางอ่อน การสูบลมยางให้เหมาะสม นอกจากจะประหยัดน้ำมันแล้ว ยังทำให้อายุยางยืนยาวขึ้นด้วย ลมยางที่อ่อนไปเพียง 4 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ในช่วง 10 วัน ที่ละเลยจะทำให้เปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 125 บาท
คาร์บูเรเตอร์สกปรก ไม่มีใครชอบความสกปรก แม้แต่รถ หากใช้รถโดยที่คาร์บูเรเตอร์สกปรกเพียง 10 วัน จะเสียเงินค่าน้ำมันส่วนเกินอีก 210 บาท ไปฟรี ๆ
หัวเทียนบอด หากหัวเทียนบอดหรือเสื่อมคุณภาพ รถยนต์จะวิ่งได้ระยะทางน้อยลง 0.85 กิโลเมตรต่อน้ำมัน 1 ลิตร ใน 10 วัน คิดเป็นน้ำมันสูญเสียประมาณ 125 บาท
ไส้กรองอากาศอุดตัน ดูแลความสะอาดไส้กรองอากาศบ่อย ๆ และหากมีสิ่งอุดตันมากก็สมควรเปลี่ยนใหม่ได้แล้วอย่าเหนียว ทั้งนี้เพราะไส้กรองอากาศที่อุดตันใน 1 เดือน จะทำให้รถสิ้นเปลืองน้ำมันประมาณ 210 บาท
เบรกเสื่อม ระบบเบรกก็ควรได้รับการตรวจสอบดูแลด้วยเหมือนกัน หากผ้าเบรกเสียดสีจานล้ออยู่เสมอ (เบรกติด หรือเบรกตายหรือตั้งระยะไม่ถูกต้อง)จะทำให้ต้องใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ประมาณ 85 บาทต่อเดือน
น้ำมันเครื่องหมดอายุ น้ำมันเครื่องเป็นเรื่องสำคัญของการบำรุงรักษารถ ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองน้ำมันเครื่องตามกำหนด เลือกใช้น้ำมันเครื่องเกรดให้ถูกต้องกับสภาพเครื่องยนต์ จะลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ให้ดีขึ้น ทำให้สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากขึ้นด้วย
แก็สโซฮอล์ 95 “ แก็สโซฮอล์ พลังงานแห่งการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน” พึ่งพาตัวเองทางเศรษฐกิจ : สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตทางการเกษตร ทดแทนการนำเข้าสาร MTBE ลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศ และช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
พึ่งพาตนเองด้านพลังงาน: เป็นพลังงานทดแทนบางส่วน จากเดิมที่ต้องสูญเสียเงินตราต่างประเทศเพื่อนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด
พึ่งพาตนเองทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อม : ลดการเกิดมลภาวะจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะช่วยให้คนไทย เผชิญกับมลภาวะน้อยลง มีสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตดีขึ้น
ที่มา ฝ่ายตรวจสภาพรถยนต์ กรมการขนส่งทางบก
Create Date : 15 มีนาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 15 มีนาคม 2552 16:55:06 น. |
Counter : 1223 Pageviews. |
|
|
|