ไก่ต้มจิ๋ว ปลากะพงสามรส
สองเมนูวันนี้สามารถเป็นอาหารขึ้นโต๊ะได้ 1 สำรับพอดี ตามวิสัยของผู้ที่กินอยู่อย่างพอเพียง คือมีกับอย่างและแกงอีกอย่างไว้สำหรับซดคล่องคอ โดย คุณดวงนีรนาท เผ่าสวัสดิ์ หนุ่มผู้รักการครัวมาแต่เด็ก ได้แนะนำสูตร "ไก่ต้มจิ๋ว" อาหารพื้นบ้านของชาวเมืองเพชร บ้านเกิดของคุณยายที่ทำให้เขาทานมาแต่เด็กๆ ได้ลองทำกันดู
คุณดวง-นีรนาทเป็นน้องเล็กสุดในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 5 คนของ ศ.เกียรติคุณ นพ.อรุณ และ ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ด้วยความที่โตมากับคุณยาย เพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานหนักทั้งคู่ จึงทิ้งลูกให้คุณยายเลี้ยงแทน คุณดวงจึงมักจะไปคลุกคลีอยู่กับแม่ครัว ช่วยชิมน้ำพริกบ้าง แกงพะโล้บ้าง เลยได้รู้รสชาติของอาหารไทยว่าต้องเป็นเช่นไร และด้วยความที่เป็นลูกหลง จึงโตไม่ทันพี่ๆ พอ ร.ร.ปิดเทอม พี่ๆ ก็จะไปเที่ยวกับเพื่อนๆ กันหมด ทิ้งคุณดวงให้อยู่บ้านคนเดียว เธอจึงมีทีวีเป็นเพื่อน และรายการที่ชอบดูที่สุดคือรายการสอนทำขนมอบนานาชาติของ อ.ไพเราะ ทางทีวีช่อง 5 พอดูแล้วก็จะพยายามเลียนแบบให้เหมือน อ.ไพเราะบ้าง โดยบอกให้แม่บ้านช่วยเตรียมส่วนผสมเครื่องปรุงต่างๆ ไว้ให้ แล้วเธอก็จะออกแอ็กชั่นตามอย่าง อ.ไพเราะทางทีวี จนถึงทุกวันนี้ คุณดวงก็ยังทำอาหารโดยไม่เคยแตะหอมกระเทียมเลย เธอจะมีหน้าที่ปรุงอย่างเดียว
ลองมาดูสูตรและวิธีทำไก่ต้มจิ๋วกันดีกว่า ซึ่งคุณดวงบอกว่าเหมือนกับไก่ต้มข่า เพียงแต่ไม่ใส่กะทิเท่านั้นเอง และเธอก็จะใช้น้ำตาลปึกของเมืองเพชรด้วย เป็นการการันตีสูตรอาหารพื้นบ้านเมืองเพชรขนานแท้
| | ไก่ต้มจิ๋ว
เครื่องปรุง ไก่ติดกระดูก 2 ขีด น้ำซุปกระดูกหมู 2 ถ้วย เกลือ ½ ชช. น้ำตาลปึก 1½ ถ้วยตวง น้ำมะขามเปียก 4 ชต. พริกแห้งเม็ดใหญ่ ½ เม็ด ข่า ½ แง่ง ตะไคร้ 1-2 ต้น ใบมะกรูด 5 ใบ น้ำปลา 2 ชต. พริกชี้ฟ้าแดง
วิธีทำ 1) นำน้ำต้มกระดูกหมูต้มกับข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และพริกแห้ง 2) ใส่ไก่ลงไปต้มด้วย 3) ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึก น้ำมะขาม เกลือ และน้ำปลา เมื่อชิมรสได้ตามชอบแล้ว ตักเสิร์ฟได้เลย โดยแต่งหน้าให้สวยงามด้วยพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้น
ปลากะพงสามรส
เครื่องปรุง ปลากะพงชิ้น 2 ขีด พริกไทย ¼ ชช. ผักชี/รากผักชี 1-2 ราก กระเทียม ½ กลีบใหญ่ พริกขี้หนู 3-5 เม็ด พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น น้ำส้มสายชู 1 ชต. น้ำจิ้มบ๊วยกอ ½ ชต. น้ำปลา ½ ชต.
วิธีทำ 1) นำเนื้อปลาไปอบให้สุกก่อน แล้วค่อยทอดให้กรอบ 2) โขลกพริกไทย+รากผักชี+ กระเทียม+พริกขี้หนู รวมกันให้ละเอียด
3) นำเครื่องปรุงข้อ 2. ลงผัดกับน้ำจิ้มบ๊วยกอ และน้ำส้มสายชู เหยาะน้ำปลาลงผสมด้วย เคี่ยวจนเดือดและมีความหนืด
4) นำน้ำปรุงรสราดบนเนื้อปลาที่ทอด 5) แต่งหน้าให้สวยงามด้วยผักชีเด็ดเอาแต่ใบ และพริกชี้ฟ้าแดงหั่นเส้น
Tip เคล็ดลับการทำปลาทอดสามรส ควรจะนำปลาเข้าอบให้สุกก่อน แล้วค่อยนำไปทอด จะทำให้ได้เนื้อปลาที่กรอบนอก โดยที่เนื้อข้างในไม่แข็ง แต่ยังคงความนิ่มของเนื้อปลาอยู่
ที่มา: //www.thairath.co.th
Create Date : 30 กรกฎาคม 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2555 16:00:03 น. |
Counter : 2783 Pageviews. |
|
|
|
หน้าตาน่าทานค่ะ