5 สิ่ง ที่ไม่ควรให้ลูกขวบปีแรกติด
พฤติกรรมของลูกน้อย บางเรื่องที่คุณแม่ไม่ควรปล่อยผ่านนานเกินไปจนถึงขั้น "ติด" เป็นนิสัย เพราะอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นเรามาดูข้อมูล สิ่งของที่ลูกน้อยไม่ควรติดพร้อมวิธีการดูแลค่ะ
1. ติดจังเลย ...หัวแม่โป้ง การดูดนิ้วมือตัวเอง เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในช่วงขวบปีแรก เพราะลูกจะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับการสัมผัสสิ่งต่างๆ เข้าปาก (รวมถึงนิ้วตัวเอง) แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เป็นไปถึงขั้นติดใจไม่เลิกดูดนิ้ว เพราะมีผลต่อการสบฟัน การเจริญเติบโตที่ไม่สมดุลของขากรรไกรบนและล่าง ส่งผลต่อการออกเสียงพูดได้
Baby care * เมื่อลูกหาความสุขด้วยการดูดนิ้ว ฉะนั้น ชัวร์และดีที่สุดในการเบี่ยงเบนความสนใจก็คือ อย่าให้ลูกอยู่คนเดียว ควรชวนลูกน้อยทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้นตามวัยค่ะ
* สังเกตด้วยว่า ลูกดูดตามธรรมชาติ หรือต้องการอะไรเป็นพิเศษ เพื่อที่คุณแม่จะได้ตอบสนองความต้องการของลูกได้อย่างเหมาะสม เช่น หิวนม ง่วงนอน เป็นต้น โดยทั่วไปหลังช่วงอายุ 5 ปีไปแล้ว เด็กจะเลิกนิสัยดูดนิ้วได้เอง ถ้าลูกยังติดใจไม่เลิกดูดนิ้ว ก็ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษาและหาวิธีแก้ไขที่ถูกวิธี
2. อย่าเอา..ขวดนมหนูไปนะ ก็เพราะต้นตอที่ทำให้ฟันผุและฟันหน้าเหยิน เกิดความผิดปกติของขากรรไกร คือการติดขวดนมหรือจุกนม คุณหมอจึงแนะนำให้เด็กเล็กเลิกขวดนมอย่างเด็ดขาดก่อนอายุ 2 ปี และควรเตรียมพร้อม ป้องกันปัญหาด้วยการเลิกขวดนมอย่างถูกวิธีค่ะ
Baby care * ช่วงอายุ 8-12 เดือน คุณแม่ควรฝึกให้ลูกดื่มน้ำนม จากแก้วแทนขวด แม้ช่วงแรกลูกอาจกินนมน้อยลง แต่คุณแม่ก็สามารถให้อาหารที่มีโปรตีน และแคลเซียมชดเชย เช่น ไข่ ชีส เนื้อสัตว์ ได้ค่ะ
* คุณแม่อาจอนุโลมให้ดูดเป็นครั้ง และหยุดนมขวดจนในที่สุด เลิกแบบค่อยเป็นค่อยไป ถ้าไม่อยากขัดใจลูก อีกหนึ่งวิธีคือ เก็บขวดนมในตู้หรือบริจาค ชวนลูกไปซื้อนมกล่อง กินนมจากกล่องแทน ก็ช่วยป้องกันลูกติดรสหวานและป้องกันฟันผุค่ะ
3.หนูจะนอนต้อง...นอนเปล การเห่กล่อมหรือต้องไกวเปลเพื่อให้ลูกหลับ อาจทำให้ลูกติดเป็นนิสัย คุณแม่เองก็ต้องเหนื่อยที่จะต้องดูแลลูกค่ะ คุณแม่จึงควรฝึกให้ลูกมีนิสัยการนอนที่ดี ให้ลูกหลับด้วยตัวเองตั้งแต่ช่วงอายุ 3–6 เดือน (โดยพ่อแม่ไม่ต้องช่วย) ทั้งช่วงเข้านอนตอนหัวค่ำหรือตื่นขึ้นมากลางดึก
Baby care * ลดความแรงในการไกว ลดเวลาที่ต้องไกวลงทีละน้อยๆ จนถึงขั้นลดการเห่กล่อมด้วยเปลค่ะ
* เมื่อเห็นว่าลูกเริ่มหลับ ก็ควรพาลูกไปนอนบนที่นอน และปล่อยให้หลับได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่สำคัญในการฝึกคือ ให้ลูกเข้านอนเป็นเวลา นอนในสถานที่ที่คุ้นเคย ให้เวลาและโอกาสที่ลูกจะได้ฝึกฝนด้วยค่ะ
4.ใครว่าเน่า...หนูไม่สน จำพวกตุ๊กตา ผ้าห่ม หมอนข้างใบเล็ก สิ่งของเหล่านี้มีความสำคัญต่อจิตใจ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความคุ้นเคยที่เด็กได้สัมผัส รู้สึกปลอดภัย และผ่อนคลาย การติดสิ่งของเหล่านี้แม้ไม่มีข้อเสียร้ายแรง แต่คุณแม่ควรดูแลเรื่องสุขภาพ ลดความเสี่ยงเรื่องอันตราย เช่น เส้นด้ายพันนิ้วมือ ชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ของตุ๊กตาติดคอ หรือฝุ่นละออง ทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ เป็นผื่น เป็นต้น
Baby care * ควรหมั่นนำไปซัก ทำความสะอาด อาจทำในช่วงที่ลูกนอนหลับ หรือหาตัวใหม่ที่เหมือนกันมาทดแทน * ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย เช่น ชิ้นส่วนเล็กๆ น้อยๆ ที่ลูกสามารถหยิบจับเข้าปาก เป็นอันตรายต่อชีวิตลูกหรือเปล่า ก็ควรซ่อมแซมให้เรียบร้อย สำหรับเรื่องนี้ ลูกน้อยจะเลิกได้เองเมื่อโตขึ้น แต่ถ้าโตขึ้น 5 ปีไปแล้วยังเลิกไม่ได้ ก็ควรพาลูกไปพบคุณหมอ เพื่อขอคำปรึกษาและหาทางแก้ไขที่ถูกวิธี
5. รสหวานๆ ก็อร่อยนี่น่า การสัมผัสอาหาร เครื่องดื่ม หรือนมที่มีการปรุงแต่งรสหวาน (ยกเว้นนมแม่) ตั้งแต่ยังเล็ก จะทำให้ตุ่มรับรสความเป็นธรรมชาติตามพัฒนาการ รับรู้รสและเรียนรู้ของลูกน้อยติด(ใจ) กับรสหวาน มีแนวโน้มที่ลูกจะติดหวาน เกิดโรคอ้วนและฟันผุตามมาได้
Baby care * เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก และตามด้วยอาหารเสริมตามวัยที่ได้จากธรรมชาติ เช่น ข้าวบด ไข่แดง ปลา ผักตำลึง
* การปรุงอาหารฝีมือคุณแม่ ที่เน้นการปรุงอาหารที่สุก สะอาด ปราศจากการปรุงแต่งรสชาติ เป็นหนึ่งวิธีที่ดีสำหรับลูกน้อยค่ะ
การฝึกนิสัยการกินที่ดี โดยให้ลูกกินอาหารครบ 5 หมู่ คู่กับการกินพอเพียง หลีกเลี่ยงการกินอาหาร ขนมรสหวาน
ต้องตั้งกฎด้วยว่า พฤติกรรมการกินของคุณพ่อคุณแม่ และคนในบ้าน มีส่วนอย่างยิ่งกับการปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีของลูกน้อย
นายแบบตัวน้อย : น้องน้อม - ด.ญ. พิชญ์นารา จันทร์สุวรรณ์ ที่มา : //www.motherandcare.in.th
สารบัญแม่และเด็ก
Create Date : 08 มิถุนายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 8 มิถุนายน 2553 21:31:32 น. |
Counter : 916 Pageviews. |
|
|
|