วิธีสอนคนป่วยที่ห่วงหน้าห่วงหลัง
ปัญหา คนป่วยหนักที่มีความห่วงหน้าห่วงหลังในเวลาใกล้ตายเราควรจะสอนเขาอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “ ดูก่อนมหาบพิตร อุบาสกผู้มีปัญญาพึงปลอบอุบาสก ผู้มีปัญญาที่กำลังป่วย เป็นทุกข์หลัก เป็นไข้หนัก ด้วยธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความเบาใจ ๔ ประการว่า ท่านจงเบาใจเถิดว่า ท่านมีความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า.... ในพระธรรม....ในพระสงฆ์ มีศีลอันเป็นที่รักของพระอริยเจ้า “ครั้นปลอบ....ด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล้ว....พึงกล่าวกรรมอย่างนี้ว่า ถ้าแม้ท่านห่วงใยในมารดาบิดาก็จักตาย แม้ไม่ห่วงใยในมารดาบิดาก็จักตายเหมือนกัน ขอท่านจงละความห่วงใยในบุตรภริยาเสีย...”
“พึงกล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า ท่านก็เช่นเดียวกับเรา มีความตายเป็นธรรมดา ถึงแม้ท่านจะห่วงใยในบุตรและภริยา ท่านก็จักตาย ถ้าแม้ไม่ห่วงใย.... ก็จักตายเหมือนกัน ขอท่านจงละความห่วงใยในบุตรภริยาเสียเถิด....”
“ถ้าเขากล่าวว่า เรายังมีความห่วงใยในกามคุณ ๕ อยู่....พึงกล่าวกับเขาอย่างนี้ว่า กามอันเป็นทิพย์ยังดีกว่า ประณีตกว่ากามของมนุษย์ แล้วน้อมจิตไปในพวกเทพชั้นจาตุมหาราชเถิด.... พวกเทพชั้นดาวดึงส์ยังดีกว่าเทพชั้นจาตุมหาราช พวกเทพชั้นยามายังดีกว่าเทพชั้นดาวดึงส์ พวกเทพชั้นดุสิตยังดีกว่า เทพชั้นยามา พวกเทพชั้นนิมมานรดียังดีกว่าเทพชั้นดุสิต พวกเทพชั้นนิมมิตวสวัตตียังดีกว่าเทพชั้นนิมมานรดี พรหมโลกยังดีกว่า เทพชั้นปรนิมมิตวสวัตตี แม้พรหมโลกก็ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืนยังนับเนื่องในสักกายะ ขอท่านจงพรากจิตจากพรหมโลก แล้วนำจิตเข้าไปในความดับสักกายะเถิด”
“ ดูก่อนมหาบพิตร อาตมาภาพไม่กล่าวว่า มีความแตกต่างอะไรกันเลยระหว่าง อุบาสกผู้มีจิตหลุดพ้นแล้วอย่างนี้กับภิกษุผู้หลุดพ้นแล้วตั้งร้อยปี คือพ้นด้วยวิมุติเหมือนกัน....”
คิลายนสูตร มหา. สํ. (๑๖๒๘-๑๖๓๓ ) ตบ. ๑๙ : ๕๑๔-๕๑๖ ตท. ๑๙ : ๔๖๒-๔๖๕ ตอ. K.S. ๕ : ๓๔๙-๓๕๑
Create Date : 16 มกราคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2552 17:44:17 น. |
Counter : 878 Pageviews. |
|
|
|