หัวใจเปรต
ในสมัยของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสป มีลูกชายเศรษฐี 4 คนเป็นสหายกัน พ่อแม่มีทรัพย์คนละ 40 โกฏิ ทั้ง 4 คน ไม่สนใจการทำบุญหรือทำทาน ได้แต่เสพสุรา เคล้านารี ผิดศีลข้อ 5 และข้อ 3 อยู่เป็นนิจ รวมทั้งประพฤติชั่วทาง อบายมุข ล้างผลาญสมบัติของบิดามารดาจนป่นปี้ พอพวกเขาตายจากโลกนี้ไปแล้ว ชนกกรรมได้นำพาเขาไปผุดเกิดใน อเวจีมหานรก เป็นสัตว์นรกใหญ่ 4 ตน ถูกไฟนรกเผาไหม้อยู่นานมากนักหนาตลอดพุทธันดรหนึ่ง หลังจากหมดกรรมแล้ว แต่ยังมีเศษกรรมอยู่ จึงชักนำให้มาเกิดเป็นสัตว์นรกอยู่ใน โลหกุมภีนรก ซึ่งเปรียบเสมือนหม้อเหล็กใหญ่ ถูกไฟนรกเผาไหม้เกิดตายอยู่ตลอดเวลา มีสภาพเหมือนข้าวต้มอยู่ในหม้อซึ่งกำลังเดือดพล่าน พวกเขาต้องมีอาการดำผุดดำว่าย โผล่ขึ้นมาและจมลงไปตราบนานเท่านาน เวลาผ่านไป 60,000 ปี
วันหนึ่งพวกเขาได้มาพบกันพร้อมหน้าที่ปากหม้อ ด้วยความอัดอั้นตันใจที่เสวยทุกข์มา นานแสนนานอยากจะบอกกล่าวให้เพื่อนฟัง สัตว์นรกทั้ง 4 ตน จึงเอ่ยวาจาโอดครวญ ได้ตนละคำ ดังนี้ คือ ทุ. ส. น. โส. แล้วก็จมกลับลงไปในหม้อ เรื่องนี้เล่าขานกันต่อมา และชาวบ้านทั่วไปเรียกคำ 4 คำนี้ว่า "หัวใจเปรต"
สัตว์นรกตนแรกอยากจะกล่าวว่า "น่าอนาถหนักหนา เพราะว่าพวกเราไม่ได้ทำบุญ ทำทาน จึงต้องมาพานพบชีวิตอันแสนร้ายได้รับทุกข์ทรมานเห็นปานนี้"
สัตว์นรกตนที่สองอยากจะกล่าวว่า "พวกเราได้ดำผุดดำว่ายในหม้อนรกอันร้อนแรงนี้ นับได้ 6 หมื่นปีแล้ว เมื่อไรพวกเราจักพ้นกรรมจากนรกนี้ได้เล่า"
สัตว์นรกตนที่สามอยากจะกล่าวว่า "พวกเราคงไม่มีวันพ้นจากนรกขุมนี้ บาปกรรมที่ทำในกาลก่อนได้ส่งผลแก่พวกเราอย่างสาสมแล้ว"
สัตว์นรกตนที่สี่อยากจะกล่าวว่า "หากเราพ้นจากทุกขเวทนาในแดนนรกนี้แล้ว เมื่อได้โอกาสกลับไปเกิดเป็นมนุษย์ จักไม่ทำอย่างอื่นเลยนอกจากบริจาคทานรักษาศีล"
ท่านผู้อ่านได้ข้อคิดอะไรจากบันทึกการเรียนรู้บทนี้บ้าง
Create Date : 15 มกราคม 2552 |
|
1 comments |
Last Update : 15 มกราคม 2552 23:25:29 น. |
Counter : 953 Pageviews. |
|
|
|
หลังจากอ่านจบถามว่าได้อะไร คิดว่าควรจะกลัวบาปให้มากขึ้น และรักษาศีลห้าให้เคร่งครัดกว่าปัจจุบันค่ะ